ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - mature_na
หน้า: [1]
1  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ☼ ۩ ☆♥เชิญร่วมสร้างหุ่นขี้ผึ้งพระญาณสังวร (ด้วง)อาจารย์ ร.๓, ร.๔,สมเด็จโต ۩۞۩ เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2013, 07:46:25 pm
เชิญร่วมสร้างหุ่นขี้ผึ้ง ไฟเบอร์กลาส พระญาณสังวร (ด้วง) พระอาจารย์ในรัชกาลที่ ๓ และเจ้าอาวาสองค์แรก ของวัดประยูรวงศาวาส และอดีตเจ้าอาวาส วัดราชสิทธาราม เพื่อประดิษฐานไว้ที่ พิพิธภัณฑ์กรรมฐานสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน)

สมทบทุนที่คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม กรุณาติดต่อหลวงพ่อจิ๋ว โทร. 084-651-7023
;[พระครูสิทธิสังวร;วีระ ฐานวีโร ;ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง]
รายละเอียดของสถานที่
ที่คณะ 5 วัดราชสิทธาราม(พลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ


หรือโอนเงิน ที่บัญชีเลขที่ 067-2-83847-9 ธนาคารกสิกรไทย สาขาโพธิ์สามต้น ชื่อ พระวีระ ฐานวีโร (สุขมีทรัพย์)







ท่านที่ต้องการร่วมบุญสร้างหุ่นขี้ผึ้งพระอริยสงฆ์กรุณา โอนเงินโดยปิดการลงท้ายจำนวนด้วยเลข .10สตางค์ในทุกครั้งที่โอนด้วยนะครับ
ตัวอย่างเช่น  ท่านต้องการโอน100 บาทก็โอนด้วยจำนวน 100.10 เป็นต้นครับ
(สาเหตุที่ต้องกำหนดเช่นนี้เพราะเพื่อที่หลวงพ่อจะได้ทราบในเจตนาการโอนครั้งนี้ว่าเป็นไปเพื่อการร่วมสร้างหุ่นขี้ผึ้งพระอริยสงฆ์ครับผม)


เงินที่ท่านบริจาคมานี้ถ้ามีเหลือพระครูสิทธิสังวร ท่านก็จะนำไปช่วยงานกรรมฐานอย่างอื่นต่อเช่นสร้างวัตถุมงคลเป็นพุทธานุสสติได้แก่พระวัดพลับพิมพ์ตุ็กตาใหญ่ เล็กและ  พิมพ์วันทาเสมา  เป็นต้นซึ่งท่านผู้ร่วมบุญครั้งนี้ก็จะได้บุญอานิสงค์สร้างพระพุทธรูปด้วยอีกต่อหนึ่งซึ่งนับว่าคุ้มมากครับ  การสร้างพระไม่ว่าองค์ใหญ่หรือเล็กก็ได้บุญมากครับดังเช่นที่ครูอาจารย์กล่าวไว้ด้านล่างครับ
+ผู้ใดสร้างรูปพระพุทธเจ้า จะเป็นองค์เล็กเท่าต้นคาก็ดี ใหญ่กว่าต้นคาก็ดี ผู้นั้นจะได้เป็นพรหม เป็นพระอินทร์ หมื่นชาติแสนชาติ ถ้าเป็นมนุษย์ จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหมื่นชาติ แสนชาติ จะไม่เป็นผู้ตกต่ำเลย ตราบจนกว่าเข้าสู่นิพพาน (หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว)......
+สร้างพระ 1 องค์ ได้อานิสงส์ 5 กัปป์ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ สร้างด้วยอะไรก็ตาม หมายความว่าบุญกุศลจะตามหนุนส่งไปทุกภพทุกชาตินานถึง 5 กัปป์........(หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ)....





รูปกล่องวัตถุมงคลที่พระครูสิทธิสังวรสร้างไว้เพื่อเป็นพุทธานุสสติแจกจ่ายให้ผู้ที่มาปฎิบัติกรรมฐานและมางานวัดครับ


เงินที่ท่านบริจาคมานี้ถ้ามีเหลือพระครูสิทธิสังวร ท่านก็จะนำไปช่วยงานกรรมฐานอย่างอื่นต่อเช่นสร้างวัตถุมงคลเป็นพุทธานุสสติซึ่งท่านผู้ร่วมบุญครั้งนี้ก็จะได้บุญอานิสงค์สร้างพระพุทธรูปด้วยอีกต่อหนึ่งซึ่งนับว่าคุ้มมากครับ
=================================================
พระญาณสังวร (ด้วง) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม(พลับ)
อดีตเจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาส และอดีตเจ้าคณะอรัญวาสี มลฑณธนบุรี

พระญาณสังวร (ด้วง)เป้นพระอริยสงฆ์ มีอภิญญา อภินิหารมากมายสุดที่จะกล่าวพรรณาได้แล้ว
ท่านเป็นศิษย์สมเด็จสุก ไก่เถื่อน เป็นพระอาจารย์ของพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓แล รัชกาลที่ ๔
แลสมเด็จโตด้วย    ท่านลองตรองดูเถิดครับว่าหากไม่มีคุณวุฒิแลวิชาความรู้อย่างแตกฉานในพระพุทธศาสนาท้้งปริยัติปฎิบัติ  แลปฎิเวธอย่างถึงพร้อมแล้ว
เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินทั้งสองพระองค์จะเสด็จมารับการศึกษาวิชชาในพระพุทธศาสนาจากพระญาณสังวร (ด้วง) หรือไม่?

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ท่านมีวิชามากมายพร้อมทั้งอิทธิฤิทธิ์ปาฎิหารย์ พระญาณสังวร (ด้วง)ผู้เป็นอาจารย์ที่สอนท่านย่อมมีวิชาล้นเหลือเช่นกันครับ

=================================================
[size=18pt]ประวัติพระญาณสังวร (ด้วง)
คร่าวๆท่านสามารถดูได้ในLinkด้านล่างครับ

http://www.somdechsuk.org/node/32
http://www.watprayoon.org/index.php?topgroupid=1&subgroupid=461&groupid=75
=================================================
อานิสงค์การจัดสร้างหล่อพระพุทธรูปหรือ หล่อรูปเหมือนอริยสงฆ์
1.อกุศลกรรมในอดีตชาติปางก่อน เปลี่ยนจากหนักเป็นเบา และ เป็นสูญ
2.สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายปวงภัยไม่มี คิดร้ายไม่สำเร็จ
3.เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติปางก่อน เลิกจองเวร
4.เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษเสือร้ายไม่อาจเป็นภัย
5.จิตใจสงบ ราศรีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล รุ่งเรืองก้าวหน้า ผู้คนนับถือ
6.มั่นคงในคุณธรรม ความสมบูรณ์ปรากฎ ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน
7.คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา หนี้สินหมดไป
8.คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็น
9.พ้นจากมวล อกุศล เกิดใหม่เกื้อหนุน มีปัญญาเลิศล้ำ บุญกุศลเรืองรอง
10.สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็น เป็นเนื้อนาบุญอย่างอเนกทุกชาติ..........

linkอานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป ::

 
พระธรรมเทศนา พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ ป.ธ.๙)
เรื่อง "อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป"
=================================================

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ท่านมีวิชามากมายพร้อมทั้งอิทธิฤิทธิ์ปาฎิหารย์ พระญาณสังวร (ด้วง)ผู้เป็นอาจารย์ที่สอนท่านย่อมมีวิชาล้นเหลือเช่นกันครับดังเช่นวิชชาในสายกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับอันมีตัวอย่างได้แก่

วิชาดวงแก้วพระโลกอุดร(วิชาโลกอุดรสยบมาร )

มีดวงแก้วมณีดำ  ดวงแก้วไพฑูรย์  ดวงแก้วมณีโชติ ดวงแก้วบุญนาก  ดวงแก้วธัมราช ดวงแก้วมโนหอรจินดา

วิชาองค์ธรรมจุด นวหอรคุณ ๙ จุดรักษาโรคต่างๆ
แก้ธาตุกำเริบวิบัติ แก้โทสะ โมหะจิตต์ เกิดวิตกหนัก  แก้ให้ขาดรสราคะ สูบลมเข้า แก้โรคเขาอื่น แก้ธาตุผูก บอกให้ผู้อื่นแก้ไข้  แก้ไข้กินอาหารมิได้  ห้ามแก้โรคทั้งปวง แก้ธาตุหย่อน แก้พบสัตว์ร้าย แก้ปวดมวนท้อง กระทำให้เวรหาย วิชาอธิษฐาน
วิชชาจักร สุกิตติมา
วิชชาออกบัวบานพรหมวิหาร
วิชาบังคับธาตุขันธ์  ให้บังคับจากรูปกายทิพย์  ให้เปลี่ยนอริยาบทต่างๆ เช่น ยืน เป็นนั่ง เป็นนอน เป็นเดิน  ทำให้กายทิพย์เป็นเด็ก เป็นหนุ่ม เป็นแก่
วิชาคุมจิตคุมธาตุ   ใช้สมาธิขั้นเอกัคตาจิต คุมจิตตัวเอง คุมธาตุทั้ง ๔ ของตัวเอง   ประโยชน์  ทำให้มีสติมีสมาธิเข็มแข็ง
วิชาธาตุปีติ ยุคล สุข
ธาตุปีติ ยุคล สุข รวมกัน เรียกว่าธาตุธรรมกาย ใช้ทำเป็นพื้นฐานแห่งอภิญญา
ธาตุปีติอย่างเดียว เรียกว่า ธาตุปีติวิมุติธรรม
ธาตุธาตุยุคลหก เรียกว่า ธาตุกายอมตะ
ธาตุสุขสมาธิเรียกว่าธาตุ สุขนิโรธธัม 
ธาตุปีติทั้งห้า (ธาตุเทวดา) ใช้ได้ทุกอย่างแล้วแต่จิต
ธาตุสุข(ธาตุพระพุทธเจ้า)  ธาตุกายสุข จิตสุข  มีธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ทำจิตเป็นสุข สยบกิเลส ธาตุ อุปจารพุทธานุสติ ใช้สยบมารทั้งภายนอก ภายใน ใช้สยบภายในภายนอก
วิชาทำฤทธิ์
วิชาสลายจิต สลายกาย  วิชาสำรวมอินทรีย์  วิชาธาตุอัปมัญญา ๔ วิชาเหิน ขึ้นเขา ลงเขา วิชาเดินน้ำ ข้ามห้วย วิชาผ่อนคลายจิต  วิชาสยบทุกขเวทน วิชาโลกุตร ๒๐ ประโยชน์  เป็นที่เกิดแห่งปัญญา เป็นที่สิ้นสุดแห่งสังสารวัฏ  วิชาสลายอายตนะหก  วิชาใช้น้ำสิโณทกใช้  สิ่งใดก็ได้ทุกอัน ตามแต่อธิฐาน  วิชาระวังจิต ระวังกาย 
 วิชาหนีมนต์    วิชาเข้าธาตุทั้ง ๔  แก้สารพัดโรคทั้งปวง   

วิชาสัมปยุตธาตุ 
 วิชา สัมปยุตปฤกษ์  วิชา คว่ำจักร  วิชา หงายจักร วิชา จันทกลา วิชา ชักคลองจักษุ วิชาระวัง จิตระวังกาย วิชาตัดขันธ์     วิชาอิทธิฤทธิ์ต่างๆ วิชาธาตุดวงแก้ว ๔ ดวง
 เสกต่อแตนใช้ใบมะขาม  หรือใบไม้อะไรก็ได้ เป็นใบไม้ใต้เกราะกำบัง  ใบบนต้นที่ถูกกำบัง เสกด้วย มะ ธาตุไฟ ตามด้วยธาตุลม   คือ  มะ อะ อุ นะ   เป็นต่อแตนแล
ทำน้ำมนต์ใช้ได้ทุกอย่าง   

ที่สำคัญหนักหนาคือ วิชชาตั้งจุดอานาปานสติ เป็นอิทธิฤทธิ์และ วิชชาการใช้อักขระ ๒๗ ตัวใช้ได้สารพัดเรื่อง นอกจากนี้ยังมีวิชชาของท่านอีกมากมายที่มิได้กล่าวไว้ณที่นี้
=============================================

 พระญาณสังวร (ด้วง) เป็นอดีตเจ้าอาวาส วัดราชสิทธาราม ท่านทรงเจนจบในพระกรรมฐานโบราณหรือกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ
กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ สำคัญเช่นไรสามารถอ่านโดยคร่าวๆได้ด้านล่างครับ
กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับมีความสำคัญอย่างไร

   1. ในปัจจุบันกรรมฐาน ๔๐ และแนวกรรมฐานแบบมัชฌิมากำลังจะสาบสูญไปตามกาลเวลานับจากที่พระเจ้าอโศกมหาราชส่งพระโสณะและพระอุตตระมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาและกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ(กรรมฐานมาตรฐานแบบโบราณ)ในภูมิภาคนี้
     ช่วงนี้ถือว่าเป็นรอยต่อที่อันตรายที่สุดเพราะแทบไม่มีผู้สนใจศึกษากรรมฐาน ดั้งเดิมที่สืบทอดมาแต่พุทธกาลแล้วแต่ ด้วยพระอาจารย์วีระ คณะ ๕ วัดราชสิทธารามได้ดำเนินการอนุรักษ์ไว้ กรรมฐานแนวทางนี้จึงไม่สาบสูญ เห็นควรอย่างยิ่งที่จะได้รักษาตามแบบแผนไว้ ผู้ที่ได้อ่านแล้วอยากให้ลองมาศึกษาอันการศึกษานั้นไม่จะเป็นที่เราต้องทิ้งแบบเดิมที่เคยปฏิบัติมา แต่การศึกษานี้จะทำให้เราได้ช่วยกันอนุรักษ์และยังเพิ่มพูนความรู้และทักษะ ในการปฏิบัติจากเดิมที่เคยเรียนกันมาแล้ว และถ้าท่านไหนที่ยังไม่เคยปฏิบัติสายไหนมาเลยก็สามารถมาเริ่มต้นกับที่นี่ ได้เพราะวิธีการนั้นไม่ยาก
ทุกท่านสามารถเรียนและปฏิบัติได้จริง เป็นการสอนจากง่ายๆจนสูงขึ้นไปเรื่อยๆครับ

มาร่วมกันอนุรักษ์ของเก่า ของดีไม่ให้สูญหายไปจากประเทศไทย ไม่ให้สูญหายไปจากพระพุทธศาสนา เพราะในปัจจุบันมีประเทศไทยประเทศเดียวและมีที่คณะ ๕
วัดราชสิทธารามเพียงที่เดียวที่ยังมีแนวทางกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับให้ได้ศึกษากัน
ในศรีลังกา พม่า ในลาว อินโดนีเซีย เนปาล ต่างหมดลงไปแล้ว
เรามาช่วยกันรักษาของเก่าของดีไม่ให้สูญหายกันนะครับ

ข้อมูลอ้างอิง....
 พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับสำหรับพระพุทธศาสนาในไทยนั้นสำคัญมากจนมี การเล่าขานว่า  พระมหากษัตริย์ในแทบจะทุกยุคของไทยแลแถบสุวรรณภูมิตั้งแต่สมัย ทวารวดี  สุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี จนถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้นได้ทรงให้ความใส่ใจและทรงศึกษาเพื่อรักษา พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับให้คงอยู่ตลอดมา รัชกาลที่1-2-3-4นั้นก็ยังทรงศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับนี้กับสมเด็จ พระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน) 

     อีกทั้งล้นเกล้ารัชกาลที่สองยังทรงมีพระบรมราชโองการสังคายนาพระกัมมัฏฐานแบบลำดับเพราะ
ทรงเล็งเห็นว่าจะเป็นภัยแก่พระศาสนาที่คนรุ่น ต่อไปจะหา ของจริงที่ถูกต้องไว้เล่าเรียนไม่ได้จึงทรงมีพระบรมราชโองการ ให้ทำ สังคายนาพระกัมมัฏฐานแบบลำดับ ไว้เป็นหมวดหมู่ (แต่กรรมฐานมัชฌิมามากระจัดกระจายและค่อยๆหายไปยุคปลายรัชกาลที่๔เพราะการแยกนิกายครับ)



     สำหรับวัดพลับ หรือวัดราชสิทธารามนั้น นับแต่สมเด็จพระสังฆราช (สุก) ได้มาอยู่ครองแต่ครั้งยังทรงเป็นที่ พระญาณสังวรเถรแล้ว ก็ได้กลายเป็นสำนักปฏิบัติทางวิปัสสนาธุระที่สำคัญ ดังที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงพระนิพนธ์ไว้ใน เรื่องประวัติวัดมหาธาตุว่า
    “ในกรุงรัตนโกสินทร์นี้ วัดอรัญวาสีที่สำคัญ ก็คือวัดสมอราย ๑ กับวัดราชสิทธาราม ๑” และพระเกียรติคุณในทางวิปัสสนาธุระของสมเด็จพระสังฆราช (สุก) นั้น คงเป็นที่เคารพนับถือทั้งในฝ่ายเจ้านายในพระบรมราชวงศ์และในหมู่ประชาชนทั่วไป จึงได้ทรงเป็นพระราช อุปัธยาจารย์และเป็นพระอาจารย์ของพระมหากษัตริย์ และเจ้านายชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์หลายพระองศ์ ดังได้กล่าวมาแล้ว


เครดิตที่มาของข้อมูล
http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/monk-raja/monk-raja-04-hist.htm
http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=2798.msg22137#msg22137
http://www.somdechsuk.org/
http://www.facebook.com/phrakrusittisongvon
http://www.facebook.com/themajjhima
http://www.themajjhima.com/
2  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ร่วมบุญซ่อมแซมหลังคาอาคารกรรมฐานคณะ5;วัดพลับเป็นวิหารทานกันภัยให้ตนเอง เมื่อ: มิถุนายน 18, 2013, 05:12:36 pm
เชิญสมทบทุนบริจาคได้ที่ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม ซ.อิสรภาพ ๒๓
        แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ โทร. 084-651-7023
        หรือ โอนเข้าบัญชี ธ.กสิกรไทย สาขาโพธิ์สามต้น
        บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 067-2-83847-9 ในนามพระวีระ สุขมีทรัพย์

(link ข้อมูลและภาพที่เกี่ยวข้องในfacebookเพื่อสะดวกในการ share+Tagส่งข้อมูลต่อๆกันไปครับ

https://www.facebook.com/events/437146979732592/ )
      ========================================
สวัสดีครับทุกท่าน

ในขณะนี้พระอาจารย์วีระ หรือพระครูสิทธิสังวร เจ้าคณะ5 วัดราชสิทธาราม(พระอาจารย์ผู้สืบทอดกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับยุคนี้)
มีความประสงค์ที่จะเปลี่ยนหลังคาอาคารกรรมฐานหลักที่คณะสองส่วนด้วยกันคือ
๑ ด้วยหลังคาเดิมบางส่วนหน้ากุฎิหลวงพ่อพระครูวีระนั้นค่อนข้างเก่าแล้ว สังเกตจากภาพด้านล่างได้ว่ามีรอยรั่ว และแตกจำนวนหลายแห่งเวลาฝนตกหนักมีน้ำรั่วซึมออกมามาก ทำให้การเดินเข้าออกมีความไม่สะดวกอย่างมากโดยเฉพาะจุดนั้นเป็นทางเดินเข้าห้องกรรมฐานหลักด้วยครับ(ห้องกรรมฐานหลักอยู่ทางซ้ายมือ)

๒ หลังคาด้านหลังอาคารกรรมฐาน(ทางประตูด้านหลัง)มีช่องรางน้ำทำให้เวลาฝนตกหนักมีน้ำรั่วซึมออกมาเช่นกันทำให้พระในคณะ๕มีความไม่สะดวกเวลาออกไปทำศาสนกิจ
  ดังนั้นด้วยเหตุปัจจัยที่ว่ามาข้างต้นหลวงพ่อพระครูวีระจึงมีดำริที่จะเปลี่ยนและบูรณะหลังคาใหม่ครับหลังคาใหม่นี้จะออกแบบอย่างดีเพื่อที่ญาติธรรมที่มาขึ้นกรรมฐานจะได้เดินทางเข้าออก ปฎิบัติภาวนาจะได้มีความสะดวกสบายมากขึ้นด้วยครับส่วนงบประมาณที่จะใช้ตกอยู่ที่ราวๆ  100,000- 150,000บาทโดยประมาณครับ







รูปหลังคาเดิมบางส่วนหน้ากุฎิหลวงพ่อพระครูวีระครับ
==========================


หลังคาด้านหลังอาคารกรรมฐาน(ทางประตูด้านหลัง)มีน้ำรั่วซีมอยู่เรื่อยๆเวลาฝนตกครับ








===========================================================


[size=20pt]
ในการร่วมสร้างหลังคาเป็นวิหารทานในพระพุทธศาสนาครั้งนี้พระอาจารย์วีระ (หลวงพ่อจิ๋ว ) ได้เมตตาเปิดโอกาสให้ท่านสาธุชนที่อยากร่วมบุญ สามารถร่วมบุญได้ เรื่อยๆนะครับ



ร่วมบุญสร้างหลังคาเป็นวิหารทานในพระพุทธศาสนาโดยโอนเงินไปที่ ธนาคาร กสิกรไทย สาขาโพธ์สามต้น บัญชีเลขที่ 067-2-83847-9 บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี พระวีระ สุขมีทรัพย์(ร่วมสร้างหลังคาเป็นวิหารทานในพระพุทธศาสนา)


ท่านที่ต้องการร่วมบุญสร้างหลังคากรุณา โอนเงินโดยปิดการลงท้ายจำนวนด้วยเลข .99 สตางค์ในทุกครั้งที่โอนด้วยนะครับ
ตัวอย่างเช่น  ท่านต้องการโอน100 บาทก็โอนด้วยจำนวน 100.99 เป็นต้นครับ
(สาเหตุที่ต้องกำหนดเช่นนี้เพราะเพื่อที่หลวงพ่อจะได้ทราบในเจตนาการโอนครั้งนี้ว่าเป็นไปเพื่อการร่วมร่วมสร้างหลังคาเป็นวิหารทานครับผม)



===============

ความสำคัญและอานิสงค์ที่จะได้ในการร่วมบุญสร้างหลังคาเป็นวิหารทานครั้งนี้

1. หลังคาเปรียบเสมือนร่มคุ้มแดดค้มฝนท่านที่ได้ร่วมบุญนี้ก็จะได้อานิสงค์เช่นกันคือคุ้มครองท่านจากภัยทั้งหลาย และมีความสงบสุขร่มเย็นในชีวิต

2. หลังคาใหม่นี้จะออกแบบอย่างดีเพื่อที่ญาติธรรมที่มาขึ้นกรรมฐาน ปฎิบัติภาวนาจะได้มีความสะดวกสบายมากขึ้นด้วย เมื่อผู้ที่มาขึ้นกรรมฐาน มาปฎิบัติธรรมบำเพ็ญเพียรภาวนามีความสะดวกสบายภาวนาได้ดีอานิสงค์ที่ช่วยเหลือผู้ปฎิบัติธรรมนั้นย่อมถึงท่านอย่างแน่นอน

3.ได้บุญบารมีทางธรรมเพิ่ม เพราะอาคารหลังนี้เป็นอาคารหลักที่ใช้เมื่อมีผู้มาขอขึ้นกรรมฐานมัชฌิมาฯและ มาปฎิบัติธรรมครับ
ภาวนามีความสะดวกสบายภาวนาได้ดีอานิสงค์ที่ช่วยเหลือผู้ปฎิบัติธรรมนั้นย่อมถึงท่านอย่างแน่นอน

======================================

กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับมีความสำคัญอย่างไร

   1. ในปัจจุบันกรรมฐาน ๔๐ และแนวกรรมฐานแบบมัชฌิมากำลังจะสาบสูญไปตามกาลเวลานับจากที่พระเจ้าอโศกมหาราชส่งพระโสณะและพระอุตตระมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาและกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ(กรรมฐานมาตรฐานแบบโบราณ)ในภูมิภาคนี้
     ช่วงนี้ถือว่าเป็นรอยต่อที่อันตรายที่สุดเพราะแทบไม่มีผู้สนใจศึกษากรรมฐาน ดั้งเดิมที่สืบทอดมาแต่พุทธกาลแล้วแต่ ด้วยพระอาจารย์วีระ คณะ ๕ วัดราชสิทธารามได้ดำเนินการอนุรักษ์ไว้ กรรมฐานแนวทางนี้จึงไม่สาบสูญ เห็นควรอย่างยิ่งที่จะได้รักษาตามแบบแผนไว้

ข้อมูลอ้างอิง....
 พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับสำหรับพระพุทธศาสนาในไทยนั้นสำคัญมากจนมี การเล่าขานว่า  พระมหากษัตริย์ในแทบจะทุกยุคของไทยแลแถบสุวรรณภูมิตั้งแต่สมัย ทวารวดี  สุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี จนถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้นได้ทรงให้ความใส่ใจและทรงศึกษาเพื่อรักษา พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับให้คงอยู่ตลอดมา รัชกาลที่1-2-3-4นั้นก็ยังทรงศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับนี้กับสมเด็จ พระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน) 

     อีกทั้งล้นเกล้ารัชกาลที่สองยังทรงมีพระบรมราชโองการสังคายนาพระกัมมัฏฐานแบบลำดับเพราะ
ทรงเล็งเห็นว่าจะเป็นภัยแก่พระศาสนาที่คนรุ่น ต่อไปจะหา ของจริงที่ถูกต้องไว้เล่าเรียนไม่ได้จึงทรงมีพระบรมราชโองการ ให้ทำ สังคายนาพระกัมมัฏฐานแบบลำดับ ไว้เป็นหมวดหมู่ (แต่กรรมฐานมัชฌิมามากระจัดกระจายและค่อยๆหายไปยุคปลายรัชกาลที่๔เพราะการแยกนิกายครับ)

    สมเด็จพระสังฆราช (สุก) ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงเป็นพระมหาเถระที่ทรงพระเกียรติคุณเป็นที่เลื่องลือพระองค์หนึ่งในยุครัตนโกสินทร์ ทรงพระคุณพิเศษในด้านวิปัสสนาธุระ(ซึ่งคือกรรมฐานแบบลำดับ;หรือกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ)จนมีพระฉายานามอันเป็นที่รู้กันทั่วไปในหมู่ประชาชนว่า “พระสังฆราชไก่เถื่อน” เพราะทรงสามารถแผ่พรหมวิหารธรรมให้ไก่ป่าเชื่องเป็นไก่บ้านได้[/size]


    ครั้น พ.ศ. ๒๓๒๕ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงปราบดาภิเษกเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นปฐมรัชกาลแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ กรุงรัตนโกสินทร์, เมื่อได้ทรงจัดการข้างฝ่ายอาณาจักรเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ได้ทรงพระราชดำริจัดการข้างฝ่ายพุทธจักรเพื่อทำนุบำรุง พระพุทธศาสนา ซึ่งเสื่อมโทรมเศร้าหมองเพราะการจลาจลวุ่นวายในบ้านเมือง
     จึงได้ทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพระราชาคณะในตำแหน่งต่างๆตามโบราณราชประเพณี และได้ทรงแสวงหาพระเถระผู้ทรงคุณพิเศษจากที่ต่างๆมาตั้งไว้ในตำแหน่งที่สมควร เพื่อช่วยรับภาระ ธุระทางพระพุทธศาสนาสืบไป และก็ในคราวนี้เองที่ได้ทรง “โปรดให้นิมนต์พระอาจารย์วัดท่าหอย คลองตะเคียน แขวงกรุงเก่า มาอยู่วัดพลับ ให้เป็นพระญาณสังวรเถร” (๒) พระอาจารย์วัดท่าหอยดังกล่าวนี้ก็คือ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) นั่นเอง

     สมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) ทรงเป็นที่ทรงเคารพนับถือเป็นอันมากของพระบรมราชวงศ์มาแต่ครั้งรัชกาลที่ ๑ รัชกาลที่ ๒ รัชกาลที่ ๓  รัชกาลที่ ๔ปรากฏนามพระญาณสังวรเถร เป็นพระกรรมวาจาจารย์แทบทุกพระองค์ นับแต่คราวทรงผนวชพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย แต่ครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิสรสุนทร เป็นต้นมา ดังปรากฏในพระราชพงศาวดาร



     สำหรับวัดพลับ หรือวัดราชสิทธารามนั้น นับแต่สมเด็จพระสังฆราช (สุก) ได้มาอยู่ครองแต่ครั้งยังทรงเป็นที่ พระญาณสังวรเถรแล้ว ก็ได้กลายเป็นสำนักปฏิบัติทางวิปัสสนาธุระที่สำคัญ ดังที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงพระนิพนธ์ไว้ใน เรื่องประวัติวัดมหาธาตุว่า
    “ในกรุงรัตนโกสินทร์นี้ วัดอรัญวาสีที่สำคัญ ก็คือวัดสมอราย ๑ กับวัดราชสิทธาราม ๑” และพระเกียรติคุณในทางวิปัสสนาธุระของสมเด็จพระสังฆราช (สุก) นั้น คงเป็นที่เคารพนับถือทั้งในฝ่ายเจ้านายในพระบรมราชวงศ์และในหมู่ประชาชนทั่วไป จึงได้ทรงเป็นพระราช อุปัธยาจารย์และเป็นพระอาจารย์ของพระมหากษัตริย์ และเจ้านายชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์หลายพระองศ์ ดังได้กล่าวมาแล้ว


เครดิตที่มาของข้อมูล
http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/monk-raja/monk-raja-04-hist.htm
http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=2798.msg22137#msg22137
http://www.somdechsuk.org/
http://www.facebook.com/phrakrusittisongvon
http://www.facebook.com/themajjhima
http://www.themajjhima.com/
================================================
ส่วนอานิสงค์วิหารทาน
           วิหารทานคือการทำบุญถวายหรือร่วมสร้างเสนาสนะต่าง ๆ
           ถวายไว้เป็นสมบัติพระพุทธศาสนา เช่น การสร้างพระอุโบสถ (โบสถ์)
           กุฏิ ศาลา วิหาร บุษบก หอฉัน หอระฆังเป็นต้น
          องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
          ทรงตรัสไว้ว่าการถวายวิหารทานมีอานิสงส์มาก
          โดยมีพุทธดำรัสตรัสเอาไว้ว่า
          "แม้ถวายทานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑๐๐ ครั้ง
           ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าถวายสังฆทานครั้งเดียว"
         "แม้การถวายสังฆทาน ๑๐๐ ครั้ง ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าการ
         ถวาย "วิหารทาน" ครั้งเดียว"
         การถวายวิหารทานยังมีอานิสงส์อีกมาก สุดจะพรรณา
       
 เชิญสมทบทุนบริจาคได้ที่ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม ซ.อิสรภาพ ๒๓
        แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ โทร. 084-651-7023
        หรือ โอนเข้าบัญชี ธ.กสิกรไทย สาขาโพธิ์สามต้น
        บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 067-2-83847-9 ในนามพระวีระ สุขมีทรัพย์
        จึงขออนุโมทนาในบุญกุศลในครั้งนี้ เจริญด้วยอายุ วรรณะ
       สุขะ พละ ธนสารสมบัติ จงทุกวันเทอญ
 
ขอทุกท่านร่วมกันสนับสนุน ศูนย์กลางพระกรรมฐานโบราณ วัดราชสิทธาราม คณะ 5ด้วยนะครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
=======================================================================

===
ความสำคัญโดยย่อของพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับสำหรับพระพุทธศาสนาในไทย




[url=http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=2798.msg22550#msg22550]http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=2798.msg22550#msg22550
[/url]

ข่าวสารเกี่ยวกับพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับที่คุณควรรู้



oxfordทึ่งพบแหล่งเก็บคัมภีร์กรรมฐานแบบลำดับครบถ้วนที่สุดท้ายในโลกที่วัดพลับ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=41415

==========================================

   
ขั้นตอนการเริ่มนั่งกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับโดยพื้นฐาน
http://somdechsuk.org/node/312[/size]
3  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เชิญร่วมบุญสร้างพระสมเด็จอรหังย้อนยุคต่ออายุพระศาสนาได้บุญ 3ชั้นต่อเนื่องครับ เมื่อ: เมษายน 27, 2013, 05:13:53 pm
สร้างพระสมเด็จอรหังย้อนยุคต่ออายุพระศาสนาได้บุญ 3ชั้นต่อเนื่องครับ


เชิญร่วมบุญสร้างพระสมเด็จอรหังย้อนยุคต่ออายุพระศาสนาได้บุญ 3ชั้นต่อเนื่องครับ เชิญท่านที่สนใจ

เข้าดูรายละเอียดภาพพร้อมข้อมูลแบบสบายๆได้ที่นี่ครับ
veerawongp.exteen.com/20130427/entry

   ***หมายเหตุ แก้ไขลิงค์ให้แล้วครับ
4  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / 4 กันยายน ;รับพระผงผสมอัฐิหลวงปู่ดู่+ฟังธรรมะหลวงพี่เล็กที่จุฬา เมื่อ: สิงหาคม 30, 2012, 05:15:56 pm
กลุ่มสมาธิ จุฬาฯ ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมกราบนมัสการ ฟังธรรม และถวายไทยทาน กับ พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธัมฺมปัญโญ วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี ) ในวันอังคาร ที่ ๔ กันยายน ๒๕๕๕ ณ ห้อง ๒๑๑ (ห้องสมุด สุภา ศิริมานนท์) คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ตั้งแต่เวลา ๑๖.๐๐-๑๙.๐๐ น. จึงขอเชิญทุกท่านมาร่วมบำเพ็ญกุศล และอบรมจิตใจโดยพร้อมเพรียงกันนะครับ



"เยาวชนทั้งหลายที่ใฝ่ใจในพระพุทธศาสนา จะพัฒนาชาติให้ร่มเย็นสืบไป"

จึงขอเรียนเชิญทุกท่านเข้าอบรมธรรรม ปฏิบัติภาวนา ฟังธรรมเทศนา บำเพ็ญกุศลตามอัธยาศัย

โอกาศที่จะได้กราบนมัสการพระปฏิบัติดี และที่จะได้นมัสการและทำบุญกับท่านอย่างใกล้ชิดแบบนี้หาได้ยากครับ

ท่านที่นำรถส่วนตัวมา แนะนำให้ไปจอดที่ จามจุรีสแควร์แล้วเดินมาประมาณ ๕๐เมตรครับ

หรือสามารถนั่งMRT ลงที่สถานีสามย่าน เดินอีก ๕๐เมตร

"การสั่งสมบุญนำสุขมาให้" โอกาสสำคัญแบบนี้ พลาดไม่ได้นะครับ


=================
ผู้ที่สนใจ  เข้าร่วมฟังธรรม
จะได้รับพระผง อุดมสิริสุขโตทวีป (ชุดทำน้ำมนต์5)


แจกประมาณ 100 องค์

ทุกองค์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุข้าวบิณฑ์

ปางยืนทรงเครื่องจักรพรรดิเปิดโลก
อธิษฐานจิต โดย หลวงปู่ศรี มหาวีโร


นอกจากนี้ มีชนวนมวลสารหลายชนิด เช่น

เกศาหลวงตาพระมหาบัวญาณสัมปันโน

ผงจิตรลดา น้ำสรงพระแก้วมรกต ผงชันเพชรจากเครื่องทรงพระแก้วมรกต  ผงหลวงปู่โต๊ะ ผงหลวงปู่แหวน
ผงหลวงปู่อุตตมะ ผงเจ้าคุณนรฯ ผงงาช้าง ผงกะลาตาเดียว ผงเหล็กน้ำพี้หลวงปู่หมูน ผงหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ผงแก้วโป่งข่าม ผงพระธาตุเขาสามร้อยยอดผงมหากัน ญาท่านสวน ผงคำข้าวหลวงพ่อฤาษี
 แป้งเสกหลวงปู่บุดดา ยาอนันตคุณหลวงปู่ศรี ผงว่า108หลวงพ่อฤาษี


เกศาที่ผสมทำพระ  มีดังนี้ หลวงตามหาบัว  ท่านพ่อลี หลวงปู่ศรี มหาวีโร หลวงปู่บุญฤทธิ์ หลวงพ่อชา สุภัทโท หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่แหวน หลวงปู่ชอบ หลวงปู่สิม หลวงปู่ท่อน ฯลฯ มากมายเกือบ100รูป

ชานหมาก ของพระอริยสงฆ์มากมาย ชานหมากหลวงปู่ขาน ฐานวโร หลวงปู่ทอง จันทสิริ  หลวงปู่อว้าน เขมโก  หลวงปู่อุ่นหล้า  หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ฯลฯ

อัฐิธาตุ  หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ หลวงปู่เพียร ฯลฯ มีมากจริงๆครับ

เอาพระไปถวายหลวงปู่ท่อน ญาณธโร ท่านกล่าวว่า" พระนี้ดี ของดี ให้เอาไว้สูง อย่าเอาไว้ต่ำ เราจะแจกคนที่มาร่วมสร้างเจดีย์ ในวาระสำคัญ"

ถวายหลวงปู่ทอง จันทสิริ  ท่านกล่าวว่า "พระนี้สำคัญ เก็บไว้ให้ดี"

มอบให้กับผู้ที่มาฟังธรรม 

0845433962 ณัฏฐกรณ์ ผู้ที่จะรับ มีคุณสมบัติ 1.รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2. สละความอาฆาตพยาบาท 3.กตัญญูมารดาบิดา 4. ห้ามนำพระไปขาย ต้องแจกฟรีเท่านั้น

 

แจกเฉพาะที่มาร่วมงานเท่านั้น   กรุณาอ่านรายละเอียดให้เข้าใจด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ




=======================================[/size]

ออร่าของพระอุดมสิริสุขโตทวีป(เนื้อโลหะ)
ภาพจากกล้อง version 2
เป็นเหรียญแรกและเหรียญเดียวในประวัติศาสตร์ที่กล้องตัวนี้ถ่ายได้เป็นสีขาวล้วน
บ่งชี้ถึงความสงบ ความสะอาดจากสิ่งใดๆทั้งปวง สูงส่ง และไร้ความยึดติด(ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ)




ภาพจากกล้อง version 3



สีขาว เป็นสีที่มีความสมดุล และสมบูรณ์แบบมากที่สุด จะปรากฏกับพวกนักบุญ พระ หรือ ผู้ฝึกสมาธิวิปัสสนาสม่ำเสมอ
ผู้ที่มีสีขาวปรากฏอยู่ในออร่า หมายถึง กายแสงได้รับการชำระและฟอกให้บริสุทธิ์ หรืออาจหมายถึง สภาพจิตใจที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และบริสุทธิ์
แสดงถึงความบริสุทธิ์ใจของผู้สร้างพระชุดนี้เพื่อรวบรวมเด็กและเยาวชนผู้ใฝ่ใจธรรมะเพื่อช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาจริงๆ


===============
แผนที่การไปฟังธรรม




ณ ห้อง๒๑๑ (ห้องสมุดสุภาฯ) ชั้น ๒ คณะ เศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


5  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ร่วมสร้างพระมหาเจดีย์ศรีจอมทอง รับพระหลวงปู่ศรีมหาวีโร เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2012, 01:25:15 pm


ภาพจำลอง มหาเจดีย์ศรีจอมทอง ณ วัดเขาจอมทอง ;วัดสาขาขององค์หลวงปู่ ศรี มหาวีโร

ประวัติธรรมะพระเครื่อง และเรื่องเล่า ;หลวงปู่ศรี มหาวีโร ;วัดป่ากุง;ร้อยเอ็ด
http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=1611.msg15394#msg15394







ร่วมสร้างพระมหาเจดีย์ศรีจอมทอง รับพระหลวงปู่ศรีมหาวีโร

รายการชุดพระของขวัญภาพพร้อมรายละเอียด
ซึ่งชุดพระของขวัญนี้นำมาไว้แจกผู้ร่วมทำบุญ สร้างพระมหาเจดีย์ศรีจอมทองครับ
http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=638449&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343

ภาพ4 สีสวยงามน่าประทับใจมากครับ
===============================================
รักชุดไหนชอบชุดไหนดูรายละเอียดวัตถุมงคลตาม Linkได้ นะครับ
ถือว่าได้ร่วมบุญใหญ่คือร่วมสร้างพระมหาเจดีย์กับพระอริยสงฆ์เป็นบุญใหญ่ 2 ชั้นเลยครับ
และตรงตามทฤษฎี win-win คือท่านก็จะได้รับชุดพระของขวัญซึ่งมีพุทธคุณกันภัยพิบัติครอบจักรวาลเป็นการสมนาคุณแก่ท่านผู้ใจบุญที่ร่วมสร้างพระมหาเจดีย์อีกด้วยครับ

หลวงปู่ ศรี มหาวีโร ท่านบอกว่าใครมีอุปสรรคในชีวิตให้ร่วมทำบุญสร้างพระมหาเจดีย์ที่เขาจอมทอง

และอธิษฐาน เพราะจะพบว่าอุปสรรคจะหายไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากเป็นบุญพิเศษจริงๆ

...ขนาดองค์หลวงปู่ศรียืนยันด้วยองค์เองเลยนะครับ งานนี้พลาดไม่ได้แล้วล่ะครับ 



===============================================
ท่านผู้ใจบุญท่านใดสนใจร่วมสร้างพระมหาเจดีย์ศรีจอมทอง

กรุณาโอนเงิน กรุณาโอนเงิน ชื่อบัญชี

 พระสมปอง  ธมฺมาลโย    ธ.กรุงไทย  สาขาปักธงชัย
บัญชี ออมทรัพย์  เลขที่ 304-0-24013-7ได้โดยตรงครับ
เมื่อท่านได้โอนเงินเข้าบัญชี พระอาจรย์สมปอง  ธมฺมาลโย เรียบร้อยแล้ว

 กรุณาแจ้ง หลักฐานการโอนเงิน ชื่อ ที่อยู่มาที่ อีเมล์ topten77@hotmail.com
 พร้อมโอนค่าส่งวัตถุมงคล 50 บาท
มาที่นี่ครับ

1.ช่วยค่าจัดส่งจำนวน 50 บาท เข้าบัญชี ธนาคาร กสิกรไทย ชื่อบัญชี  ทีปกร   สร้อยสน สาขาสี่แยกเกษตร บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 778-2-09961-7
หรือ บัญชี ธนาคารกสิกรไทย  สาขา ปักธงชัย  ชื่อบัญชี ทีปกร  สร้อยสน บัญชีออมทรัพย์

เลขที่ 239-2-53218-0คุณ ทีปกร   สร้อยสน (มัคนายกวัดเขาจอมทองอีกท่าน)จะทำการจัดส่งวัตถุมงคลพร้อมใบอนุโมทนาบัตรไปให้ครับ

ย้ำว่าเฉพาะค่าจัดส่ง50บาททางEMS  เท่านั้นนะครับถึงส่งบัญชีนี้
การทำบุญชุดพระของขวัญเพื่อสร้างพระเจดีย์ให้โอนเข้าบัญชี พระอาจรย์สมปอง  ธมฺมาลโยได้โดยตรงเลยครับ
กราบขออภัยในความไม่สะดวกมาณที่นี้ด้วยนะครับ


ท่านที่ร่วมทำบุญแล้ว สามารถ แจ้งที่อยู่  และ  วัตถุมงคลที่ต้องการได้ที่
E-mail : topten77@hotmail.com
โทรสอบถามได้ที่   0896307276   0849257235

ย้ำว่าเฉพาะค่าจัดส่ง50บาททางEMS  เท่านั้นนะครับถึงส่งบัญชีนี้
การทำบุญชุดพระของขวัญเพื่อสร้างพระเจดีย์ให้โอนเข้าบัญชี พระอาจรย์สมปอง  ธมฺมาลโยได้โดยตรงเลยครับ


พระมหาเจดีย์ศรีจอมทอง อยู่ที่วัดเขาจอมทอง อ.ครบุรี จ.นครรราชสีมา  หลวงปู่ศรี มหาวีโร ท่านได้ธุดงค์มาบำเพ็ญเพียรภาวนาอยู่บนยอดเขาจอมทอง และหลวงปู่ท่านได้สร้าง วัดเขาจอมทอง ในเวลาต่อมา  เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากและมีสิ่งมห้ศจรรย์มากมายครับ

ท่านพระอาจารย์สมปอง เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันของวัดเขาจอมทองเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ ศรี มหาวีโรครับ

และองค์หลวงปู่ศรีได้เมตตามาวางศิลาฤกษ์ด้วยตัวเองด้วยครับดังรูปด้านล่าง



ชมภาพในวันที่ หลวงศรี มหาวีโร วางศิลาฤกษ์ พระมหาเจดีย์ ศรีจอมทอง ครับ
http://forum.uamulet.com/view_topic.aspx?bid=4&qid=31995

เชิญชมมหัศจรรย์ เขาจอมทอง อ.ครบุรี จ.นครรราชสีมา และ ร่วมกันทำบุญสร้าง พระมหาเจดีย์ศรีจอมทอง ครับ
http://forum.uamulet.com/view_topic.aspx?bid=4&qid=31273


พระมหาเจดีย์ศรีจอมทองมีทุนเริ่มต้น 1 ล้านบาทครับ ทุนนี้ได้มาจาก การสร้างเหรียญพระเทพวิสุทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร)
มาทำบุญช่วยสร้างพระมหาเจดีย์ศรีจอมทองซึ่งองค์ หลวงปู่ ศรีมหาวีโร เป็นประธานนะครับ



วัตถุมงคลชุดด้านล่างทั้งหมดนี้มีเพื่อเป็นของที่ระลึกแด่ผู้ที่ทำบุญสร้างพระมหาเจดีย์วัดเขาจอมทอง
ซึ่งเรื่องพุทธคุณสบายใจหายห่วงครับ
เพราะคุณสุชาตินิมนต์องค์หลวงปู่ว่าขอให้มีพุทธานุภาพกันภัยพิบัติได้ทุกประการ
รวมทั้งขอให้มีพุทธานุภาพกันรังสีนิวเคลียร์

อีกทั้งผู้สร้างยังได้นิมนต์หลวงปู่ศรีขอให้วัตถุมงคลทุกชุดมีพุทธคุณครอบจักรวาลเหมือนกันทุกรุ่นครับ
ขอให้ทุกท่านวางใจได้



ดูรายการและภาพวัตถุมงคลเพื่อตอบแทนผู้ที่ทำบุญสร้างพระมหาเจดีย์วัดเขาจอมทองได้ด้านล่างนะครับ

====================================
รายการพระของขวัญไว้แจกทำบุญ สร้างพระมหาเจดีย์ศรีจอมทอง ครับ........

อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ
....สาธุ...

สำหรับท่านที่สนใจร่วมสร้างพระมหาเจดีย์ศรีจอมทองตามเจตนารมณ์ขององค์หลวงปู่ศรี

โปรดทราบโดยทั่วกันนะครับว่า

อัตราการบูชาพระเพื่อร่วมสร้างพระมหาเจดีย์ศรีจอมทองมีการปรับราคาในปี2556นะครับ 
มีอัตราตามด้านล่างนี้นะครับ

1.  ปรกใบมะขามหลวงปู่ศรี มหาวีโร ยันต์หลวงปู่ศรี รุ่นแรก -เนื้อทองแดงแจกผู้ที่ทำบุญ 100 บาทครับ-เนื้อนวะ 1,999- เนื้อเงิน 4,999-เนื้อทองคำ หมดแล้ว
2.  พระสังกัจจายน์หลวงปู่ศรี มหาวีโร ปี2552-เนื้อทองแดงแจกผู้ทำบุญ 1000 เนื้อสัมฤทธิ์ 2,000 นวะ3,000  เงิน 5,000ทองคำหมดแล้ว
3.      เหรียญหลังโต็ะหมู่ 2 พิมพ์ -เนื้อทองแดงแจกผู้ที่ทำบุญ 900 บาทครับ เนื้อสัมฤทธิ์ 2,000 -นวะ3,000 - เงิน 5,000-ทองคำหมดแล้ว
4.   พระผงหลังโต็ะหมู่มีพิมพ์สมาธิ และ พิมพ์จับเข่า -เนื้อผงสีชมพู และ สีขาว แจกผู้ที่ทำบุญ 200 บาทครับ
5.   ตะกรุด หลวงปู่ศรี มหาวีโร ปี 2552-ขนาดเล็ก(ลูกอม)แจกผู้ที่ทำบุญ 600 ขนาดกลาง 1000 ขนาดใหญ่ 1500 ครับ
6.  พระผงทำน้ำมนต์ รูปไข่เล็ก หลวงปู่ศรี มหาวีโร -เนื้อผงแจกผู้ที่ทำบุญ 100 บาทครับ
7   มีดหมอเทพศาสตราปี 2552 -ขนาดปากกาแจกผู้ที่ทำบุญ 2,500 บาทครับ- 5 นิ้ว 9,000- และขนาด 9 นิ้ว 50,000 บาท
8.  พระขรรค์เล็กปี 2551 -เนื้อทองเหลืองแจกผู้ที่ทำบุญ 1,000 บาทครับ เนื้อสัมฤทธิ์ 2,000 เนื้อนวะ 5,000 เนื้อเงิน 10,000ทองคำหมดแล้ว
9.  แหวนปลอกมีด หลวงปู่ศรี มหาวีโร รุ่นแรก ปี 2551 -เนื้อทองเหลืองแจกผู้ที่ทำบุญ 2000 - เนื้อสัมฤทธิ์ 3,000 เนื้อนวะ 5,000 บาทครับเงิน หมดแล้ว-ทองคำหมดแล้ว
10.  ลูกแก้วจักรพรรดิ์หลวงปู่ศรี มหาวีโร ปี 2551 มีหลายสี-แจกผู้ที่ทำบุญ 250 บาทครับ
11.  พระขรรค์ใหญ่ หลวงปู่ศรี มหาวีโร ปี 2551แจกผู้ที่ทำบุญ 19,000 บาทครับ -เนื้อสัมฤทธิ์-เนื้อชนวน 30,000 ครับ
12  เหรียญทำน้ำมนต์รุ่นแรก ปี 2552- เนื้อทองแดงแจกผู้ที่ทำบุญ1900  เนื้อสัมฤทธิ์ 4,000 -นวะ หมดแล้ว - เงิน หมดแล้ว-ทองคำหมดแล้ว
13  เหรียญทำน้ำมนต์รุ่นแรก ปี 2552 พิมพ์กรรมการ-  เนื้อสัมฤทธิ์แจกผู้ที่ทำบุญ 5,000 -นวะ หมดแล้ว - เงิน หมดแล้ว-ทองคำหมดแล้ว
14  เหรียญทำน้ำมนต์รุน2 ปี 2552- เนื้อทองแดงแจกผู้ที่ทำบุญ 1500  เนื้อสัมฤทธิ์ 3000 -นวะ 5,000 - เงิน10,000-ทองคำหมดแล้ว
15   เหรียญท้ำน้ำมนต์ หลวงปู่ศรี มหาวีโร กรรมการ พิมพ์เล็ก (รุ่น 3 )พิมพ์กรรมการ(รุ่น 3 )เนื้อทองสตางค์แจกผู้ที่ทำบุญ 500- นวะ 2,900 -  เงิน 3,900-ทองคำหมดแล้ว
16. เหรียญท้ำน้ำมนต์ หลวงปู่ศรี นะมหาเศรษฐี พิมพ์รูปไข่เล็ก พิมพ์นะมหาเศรษฐี พิมพ์นะมหาเศรษฐี(รุ่น)3เนื้อทองแดงแจกผู้ทำบุญ 600, เนื้อสัมฤทธิ์ 900 ,สตางค์ 1500 เนื้อนวะ  2500 เนื้อเงิน 3500 เนื้อทองคำหมดแล้ว
17.  กริ่งตัน-รุ่นทำน้ำมนต์ หลวงปู่ศรี มหาวีโร ปี 2552-เนื้อสัมฤทธิ์แจกผู้ที่ทำบุญ 3,000 -นวะ 6,000 - เงิน 10000-ทองคำหมดแล้ว
18.  พระผงทำน้ำมนต์รุ่นแรก หลวงปู่ศรี มหาวีโร พิมพ์กรรมการ ปี 2552.-เนื้อผงสีขาวแจกผู้ที่ทำบุญ 1000 บาทครับ
19.  พระผงทำน้ำมนต์รุ่นแรก หลวงปู่ศรี มหาวีโร พิมพ์ นะมหาเศรษฐี ปี 2552
-เนื้อผงสีแดงแจกผู้ที่ทำบุญ 5000 บาทครับ และ เนื้อผงมวลสารสีดำผสมเกศา 9000 บาทครับ
20.  เหรียญอุดมมหาโภคทรัพย์ หลวงปู่ศรี มหาวีโร - เนื้อทองแดงแจกผู้ที่ทำบุญ 600  เนื้อ

สัมฤทธิ์ 1,900 สตางค์ 2500-นวะ 3900 - เงิน 6000-ทองคำหมดแล้ว
21.  ตะกรุดหนังเสือโคร่ง หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง ปี 2552- ขนาดลูกอมแจกผู้ที่ทำบุญ 2,000 ขนาด 4.5 ซ.ม 4,000 บาทครับ

=====================
ภาพวัตถุมงคลบูชาเพื่อนำปัจจัยร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีจอมทอง

ท่านสามารถเช็คปีที่สร้างได้โดยคลิกไปที่ Link ล่างรูปวัตถุมงคลนั้นๆนะครับ จะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

1.-เหรียญทำน้ำมนต์ พิมพ์สิกขี




http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=155687&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343

2.-เหรียญทำน้ำมนต์ พิมพ์นะมหาเศรษฐี




http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=155689&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343


3.-พระผงทำน้ำมนต์ พิมพ์สิกขี





http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=155691&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343


4. -พระผงทำน้ำมนต์ พิมพ์นะมหาเศรษฐี




http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=155828&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343


5.-พระสังกัจจายน์ทำน้ำมนต์




http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=159362&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343

6.พระนาคปรกใบมะขาม ทำน้ำมนต์


http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=155923&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343

7.พระกริ่งทำน้ำมนต์


http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=159363&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343


8.ตะกรุดทำน้ำมนต์ 3 ขนาด



http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=159366&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343


9.ตะกรุดหนังเสือโคร่ง หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง ปี 2552



http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=163973&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343


10. เหรียญอุดมมหาโภคทรัพย์ หลวงปู่ศรี มหาวีโร 6 เนื้อ



http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=168848&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343

11.เหรียญโต๊ะหมู่ หลวงปู่ศรี มหาวีโร หลังยันต์รุ่นแรก พิมพ์จับเข่า ปี 2552




http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=159367&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343

12. เหรียญโต๊ะหมู่ หลวงปู่ศรี มหาวีโร หลังยันต์รุ่นแรก พิมพ์สมาธิ ปี 2552




http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=159374&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343


13.พระผงโต๊ะหมู่ หลวงปู่ศรี มหาวีโร พิมพ์สมาธิ + พิมพ์จับเข่า




http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=168853&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343


14.เหรียญทำน้ำมนต์ หลวงปู่ศรี มหาวีโร รูปเหมือน พิมพ์รูปไข่ใหญ่




http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=168849&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343

15. พระผงทำน้ำมนต์พิมพ์ไข่ใหญ่ รูปเหมือน หลวงปู่ศรี มหาวีโร



http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=386647&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343

16.เหรียญทำน้ำมนต์ หลวงปู่ศรี มหาวีโร กรรมการ พิมพ์เล็ก



http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=168850&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343

17.เหรียญทำน้ำมนต์ หลวงปู่ศรี นะมหาเศรษฐี พิมพ์รูปไข่เล็ก





http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=168851&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343

18.พระผงทำน้ำมนต์รุ่นแรก หลวงปู่ศรี มหาวีโร พิมพ์ นะมหาเศรษฐี ปี 2552 เนื้อแดง





http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=311500&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343

19.มีดเทพศาสตราเหล็กน้ำพี้ หลวงปู่ศรี มหาวีโร รุ่นแรก





มีดหมอเทพศาสตราปี 2552 -ขนาดปากกาแจกผู้ที่ทำบุญ 2,500 บาทครับ- 5 นิ้ว 9,000- และขนาด 9 นิ้ว 50,000 บาท

http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=168862&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343

20. พระขรรค์เล็ก พระขรรค์ใหญ่ หลวงปู่ศรี มหาวีโร ปี2552









http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=391963&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343

21. แหวนปลอกมีด หลวงปู่ศรี มหาวีโร รุ่นแรก ปี 2551.




http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=311905&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343

22. ลูกแก้วจักรพรรดิ์ หลวงปู่ศรี มหาวีโร ปี 2551


23. พระปิดตายันต์ยุ่ง หลวงปู่ศรี มหาวีโร รุ่นแรก ปี 2551



http://www.taradpra.com/itemDetail.aspx?itemNo=149671&storeNameEng=rotekorat@&storeNo=1343
6  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / รู้ไว้สู้ภัยพิบัติ;ร่วมอธิษฐานจิตสลายภัยพิบัติด้วยเทคนิคเต๋า เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2012, 07:08:18 pm
23 กค 2555
ช่วยกันอธิษฐานร่วมใจสลายภัยพิบัติให้ประเทศกันนะครับ

เนื่องจากยังมีข่าวไม่ดีอย่างต่อเนื่องเกิดขึ้นมาเกี่ยวกับภัยพิบัติ


อย่างเช่นข่าวแผ่นดินไหวตามที่ต่างๆดังนั้น ขอทุกท่านช่วยกันท่องสื่อและอธิษฐานร่วมกันนะครับ


อย่าเพิ่งเบื่อกับการขอร้องแบบนี้นะครับเรามาช่วยกันป้องกันภัยโดยการอธิษฐานจิตร่วมกันก่อนเกิดเหตุดีกว่าครับ

ดีกว่าที่เกิดเหตุแล้วบอกกับตนเองว่า....ถ้ารู้อย่างนี้ก็จะทำ.....ไปแล้ว

จิตของทุกคนมีพลังถ้าทุกคนร่วมใจกันสิ่งดีๆต้องเกิดขึ้นแน่นอนครับถ้าเรารู้ ว่าเราช่วยประเทศได้บ้างด้วยการร่วมกันอธิษฐานจิตแต่ไม่ได้ทำแล้วเกิดภัย พิบัติรุนแรงขึ้นเราจะยิ่งเสียใจและเสียดายเวลาที่ผ่านไปนะครับ^^

รวมพลังอธิษฐานจิตสลายภัยพิบัติ

รวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อความอยู่รอดของมวลมนุษยชาติและสรรพชีวิตใน ไตรภพ ภาระหน้าที่นี้ มิใช่เป็นหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง เพราะคนๆ เดียวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้กลับคืนได้ แต่คนนับแสนนับล้านต่างหากจึงจะมีพลังมากพอที่จะช่วยกันได้


สำหรับท่านที่เป็นห่วงสถานการณ์ภัยพิบัติตอนนี้ ท่านสามารถร่วมช่วยประเทศและโลกของเราได้นะครับ โดย ดึงพลังงานเต๋าแม่เหล็กไฟฟ้าจากจักรวาลที่ยิ่งใหญ่มา ช่วยสลายภัยพิบัติได้

วิธีนี้อาจารย์"เมี่ยวกว่อ"แห่งประเทศจีนได้คิดค้นเอามาจากคัมภีร์ "เต๋าเต้อจิง"81บท ของท่านเหลาจื่อ(เล่าจื๊อ)ปรมาจารย์แห่งวิถีเต๋า

วิธีดึงพลังงานเต๋าแม่เหล็กไฟฟ้าจากจักรวาลมา ช่วยสลายภัยพิบัตินี้ไม่มีอันตรายกับท่านอย่างแน่นอนครับเพราะ อาจารย์"เมี่ยวกว่อ"ได้ยืนยันด้วยตัวของท่านเองว่าผู้ที่ทำด้วยใจรักเมตตา บริสุทธิ์ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน จะไม่มีผลกระทบอะไรแน่นอน

และอีกประการนึงผมได้เรียนรู้มาว่าวิถีเต๋านี้เป็นวิถีที่สวนกระแสธรรมชาติ อยู่แล้วดังเช่นในเรื่องเล่าแต่โบราณว่ามีนักพรตเต๋าอยู่ได้เป็นร้อยๆพันๆปี ได้ เขาทำได้อย่างไรเพราะว่าวิถีเต๋านี้เป็นวิถีที่สวนกระแสธรรมชาตินั่นเองครับ

อีกทั้งวิธีนี้เป็นวิธีดึงพลังงานเต๋าแม่เหล็กจักรวาลมาใช้และสะเทินออกไป ดังนั้นจึงไม่กระทบตัวเราแต่อาจจะรู้สึกเหนื่อยบ้างนะครับ(แต่ไม่ อันตราย)เพราะต้องใช้พลังจิตของท่านอยู่บ้าง ท่านที่มีปัญหาสุขภาพขอให้ทำแค่ตามกำลังเราที่ไหวนะครับ


และท่านอาจารย์"เมี่ยวกว่อ"ก็ได้ยืนยันด้วยตัวท่านเองด้วยว่าท่านยินดี แบกรับโรคภัยของทุกท่านไว้ด้วยชีวิตของท่านเองสำหรับผู้ที่ทำด้วยใจรักเมตตา บริสุทธิ์ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ดังนั้นท่านที่อยากท่องรหัสเต๋า10คำดึงพลังงานเต๋าแม่เหล็กจักรวาลสลายภัย พิบัติก็ไม่ต้องกลัวไปนะครับ ถ้าท่านทำถูกตาม คำแนะนำด้านบนจะไม่มีผลกระทบที่ไม่ดีเกิดกับท่านแน่นอนครับ


สำหรับท่านที่อยากช่วยดึงพลังงานเต๋าแม่เหล็กไฟฟ้าจากจักรวาลที่ยิ่งใหญ่มา ช่วยสลายภัยพิบัติแต่ยังไม่รู้วิธีมีขั้นตอนคร่าวๆดังนี้นะครับ

1.ท่องรหัส10คำว่า “ ฉิ่งจ้าวเหล่าซือเก๋ยหว่อเต้าเต๋อซิ่นซี ”


2.ท่องคำอธิษฐานโดยออกเสียงว่าด้วยบารมีของท่านเหลาจื่อและพลังเต๋าที่ยิ่งใหญ่ในจักรวาล
ขอให้ไม่เกิดแผ่นดินไหวทางภาคใต้และในทุกๆภาคทุกๆพื้นที่ของประเทศไทย ซึนามิแถบบริเวณประเทศไทยจงสงบ พื้นดินภาคใต้เกาะภูเก็ตจงมั่นคง เกาะภูเก็ตจงสงบและปลอดภัย ประเทศไทยและนานาประเทศจงปลอดภัยจากภัยพิบัติ


3.ท่องรหัส10คำ “ ฉิ่งจ้าวเหล่าซือเก๋ยหว่อเต้าเต๋อซิ่นซี ” กับคำอธิษฐานสลับกันไปมา8นาที(จับเวลาไว้ด้วยนะครับ);
{ตัวอย่างนะครับ
“ ฉิ่งจ้าวเหล่าซือเก๋ยหว่อเต้าเต๋อซิ่นซี ”
ด้วยบารมีของท่านเหลาจื่อและพลังเต๋าที่ยิ่งใหญ่ในจักรวาล
ขอให้ไม่เกิดแผ่นดินไหวทางภาคใต้และในทุกๆภาคทุกๆพื้นที่ของประเทศไทย ซึนามิแถบบริเวณประเทศไทยจงสงบ พื้นดินภาคใต้เกาะภูเก็ตจงมั่นคง เกาะภูเก็ตจงสงบและปลอดภัย ประเทศไทยและนานาประเทศจงปลอดภัยจากภัยพิบัติ

ฉิ่งจ้าวเหล่าซือเก๋ยหว่อเต้าเต๋อซิ่นซี ”
ด้วยบารมีของท่านเหลาจื่อและพลังเต๋าที่ยิ่งใหญ่ในจักรวาล
ขอให้ไม่เกิดแผ่นดินไหวทางภาคใต้และในทุกๆภาคทุกๆพื้นที่ของประเทศไทย ซึนามิแถบบริเวณประเทศไทยจงสงบ พื้นดินภาคใต้เกาะภูเก็ตจงมั่นคง เกาะภูเก็ตจงสงบและปลอดภัย ประเทศไทยและนานาประเทศจงปลอดภัยจากภัยพิบัติ

ฉิ่งจ้าวเหล่าซือเก๋ยหว่อเต้าเต๋อซิ่นซี ”
ด้วยบารมีของท่านเหลาจื่อและพลังเต๋าที่ยิ่งใหญ่ในจักรวาล
ขอให้ไม่เกิดแผ่นดินไหวทางภาคใต้และในทุกๆภาคทุกๆพื้นที่ของประเทศไทย ซึนามิแถบบริเวณประเทศไทยจงสงบ พื้นดินภาคใต้เกาะภูเก็ตจงมั่นคง เกาะภูเก็ตจงสงบและปลอดภัย ประเทศไทยและนานาประเทศจงปลอดภัยจากภัยพิบัติ..................

ท่องรหัส10คำสลับกับท่องคำอธิษฐานโดยออกเสียงด้วยเช่นตัวอย่างด้านบนจนครบ8นาที}

4. จบท้ายด้วยออกเสียงคำว่า"ดี" ดังๆเพื่อย้ำกับจิตตนเองให้ทุกอย่างดีครับ


ใครมีข้อสงสัยเพิ่มเติมถามได้ในกระทู้นี้นะครับจะพยายามตอบเท่าที่ทำได้ครับ ที่post เพราะเห็นว่า พลังงานนี้มีจริงและกลุ่มเต๋านี้ก็พยายามอธิษฐานช่วยสลายภัยที่ภูเก็ตอยู่ ครับ
==================================

link บอกวิธี การใช้รหัส10คำ “ ฉิ่งจ้าวเหล่าซือเก๋ยหว่อเต้าเต๋อซิ่นซี ”
ในการดึงพลังงานเต๋าธรรมชาติมาช่วยเราและช่วยโลกอยู่ด้้านล่างครับ


ขั้น ตอนซอฟต์แวร์ของการพัฒนาศักยภาพบำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยตนเองและดึง พลังงานเต๋าธรรมชาติมาช่วยเราและช่วยโลก





=======================================
รวมlinkของเต้าเต๋อซิ่นซีกับคำแนะนำของผู้ฝึกใหม่ในการ: รวมพลังสลายภัยพิบัติ

รวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อความอยู่รอดของมวลมนุษยชาติและสรรพชีวิตใน ไตรภพ ภาระหน้าที่นี้ มิใช่เป็นหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง เพราะคนๆ เดียวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้กลับคืนได้ แต่คนนับแสนนับล้านต่างหากจึงจะมีพลังมากพอที่จะช่วยกันได้

รวมพลังอธิษฐานจิตสลายภัยพิบัติ

ข้อมูลจากชาวเต้าซิ่น
หนังสือเล่มเล็ก: รวมพลังสลายภัยพิบัติ ฉบับที่ 1 เดือนสิงหาคม 2554
http://www.daodexinxi.org/risk/booklet_august_pdf.pdf

หนังสือเล่มเล็ก: รวมพลังสลายภัยพิบัติ ฉบับที่ 2 เดือนพฤศจิกายน 2554
http://www.daodexinxi.org/risk/booklet_no.2.pdf
หนังสือเล่มเล็ก: รวมพลังสลายภัยพิบัติ ฉบับที่ 3 เดือนเมษายน 2555
http://www.daodexinxi.org/risk/booklet_no.3.pdf

รายละเอียดเพิ่มเติม DaoDeXinXi.org
7  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เชิญชวนร่วม รวมพลังนั่งสมาธิสลายภัยพิบัติ22 กรกฎาคม 2555 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2012, 07:37:15 pm

เชิญร่วมรวมพลังนั่งสมาธิสล​ายภัยพิบัติโลก22 กรกฎาคม 2555
 7.00-12.00ที่อาคารทิปโก้ ชั้น 5 ถนนพระราม6 ห้องauditorium สอบถามได้ที่เบอร์087- 8110345
 www.daodexinxi.org/
 
ประธานในงานคือคุณอนุรัตน์ เทียมทัน ประธานกลุ่มบริษัททิปโก้
 
รวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเ​พื่อความอยู่รอดของมวลมนุษย​ชาติและสรรพชีวิตในไตรภพ ภาระหน้าที่นี้ มิใช่เป็นหน้าที่ของใครคนใด​คนหนึ่ง เพราะคนๆ เดียวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงท​ุกอย่างให้กลับคืนได้ แต่คนนับแสนนับล้านต่างหากจ​ึงจะมีพลังมากพอที่จะช่วยกั​นได้


==========================​=============
 รวมlinkของเต้าเต๋อซิ่นซีกั​บคำแนะนำของผู้ฝึกใหม่ในการ​: รวมพลังสลายภัยพิบัติ
 
รวมพลังอธิษฐานจิตสลายภัยพิ​บัติ
 
http://www.daodexinxi.org/​news_pray.php
 
ข้อมูลจากชาวเต้าซิ่น
 หนังสือเล่มเล็ก: รวมพลังสลายภัยพิบัติ ฉบับที่ 1 เดือนสิงหาคม 2554
 http://www.daodexinxi.org/​risk/booklet_august_pdf.pdf
 
หนังสือเล่มเล็ก: รวมพลังสลายภัยพิบัติ ฉบับที่ 2 เดือนพฤศจิกายน 2554
 http://www.daodexinxi.org/​risk/booklet_no.2.pdf
หนังสือเล่มเล็ก: รวมพลังสลายภัยพิบัติ ฉบับที่ 3 เดือนเมษายน 2555
 http://www.daodexinxi.org/​risk/booklet_no.3.pdf
 
รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.daodexinxi.org/
 
8  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เชิญออกบูธร้านอาหารเป็นทานเนื่องในวันวิสาขบูชาที่วัดพลับคณะ5ในปีพุทธชยันตี เมื่อ: พฤษภาคม 30, 2012, 12:55:24 pm




เนื่องจากในช่วงวันวิสาขบูชาที่ 2-4มิถุนายน 2555 นี้ทางคณะ 5วัดราชสิทธารามจะมีการจัดไหว้ครูประจำปี  มีการปฎิบัติธรรมในแนวทางพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ
(วันวิสาขบูชามีแจกเหรียญพระพุทธมัชฌิมามุนีที่เสกแบบพิเศษอีกด้วยนะครับ)

อีกทั้งปี 2555นี้ เป็นปีฉลองพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าอีกด้วย

ดังนั้นทางคณะ 5วัดราชสิทธาราม  จึงอยากขอเชิญชวนท่านผู้มีจิตศรัทธารวมทั้งพ่อครัวแม่ครัวทั้งหลายมาร่วมกันออกบูธ ร้านอาหาร เป็นทานเนื่องในวันวิสาขบูชา  (เฉลิมฉลองพุทธชยันตี2600ปีอีกด้วยครับ)




   
    ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : พระครูสิทธิสังวร (หลวงพ่อวีระ) โทร. 084-651-7023
    พระครูสิทธิสังวร;วีระ ฐานวีโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง weera2548@yahoo.co.th
    คณะ 5วัดราชสิทธาราม ซ.อิสรภาพ23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ




 'K 'K 'K 'K 'K 'K 'K

    งานนี้เป็นงานสำคัญมากๆเลยนะครับ อยากให้ท่านที่มีกำลังมาร่วมกันออกร้านในการจัดไหว้ครูประจำปี ในแนวทางพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ เพื่อสืบทอดกรรมฐานหลักนี้ต่อไป
    หลายๆท่านอาจถามว่าพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ สำคัญอย่างไร ผมก็สามารถบอกแบบรวบยอดได้ว่า


   1. พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับสำคัญมากขนาดที่ว่า ล้นเกล้ารัชกาลที่1 เพียรไปกราบนมัสการนิมนต์ พระสังฆราชสุกไก่เถื่อนหลายครั้งหลายคราด้วยกันเพื่อกราบนิมนต์ หลวงปู่สุกไก่เถื่อน มาช่วยฟื้นฟูพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ให้อยู่คู่ประเทศไทยและอยู่คู่กรุงรัตนโกสินทร์ต่อไป  เพราะว่าพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับเป็นกรรมฐานหลักที่มีการฝึกฝนมาช้านานในไทยตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา เป็นเมืองหลวงแล้ว

   อีกทั้ง พระมหากษัตริย์ในแทบจะทุกยุคของไทยแลแถบสุวรรณภูมิตั้งแต่สมัย ทวารวดี  สุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี จนถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้นได้ทรงให้ความใส่ใจและทรงศึกษาเพื่อรักษา พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับให้คงอยู่ตลอดมา รัชกาลที่1-2-3-4นั้นก็ยังทรงศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับนี้กับสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)

..........เช่นนี้ ...ท่านว่าพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับสำคัญไหมครับ


รัชกาลที่ 1

สมเด็จพระสังฆราช(สุก ไก่เถื่อน)

รัชกาลที่ 2

    2. ล้นเกล้ารัชกาลที่สอง ทรงสังคายนาพระกัมมัฏฐานแบบลำดับ(กรรมฐานมัชฌิมา) ในขณะนั้น พระกรรมฐานและเนื้อหาการเรียนรู้ในบวรพระุพุทธศาสนายังไม่้เรียบร้อยและไม่เป็นหมวดหมู่ดีนักล้นเกล้ารัชกาลที่สองทรงเล็งเห็นว่าจะเป็นภัยแก่พระศาสนาที่คนรุ่นต่อไปจะหา ของจริงที่ถูกต้องไว้เล่าเรียนไม่ได้จึงทรงมีพระบรมราชโองการ ให้ทำ สังคายนาพระกัมมัฏฐานแบบลำดับ ไว้เป็นหมวดหมู่ โดยมีสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)ทรงเป็นองค์ประธาน ในการชุมนุมพระสงฆ์สังคายนาพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับเมื่อพุทธศักราช ๒๓๖๔

    อนึ่งมูลเหตุของการทำสังคายนาพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับนั้นเกิดจากการพูดคุยสนทนากัน ในหมู่พระสงฆ์จากหัวเมืองและชานกรุงว่า  ...... การปฎิบัติกรรมฐานอย่างนี้ถูกการปฎิบัติกรรมฐานอย่างนี้ผิด เสียงวิจารณ์เล่าลือขยายไปทั่วกรุงรัตนโกสินทร์ .......

    ความนั้นทราบไปถึงเจ้านายชั้นผู้ใหญ่และข้าราชการผู้ใหญ่ในราชสำนักผู้มีหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการคณะสงฆ์  เจ้านายชั้นผู้ใหญ่และข้าราชการผู้ใหญ่สองท่านนั้น จึงนำความทั้งหลายเหล่านี้ขึ้นกราบบังคมทูลให้พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงทราบฝ่าพระบาท

    ต่อมาจึงมีการประสานงานระหว่างทางราชการและคณะสงฆ์ให้ชุมนุมสงฆ์  ทำการประชุมสังคายนาพระกรรมฐานขึ้น3วัน ....พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชทานถวาย ภัตตาหาร น้ำปานะ แด่พระสงฆ์ ๓ เพลาทุกวัน

    ซึ่งพระกัมมัฎฐานแบบลำดับนั้นต่อมาก็ได้เผยแพร่สืบต่อกันเรื่อยๆมาอย่างไม่ขาดสายสมกับ พระราชประสงค์ จนถึง พระสังวรานุวงศ์เถระ(ชุ่ม) วัดราชสิทธาราม ปรากฏว่า พระกัมมัฎฐานแบบลำดับนั้นรุ่งเรืองมาก มีภิกษุ สามเณร ร่ำเรียนมากมาย

    เมื่อท่านรู้ความเป็นมาเช่นนี้แล้ว ...ท่านว่าพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับสำคัญไหมครับ?

    3. อย่างที่บอกไปข้างต้นแล้วนะครับว่าพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯนั้นเป็นการปฏิบัติจิต ปฏิบัติธรรมทางพุทธศาสนาที่ชาวสุวรรณภูมิยึดถือปฏิบัติมาตลอด นับแต่ครั้งกรุง สุโขทัย บรรดาพระอริยะเจ้าและพระเถระในอดีตต่างเคยฝึกฝนอบรมภูมิจิตภูมิธรรมในแนวพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯแบบนี้มาแล้วทั้งสิ้น

    ไม่ว่าจะเป็นพระมหาเถระคันฉ่อง (สมเด็จพระพนรัตนวัดป่าแก้ว ในแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราช) สมเด็จสวามีรามคุณูปมาจารย์(ปู)ที่รู้จักกันในนามสมเด็จเจ้าพะโคะ(หลวงปู่ ทวดแห่งสทิงพระ) สมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)ก็ล้วนแล้วแต่ปฎิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯ

    แม้พระอมตเถระที่เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ เลื่องลือด้านอิทธิฤทธิ์ที่แสดงปาฏิหาริย์เป็นที่ศรัทธาแก่มหาชนชาวพุทธ อย่างเจ้าประคุณ
       - สมเด็จพุฒาจารย์(โต) แห่งวัดระฆังโฆษิตาราม
       - พระครูวิมลคุณากร(หลวงปู่ศุข)วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท 
       - หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน จ.พิจิตร
       - หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก กทม


สมเด็จพุฒาจารย์(โต) แห่งวัดระฆังโฆษิตาราม

พระครูวิมลคุณากร(หลวงปู่ศุข)วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
     
หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน จ.พิจิตร

หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก กทม.

     ซึ่งที่กล่าวนามท่านมาก็เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่พุทธศาสนิกชนชาวไทยเราว่าท่านเหล่านั้นทรงภูมิจิตภูมิธรรมสูงส่งเพียงใด]ก็ล้วนแล้วแต่ปฎิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯทั้งสิ้นท่านทราบหรือไม่ครับ

     เมื่อท่านรู้ความเป็นมาเช่นนี้แล้ว เช่นนี้แล้ว ...ท่านว่าพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับสำคัญไหมครับ?






“งานฉลองพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า”

นับเป็นเวลากว่า ๒๖๐๐ ปี ที่เจ้าชายสิทธัตถะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศาสดาแห่งศาสนาพุทธ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งคำสอนของพระพุทธศาสนา การฉลองพุทธชยันตีฯ ถูกกำหนดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงเหตุการณ์ที่สำคัญขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ วันแห่งการตรัสรู้ ซึ่งต่อมาพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาสากล นั่นคือ วันวิสาขบูชา

และในฐานะที่ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลาง  พุทธศาสนาโลก รัฐบาลไทยจึงได้ประกาศให้ ปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองพุทธชยันตีฯ อย่างยิ่งใหญ่ตลอดทั้งปี โดยเริ่มต้นกิจกรรมเฉลิมฉลองนับจากวันมาฆบูชาต่อเนื่องจนถึงวาระครบรอบ ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ครบ ๒๖๐๐ ปี

โดยการเฉลิมฉลองให้เน้นเรื่องการปฏิบัติบูชา ด้านวิชาการ ด้านศิลปวัฒนธรรม และการมีส่วนร่วมของประชาชน ตั้งแต่ระดับครอบครัวไปจนถึงระดับชาติ ให้ประชาชนได้ปฏิบัติตนตามวิถีชาวพุทธอย่างแท้จริง อันจะทำให้เกิดความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างยั่งยืน

ชัยชนะและอิสรภาพ คือความหมายแห่ง พุทธชยันตี โดยรากศัพท์ คำว่า พุทธชยันตี มาจากคำ ๒ คำ คือ พุทธ แปลว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กับคำว่า ชยันตี มาจากคำว่า ชย แปลว่า ชัยชนะ ซึ่งเมื่อนำคำทั้ง ๒ คำ มารวมกัน ก็ได้รูปคำใหม่ว่า พุทธชยันตี อันหมายถึง ชัยชนะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่มีต่อหมู่มารและกิเลสทั้งปวงอย่างสิ้นเชิง

เพราะพระองค์ทรงตรัสรู้ในวันวิสาขบูชา เมื่อ ๒๖๐๐ ปี ล่วงมาแล้ว ทำให้พระนามว่า สัมมาสัมพุทธ ปรากฏขึ้นในโลก เป็นจุดเริ่มต้นแห่งคำสอนของพระพุทธศาสนา อันเกิดจากปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ทำให้พุทธศาสนิกชนได้มีพระธรรมเป็นหลักแห่งการดำเนินชีวิต




    ขออนุญาต คุณ mature_na แก้ไขให้อ่านง่ายขึ้นนะครับ
     :25:
9  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ร่วมบุญสร้างห้องน้ำสำหรับผู้มานั่งกรรมฐานที่คณะ5;วัดราชสิทธาราม เมื่อ: เมษายน 24, 2012, 01:32:59 pm
ร่วมบุญสร้างห้องน้ำสำหรับผู้มานั่งกรรมฐานที่คณะ5;วัดราชสิทธาราม


ในขณะนี้มีผู้สนใจมาขึ้นกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับที่คณะ5;วัดราชสิทธารามมากมาย :พระครูสิทธิสังวร (หลวงพ่อวีระ) จึงได้มีดำริที่จะสร้างห้องน้ำอย่างดี 3ห้อง
เื่พื่อรองรับญาติธรรมที่จะมาขึ้นกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ   เพราะห้องน้ำเดิมนั้นสภาพเริ่มชำรุดและมีจำนวนและสถานะไม่พอที่จะรองรับผู้มาร่วมปฎิบัติธรรม



ดังนั้นจึงขอเชิญชวนญาติธรรมผู้สนใจะสร้างห้องน้ำอย่างดี 3ห้องเื่พื่อรองรับญาติธรรมที่จะมาขึ้นกรรมฐานถวายวัดร่วมกันได้ครับโดย

โอนเงินไปที่ ธนาคาร กสิกรไทย สาขาโพธ์สามต้น บัญชีเลขที่ 067-2-83847-9 บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี พระวีระ สุขมีทรัพย์(ร่วมสร้างห้องน้ำ3ห้อง)

ท่านที่ต้องการร่วมบุญสร้างห้องน้ำอย่างดี 3ห้องกรุณา โอนเงินโดยปิดการลงท้ายจำนวนด้วยเลข .59 สตางค์ในทุกครั้งที่โอนด้วยนะครับ
ตัวอย่างเช่น  ท่านต้องการโอน100 บาทก็โอนด้วยจำนวน 100.59 เป็นต้นครับ
(สาเหตุที่ต้องกำหนดเช่นนี้เพราะเพื่อที่หลวงพ่อจะได้ทราบในเจตนาการโอนครั้งนี้ว่าเป็นไปเพื่อการร่วมบุญสร้างห้องน้ำอย่างดี 3ห้องครับผม)



อานิสงส์พิเศษของการสร้างห้องน้ำถวายวัด

คือจะทำให้เป็นผู้มีโรคน้อย


ลักษณะนี้ลักษณะเดียวกับพระพากุละเถระ พระพากุละเถระประวัติท่านพิสดารมาก ท่านบวชเป็นพระแล้วเป็นเอตทัคคะ คือ เป็นผู้ที่มีความสามารถยอดเยี่ยมในด้านเป็นผู้ที่มีโรคน้อย ปกติแล้วพระต้องฉันเภสัชรักษาโรคอยู่เสมอ พระพากุละเถระนี่ในชีวิตแม้แต่สมอชิ้นเดียวก็ไม่เคยฉัน

credit :เว็บวัดท่าขนุน;อาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ตอบปัญหาธรรม
และ
การสร้างส้วมเป็นเหตุให้บรรเทาทุกข์ ทำให้เขามีความสุข ถ้าเราทำให้เขามีความสุข เราก็มีความสุข credit :หลวงพ่อฤาษี



ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:พระครูสิทธิสังวร (หลวงพ่อวีระ) โทร. 084-651-7023
;[พระครูสิทธิสังวร;วีระ ฐานวีโร ;ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง]
weera2548@yahoo.co.th

===========


อานิสงส์สร้างห้องน้ำวัดโดยหลวงพ่อฤาษี

หลวงพ่อ    แต่ว่าที่ส้วมนี่อย่าลืมว่าเป็นที่ถ่ายทุกข์ ทุกข์แบบนี้ไม่บรรเทาแก่ใครเลยนะ เคยสังเกตหรือเปล่า.. พอรถจอดปั๊บแทนที่เขาจะถาม เขาไม่ค่อยถาม เขาถามว่า “ส้วมอยู่ที่ไหน” ใช่ไหม..
ผู้ถาม    อย่างนี้สร้างส้วมเลยดีกว่า จะได้มีเสน่ห์มาก ๆ
หลวงพ่อ    

ดีมาก เพราะการสร้างส้วมเป็นเหตุให้บรรเทาทุกข์ ทำให้เขามีความสุข ถ้าเราทำให้เขามีความสุข เราก็มีความสุข ถ้าเราทำให้เขาเดือดร้อน เราก็เดือดร้อน
“ปูชา ละภะเต ปูชัง วันทนัง ปฏิวันทนัง”
“ผู้บูชาย่อมได้รับการบูชาตอบ ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ”

ถ้าเราอยากถูกด่าก็ไม่ยาก เจอะหน้าใครด่า เดี๋ยวก็ได้ด่าตอบ ใช่ไหม ..ฉะนั้นถ้าเรา สร้างส้วมให้เขามีความสุข ตายแล้วเกิดไปเป็นเทวดาหรือพรหมก็ได้รับความสุข คือไม่ต้องปวดอุจจาระปัสสาวะ เพราะได้รับผลของความสุขไงล่ะ
ผู้ถาม    มีคนพูดว่าถ้าเราได้ทำความสะอาดห้องน้ำห้องส้วมที่วัดจะทำให้การฝึกมโนมยิทธิก็ดี ฝึกแบบเต็มกำลังก็ดี ได้ผลแบบเต็มที่ อันนี้อยากจะเรียนถามหลวงพ่อว่า จะเป็นไปได้ไหมเจ้าคะ.?
หลวงพ่อ    เป็นได้ซิ ถ้าเป็นก็ไปได้ จะทำไม นั่นบุญใหญ่ ส้วมนี่ทุกข์อะไรมันหนักเท่า ทุกข์เข้าส้วม นี่จริง ๆ นะเป็นบุญใหญ่มาก และประการที่ ๒ ล้างส้วมล้างห้องน้ำ ในจิตใจก็ล้างไปด้วย คิดไปด้วยว่า ไอ้สิ่งสกปรกนั้นมันมาจากร่างกายคน ร่างกาย คนมันสกปรกแบบนี้ใช่ไหม.. ร่างกายเลว ๆ แบบนี้ไม่ต้องการมันอีก ถ้าใช้อารมณ์ อย่างนี้เรื่อย ๆ นะ แม้แต่ครั้งเดียวล้าง ๑๐ ห้อง ถ้าคิดห้องเดียวก็ได้แล้ว”
เรื่องของห้องส้วม ท่านได้สร้างไว้แล้วก็ดี หรือท่านที่ได้ทำความสะอาดแล้วก็ดี คงจะปลื้มใจในผลบุญที่ทำไปแล้ว
=====================

credit :เว็บวัดท่าขนุน;อาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ตอบปัญหาธรรม

ถาม : ตั้งใจไว้ว่าที่ไหนบูรณะห้องน้ำจะทำบุญ
ตอบ : ลักษณะนี้ลักษณะเดียวกับพระพากุละเถระ พระพากุละเถระประวัติท่านพิสดารมาก ท่านบวชเป็นพระแล้วเป็นเอตทัคคะ คือ เป็นผู้ที่มีความสามารถยอดเยี่ยมในด้านเป็นผู้ที่มีโรคน้อย ปกติแล้วพระต้องฉันเภสัชรักษาโรคอยู่เสมอ พระพากุละเถระนี่ในชีวิตแม้แต่สมอชิ้นเดียวก็ไม่เคยฉัน

ตอนที่ท่านเกิด พอเกิดมาปุ๊บตัดสายสะดือเสร็จ พี่เลี้ยงอุ้มลงไปล้างตัวที่ท่าน้ำ ปลาใหญ่มันฮุบตูมเดียวเอาไปเลย ปรากฏว่าปลาใหญ่ตัวนั้นว่ายข้ามเมืองไปอีกเมืองหนึ่งไปติดข่ายเขา พ่อค้าเขาก็เอามาขายในตลาด คนใช้เศรษฐีของเมืองนั้นเจอเข้า เลยซื้อปลาไปมันอ้วนดี พอเอาไปทำอาหาร ผ่าท้องปลาออกมา เด็กชายพากุละยังดิ้นกระแด่ว ๆ อยู่เลย ไม่เป็นอะไร บุญรักษาอยู่ได้

พอดีเหลือเกินว่าเศรษฐีนั่น เขาพยายามอย่างไรก็ไม่มีลูก พอเห็นเด็ก โอ๊ย...สวรรค์ประทานให้ ดีอกดีใจทั้งผัวทั้งเมีย อุ้มชูเลี้ยงดูมาแบบประเภทรักยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจ เรื่องมันก็ลือออกไปสิว่า เศรษฐีนี่ได้ลูกจากท้องปลา ทางด้านโน้นได้ยิน ลูกกูนี่หว่า...(หัวเราะ)... ก็ตามไปทวง เขาก็ไม่ให้ ก็เขาได้มาเอง

เรื่องเลยไปถึงพระราชาท่านต้องมาตัดสินให้ว่า ให้อยู่ทางบ้านนี้ ๓ เดือน แล้วไปอยู่บ้านนี้ ๓ เดือน ท่านก็เลยได้ชื่อว่า พากุละ คือจากตระกูลสู่ตระกูล กลับกันไปกลับกันมาผลัดกันเลี้ยงคนละ ๓ เดือน เป็นลูก ๒ ครอบครัว

พอโตขึ้นมาหน่อยก็ได้บวช บวชเสร็จเป็นพระอรหันต์ผู้ที่เลิศในทางเป็นผู้ที่มีอาพาธน้อย คือ ป่วยน้อย พระพุทธเจ้าตรัสว่า บุรพกรรมที่ทำให้ป่วยน้อยเพราะว่า ในอดีตเคยสร้างเว็จกุฎี คือ ส้วมถวายพระ เพราะฉะนั้นพวกเรานี่ ประเภทชอบสร้างส้วมนี่ พวกเดียวกับพระพากุละ ทำให้คนอื่นหมดทุกข์ ตัวเองก็เลยทุกข์น้อยไปด้วย ก็ขนาดสมอสักชิ้นหนึ่ง ฉันเพื่อรักษาโรคยังไม่เคยเลย ความจริงมันน่าจะไม่หิวด้วยนะ


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ วันเสาร์ที่ ๓๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓


=============================================
อานิสงส์สร้างเวจกุฏี (ห้องน้ำ)






ใจความว่า พระศาสดาได้เสด็จประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร
แห่งกรุงสาวัตถี มีมาณพคนหนึ่งเป็นช่างทองทำการขายทองรูปพรรณ
อยู่ในกรุงสาวัตถีนั้น จนมั่งมีโภคทรัพย์สมบัติมาก

อยู่มาวันหนึ่งมาณพนั้นมาคิดว่า เราค้าขายทองก็มีความเจริญ
รุ่งเรืองขึ้นเป็นลำดับ ทรัพย์ที่หามาได้โดยยาก ก็ไม่อยากจะให้สูญหายไป
โดยเร็ว ตริตรองหาวิธีที่จะเก็บทรัพย์ให้ได้อยู่นาน ก็ไม่พบวิธีที่จะป้องกัน
ความเสื่อมเสียของทรัพย์ได้ เพราะว่าทรัพย์เป็นของกลางเป็นเครื่องอาศัย
ของคนทุกคน สุดแล้วแต่ใครจะขยันหมั่นเพียรหามาได้เท่านั้น ถึงแม้
จะหามาได้มากก็ดี ถ้าขาดปัญญาเป็นเครื่องรักษาทรัพย์แล้วทรัพย์นั้น
ก็ไม่คงทนอยู่ได้ แม้จะอยู่ได้ตลอดไปตนเองก็มีชีวิตยืนนานที่จะบริโภค


ต่อไปไม่ได้เพราะความตายย่อมมาพรากตนให้หนีไปเสียจาก
ทรัพย์เมื่อสิ้นชีพแล้วทรัพย์เหล่านั้น ก็ไม่ติดตามตนไปปล่อยไว้ให้คนอื่น
เขาใช้สอยอย่างสบาย เห็นมีอยู่แต่อย่างเดียวเท่านั้น ที่จะติดตามตัวไป

ในอนาคต คือฝังทรัพย์ไว้ในพุทธศาสนาเมื่อคิดเช่นนี้แล้วก็คิดดูว่า
จะทำอะไร สิ่งอื่น ๆ ก็มีผู้ทำไว้หมดแล้ว ก็เห็นแต่เวจกุฎีเท่านั้นที่ยังไม่มี
ใครทำเลย


เมื่อคิดเช่นนี้แล้วจึงได้สร้างขึ้นเมื่อสำเร็จแล้วยังได้สร้างโรงไฟ
แลที่สำหรับอาบน้ำอีกด้วย เมื่อเสร็จสรรพดีแล้ว ก็ทำการฉลองอย่าง
มโหฬารและมอบถวายแก่ ภิกษุสงฆ์ มีพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ
เป็นประธานแล้วตั้งปฏิธานความปรารถนาว่าข้าแต่ท่านผู้เจริญ
เมื่อข้าพเจ้ายังไม่ถึงพระนิพพานตราบใด ขึ้นชื่อว่าความทุกข์อันเกิด
แต่โรคต่าง ๆ อย่าได้มาแผ้วพานต่อข้าพเจ้าเลย


 อิมินาทาเนน
ด้วยอำนาจผลทานนี้พระสารีบุตรก็อนุโมทนาว่า ขอให้ความ
ปรารถนาจงเป็นผลสำเร็จเถิดมาณพนั้นเป็นผู้ไม่ประมาทผลทาน
ให้สมาทานศีลครั้นทำกาลกิริยาตายไปแล้วไปเกิดบนสวรรค์เทวโลก
มีสมบัติวิมานทอง มีเทพอัปสรเป็นยศบริวาร อยู่มาวันหนึ่งภิกษุทั้ง
หลายนั่งสนทนา ถึงมาณพผู้นั้นอยู่พระศาสดาเสด็จมาถึงในที่นั้น
แล้วตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายเธอนั่งสนทนากันด้วยเรื่องอะไร



ภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้ทรงทราบ พระองค์ทรงแสดงธรรมเทศนา
แก่ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้นว่าดูกรภิกษุทั้งหลาย นรชนทั้งหลายเกิดมา
ได้พบพระพุทธเจ้าและในขณะที่พุทธศาสนายังประดิษฐานอยู่
จะเป็นผู้เศร้าโศกในอบายภูมิ เป็นจำนวนมากมาณพที่เป็นช่างทองนี้
ได้พบทั้งสองประการแล้วไม่เป็นผู้ประมาท ได้สร้างเวจกุฎีถวายบูชา
พระรัตนตรัยด้วยศรัทธาเลื่อมใส ได้เสวยสุขในสุคติโกลสวรรค์
และเป็นปัจจัยให้ถึงซึ่งพระนิพพา



น แม้ในพระศาสนาของพระพุทธเจ้า
ทรงพระนามว่าตัณหังกร เราตถาคตก็เคยสร้างเวจกุฎี และที่สำหรับอาบ
แก่พระภิกษุสามเณรได้ตั้งสัตยธิษฐานว่า ขอให้ข้าพระองค์ได้เป็นพระ
พุทธเจ้า พระองค์หนึ่ง ในอนาคตกาล


ด้วยผลแห่งอานิงส์
ที่ข้าพระองค์ได้สร้างเวจกุฎีให้เป็นสาธารณะทานนี้ ตถาคตครั้นทำลาย
ขันธ์แล้วก็ไปบังเกิดสวรรค์เสวยทิพย์สมบัติอยู่ชั้นดุสิตครั้นจุติจาก
ชาตินั้นแล้ว ได้ท่องเที่ยงอยู่สังสารวัฎฎ์จนบารมีเต็มเปี่ยมแล้วจึงตรัส
เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือตถาคตนี้เอง ก็สมดังคำปรารถนาในครา
กาลครั้งโน้นทุกประการ เมื่อจบพระธรรมเทศนาจบลงแล้วชนทั้งหลาย
เป็นอันมากได้ดวงตาเห็นธรรม ต่างก็รื่นเริงบันเทิงใจในเวจกุฎี
เป็นยิ่งนัก





from
http://www.84000.org/anisong/11.html
10  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / ภาพการเข้าปฏิบัติธรรมที่วัดพลับมหาสงกรานต์13-15เมษา 55 เมื่อ: เมษายน 24, 2012, 12:24:11 pm




อุบาสก-อุบาสิกากำลังปฏิบัติธรรมวันมหาสงกรานต์ มีผู้เข้าปฏิบัติธรรม ๖๒ ท่าน
11  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / รูปพระพุทธมัชฌิมามุนีประดิษฐานบุษบกที่คณะ๕วัดพลับเรียบร้อย เมื่อ: เมษายน 24, 2012, 12:23:34 pm
ภาพพระพุทธมัชฌิมามุนี ประดิษฐานบนบุษบก ที่ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม





ถ้าสังเกตดีๆด้านบนจะเป็นหลังคาใหม่ที่เสร็จแล้วนะครับ อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมสร้างกุศลด้วยครับ
12  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / รูปพระภิกษุนั่งเข้าสะกดกรรมฐานในห้องพระปีติ ๕ ประการตามกรรมฐานแบบลำดับ เมื่อ: เมษายน 24, 2012, 12:22:42 pm
รูปพระภิกษุนั่งเข้าสะกดกรรมฐานในห้องพระปีติ ๕ ประการ เป็นอนุโลม-ปฏิโลม ตามแนวกรรมฐาน สมเด็จพระสังฆราช(สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม(พลับ)





credti :พระครูสิทธิสังวร (หลวงพ่อวีระ) โทร. 084-651-7023
;[พระครูสิทธิสังวร;วีระ ฐานวีโร ;ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง]
weera2548@yahoo.co.th
13  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ร่วมบุญเปลี่ยนหลังคาอาคารกรรมฐานคณะ5;วัดพลับเป็นวิหารทานป้องกันภัยให้ตนเอง เมื่อ: มีนาคม 28, 2012, 10:08:58 pm
รูปพระราหุลมหาเถระเจ้าบูรพาจารย์ผู้รวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้าจนเกิดการปฎิบัติกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ




รูปหลวงปู่ พระสังฆราชสุก บูรพาจารย์กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับยุครัตนโกสินทร์





=================
ร่วมบุญเปลี่ยนหลังคาอาคารกรรมฐานเป็นวิหารทานป้องกันภัยให้ตนเอง

สวัสดีครับทุกท่าน

ในขณะนี้พระอาจารย์วีระ หรือพระครูสิทธิสังวร เจ้าคณะ5 วัดราชสิทธาราม(พระอาจารย์ผู้สืบทอดกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับยุคนี้)
มีความประสงค์ที่จะเปลี่ยนหลังคาอาคารกรรมฐานหลักที่คณะ5 ด้วยหลังคาเดิมนั้นค่อนข้างเก่าแล้ว

และด้วยเหตุที่ว่าทางคณะ5 วัดราชสิทธาราม ได้จัดสร้างพระพุทธมัชฌิมามุนีพระประจำกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับและเตรียมที่จะอาราธนาท่านเข้าสู่พระมณฑปให้สมพระเกียรติ  แต่พระมณฑป นั้นความสูงไล่เลี่ยกับหลังคาเดิมที่มีอยู่  ดังนั้นด้วยเหตุปัจจัยที่จำเป็นพระอาจารย์วีระจึงมีดำริที่จะสร้างหลังคาใหม่ครับ

หลังคาใหม่นี้จะออกแบบอย่างดีและทำด้วยวัสดุกันความร้อนเพื่อที่ญาติธรรมที่มาขึ้นกรรมฐาน ปฎิบัติภาวนาจะได้มีความสะดวกสบายมากขึ้นด้วยครับส่วนงบประมาณที่จะใช้ตกอยู่ที่ราวๆ  160,000 บาทโดยประมาณครับ
==========
2รูปแรกเป็นหลังคา ณ. ขณะนี้ครับ ญาติธรรมจะสังเกตได้ว่าค่อนข้างเก่าทีเดียวและมีคานมากกีดขวางการอัญเชิญพระพุทธมัชฌิมามุนีเข้าสู่พระมณฑปครับ


1.


2.



สองรูปหลัง
เป็นหลังคาแบบที่ท่านอยากจะสร้างครับ   ความสูงของหลังคาจะสูงขึ้นมากวัสดุที่ใช้ก็กันความร้อนได้ดีครับเหมาะกับสภาพอากาศและจะสะดวกสบายสำหรับผู้มาปฎิบัติธรรมมากขึ้น



3.

4.


===========================================================



ในการร่วมสร้างหลังคาเป็นวิหารทานในพระพุทธศาสนาครั้งนี้พระอาจารย์วีระ (หลวงพ่อจิ๋ว ) ได้เมตตาเปิดโอกาสให้ท่านสาธุชนที่อยากร่วมบุญ สามารถร่วมบุญได้ถึง ประมาณวันที่ 15 เมษายน 2555 (คือหมดเขตช่วงสงกรานต์)นะครับ



ร่วมบุญสร้างหลังคาเป็นวิหารทานในพระพุทธศาสนาโดยโอนเงินไปที่ ธนาคาร กสิกรไทย สาขาโพธ์สามต้น บัญชีเลขที่ 067-2-83847-9 บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี พระวีระ สุขมีทรัพย์(ร่วมสร้างหลังคาเป็นวิหารทานในพระพุทธศาสนา)

ท่านที่ต้องการร่วมบุญสร้างหลังคากรุณา โอนเงินโดยปิดการลงท้ายจำนวนด้วยเลข .99 สตางค์ในทุกครั้งที่โอนด้วยนะครับ
ตัวอย่างเช่น  ท่านต้องการโอน100 บาทก็โอนด้วยจำนวน 100.99 เป็นต้นครับ
(สาเหตุที่ต้องกำหนดเช่นนี้เพราะเพื่อที่หลวงพ่อจะได้ทราบในเจตนาการโอนครั้งนี้ว่าเป็นไปเพื่อการร่วมร่วมสร้างหลังคาเป็นวิหารทานครับผม)



===============
รูปพระพุทธมัชฌิมามุนีพระประจำกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับที่เตรียมจะอาราธนาท่านเข้าสู่พระมณฑป


===============
ความสำคัญและอานิสงค์ที่จะได้ในการร่วมบุญสร้างหลังคาเป็นวิหารทานครั้งนี้

1. หลังคาเปรียบเสมือนร่มคุ้มแดดค้มฝนท่านที่ได้ร่วมบุญนี้ก็จะได้อานิสงค์เช่นกันคือคุ้มครองท่านจากภัยทั้งหลาย และมีความสงบสุขร่มเย็นในชีวิต

2. หลังคาใหม่นี้จะออกแบบอย่างดีและทำด้วยวัสดุกันความร้อนเพื่อที่ญาติธรรมที่มาขึ้นกรรมฐาน ปฎิบัติภาวนาจะได้มีความสะดวกสบายมากขึ้นด้วย เมื่อผู้ที่มาขึ้นกรรมฐาน มาปฎิบัติธรรมบำเพ็ญเพียรภาวนามีความสะดวกสบายภาวนาได้ดีอานิสงค์ที่ช่วยเหลือผู้ปฎิบัติธรรมนั้นย่อมถึงท่านอย่างแน่นอน

3.ได้บุญบารมีทางธรรมเพิ่ม เพราะอาคารหลังนี้เป็นอาคารหลักที่ใช้เมื่อมีผู้มาขอขึ้นกรรมฐานมัชฌิมาฯและ มาปฎิบัติธรรมครับ

ส่วนอานิสงค์วิหารทาน
           วิหารทานคือการทำบุญถวายหรือร่วมสร้างเสนาสนะต่าง ๆ
           ถวายไว้เป็นสมบัติพระพุทธศาสนา เช่น การสร้างพระอุโบสถ (โบสถ์)
           กุฏิ ศาลา วิหาร บุษบก หอฉัน หอระฆังเป็นต้น
          องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
          ทรงตรัสไว้ว่าการถวายวิหารทานมีอานิสงส์มาก
          โดยมีพุทธดำรัสตรัสเอาไว้ว่า
          "แม้ถวายทานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑๐๐ ครั้ง
           ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าถวายสังฆทานครั้งเดียว"
         "แม้การถวายสังฆทาน ๑๐๐ ครั้ง ยังมีอานิสงส์ไม่เท่าการ
         ถวาย "วิหารทาน" ครั้งเดียว"
         การถวายวิหารทานยังมีอานิสงส์อีกมาก สุดจะพรรณา
       
 เชิญสมทบทุนบริจาคได้ที่ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม ซ.อิสรภาพ ๒๓
        แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ โทร. 084-651-7023
        หรือ โอนเข้าบัญชี ธ.กสิกรไทย สาขาโพธิ์สามต้น
        บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 067-2-83847-9 ในนามพระวีระ สุขมีทรัพย์
        จึงขออนุโมทนาในบุญกุศลในครั้งนี้ เจริญด้วยอายุ วรรณะ
       สุขะ พละ ธนสารสมบัติ จงทุกวันเทอญ
 

==========================================================================
ความสำคัญโดยย่อของพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับสำหรับพระพุทธศาสนาในไทย


[url=http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=2798.msg22550#msg22550]http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=2798.msg22550#msg22550
[/url]

ข่าวสารเกี่ยวกับพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับที่คุณควรรู้



oxfordทึ่งพบแหล่งเก็บคัมภีร์กรรมฐานแบบลำดับครบถ้วนที่สุดท้ายในโลกที่วัดพลับ


http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=2798.msg22489#msg22489

==========================================

   
ขั้นตอนการเริ่มนั่งกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับโดยพื้นฐาน


[url=http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=2798.msg22518#msg22518]http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=2798.msg22518#msg22518
[/url]

14  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ขั้นตอนการนั่งกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับโดยพื้นฐาน เมื่อ: มีนาคม 27, 2012, 10:48:13 pm

ปฐมบท

กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เป็นกรรมฐานเหมาะกับทุกจริต



โดยเริ่มแรกของผู้ปฎิบัติลำดับห้อง ในการภาวนา กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ
ในระดับขั้นต้น พระพุทธานุสสติ มี 3 ห้อง
คือรูปกรรมฐาน ตอน ๑ ได้แก่
๑.ห้องพระปีติห้า
๒.ห้องพระยุคลหก
๓.ห้องพระสุขสมาธิ
พระกรรมฐาน ๓ ห้องนี้เป็นพระกรรมฐาน สำหรับฝึกตั้งสมาธิ เป็นพระกรรมฐานต่อเนื่องของจิต จากจิตหยาบ ไปหาจิตที่ละเอียด ถึงขั้นอุปจารสมาธิเต็มขั้น หรือ เรียกว่ารูปเทียมของปฐมฌาน สอบนิมิต เป็นอารมณ์


     เมื่อจะเรียนพระกรรมฐานนั้น ต้องมอบตัวต่อพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และ อาจารย์ ผู้บอกพระกรรมฐาน โดยให้จัดเตรียม ดอกไม้ ๕ กระทง ข้าวตอก ๕ กระทง เทียน ๕ เล่ม ธูป ๕ ดอก ใส่เรียงกันในถาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า มาขึ้นในวัน พฤหัสบดี ข้างขึ้น หรือ ข้างแรมก็ได้ มาขอขึ้นกรรมฐานที่วัดราชสิทธารามคณะ5 กับพระครูสิทธิสังวร(หลวงพ่อวีระ) ผู้สืบทอดกรรมฐานมัชณิมาในยุคนี้ (โทร. 084-651-7023;weera2548@yahoo.co.th )


ถ้าผู้ใดยังไม่สะดวกมาไหว้ครูกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับหลวงพ่อว่าก็สามารถภาวนาไปก่อนได้แล้วค่อยมาไหว้ครูกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับพร้อมแจ้งอารมณ์กรรมฐานภายหลัง


จากนี้ไปจะเป็นการเริ่มนั่งกรรมฐานตามรูปแบบนะครับ เริ่มโดยกล่าวบททำวัตรพระก่อน


บททำวัตรพระ
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
(ให้ว่า ๓ หน)
พุทธํ ชีวิตํ ยาวนิพฺพานํ สรณํ คจฺฉามิ ฯ
อิติปิโส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสะทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสสานํ พุทโธ ภควาติ ฯ
   เย จ พุทธา อตีตา  จ,   เย จ พุทธา อนาคตา,
   ปจฺจุปฺปนฺนา จ เย พุทธา,   อหํ วนฺทามิ สพฺพทา,
   พุทธานาหสฺมิ ทาโสว,   พุทธา เม สามิกิสฺสรา,
   พุทธานญฺ จ สิเร ปาทา,   มยฺหํ ติฏฐนฺตุ สพฺพทาฯ
   นตฺถิ เม สรณํ อญฺญํ,   พุทโธ เม สรณํ วรํ,
   เอเตน สจฺจ วชฺเชน,   โหตุ เม ชยฺมํ คลํ ฯ
   อุตฺตมํเคน วนฺเทหํ,   ปาทปงฺสุํ วรุตฺตมํ,
   พุทโธ โย ขลิโต โทโส,   พุทโธ ขมตุ ตํ มมํ ฯ
(กราบแล้วหมอบลงว่า)
         ข้าฯจะขอยึดหน่วงเอาซึ่งพระพุทธเจ้า และคุณพระพุทธเจ้า ในอดีต อนาคต ปัจจุบัน จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และข้าฯจะขอนมัสการกราบไหว้พระพุทธเจ้า อันเป็นอดีต อนาคต ปัจจุบัน สิ้นกาลนานทุกเมื่อ และข้าฯจะขอเป็นข้าแห่งพระพุทธเจ้า ขอพระพุทธเจ้าจงมาเป็นเจ้าเป็นใหญ่แก่ข้าฯ ขอพระบาทบาทาของพระพุทธเจ้า จงมาประดิษฐานอยู่เหนือเศียรเกล้าแห่งข้าฯสิ้นกาลนานทุกเมื่อ สิ่งอันอื่นจะได้เป็นที่พึ่งแก่ข้าฯหามิได้ ถ้าเว้นไว้แต่พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯเที่ยงแท้นักหนา ข้าฯไหว้ละอองธุลีพระบาท ทั้งพระลายลักษณ์สุริยะฉาย ชัยมงคลทั้งหลายจงมาบังเกิดมีแก่ข้าฯด้วยคำสัจนี้เถิด อนึ่ง โทษอันใดข้าฯได้ประมาทพลาดพลั้งไว้ในพระพุทธเจ้า อันเป็นอดีต อนาคต ปัจจุบัน ขอพระพุทธเจ้าจงมาอดโทษทั้งปวงนั้นให้แก่ข้าฯพระพุทธเจ้านี้เถิด ฯ (คำแปล พระเทพโมลีกลิ่น)
(กราบ)
   ธมฺมํ ชีวิตํ ยาว นิพฺพานํ สรณํ คจฺฉามิ ฯ
   สวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปนยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญญูหีติฯ
   เย จ ธมฺมา อตีตา จ,   เย จ ธมฺมา อนาคตา,
   ปจฺจุปปนฺนา จ เย ธมฺมา,   อหํ วนฺทามิ สพฺพทาฯ
   ธมฺมา นาหสฺสมิ ทาโสว,   ธมฺมา เม สามิกิสฺสรา,
   สพฺเพ ธมฺมาปิ ติฏฐนฺตุ,   มมํ สิเรว สพฺพทาฯ
   นตฺถิ เม สรณํ อญฺญํ,   ธมฺโม เม สรณํ วรํ,
   เอเตน สจฺจ วชฺเชน,   โหตุ เม ชยฺมํ คลํ ฯ
   อุตฺตมํ เคน วนฺเทหํ   ธมฺมญฺ จ ทุวิธํ วรํ,
   ธมฺเม โย ขลิโต โทโส,   ธมฺโม ขมตุ ตํ มมํฯ
(กราบแล้วหมอบลงว่า)
        ข้าฯจะขอยึดหน่วงเอาซึ่งพระปริยัติธรรมเจ้า และพระนวโลกุตตระธรรมเจ้า และคุณพระธรรมเจ้าในอดีต อนาคต ปัจจุบัน จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และข้าฯจะขอนมัสการกราบไหว้พระธรรมเจ้าทั้งมวล  อันเป็นอดีต อนาคต ปัจจุบันสิ้นกาลทุกเมื่อ แลข้าฯจะขอเป็นข้าฯแห่งพระธรรมเจ้า ขอพระธรรมเจ้าทั้งมวลนั้นจงมาเป็นเจ้าเป็นใหญ่แก่ข้าฯ ข้าฯขออาราธนาพระธรรมเจ้าทั้งมวลนั้น จงมาประดิษฐานอยู่เหนือเศียรเกล้าแห่งข้าฯสิ้นกาลทุกเมื่อ สิ่งอันอื่นจะได้เป็นที่พึ่งแก่ข้าฯหามิได้ ถ้าเว้นไว้แต่พระธรรมเจ้าทั้งมวลนั้นเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯเที่ยงแท้นักหนา ชัยมงคลทั้งหลายจงมาบังเกิดมีแก่ข้าฯด้วยคำสัจนี้เถิด ข้าฯขอกราบไหว้พระธรรมเจ้าทั้งสองประการอันประเสริฐ โทษอันใดข้าฯได้ประมาทพลาดพลั้งไว้ในพระธรรมเจ้าทั้งสองประการ ขอพระธรรมเจ้าทั้งสองประการ จงมาอดโทษทั้งปวงนั้นให้แก่ข้าฯพระพุทธเจ้านี้เถิดฯ
(กราบ)
   สงฺฆํ ชีวิตตํ ยาวนิพฺพานํ สรณํ คจิฉามิ ฯ
   สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ, อุชุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ, ญายปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ, สามีจิปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสํโฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสะยุคฺคานิ อฏฺฐะ ปุริสปุคะลา, เอส ภควโต สาวกสํโฆ, อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทกฺขิเนยโย อญฺชลีกรณีโย อนุตฺตรํ ปุญญกฺเขตตํ โลกสฺสาติ
   เย จ สงฺฆา อตีตา จ   เย จ สงฺฆา อนาคตา
   ปจฺจุปปนฺนา จ เย สงฺฆา   อหํ วนฺทามิ สพฺพทา ฯ
   สงฺฆานาหสฺสมิ ทาโสว   สงฺฆา เม สามิกิสฺสรา
   เตสํ คุณาปิ ติฏฐนฺตุ   มมํ สิเรว สพฺพทา ฯ
   นตฺถิ เม สรณํ อญฺญํ   สงฺโฆ เม สรณํ วรํ
   เอเตน สจฺจวชฺเชน,   โหตุ เม ชยฺมงฺคลํฯ
   อุตฺตมํ เคน วนฺเทหํ,   สงฺฆญฺ จ ทุวิธุตฺตมํ,
   สงฺเฆ โย ขลิโต โทโส   สงฺโฆ ขมตุ ตํ มมํ ฯ
(หมอบกราบ แล้วว่า)
           ข้าฯขอยึดหน่วงเอาซึ่งพระอริยสงฆ์เจ้า และคุณพระอริยสงฆ์เจ้า ในอดีต อนาคต ปัจจุบัน จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และข้าฯจะขอนมัสการกราบไหว้พระอริยสงฆ์เจ้าอันเป็นอดีต อนาคต ปัจจุบัน สิ้นกาลทุกเมื่อ และข้าฯจะขอมอบตัวเป็นข้าฯแห่งพระอริยสงฆ์เจ้า ขอพระอริยสงฆ์เจ้าจงมาเป็นเจ้าเป็นใหญ่แก่ข้าฯ ข้าฯขออาราธนาคุณแห่งพระอริสงฆ์เจ้า จงมาประดิษฐานอยู่เหนือเศียรเกล้าแห่งข้าสิ้นกาลทุกเมื่อ สิ่งอันอื่นจะได้เป็นที่พึ่งแก่ข้าหามิได้ ถ้าเว้นไว้แต่พระอริยสงฆ์เจ้าป็นที่พึ่งแก่ข้าฯเที่ยงแท้นักหนา  ชัยมงคลทั้งหลายจงมาบังเกิดมีแก่ข้าฯด้วยคำสัจนี้เถิด ข้าฯขอกราบไหว้พระอริยสงฆ์เจ้าทั้งสองประการอันประเสริฐ โทษอันใดข้าฯได้ประมาทพลาด       พลั้งไว้ในพระอริยสงฆ์เจ้าทั้งสองประการ ขอพระอริยสงฆ์เจ้าทั้งสองประการ จงมาอดโทษทั้งปวงนั้นให้แก่ข้าฯพระพุทธเจ้านั้นเถิดฯ
(กราบ)


2. จากนั้นให้กล่าวคำขอขมาโทษต่อพระรัตนตรัยซึ่งโทษนั้นๆที่เราเคยทำอาจเป็นอุปสรรคปิดกั้นการเจริญพระกรรมฐาน
(สำหรับทุกท่านที่เพิ่งเริ่มปฎิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับต้องกล่าวทุกครั้งก่อนนั่งกรรมฐาน)

คำกล่าวขอขมาโทษ
         อุกาสะ วนฺทามิ ภนฺเต สพฺพํ อปราธํ ขมถ เม ภนฺ เต มยากตํ ปุญญํ สามินา อนุโมทิตพฺพํ สามินา กตํ ปุญญํ มยฺหํ ทาตพฺพํ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ   (กราบ)
          ข้าขอกราบไหว้ ขอท่านจงอดโทษแก่ข้าฯ บุญที่ข้าฯทำแล้ว ขอท่านพึงอนุโมทนาเถิด บุญที่ท่านทำ ท่านก็พึงให้แก่ข้าฯด้วยฯ (กราบ)
          สพฺพํ อปราธํ ขมถ เม ภนฺเต, อุกาสะ ทวารตฺตเยน กตํ สพฺพํ อปราธํ ขมถ เม ภนฺเต, อุกาสะ ขมามิ ภนฺเต (กราบ)
       ขอท่านจงอดโทษทั้งปวงให้แก่ข้าฯด้วยเถิด ขอท่านจงอดโทษทั้งปวงที่ข้าฯทำด้วยทวาร(กาย วาจา ใจ) ทั้งสามแก่ข้าฯด้วยเถิด ข้าฯก็อดโทษให้แก่ท่านด้วย (กราบ)
       ก่อนที่จะนั่งภาวนาพระกรรมฐานนั้น จะเกิดผลสำเร็จได้ ต้องมีการขอขมาโทษก่อน หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ขมานะกิจ  คือการนำดอกไม้ธูปเทียนแพ ไปตั้งจิตอธิษฐาน ขอขมาโทษต่อ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่ท่านทั้งหลายอาจเคยล่วงเกินต่อ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อันเป็น อดีต ปัจจุบัน เป็นเหตุให้มีโทษติดตัว การเจริญกุศลธรรมอาจไม่เกิดขึ้นได้ หรือ เจริญขึ้นได้ และ อาจเป็นอุปสรรคปิดกั้นการเจริญพระกรรมฐาน จึงต้องมีการ ขอขมาโทษก่อน เพื่อไม่ให้ เป็นเวร เป็นกรรม ปิดกั้น กุศลธรรม ที่กำลังบำเพ็ญอยู่ และเป็น ปฏิปทาห่างจากกรรมเวร


3.จากนั้นกล่าวคำอาราธนาพระกรรมฐานเป็นบาทฐาน(สำหรับทุกท่านที่เพิ่งเริ่มปฎิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับต้องกล่าวทุกครั้งและเริ่มด้วยพระลักษณะ พระขุททกาปีติธรรมเจ้า จนกว่าจะสอบอารมณ์กับพระอาจารย์วีระผ่านท่านจึงจะให้เปลี่ยนคำอาราธนาครับ  ห้ามเปลี่ยนเองโดยพลการ)



อธิบายคำอาราธนาสมาธินิมิต(เหตุใดต้องกล่าวคำอาราธนาพระกรรมฐานทุกครั้ง)
      เมื่อจะนั่งเข้าที่ภาวนานั้น องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงกำหนดไว้ว่า ต้องอธิษฐานสมาธินิมิต  หรือ อาราธนาสมาธินิมิต เพื่อให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิดขึ้น ให้เกิดขึ้น หรือกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญยิ่งๆขึ้นไป กุศลธรรมในที่นี้หมายถึง สมาธิจิตที่ตั้งมั่น เป็น สัมมาสมาธิ อีกประการหนึ่งเพื่อเป็นการ เตรียมจิต ก่อนที่จะภาวนาสมาธิ ดังปรากฏใน พระสุตตนฺตปิฏก องฺคุตตรนิกาย ติกนิบาต ปาปณิกสูตรที่ ๑

คำอาราธนาพระกรรมฐาน
(อธิษฐานสมาธินิมิต)
ของ สมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน

          ข้าฯขอภาวนาพระพุทธคุณเจ้า เพื่อจะขอเอายัง พระลักษณะ พระขุททกาปีติธรรมเจ้า นี้จงได้ ขอพระพุทธเจ้าจงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯนี้เถิดฯ ขอพระธรรมเจ้าทั้งมวลจงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯนี้เถิดฯ ขอพระอริยะสงฆ์เจ้าตั้งแรกแต่พระมหาอัญญาโกญฑัญญะเถรเจ้าโพ้นมาตราบเท่าถึงพระสงฆ์สมมุติในกาลบัดนี้ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯนี้เถิดฯ ขอพระอริยะสงฆ์องค์ต้นอันสอนพระกรรมฐานเจ้าทั้งมวล จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้านี้เถิดฯ ขอพระกรรมฐานเจ้าทั้งมวลจงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้านี้เถิดฯ
        อุกาสะ อุกาสะ ในที่นี้เล่า ข้าจะขอปฏิบัติบูชาตามคำสั่งสอนของพระสัพพัญญูโคดมเจ้า เพื่อจะขอเอายัง พระลักษณะ  พระขุททกาปีติธรรมเจ้านี้จงได้ ขอจงเจ้ากูมาปรากฏบังเกิดอยู่ใน จักขุทวาร มโนทวาร กายทวาร แห่งข้าฯในขณะเมื่อข้านั่งภาวนาอยู่นี้เถิดฯ


        อิติปิโส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทโธ วิชชาจะระณะสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวะมนุสสานํ พุทโธ ภควาติ ฯ
สมฺมาอรหํ     สมฺมาอรหํ     สมฺมาอรหํ
อรหํ      อรหํ     อรหํ
(องค์ภาวนา พุทโธ)



ปล.

การเริ่มนั่งกรรมฐานตามแบบที่พระอาจารย์บอกสืบๆกันมา โดยแรกท่านจะให้ องค์ภาวนาว่าพุท-โธ ให้ตั้งจิต คิด นึก รู้ อยู่ใต้สะดือ2 นิ้ว

คำว่า2 นิ้วนี้วัดโดยใช้นิ้วมือของเรา2นิ้วทาบใต้สะดือสุดที่ใดก็ให้ตั้งจิต คิด นึก รู้ไว้ตรงจุดนั้นนั่นเอง



4. คำอธิบายเวลากำหนดจิต


   หลังจากอาราธนาองค์พระกรรมฐานแล้ว ครั้งแรกกำหนดจิตให้มารวมไว้ที่ใต้สะดือ ๒ นิ้วมือ(ภาวนา พุท-โธ) กำหนดด้วยความตั้งใจจริง ค่อยดำเนินไปด้วยความเพียรชั้นกลาง แลมีสติค่อยประคับประคองให้ตรงต่อจุดมุ่งหมาย อย่ารีบร้อนให้มี ให้เป็นจนเกินไปกว่าเหตุผลจะอำนวยให้ เพราะคุณสมบัติสมาธินี้เป็นของกลาง เป็นเองด้วย บังคับไม่ได้ เราอยากให้เป็นสมาธิก็ไม่เป็น ไม่อยากให้เป็นสมาธิก็ไม่เป็น เราทำก็ไม่เป็น เราหยุดเสียไม่ทำก็ไม่เป็น แต่จะสำเร็จผลในขณะที่เราทำให้มาก เจริญให้มากโดยสายกลาง  ไม่หย่อนนัก ไม่ตึงนัก เป็นไปโดยสม่ำเสมอ ไม่ขาดสายทำไปโดยอาการเยือกเย็น และจิตกล้าหาญ ในเมื่อจิตรวมเป็นหนึ่งได้แล้ว กระบวนการแห่งสมาธิก็จะเป็นไปเอง
 
วิธีนั่งเข้าที่ภาวนาโดยละเอียด


       นั่งคู้บัลลังก์ เท้าขวาทับ เท้าซ้าย มือขวาทับมือซ้ายตั้งกายตรง บริกรรม พุทโธ กำหนดจิตดังนี้


        ๑.สมาธินิมิต คือเครื่องหมายสำหรับตั้งสมาธิ ให้ตั้งที่ใต้นาภี คือ สะดือ สองนิ้วมือ เป็นที่ชุมนุมธาตุ และ สัมปยุตธาตุ บริกรรมในที่นี้จะเกิดกำลังมาก อันห้องพระพุทธคุณ อยู่ใต้นาภี สองนิ้วมือ
        ๒. ปัคคาหะนิมิต คือการยกจิตไปอยู่ที่สมาธินิมิต คือที่ใต้นาภี สองนิ้วมือ จิต ได้แก่ การนึก การคิด การรับรู้อารมณ์ หรือ สติ
        ๓. อุเบกขานิมิต คือ การวางเฉยในอารมณ์ จิตไม่ซัดส่ายไปในอารมณ์ ที่เป็น อดีต ที่เป็นอนาคต ให้มีจิตอยู่ในอารมณ์ปัจจุบัน จิตที่แล่นไปใน อดีต อนาคต เป็นจิตที่ฟุ้งซ่าน
    การกำหนด สมาธินิมิต (นาภี) โดยส่วนเดียว เป็นเหตุให้จิตเป็นไปเพื่อความเกียจคร้าน
           การกำหนดปัคคาหะนิมิต (ยกจิต) โดยส่วนเดียว เป็นเหตุให้จิตเป็นไปเพื่อความฟุ้งซ่าน
        การกำหนด อุเบกขานิมิต (วางเฉย) โดยส่วนเดียว เป็นเหตุให้จิตไม่ตั้งมั่น
        ต้องกำหนดนิมิต สามประการ คือ สมาธินิมิต ปัคคาหะนิมิต อุเบกขานิมิต ไปพร้อมกันตลอดกาล ตามกาล จึงทำให้จิตอ่อนควรแก่การงาน จิตที่อ่อนควร แก่การงาน คือ จิต ที่ปราศจากนิวรณธรรม คือ กามฉันท์ ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส พยาบาท ได้แก่การปองร้าย ถีนะมิทธะ ความง่วงหงาวหาวนอน อุทธัจจะกุกกุจจะ ความฟุ้งซ่าน รำคาญ วิจิกิจฉา ความสงสัย
        การกำหนด สมาธินิมิต ปัคคาหนิมิต อุเบกขานิมิต มาใน พระสุตตันตปิฏก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต สมุคคสูตร ว่า
        ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดภิกษุประกอบสมาธิจิต กำหนดไว้ในใจซึ่ง  สมาธินิมิต ตลอดกาล ตามกาล กำหนดไว้ในใจซึ่ง ปัคคาหะนิมิต ตลอดกาล ตามกาล กำหนดไว้ในใจซึ่ง อุเบกขานิมิต ตลอดกาล ตามกาล เมื่อนั้นจิตย่อมอ่อนควรแก่การงาน ผุดผ่องและ ไม่เสียหาย จิตย่อมตั้งมั่นโดยชอบ เพื่อความสิ้นอาสวะ และ ภิกษุนั้นย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อ ทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ซึ่งธรรมที่ควรทำให้แจ้งด้วยธรรมอันยิ่งใดๆเธอย่อมสมควรเป็นพยานในธรรมนั้นๆ ในเมื่อเหตุเป็นอยู่ มีอยู่
ก่อนนั่งสมาธิภาวนาพึงสำเหนียกในใจก่อนว่า
          จิตของเราจักเป็นจิตหยุด ตั้งมั่นอยู่ภายใน    ธรรมทั้งหลายอันเป็นบาปอกุศล ที่เกิดขึ้นแล้ว  จะต้องไม่ยึดจิตของเรา ตั้งอยู่
   เป็นการอธิษฐานจิต ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง  เพื่อมิให้จิตซัดส่ายไปตามอารมณ์ต่างๆ   เป็นการวางอารมณ์ ของจิตให้แน่วแน่ มีสติรู้ทัน ธรรมทั้งหลายที่เป็นบาปอกุศล เช่น นิวรณธรรมเป็นต้น  ไม่ให้มารบกวนจิต  ยึดจิตติดอยู่ ทำให้จิตไม่บรรลุสมาธิได้ง่าย   


5.
หลังเลิกนั่งภาวนา

            เมื่อเจริญภาวนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่าพึ่งลุกออกจากอาสนะ ให้แผ่เมตตา กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่สรรพสัตว์ก่อน จึงลุกออกจากที่ เมื่อนั่งแล้วรู้เห็นอะไร ห้ามไปคุยกันเอง  ให้ไปแจ้งบอกกล่าว กับพระอาจารย์กรรมฐาน โดยมากพระอาจารย์จะให้กล่าวบทกรวดน้ำยังกิญจิ

บทกรวดน้ำยังกิญจิ
ของพระเจ้าโลกวิชัย ผู้เป็นพระบรมโพธิสัตว์

ยังกิญจิ กุสะลัง กัมมัง      กัตตัพพัง กิริยัง มะมะ
กาเยนะ วาจามะนะสา      ติทะเส สุคะตัง กะตัง
เย สัตตา สัญญิโน อัตถิ   เยจะ สัตตา    อะสัญญิโน
กะตัง ปุญญะผะลัง มัยหัง   สัพเพ ภาคี    ภะวันตุ  เต
เย ตัง กะตัง สุวิทิตัง      ทินนัง ปุญญะผะลัง มะยา
เย จะ ตัตถะ นะ ชานันติ   เทวา คันตวา    นิเวทะยุง
สัพเพ โลกัมหิ เย  สัตตา   ชีวันตาระเหตุกา
มะนุญญัง โภชะนัง สัพเพ   ละภันตุ มะมะ เจตะสาติฯ
   กุศลกรรมอย่าง ใดอย่างหนึ่งเป็นกิจที่ควรฝักใฝ่ ด้วยกาย วาจา ใจ เราทำแล้วเพื่อไปสวรรค์ สัตว์ใดมีสัญญา หรือไม่มีสัญญา ผลบุญที่ข้าฯทำนั้นทุกๆสัตว์ จงมีส่วน สัตว์ใดรู้ก็เป็นอันว่าข้าฯให้ แล้วตามควร สัตว์ใดมิรู้ถ้วน ขอเทพเจ้าจงไปบอกปวงสัตว์ ในโลกีย์ มีชีวิตด้วยอาหาร จงได้โภชนะสำราญ ตามเจตนา ของข้าฯเทอญ ฯ     





6.วิธีแจ้งพระกรรมฐาน
(รูปกรรมฐาน สอบนิมิต อรูปกรรมฐาน สอบอารมณ์)


      เมื่อจะไป แจ้งพระกรรมฐาน หรือไปสอบอารมณ์นั้น  พระภิกษุให้ห่มผ้าเรียบร้อย ไปพร้อมดอกไม้ธูปเทียน กราบพระพุทธรูปก่อนแล้ว จึงกราบพระอาจารย์ผู้บอกพระกรรมฐาน ถวายดอกไม้ให้พระอาจารย์ด้วย แล้วจึง แจ้งอารมณ์พระกรรมฐาน กับพระอาจารย์(ถ้าเป็นฆราวาสก็เพียงแต่ติดต่อไปยังพระอาจารย์วีระ)

รูปพระอาจารย์กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับที่ท่านควรรู้จักครับ









15  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / 24 มีนาคมเชิญฝึกกรรมฐานตามรอยหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดฯ+สมเด็จโตฯ เมื่อ: มีนาคม 22, 2012, 09:37:54 pm
กำหนดการปฏิบัติธรรม
 

เสาร์ที่๒๔-อาทิตย์ที่๒๕ เดือนมีนาคม 55ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ



     วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2555 ขึ้น 2 ค่ำ เดือน  5

      เวลา 09.30-10.15             ลงทะเบียน รับอาหารเช้า รับศีล ขึ้นกรรมฐาน 

     เวลา 10.15-11.00           รับประทานอาหารกลางวัน  ปฏิบัติธรรมตามอัธยาศัย

    เวลา  13.00-14.00           ฟังธรรมบรรยาย ถามปัญหา พักดื่มน้ำปานะ

    เวลา 14.00-16.30            เจริญจิตภาวนา เดินจงกรม อาบน้ำ  ทำธุระส่วนตัว

    เวลา 16.30-17.00            ทำวัตรเย็น 

   วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม 2555 ขึ้น 3 ค่ำ เดือน  5

   เวลา    06.30                สวดมนต์ทำวัตรเช้า       

   เวลา 07.00                    รับประธานอาหารเช้า

   เวลา 10.15-11.00           รับประทานอาหารกลางวัน  ปฏิบัติธรรมตามอัธยาศัย

   เวลา  13.00-14.00           ฟังธรรมบรรยาย ถามปัญหา พักดื่มน้ำปานะ

   เวลา 14.00-16.30            เจริญจิตภาวนา เดินจงกรม อาบน้ำ  ทำธุระส่วนตัว

   เวลา 16.30-17.00            ทำวัตรเย็น ลาศีลเดินทาง กลับบ้าน
 
================================


ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

http://www.somdechsuk.org




ติดต่อได้ที่ หลวงพ่อจิ๋ว โทร. 084-651-7023
;[พระครูสิทธิสังวร;วีระ ฐานวีโร ;ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง]


รายละเอียดของสถานที่ฝึก
ที่คณะ 5 วัดราชสิทธาราม(พลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ โทร. 084-651-7023




รถเมล์สาย 19 40 56 57 149 ผ่านหน้าวัด


============


ความสำคัญโดยย่อ ของ
พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับสำหรับพระพุทธศาสนาในไทยนั้นสำคัญขนาดที่ว่า  พระมหากษัตริย์ในแทบจะทุกยุคของไทยแลแถบสุวรรณภูมิตั้งแต่สมัย ทวารวดี  สุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี จนถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้นได้ทรงให้ความใส่ใจและทรงศึกษาเพื่อรักษา พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับให้คงอยู่ตลอดมา รัชกาลที่1-2-3-4นั้นก็ยังทรงศึกษาพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับนี้กับสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)


***ข้อควรรู้ล้นเกล้ารัชกาลที่สองทรงสังคายนาพระกัมมัฏฐานแบบลำดับ(กรรมฐานมัชฌิมา)





ใน ขณะนั้น พระกรรมฐานและเนื้อหาการเรียนรู้ในบวรพระุพุทธศาสนายังไม่้เรียบร้อยและไม่เป็นหมวดหมู่ดีนัก
ล้นเกล้ารัชกาลที่สองทรงเล็งเห็นว่าจะเป็นภัยแก่พระศาสนาที่คนรุ่นต่อไปจะหา ของจริงที่ถูกต้องไว้เล่าเรียนไม่ได้จึงทรงมีพระบรมราชโองการ ให้ทำ สังคายนาพระกัมมัฏฐานแบบลำดับ ไว้เป็นหมวดหมู่ โดยมีสมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)ทรงเป็นองค์ประธาน ในการชุมนุมพระสงฆ์สังคายนาพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับเมื่อพุทธศักราช ๒๓๖๔

อนึ่งมูลเหตุของการทำสังคายนาพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับนั้นเกิดจากการพูดคุยสนทนากัน ในหมู่พระสงฆ์จากหัวเมืองและชานกรุงว่า  ...... การปฎิบัติกรรมฐานอย่างนี้ถูกการปฎิบัติกรรมฐานอย่างนี้ผิด เสียงวิจารณ์เล่าลือขยายไปทั่วกรุงรัตนโกสินทร์ .......


ความนั้นทราบไปถึงเจ้านายชั้นผู้ใหญ่และข้าราชการผู้ใหญ่ในราชสำนักผู้มีหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการคณะสงฆ์  เจ้านายชั้นผู้ใหญ่และข้าราชการผู้ใหญ่สองท่านนั้น จึงนำความทั้งหลายเหล่านี้ขึ้นกราบบังคมทูลให้พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงทราบฝ่าพระบาท

ต่อมาจึงมีการประสานงานระหว่างทางราชการและคณะสงฆ์ให้ชุมนุมสงฆ์  ทำการประชุมสังคายนาพระกรรมฐานขึ้น3วัน ....พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชทานถวาย ภัตตาหาร น้ำปานะ แด่พระสงฆ์ ๓ เพลาทุกวัน


ซึ่งพระกัมมัฎฐานแบบลำดับนั้นต่อมาก็ได้เผยแพร่สืบต่อกันเรื่อยๆมาอย่างไม่ขาดสายสมกับ พระราชประสงค์ จนถึง พระสังวรานุวงศ์เถระ(ชุ่ม) วัดราชสิทธาราม ปรากฏว่า พระกัมมัฎฐานแบบลำดับนั้นรุ่งเรืองมาก มีภิกษุ สามเณร ร่ำเรียนมากมาย

===============================================================

กัมมัฏฐาน ๓ ยุค

credit :nathaponson ;http://www.madchima.org





[size=5]ประณามพจน์ปฐมบทเรื่องของพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯ

(ประณาม ก. น้อมไหว้ เช่น ขอประณามบาทบงสุ์พระทรงศรี.)

    บทความนี้เป็นความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้บันทึกเรื่องราวอันทรงคุณค่าที่สุด ในประวัติศาตร์ของชาติสยามในเรื่องพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯที่ผ่านมาเพราะพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯเป็นการดำรงรักษาวิธีการกล่อมเกลา จิตใจเพื่อยกระดับภูมิจิตภูมิธรรมที่พระเถรานุเถระแต่ครั้งอดีตได้บำเพ็ญ ฝึกฝน เป็นการฝึกจิตระดับเจโตวิมุติที่เพียบพร้อมทั้งสมาธิที่เป็นบาทฐานของอิทธิ ปาฏิหาริย์ที่เหนือปกติธรรมดาและหากน้อมปฏิบัติตามมรรคมีองค์- ๘ ก็จะเห็นแจ้งในสัจธรรมได้ไม่ยากเป็นทางประเสริฐที่อาจทำให้ผู้ก้าวไปบรรลุสู่ความสงบที่แท้จริง

     พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯมีความสำเร็จได้ประโยชน์ในสองส่วน เป็นทั้งการบำเพ็ญเพื่อความหลุดพ้นและได้อิทธิฤทธิ์ ไปพร้อมกัน

     พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯนั้นได้รวมพุทธธรรมที่พระพุทธเจ้าได้ทรงกำหนดขั้นตอนทั้งการปฏิบัติสมถะกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานรวมถึงพุทธธรรมอื่นๆที่หลอมรวมกันอย่างลงตัว


พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯนั้นเป็นการปฏิบัติจิต ปฏิบัติธรรมทางพุทธศาสนาที่ชาวสุวรรณภูมิยึดถือปฏิบัติมาตลอด

นับแต่ครั้งกรุง สุโขทัย บรรดาพระอริยะเจ้าและพระเถระในอดีตต่างเคยฝึกฝนอบรมภูมิจิตภูมิธรรมในแนวพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯแบบนี้มาแล้วทั้งสิ้น

     ไม่ว่าจะเป็นพระมหาเถระคันฉ่อง (สมเด็จพระพนรัตนวัดป่าแก้ว ในแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราช) สมเด็จสวามีรามคุณูปมาจารย์(ปู)ที่รู้จักกันในนามสมเด็จเจ้าพะโคะ(หลวงปู่ ทวดแห่งสทิงพระ) สมเด็จพระสังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)ก็ล้วนแล้วแต่ปฎิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯ

     แม้พระอมตเถระที่เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ เลื่องลือด้านอิทธิฤทธิ์ที่แสดงปาฏิหาริย์เป็นที่ศรัทธาแก่มหาชนชาวพุทธ อย่างเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์(โต) แห่งวัดระฆังโฆษิตาราม
     พระครูวิมลคุณากร(หลวงปู่ศุข)วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
     หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน จ.พิจิตร
     หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก กทม.
     ซึ่งที่กล่าวนามท่านมาก็เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่พุทธศาสนิกชนชาวไทยเราว่าท่านเหล่านั้นทรงภูมิจิตภูมิธรรมสูงส่งเพียงใดก็ล้วนแล้วแต่
ปฎิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯทั้งสิ้นท่านทราบหรือไม่ครับ




    บทความนี้ไม่อาจจะสำเร็จได้เลยหากไม่ได้รับความเมตตาข้อมูลจากท่านพระครู สังฆรักษ์ (วีระ)ฐานวีโร แห่งวัดราชสิทธาราม(พลับ) กทม. ที่ ให้คำแนะนำข้อมูลต่างๆอย่างมิรู้เบื่อหน่ายต่อคำซักไซ้ไล่เรียงของผู้เขียน

     แม้ท่านจะเหน็ดเหนื่อยจากกิจทางพระศาสนาเพียงใดก็ตาม ด้วยกำลังใจที่แน่วแน่ของพระคุณเจ้าท่านนี้ที่มุ่งมั่นในการดำรงรักษามรดก ล้ำค่าของพระพุทธศาสนาชิ้นเอกเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของสุวรรณภูมิให้คง อยู่เพื่อลูกหลานอนุชนรุ่นต่อไป เป็นการช่วยการรักษาแก่นธรรมของพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ตามรอยเท้าบูรพาจารย์ แต่ครั้งอดีตนับล่วงได้ ๑๘๐๐ ปี

     อานิสงส์ประการใดที่ได้จากการรักษา เผยแพร่ มรดกพุทธธรรมอันยอดยิ่งนี้ขอจงสัมฤทธิ์ ผลแก่บูรพาจารย์ บุพพการี ผู้มีบุพกรรมร่วมกันทั้งส่วนกุศลกรรมและอกุศลกรรม เทพยดานับถ้วนทั่วจากภูมิมนุษย์จนพรหมโลกจรดขอบจักรวาล ตลอดจนญาติกัลยาณมิตร
     สรรพสัตว์ทั้งหลายทุกภพภูมิจงโปรดสำรวมจิตตั้งมั่นในสัมมาทิฎฐิ น้อมใจรำลึกคุณพระบรมศาสดาศรีศากยมุนี สัมมาสัมพุทธเจ้า ในภัทรกัปนี้แล้ว

    อนุโมทนาในกุศลเจตนาครั้งนี้จะก่อเกิดเป็นมหากุศล ให้ทุกท่านถึง “ธรรม” ถ้วนทั่วทุกตัวตนเป็นผู้ถึงสุขที่แท้พ้นภัยภายนอกและภายในทุกกาลสมัยเทอญ




ความเป็นมาของพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ

      แต่ครั้งพุทธกาลที่พระบรมศาสดาศรีศากยมุนีสมณโคดมยังทรงพระชนม์ชีพทรง อุตสาหะสั่งสอนให้กุลบุตรทั้งหลายฝึกสมาธิ ตั้งสมาธิ ยังสมาธิอบรมสมาธิ เพื่อให้เกิดปัญญา พิจารณาเพื่อความหลุดพ้น ได้มรรคได้ผล อันเป็นแก่นของพระพุทธศาสนา 

     
(ข้อด้านล่างนั้นคัดมาจากข้อมูลเท่าที่ปรากฎและเท่าที่ทราบครับซึ่งหากมีความผิดพลาดประการใดต้องกราบขอขมาพระรัตนตรัยมาณที่นี้ครับ)


   

 




การสอนกัมมัฏฐานการบอกกัมมัฏฐานแบ่งออกเป็น ๓ ยุคได้คร่าวๆ

   ๑. ยุคที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อพระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่และทรงเริ่มประกาศศาสนา พระองค์ทรงประกอบด้วยทศพลญาณ คือ กำลังของพระพุทธเจ้า ๑๐ ประการ มีฐานาฐานญาน เป็นต้น มีอาสวักขยญาณเป็นปริโยสาน
   ฉะนั้น พระองค์จึงเป็นกัลยาณมิตรที่ถึงพร้อมด้วยประการทั้งปวง
   ดังนั้นการศึกษาพระกัมมัฏฐานตามแบบที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติและสั่งสอนสาวกไว้แล้วเท่านั้นจึงสมควร




(เมื่อพูดถึงจุดนี้ก็อยากทวนความจำถึงจุดเริ่มต้นของพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับให้ท่านได้ทราบอีกครั้ง;ในยุคสมัยพุทธกาลนั้น พระราหุลมหาเถระเจ้า ได้บรรลุอรหันต์เป็นเอตทัคคะในทางผู้ใคร่ในการศึกษา

พระองค์ ได้สอบถามกับพระพุทธองค์ว่าพุทธองค์มีการปฎิบัติกรรมฐานอย่างใด และท่านได้รวบรวมไว้เป็นหมวดหมู่อีกทั้งท่านยังได้ ไปเรียนรู้และสอบถามความรู้เพิ่มเติมกับพระอรหันต์สาวกองค์อื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก และรวบรวมการปฎิบัติกรรมฐานของพระพุทธศาสนาไว้เป็นด้วยกันเป็นการฝึกฝนแบบตามลำดับขั้นตอน

จากนั้นจึงกำเนิดการเรียนรู้กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ในขอบเขตของบวรพระพุทธศาสนาขึ้น จากการเรียบเรียงของพระราหุลนั่นเอง)


   ๒. ยุคของพระอสีติมหาสาวก ๘๐ พระองค์ ;พระอรหันตสาวก;พระอริยะ และพระสาวกอื่นๆ

พระภิกษุสงฆ์ทั่วไปและพระภิกษุสงฆ์ผู้เป็นเสขบุคคลคือยังไม่ได้บรรลุอรหัตตผลก็ล้วนแล้วแต่เรียนศึกษาและปฎิบัติตามพระกรรมฐานแบบลำดับทั้งสิ้นแล้วแต่ว่าจะศึกษากับพระอสีติมหาสาวกพระอรหันตสาวกหรือพระอริยะ องค์ใด     พระอาจารย์ทุกท่านล้วนบอกพระกรรมฐานแบบลำดับให้ลูกศิษย์ทั้งสิ้นตามแต่ผู้ใดไปได้ช้าหรือเร็วประการใด

   ความสำคัญตรงนี้พระอาจารย์ได้บอกไว้ว่า

ขั้นตอนการฝึกพระกรรมฐานแบบลำดับซึ่งฝึกกันเป็นมาตรฐานตั้งแต่พุทธกาลนั้นผู้ฝึกล้วนต้องผ่านการฝึกเป็นขั้นๆแต่สมัยพุทธกาลนั้น
คนมีบุญบารมีมีมากมาย
ทำให้จิตผ่านแต่ละลำดับได้อย่างรวดเร็วคือผ่านจาก
รูปกรรมฐาน
๑.ห้องพระปีติห้า
๒.ห้องพระยุคลหก
๓.ห้องพระสุขสมาธิ

อย่างรวดเร็วจนถึงห้องอานาปานสติกรรมฐานและจิตเข้าสู่มรรคผลอย่างรวดเร็วจนทำให้คนสมัยนี้ส่วนใหญ่เข้าใจคลาดเคลื่อนไป ว่าเริ่มที่อานาปานสติได้เลยแต่จริงๆหาได้เป็นเช่นนั้นไม่เพราะต้องเริ่มที่ ห้องพระปีติทั้ง5 ซึ่งตั้งต้นที่พระขุททะกาปีติ

โดยเริ่มตั้งองค์ภาวนา ว่าพุท-โธ  ให้ตั้งจิต คิด นึก รู้     ตั้งใต้นาภีคือสะดือ 2นิ้วมือ เป็นบาทฐาน

   (ส่วนขององค์พระราหุลมหาเถระเจ้าก็ได้ทรงสอนพระกรรมฐานแบบลำดับ(พระกรรมฐานมัชฌิมา)และมีศิษย์ของท่านสืบทอดพระกรรมฐานแบบลำดับมาเรื่อยๆ


   ๓. ยุคเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระมหาอสีติสาวกปรินิพพานแล้ว พระภิกษุทั้งหลายจะบอกกัมมัฏฐานแบบลำดับ(พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯซึ่งเป็นกรรมฐานแบบมาตรฐาน)เท่านั้น 


    อีกทั้งภิกษุในสมัยพระพุทธเจ้าและพระอสีติมหาสาวกนิพพานแล้ว ท่านเคารพในพระพุทธพระธรรมและพระสงฆ์ และรู้ประมาณในวิสัยของท่านเอง




     ดังนั้น พระกรรมฐานแต่โบราณจึงบอกกัมมัฏฐานแก่ผู้อื่นด้วย"พระกัมมัฏฐานแบบลำดับ"เท่านั้น (พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯ)
     ผู้เรียนแบบลำดับแล้วจะรู้ได้ด้วยตนเองว่า กัมมัฏฐานกองไหน
     จะต้องกับ "จริตหรือจริยาที่เป็นอาจิณกรรมในภพก่อนๆ" ของตนเองคือจะขึ้นมาเอง(แต่สำคัญที่ว่าต้องผ่านการเรียน"พระกัมมัฏฐานแบบลำดับ"แล้วจากพระอาจารย์ผู้ประกอบด้วยคุณวุฒิและวัยวุฒิคือผู้เป็นกัลยาณมิตรนั่นเอง )


   

     กัมมัฏฐานแบบลำดับ(พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯ)นี้เข้ามาสู่สุวรรณภูมิเมื่อหลังตติยสังคายนาในสมัยพระ เจ้าอโศกมหาราช โดยส่งพระโสณกเถรและพระอุตรเถรมายังสุวรรณภูมิ โดยการเล่าเรียนสืบ ๆ กันมา ยังไม่มีการจดบันทึก

     การเรียนแบบพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯนี้สืบทอดเรื่อยๆ มาจนถึงยุคกรุงสุโขทัย มากรุงศรีอยุธยา และครั้งกรุงสุโขทัยนั้น พระคัมภีร์วิสุทธิมรรค ก็ได้มีการนำมาเผยแพร่ด้วยโบราณาจารย์กล่าวว่า คัมภีร์วิสุทธิมรรคนี้เป็นคัมภีร์ปฏิบัติที่เน้นปริยัติ จึงทำให้พระสงฆ์ที่ปฏิบัติกัมมัฏฐานในสมัยนั้นมีความรู้ทั้งทางปฏิบัติและ ปริยัติ ภาคปฏิบัติดี จึงมีความรู้เชี่ยวชาญมาก

      เมื่อถึงกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชการที่ ๑ ได้อาราธนาพระอธิการสุก วัดท่าหอยแขวงกรุงเก่า มากรุงเทพ ฯ
      เมื่อท่านมานั้น ได้นำตำราสมุดข่อยไทยดำบันทึกกัมมัฏฐานแบบลำดับมากรุงเทพฯ ด้วย แล้วรัชกาลที่ ๑ ทรงตั้งท่านให้เป็นพระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงไว้ซึ่งแบบแผนตามรักษาวงศ์ รักษาประเพณี เป็นพระภิกษุผู้ถือตามโบราณจารย์กัมมัฏฐานแบบลำดับ ด้วยความเคารพในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์สาวกแต่ปางก่อน

      พระองค์ท่านก็เรียนกัมมัฏฐานแบบลำดับ(พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯ)มาจนครบทุกลำดับ จนท่านได้มรรค ได้ผล
      ฉะนั้น โบราณาจารย์ทางกัมมัฏฐานแต่ปางก่อนทั้งหลาย จึงได้กล่าวเป็นคติพยากรณ์ถึงการ รักษาการเรียนกัมมัฏฐานแบบลำดับไว้เป็น ๓ คาบว่า
            ลัชชี รักขิสสติ ภิกษุลัชชีจักรักษา
            ลัชชี รักขิสสติ ภิกษุลัชชีจักรักษา
            ลัชชี รักขิสสติ ภิกษุลัชชีจักรักษา
 
   


ความหมายของส่วนที่ว่า "ลัชชี รักขิสสติ ภิกษุลัชชีจักรักษา"

"อนาคเต ลชฺชี รกฺขิสฺสติ, ลชฺชี รกฺขิสฺสติ, ลชฺชี รกฺขิสฺสติ : ในกาลภายหน้า ภิกษุผู้มียางอาย จักรักษาไว้ได้ ภิกษุผู้มียางอาย จักรักษาไว้ได้ ภิกษุผู้มียางอาย จักรักษาไว้ได้"
ภิกษุที่จัดว่ามียางอาย คือภิกษุที่มีความรู้สึกละอายต่อสิ่งที่พึงละอาย ละอายต่อการที่จะแตะต้องบาปอกุศลธรรม เป็นคนรังเกียจบาป
ภิกษุผู้เป็นลัชชียังมีคุณธรรมอื่นอีก คือ มีความเกรงกลัวบาป มีความเคารพหนักแน่นในหลักคำสอนของพระพุทธองค์ ยกย่องพระสัทธรรมไว้เหนือตนเอง
นอกจากจะละอายบาป ยังมีความเอ็นดู อนุเคราะห์ช่วยเหลือ ให้แล้วไม่หวังตอบแทน พูดจริง ไม่กล่าวให้คลาดจากความจริง ไม่สร้างความแตกแยก สมานสามัคคี เจรจาไพเราะ พูดถูกกาลเทศะ พูดจริง พูดเป็นอรรถเป็นธรรม มีที่อ้างอิงประกอบด้วยประโยชน์


ภิกษุที่เป็นลัชชี จะมีความยำเกรง ใคร่ในการศึกษา จะไม่ทำให้เสียแบบแผนเพราะเห็นแก่ความเป็นอยู่ แสดงเฉพาะธรรมและวินัย จะประคองสัตถุศาสน์ไว้อย่างมั่นคง ท่านจะไม่ละหลักการทางวินัย ไม่ละเมิดหลักการทางวินัย จะยืนหยัดมั่นคงในหลักการทางวินัย ตามภาวะของผู้มียางอาย
ภิกษุลัชชีที่จะรักษาพระสัทธรรมไว้ได้นี้ เป็นระดับพหูสูตผู้คงแก่เรียน มิใช่ไม่มีการศึกษา เป็นผู้ไม่ง่อนแง่น เมื่อถูกสอบถามข้อความในพระไตรปิฎก หรืออรรถกถาตอนท้าย หรือตอนต้น ย้อนไปย้อนมา ก็ไม่ทื่อ ไม่หวั่น ชี้แจงได้ว่า เรากล่าวอย่างนี้ อาจารย์ของเราก็กล่าวอย่างนี้ ดุจดังใช้แหนบถอนขนทีละเส้น เป็นผู้ทีทรงจำหลักการในพระไตรปิฎก และข้อวินิจฉัยในอรรถกถาได้อย่างแม่นยำ ไม่มีหมู่ดสิ้น



ภิกษุแม้จะเป็นพหูสูต ผู้คงแก่เรียน แต่ถ้าเป็นผู้ไม่มียางอาย เป็นผู้เห็นแก่ได้ ก็มักจะทำให้แบบแผู้นคลาดเคลื่อน แสดงหลักคำสอนของพระศาสดานอกธรรมนอกวินัย สร้างความมัวหมู่องอย่างมหันต์ขึ้นในพระศาสนา ก่อให้เกิดสังฆเภทบ้าง สังฆราชีบ้าง
ภิกษุผู้เป็นลัชชีเท่านั้น ที่จะปกป้องพระสัทธรรม ยอมสละตนเพื่อรักษาธรรม ส่วนภิกษุอลัชชี มักจะสละธรรมเพื่อรักษาตนและพวกพ้องของตน ยอมสละหลักการแห่งพระพุทธศาสนาเพื่อลาภสักการะ




ที่กล่าวมานี้ คือระบุถึงบุคคลผู้ที่รักษาพระสัทธรรมไว้ แต่การจะรักษาไว้ได้นั้น ก็มีขั้นตอนกระบวนการอยู่ คือต้องรู้ว่า อะไรเป็นแก่นแท้ที่เป็นพระสัทธรรม ภิกษุที่รู้สึกว่า ตนก็เป็นผู้มียางอาย หวงแหนปกป้องพระศาสนา แต่ถ้าไม่รู้จักพระศาสนา หรือพระสัทธรรมที่แท้ ก็อาจจะรักษาสัทธรรมปฏิรูปไว้ก็ได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเรียนรู้พระสัทธรรมแท้ให้เข้าใจ ในเรื่องนี้ ก็ต้องอาศัยพระพุทธพจน์ที่พระบรมศาสดาได้ทรงแสดงไว้ในพระไตรปิฎก
การที่พระสัทธรรมจะเสื่อมสลายหายสูญไป มิใช่ว่า เพราะไม่มีผู้รักษา มีผู้รักษา แต่อาจจะรักษาไว้แต่ที่พิรุธคลาดเคลื่อนก็เป็นได้ เหตุที่จะทำให้พระสัทธรรมเสื่อมสลายนั้น พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงไว้ในคัมภีร์อังคุตตรนิกาย ทุกนิบาตว่า :-
ภิกษุทั้งหลาย เหตุ ๒ ประการ ที่ทำให้สัทธรรมเสื่อมสลายหายไป คือ บทพยัญชนะ (หมู่ายถึงพระพุทธวจนะ) ที่จำมาผิด (หรือคัดลอกมาผิด) และเข้าใจเนื้อความไม่ถูกต้อง เมื่อจำบทพยัญชนะมาผิด ก็ย่อมจะเข้าใจเนื้อความผิดไปด้วย
อีกแห่งหนึ่งพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงเหตุที่จะทำให้พระสัทธรรมเสื่อมสลายไปไว้ว่า :-



เหตุ ๔ ประการ ที่ทำให้สัทธรรมเสื่อมสลายหายไป คือ

๑. ภิกษุทั้งหลาย ศึกษาเล่าเรียนสุตตันตะที่เรียนกันมาผิดลำดับ ตามบทพยัญชนะที่จำกันมาผิด เนื้อความแห่งบทพยัญชนะที่จำกันมาผิด ก็ทำให้เข้าใจผิดกันไปด้วย

๒. ภิกษุทั้งหลาย เป็นคนที่ว่ายากสอนยาก มีนิสัยที่ว่ายากสอนยาก มีนิสัยไม่อดทน ไม่รับฟังคำสอนโดยเคารพ

๓. บรรดาภิกษุที่เป็นพหูสูต คล่องปริยัติทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา ไม่ตั้งใจถ่ายทอดสุตตันตะแก่ผู้อื่น เมื่อท่านเหล่านั้นล่วงลับไป สุตตันตะก็ขาดรากฐาน ไม่มีที่พึ่งอาศัย (ไม่มีที่อ้างอิง)

๔. บรรดาภิกษุระดับเถระ เป็นพระมักมาก เป็นพระย่อหย่อน เป็นผู้นำในทางคลายความเพียร ละทิ้งวิเวก ไม่ระดมความเพียร เพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง ภิกษุรุ่นหลังก็พากันเอาเยี่ยงอย่าง


เหตุ ๔ ประการนี้ที่ทำให้สัทธรรมเสื่อมสลายหายไป


ที่กล่าวมานี้ คือตัวสาเหตุที่จะทำให้พระสัทธรรมเสื่อมสูญสลายหายไป ในข้อความที่กล่าวมานั้น มีถ้อยคำที่ควรทำความเข้าใจ เช่นคำว่า "บทพยัญชนะที่จำมาผิด" (ทุนฺนิกฺขิตฺตํ ปทพฺยญฺชนํ) นั้น หมายถึงตัวอักษรที่ส่องให้รู้เนื้อความจำกันมาคลาดเคลื่อนไป

เมื่อบทพยัญชนะพิรุธคลาดเคลื่อน การกำหนดความหมายเฉพาะบทย่อมคลาดเคลื่อนไปด้วย เช่นคำว่า "สุวิชาโน ปราภโว : คนเสื่อม (ชั่ว) ก็รู้ได้ง่าย" จำกันมาคลาดเคลื่อนไปว่า "ทุวิชาโน ปราภโว" ก็เลยตีความคลาดเคลื่อนไปแปลกันว่า "ผู้รู้ชั่วเป็นผู้เสื่อม" จึงเกิดความสงสัยกันว่า พระพุทธองค์ก็ทรงทราบเรื่องชั่วที่เรียกว่า อกุศลธรรม เป็นธรรมที่ต้องละ เรียกว่า ปหาตัพพธรรม พระองค์ก็มิได้มีความเสื่อมเสียอะไร


ที่กล่าวมานี้ เป็นการกล่าวถึงลักษณะผู้ที่จะรักษาพระสัทธรรมไว้ได้   



ภาพพานกรรมฐานเวลากราบขอขึ้นครูเรียนกรรมฐานมัชฌิมา

      หลวงปู่สุก(ไก่เถื่อน)ท่านก็นับเป็นพระลัชชีรูปหนึ่งที่รักษาแบบแผน ประเพณีกัมมัฏฐานแบบลำดับจนถึงสมัยปลายรัชการที่สอง ประมาณ พ.ศ. ๒๓๖๔ ปรากฏว่ามีผู้ตั้งตัวเป็นผู้บอกกัมมัฏฐานกันมากแต่ไม่มีการรักษาแบบแผน รักษาวงศ์ รักษาประเพณี ของพระกัมมัฏฐานแบบลำดับ(พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯ)ไว้สอนตามคติของตัวเองไม่เคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อริยสาวกแต่ปางก่อน

      ซึ่งหากพิเคราะห์ดูก็ปรากฏให้เห็นได้ในปัจจุบันอยู่ดาษดื่น บางรายเป็นเด็กยังไม่เดียงสาก็ตั้งตัวเป็นอาจารย์บอกกัมมัฏฐาน ซ้ำร้ายยังอวด ฤทธิ อวดเดชที่ไม่เหมาะสมกับจริยวัตรของนักปฏิบัติที่จะไม่แพร่งพรายหรืออวดอ้างผลการปฏิบัติ

      เพราะจะเป็นอุปกิเลสทำให้ผลปฏิบัติที่ได้เสื่อมถอนและไม่ก้าวหน้า เป็นธรรมจริยะที่เหล่าผู้ฝึกฝนปฏิบัติต้องเคร่งครัดนับแต่โบราณที่อนุญาตให้ แสดงผลการปฏิบัติได้เฉพาะกับผู้เป็นอาจารย์เท่านั้น
     

                            ผู้ที่หลงเลื่อมใสอาจารย์กัมมัฏฐานประเภทรู้เอง-คิดเอง-เดาเอาเหมาเข้าข้างตัวเช่นนี้เป็นผู้น่าสงสารที่ลูบคลำพระพุทธศาสนาอย่างผิดทาง จึงไม่อาจรับประโยชน์จากพระพุทธศาสนาได้อย่างเต็มที่


      ในขณะนั้น ล้นเกล้ารัชกาลที่สองทรงเล็งเห็นว่าจะเป็นภัยแก่พระศาสนาที่คนรุ่นต่อไปจะหา ของจริงที่ถูกต้องไว้เล่าเรียนไม่ได้จึงทรงมีพระบรมราชโองการ ให้ทำ สังคายนาพระกัมมัฏฐานแบบลำดับ(พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับฯ) ไว้เป็นหมวดหมู่ซึ่งต่อมาได้เผยแพร่สืบต่อกันมาเรื่อยๆอย่างไม่ขาดสายสมกับ พระราชประสงค์ จนถึง พระสังวรานุวงศ์เถระ(ชุ่ม) วัดราชสิทธาราม ปรากฏว่า พระกัมมัฎฐานแบบลำดับนั้นรุ่งเรืองมาก มีภิกษุ สามเณร ร่ำเรียนมากมาย


ต้นที่มา โดยรวมของเรื่อง

หลวงพ่อจิ๋ว โทร. 084-651-7023
;[พระครูสิทธิสังวร;วีระ ฐานวีโร ;ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง]

รายละเอียดของสถานที่ฝึก
ที่คณะ 5 วัดราชสิทธาราม(พลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ โทร. 084-651-7023

ขอบคุณภาพจากhttp://www.ounamilit.com/,http://www.bloggang.com/,http://www.rmutphysics.com/,
[/quote]


==========================================

ข่าวสารเกี่ยวกับพระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับที่คุณควรรู้



oxfordทึ่งพบแหล่งเก็บคัมภีร์กรรมฐานแบบลำดับครบถ้วนที่สุดท้ายในโลกที่วัดพลับ



http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=2798.msg22489#msg22489

==========================================


   
เชิญร่วมสร้างบุษบกประดิษฐาน+เฉลิมฉลองพระพุทธมัชฌิมามุนีฯ
http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=2798.msg22466#msg22466


==========================================
   
ขั้นตอนการเริ่มนั่งกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับโดยพื้นฐาน


http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=2798.msg22518#msg22518


16  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / 14มี.ค;เชิญร่วมพิธีปลุกเสกพระพุทธมัชฌิมามุนีที่วัดพลับคณะ 5 เมื่อ: มีนาคม 13, 2012, 03:59:10 pm


หลวงพ่อเอี้อน วัดวังแดงใต้ อยุธยา


หลวงพ่อรวย วัดตะโก อยุธยา


วันพุธที่ 14 มีนาคม 2555 มีพุทธาภิเศก ที่คณะ 5 วัดราชสิทธาราม

ขอเชิญพุทธศาสนิกชน มาร่วมพิธีพุทธาภิเษก พระพุทธมัชฌิมามุนี

เวลา 09.00 น. บวงสรวงครูอาจารย์ และเทพยดา

เวลา 13.00น. พระมหาเถรนั่งอธิษฐานจิต

   รายนามพระเถร นั่งอธิษฐานจิต

   พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ (หลวงพ่อรวย) ปาสาทิโก วัดตะโก อยุธยา

   พระครูอดุลวิริยกิจ (หลวงพ่อเอี้อน อตฺตมโน) วัดวังแดงใต้ อยุธยา

   พระครูสิทธิสังวร (หลวงพ่อวีระ ฐานวีโร) วัดราชสิทธารามพลับ)


ด้านล่างเป็นรูปพระมัชฌิมามุนีครับ



 
================================
17  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ๑๔มีนาคม55;รับของมงคลมหาลาภ+ฟังธรรมะหลวงพ่อถาวรที่จุฬา เมื่อ: มีนาคม 11, 2012, 02:53:31 pm
   
๑๔มีนาคม55;รับของมงคลมหาลาภ+ฟังธรรมะหลวงพ่อถาวรที่จุฬา


ทุกท่านที่มาร่วมงานครั้งนี้จะได้รับของมงคลคือพระธาตุข้าวบิณฑ์ครับ


รูปพระธาตุข้าวบิณฑ์


พระธาตุข้าวบิณฑ์คืออะไร
[url=http://www.relicsofbuddha.com/page9-3.htm]http://www.relicsofbuddha.com/page9-3.htm
[/url]


กลุ่มสมาธิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะจัดงานพระธรรมเทศนาถ่ายทอดสด ผ่านเว็บพลังจิตครับ

ขอเรียนเชิญศรัทธาสาธุชนทุกท่านเข้าร่วม กราบนมัสการ ฟังธรรม ถวายสังฆทาน


กับ พระราชพิพัฒนาทร (หลวงพ่อถาวร จิตฺตถาวโร) ประธานที่ปรึกษากลุ่มสมาธิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย





ในวันพุธ ที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๖.๓๐ - ๑๙.๓๐ น.

จึงขอเรียนเชิญทุกท่านเข้าร่วมบำเพ็ญกุศลโดยพร้อมเพรียงกัน

จัดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ของปีการศึกษา ๒๕๕๔ ครับ

สอบถามรายละเอียด ๐๘๔-๕๔๓-๓๙๖๒ (ณัฏฐกรณ์)



===============
แผนที่การไปฟังธรรม




ณ ห้อง๒๑๑ (ห้องสมุดสุภาฯ) ชั้น ๒ คณะ เศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
 เวลา ๑๖.๓๐ - ๑๙.๓๐ น.


สอบถามรายละเอียด ๐๘๔-๕๔๓-๓๙๖๒ (ณัฏฐกรณ์)


===============
ประวัติของพระธาตุข้าว (ข้าวบิณฑ์)

.............ในสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อโปรดเวไนยสัตว์ วันหนึ่งได้เสด็จมาไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของแม่ระมิงค์เพื่อไปโปรดพวกละว้า พวกละว้าเหล่านั้นอยู่ในภาวะอดอยาก ผืนดินแห้งแล้งทำการเพาะปลูกไม่ได้ผล ต้องหาหัวเผือกหัวมันมาต้มผสมกับข้าวกินเป็นอาหาร เมื่อพระพุทธองค์ได้เสด็จมาถึงที่นั่น พวกละว้าก็เอาข้าวผสมมันซึ่งเป็นโภชนาหารของตนมาใส่บาตร

.............พระบรมโลกนาถก็ทรงรับแล้วฉันภัตตาหารเช้า ณ ที่นั้นซึ่งเรียกว่า ดอนน้อย เสร็จแล้วก็ทรงให้ศีลให้พรพวกละว้าทั้งหลาย หลังจากนั้นจึงทรงนำข้าวที่เหลือก้นบาตรไปเทคว่ำไว้และแสดงปาฏิหาริย์ให้ข้าวนั้นกลายเป็นหิน(เป็นพระธาตุข้าวดังที่เห็นในปัจจุบันนี้) พวกละว้าเมื่อเห็นดังนั้นก็เกิดเลื่อมใสศรัทธาเป็นอันมาก พระพุทธองค์จึงทรงให้ศีล 5 และแสดงธรรม และรับสั่งให้พวกละว้ารักษาดอนน้อยไว้ให้ดี และให้รักษาศีล 5 ไว้เป็นปกติ ถ้ารักษาได้ก็เหมือนอยู่ใกล้พระพุทธองค์ ถ้ารักษาไม่ได้ก็เหมือนอยู่ไกลสุดขอบฟ้าจักรวาล ข้าวก้นบาตรที่กลายเป็นหินนี้แต่ละเม็ดมีเทพคุ้มครองอยู่ จากนั้นพระธาตุข้าวก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

.............เมื่อพระครูบาชัยวงศาฯได้มาจำพรรษาเพื่อพัฒนาวัดพระพุทธบาทห้วยต้มที่ อ.ลี้ จ.ลำพูน ท่านได้นิมิตเห็นพระธาตุข้าวซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 200 กม. ที่ดอยเกิ้ง ท่านจึงได้อัญเชิญพระธาตุข้าวบางส่วนมาไว้ที่วัดและแจกให้ลูกหลานนำไปสักการบูชา ผู้ที่อยู่ในศีลในธรรมที่มีพระธาตุข้าวไว้บูชาแล้ว ความอดอยากขาดแคลนจะไม่บังเกิดขึ้น การทำมาค้าขายโดยสุจริตจะได้ผลเจริญงอกงาม เมื่อประสงค์สิ่งใดให้ทำสมาธิจิตระลึกถึงคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและครูบาชัยวงศาฯ แล้วตั้งจิตขอในสิ่งที่ปรารถนาจะได้ผลดีมากสำหรับผู้ที่มีศีล 5 เป็นปกติ

.............ถ้าหากเกิดโรคภัยไข้เจ็บ ที่รับประทานยาแผนปัจจุบันแล้วไม่สามารถบรรเทาทุกข์เวทนาให้หายลงได้ ก็ให้ทำน้ำพระพุทธมนต์โดยจุ่มพระธาตุข้าวลงในภาชนะใส่น้ำที่จะทำน้ำพระพุทธมนต์ ตั้งจิตอธิษฐานแล้วดื่มน้ำพระพุทธมนต์นั้นจะบรรเทาทุกข์เวทนาที่เกิดขึ้นได้ และพระธาตุข้าวนี้อาจแตกหักได้ 2 กรณีคือ

.............1. แตกโดยการชำรุด
.............2. แตกหักโดยนำไปในสถานที่ที่ไม่เป็นมงคล
18  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ห้องสมุดมหา'ลัยอ็อกฟอร์ด เชิญพระครูสิทธิสังวร เป็นที่ปรึกษาโครงการฯ เมื่อ: มีนาคม 05, 2012, 09:05:43 am
oxford "ทึ่ง" พบแหล่งเก็บคัมภีร์กรรมฐานแบบลำดับครบถ้วนที่สุดท้ายในโลกที่วัดพลับ;วัดราชสิทธาราม คณะ5


oxfordทึ่งพบแหล่งเก็บคัมภีร์กรรมฐานแบบลำดับครบถ้วนที่สุดท้ายในโลกที่วัดพลับ;วัดราชสิทธาราม คณะ5(กรรมฐานแบบลำดับหรือ กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับคือพระกรรมฐานของศาสนาพุทธที่ฝึกเป็นลำดับขั้นตอนปฎิบัติไปตามกำลังของจิต เกิดสมาธิเป็นขั้นๆไป )


ห้องสมุดBodleian มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด เชิญพระครูสิทธิสังวร เป็นที่ปรึกษาโครงการเปิดเผยความรู้ที่ซ่อนอยู่(ของคัมภีร์โบราณ);ในส่วนของพุทธศาสนาในเอเชีย;ในส่วนของกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ

พระครูสิทธิสังวร (หลวงพ่อวีระ)


ประวัติพระครูสิทธิสังวร (หลวงพ่อวีระ)

[url=http://www.somdechsuk.org/node/14]http://www.somdechsuk.org/node/14
[/url]  cl





รูปของ Dr .Andrew Skilton ( Project Manager On behalf of the Revealing Hidden Collection project an team; Bodleian libraries;Oxford University)

ถ้าท่านเข้าไปที่Linkด้านล่าง  รายการก่อนท้ายสุดจะพบชื่อของโครงการที่ Dr .Andrew กำลังทำอยู่คือโครงการเปิดเผยความรู้ที่ซ่อนอยู่(ของคัมภีร์โบราณ)ครับ

http://www.bodleian.ox.ac.uk/bdlss/itsd  cl

 Dr .Andrewได้มาประเทศไทยเมื่อปีที่แล้วประมาณเดือนกันยายน 2011 และได้ค้นพบว่าที่  วัดราชสิทธาราม คณะ5 ยังคงมีแหล่งเก็บคัมภีร์กรรมฐานแบบลำดับครบถ้วนที่สุดท้ายในโลกอยู่ !!!


ที่ว่าเป็นที่สุดท้ายในโลกเพราะมีครบทั้งตำราและวิธีปฎิบัติกรรมฐาน(คือมีผู้ฝึกสอนที่รู้จริง)ถ้าจะเรียกว่าแหล่งเก็บคัมภีร์กรรมฐานแบบลำดับอย่างครบถ้วนแล้วต้องมีทั้งคนสอนและทฤษฎีคือตัวคัมภีร์จริงหรือไม่ครับ  เพราะถ้ามีตำราแต่ไม่มีผู้สอนก็ยากที่จะเกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและขาดความรู้ในพระคัมภีร์อย่างละเอียดไป

 Dr .Andrew Skilton  ให้ความสนใจวัดราชสิทธาราม คณะ5อย่างมากเพราะเขาตระเวนไปแถบเอเชียมาหลายประเทศมากทั้ง ศรีลังกา พม่า  ลาวและประเทศอื่นๆ  พบว่า บางที่มีตำรากรรมฐานแบบลำดับเกือบครบ แต่ขาดคนสอน  บางที่มีตำราไม่ครบอีกทั้งขาดผู้สอน


ดังนั้นพอมีผู้แนะนำให้Dr .Andrewรู้ว่าที่วัดราชสิทธาราม คณะ5ยังคงมีแหล่งเก็บคัมภีร์กรรมฐานแบบลำดับครบถ้วนที่สุดท้ายในโลกอยู่คือมีทั้งตำราและผู้สอน เขาจึงรีบมาศึกษาและได้รับความร่วมมืออย่างดีมากจนเข้าใจความเป็นมาเป็นไปและความสำคัญของคัมภีร์กรรมฐานแบบลำดับ(พระกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ)จากพระครูสิทธิสังวร (หลวงพ่อวีระ)


หลังจากนั้นด้วยความเข้าใจอันดีที่มีต่อกันและความประทับใจในความรอบรู้อย่างลึกซึ้งในคัมภีร์กรรมฐานแบบลำดับของหลวงพ่อเขาจึงได้ตัดสินใจเชิญพระครูสิทธิสังวร (หลวงพ่อวีระ),มาเป็นพระอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ     

   โดยจะเพิ่มชื่อของท่าน ในฐานะพระอาจารย์ที่ปรึกษาของโครงการเปิดเผยความรู้ที่ซ่อนอยู่(ของคัมภีร์กรรมฐานโบราณ)  ในเว็บไซ้ต์ ของโครงการนี้ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ในไม่ช้า และจะออนไลน์ ในเร็วๆนี้ บนเว็บไซ้ต์หลัก ของห้องสมุดบ๊อดเลียน   (Bodleian libraries;Oxford University)


ทุกท่านสามารถอ่านจดหมายจากDr .Andrew Skilton ได้ด้านล่าง รวมทั้งคำแปล(แบบคร่าวๆ)ได้ครับ ถ้าท่านมีข้อสงสัยในเรื่องนี้เพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่

พระครูสิทธิสังวร (หลวงพ่อวีระ) โทร. 084-651-7023
;[พระครูสิทธิสังวร;วีระ ฐานวีโร ;ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง]
weera2548@yahoo.co.th

และร่วมกันแสดงความยินดีในข่าวนี้ร่วมกันนะครับ(ที่พระพุทธศาสนาจะได้เผยแพร่ไปอีกทางหนึ่งในต่างประเทศ)




Revealing Hidden collections (coby)

 Bodleian libraries oriental collections

Clarendon Building

Bodleian Library

Oxford OX1 3BG

www.bodleian.ox.ac.uk

To Phrakhrusitthisangvorn Veera Thanaveero

Division, Wat Ratchasittharam,

Soi Issaraphab ,Wat Arun Sup District,

Bangkok Yai District, Bangkok ,

Dear Venerable phrakhrusitthisangvorn,

            I am writing on behalf of the Revealing Hidden Collections ProJect at the Oxford University Bodleian Library to invite you to become an academic advisor to the project.

            This invitation is made in grateful acknowledgement of the heavy debt to you already felt byThe research team for your generous support and help given in September. We also wish to Continue our working relationship and to benefit from your knowledge both of the majjhima Kammatthan baab lumdup tradition, and of further temples to which we might extend our research.

            We would be most grateful if you would accept this invitation. If you are willing to do so, we Would like to be able to add your name as project advisor on the project web page, which is being Finalized at the moment and will go online shortly on the Bodleian Library website,

            I look forward to hearing your response.

          Yours sincerely

 

Andrew Skilton DPhil(Oxford)

           Project Manager

On behalf of the Revealing Hidden Collection project an team


==============================================
 Revealing Hidden collections
Bodleian libraries oriental collections

Clarendon Building

Bodleian Library

Oxford OX1 3BG

www.bodleian.ox.ac.uk

ถึง พระครูสิทธิสังวร (วีระ ฐานวีโร)

คณะ๕ วัดราชสิทธาราม

ซอยอิสรภาพ ๒๓ แขวงวัดอรุณ

เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ๑๐๖๐๐

นมัสการ ท่านพระครูสิทธิสังวร

                ข้าพเจ้า เขียนจดหมายนี้ ในนามของ โครงการเปิดเผยความรู้ที่ซ่อนอยู่(ของคัมภีร์กรรมฐานโบราณ)  ของห้องสมุด บ๊อดเลียน มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด เพื่อที่จะเชิญท่านมาเป็นพระอาจารย์ที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ ของโครงการนี้   

                จดหมายเชื้อเชิญนี้ ได้ถูกเขียนด้วยความซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ที่พระอาจารย์พระครูสิทธิสังวร ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ทีมวิจัย ของข้าพเจ้า ด้วยความมีน้ำใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเดือนกันยายน ปี๒๕๕๔

 อนึ่งข้าพเจ้ายังต้องการที่จะรักษาความสัมพันธ์ และรักษาการติดต่อ กับท่านอาจารย์พระครูสิทธิสังวร เพื่อที่จะได้รับองค์ความรู้ ของพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ และเพื่อที่จะยังประโยชน์ ในการเพิ่มเติมองค์ความรู้ ของการวิจัยที่วัดอื่นๆอีก แก่ห้องสมุดบ๊อดเลียน มหาวิทยาลัย อ๊อกฟอร์ด

                ข้าพเจ้า จะซาบซึ้ง เป็นอย่างมาก ถ้าท่านอาจารย์ ตอบรับ การเชื้อเชิญนี้ ถ้าท่านอาจารย์ตอบรับ, เรายินดีที่จะ เพิ่มชื่อของท่าน ในฐานะพระอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ  ของโครงการเปิดเผยความรู้ที่ซ่อนอยู่(ของคัมภีร์กรรมฐานโบราณ)  ในเว็บไซ้ต์ ของโครงการนี้ ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงนี้ และจะออนไลน์ ในเร็วๆนี้ บนเว็บไซ้ต์หลัก ของห้องสมุดบ๊อดเลียน   

ข้าพเจ้ากำลังรอคอยคำตอบจากท่านอาจารย์

ด้วยความเคารพอย่างสูง

 ดร. แอนดรู สกิวตั่น

(แอนครู สกิวตั่น)

ผู้จัดการโครงการเปิดเผยความรู้ที่ซ่อนอยู่(ของคัมภีร์โบราณ) 

link ที่เกี่ยวข้อง

ห้องสมุดบ๊อดเลียนมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด เชิญพระครูสิทธิสังวร เป็นที่ปรึกษาโครงการกรรมฐานมัชฌิมา
http://www.somdechsuk.org/node/253

ประวัติพระครูสิทธิสังวร (หลวงพ่อวีระ)
http://www.somdechsuk.org/node/14

พระประวัติสมเด็จพระสังฆราชไก่เถื่อน บูรพาจารย์กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับยุคกรุงรัตนโกสินทร์

http://www.somdechsuk.org/node/64

somdechsuk.org; เวทาสากุฯ


19  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ๒๗กุมภา;รับพระผงผสมอัฐิหลวงปู่ดู่+ฟังธรรมะหลวงตาเยื้อนที่จุฬา เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2012, 09:20:46 pm
กลุ่มสมาธิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอเชิญคณาจารย์ นิสิต บุคคลากร และสาธุชนทุกท่าน เข้าร่วมกราบนมัสการ ฟังธรรม
จากพระธุดงคกรรมฐาน
"พระพิศาลศาสนกิจ " หลวงตาเยื้อน ขันติพโล วัดเขาศาลาฐานะอตุลฐานะจาโร จ.สุรินทร์
อาจารย์เยื้อนท่านเป็น ศิษย์สายตรงของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล และเป็นศิษย์พระหลวงตามหาบัวด้ว​ยครับ





...
ในหัวข้อธรรมบรรยาย "ใช้ชีวิตอย่างไรให้เป็นสุข"

ในวันจันทร์ที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เวลา ๑๖.๓๐ - ๑๙.๓๐ น.
ณ ห้องสมุดสุภา ศิริมานนท์ (๒๑๑) คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ

พร้อมกันนี้จะได้ร่วมทอดผ้าป่า สร้างพระพุทธรูป ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
และทอดผ้าป่าบวชพระภิกษุ สามเณร ๘๔ รูป ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง



จึงขอเรียนเชิญทุกท่านเข้าอบรมธรรรม ปฏิบัติภาวนา ฟังธรรมเทศนา บำเพ็ญกุศลตามอัธยาศัย

โอกาศที่จะได้กราบนมัสการพระปฏิบัติดี ระดับเกศาของท่านแปรสภาพเป็นพระธาตุ แม้ยังไม่ละสังขาร โอกาสที่จะได้นมัสการและทำบุญกับท่านอย่างใกล้ชิดแบบนี้หาได้ยากครับ

ท่านที่นำรถส่วนตัวมา แนะนำให้ไปจอดที่ จามจุรีสแควร์แล้วเดินมาประมาณ ๕๐เมตรครับ

หรือสามารถนั่งMRT ลงที่สถานีสามย่าน เดินอีก ๕๐เมตร

ท่านจะมาช่วงเวลาใดก็ได้แต่ขอให้มาก่อน ๑๙.๓๐ น.ครับ

สอบถามรายละเอียด 0845433962 รุ่ง

"การสั่งสมบุญนำสุขมาให้" โอกาสสำคัญแบบนี้ พลาดไม่ได้นะครับ

เกศาหลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล ลักษณะน่าอัศจรรย์


[url=http://upic.me/show/26015901]



=================
ผู้ที่สนใจ  เข้าร่วมฟังธรรม
จะได้รับพระผง อุดมสิริสุขโตทวีป (ชุดทำน้ำมนต์5)


แจกประมาณ 100 องค์

ทุกองค์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุข้าวบิณฑ์

ปางยืนทรงเครื่องจักรพรรดิเปิดโลก
อธิษฐานจิต โดย หลวงปู่ศรี มหาวีโร


นอกจากนี้ มีชนวนมวลสารหลายชนิด เช่น

[size=30pt]เกศาหลวงตาพระมหาบัวญาณสัมปันโน


ผงจิตรลดา น้ำสรงพระแก้วมรกต ผงชันเพชรจากเครื่องทรงพระแก้วมรกต  ผงหลวงปู่โต๊ะ ผงหลวงปู่แหวน
ผงหลวงปู่อุตตมะ ผงเจ้าคุณนรฯ ผงงาช้าง ผงกะลาตาเดียว ผงเหล็กน้ำพี้หลวงปู่หมูน ผงหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ผงแก้วโป่งข่าม ผงพระธาตุเขาสามร้อยยอดผงมหากัน ญาท่านสวน ผงคำข้าวหลวงพ่อฤาษี
 แป้งเสกหลวงปู่บุดดา ยาอนันตคุณหลวงปู่ศรี ผงว่า108หลวงพ่อฤาษี


เกศาที่ผสมทำพระ  มีดังนี้ หลวงตามหาบัว  ท่านพ่อลี หลวงปู่ศรี มหาวีโร หลวงปู่บุญฤทธิ์ หลวงพ่อชา สุภัทโท หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่แหวน หลวงปู่ชอบ หลวงปู่สิม หลวงปู่ท่อน ฯลฯ มากมายเกือบ100รูป

ชานหมาก ของพระอริยสงฆ์มากมาย ชานหมากหลวงปู่ขาน ฐานวโร หลวงปู่ทอง จันทสิริ  หลวงปู่อว้าน เขมโก  หลวงปู่อุ่นหล้า  หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ฯลฯ

อัฐิธาตุ  หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ หลวงปู่เพียร ฯลฯ มีมากจริงๆครับ

เอาพระไปถวายหลวงปู่ท่อน ญาณธโร ท่านกล่าวว่า" พระนี้ดี ของดี ให้เอาไว้สูง อย่าเอาไว้ต่ำ เราจะแจกคนที่มาร่วมสร้างเจดีย์ ในวาระสำคัญ"

ถวายหลวงปู่ทอง จันทสิริ  ท่านกล่าวว่า "พระนี้สำคัญ เก็บไว้ให้ดี"

มอบให้กับผู้ที่มาฟังธรรม 

0845433962 ณัฏฐกรณ์ ผู้ที่จะรับ มีคุณสมบัติ 1.รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2. สละความอาฆาตพยาบาท 3.กตัญญูมารดาบิดา 4. ห้ามนำพระไปขาย ต้องแจกฟรีเท่านั้น

 

แจกเฉพาะที่มาร่วมงานเท่านั้น   กรุณาอ่านรายละเอียดให้เข้าใจด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ




=======================================[/size]

ออร่าของพระอุดมสิริสุขโตทวีป(เนื้อโลหะ)
ภาพจากกล้อง version 2
เป็นเหรียญแรกและเหรียญเดียวในประวัติศาสตร์ที่กล้องตัวนี้ถ่ายได้เป็นสีขาวล้วน
บ่งชี้ถึงความสงบ ความสะอาดจากสิ่งใดๆทั้งปวง สูงส่ง และไร้ความยึดติด(ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ)




ภาพจากกล้อง version 3



สีขาว เป็นสีที่มีความสมดุล และสมบูรณ์แบบมากที่สุด จะปรากฏกับพวกนักบุญ พระ หรือ ผู้ฝึกสมาธิวิปัสสนาสม่ำเสมอ
ผู้ที่มีสีขาวปรากฏอยู่ในออร่า หมายถึง กายแสงได้รับการชำระและฟอกให้บริสุทธิ์ หรืออาจหมายถึง สภาพจิตใจที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และบริสุทธิ์
แสดงถึงความบริสุทธิ์ใจของผู้สร้างพระชุดนี้เพื่อรวบรวมเด็กและเยาวชนผู้ใฝ่ใจธรรมะเพื่อช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาจริงๆ


===============
แผนที่การไปฟังธรรม




ณ ห้อง๒๑๑ (ห้องสมุดสุภาฯ) ชั้น ๒ คณะ เศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
 เวลา ๑๖.๓๐ - ๑๙.๓๐ น.
20  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / เชิญชมภาพพระมัชฌิมามุนีที่หล่อเสร็จแล้วทั้ง3องค์;โมทนาด้วยกันครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2012, 12:06:11 am






งานนี้สำเร็จได้ด้วยแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนมากมายขอท่านทั้งหลายโมทนาร่วมกันนะครับ
เป็นบุญกุศลมหาศาลทีเดียวสาธุๆๆๆ


===============

ย้อนไล่เรียงความเป็นมาตั้งแต่ก่อนสร้างจนวันหล่อพระครับ



ในวันที่29 มกราคม 2555 ที่ผ่านมานี้ทางวัดราชสิทธารามคณะ5  ได้มีการจัดการหล่อพระพุทธมัชฌิมามุนี พระประจำกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ขนาด 30 นิ้ว 4 องค์ เรียบร้อยแล้ว




เชิญชมวีดีโอพิธีการหล่อพระเมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมาได้ตามวีดีโอด้านล่างครับ





เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และถวายสมเด็จพระสังฆราช(สุก ไก่ เถื่อน) เนื่องในการสืบทอดกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ให้มั่นคงถาวร สืบต่อไป

(การหล่อในครั้งนี้ประจวบเข้ากับปีพุทธชยันตีในปี 2555 ;ซึ่งมีความเชื่อว่าพุทธศาสนาครบ 2,600ปีด้วยครับซึ่งจะเป็นศิริมงคลในการหล่อพระครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง)

การสร้างครั้งนี้ผู้ที่เป็นประธานฝ่ายสงฆ์คือหลวงพ่อจิ๋ว

;[พระครูสิทธิสังวร;วีระ ฐานวีโร ;ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง; โทร. 084-651-7023]

=================================================================
รูปบางส่วนในวันงานหล่อพระ ;29 มกราคมที่ผ่านมา

ประธานงานหล่อพระพุทธมัชฌิมามุนี

-มล.ปกิต มาลากุล ผู้อำนวยการกองพระราชพิธีสำนักพระราชวัง
-ศ.นพ.นิธิ มหานนท์  สถาบันหัวใจ เพอร์เฟคฮาร์ท โรงพยาบาลปิยะเวท



1.รูปประธานในพิธีครับ

2.ญาติโยมมาร่วมงานประมาณ๓๐๐เศษ

3.โต๊ะบูชาครูบวงสรวงเทวดา


4. รูปพิธีกรในงาน และด้านขวาคือพระอาจารย์วีระ(หลวงพ่อจิ๋ว);เจ้าคณะ5ครับ


5.รูปโต็ะบวงสรวงในพิธี




6.เบ้าหลอม พระมัชณิมามุนีรวมทั้งหมด4องค์ครับ(อีกองค์หนึ่งที่เพิ่มมาเป็นของทางช่างครับเพราะทางคณะช่างเห็นแล้วเกิดศรัทธาจึงขอร่วมหล่อด้วยอีกองค์นึงแล้วขอไว้บูชา)
=================================================================

อานิสงส์การสร้างพระพุทธมัชฌิมามุนี

 การจัดสร้างพระพุทธมัชฌิมามุนี ได้อานิสงส์กุศลดังนี้

  1. อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน  จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ

  2.  ได้สืบต่อพระพุทธศาสนา สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง  สรรพภยันตรายสลาย

  3.เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อนเมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้ว  ก็จะเลิกเว้นการจองเวร

  4.  เจริญกรรมฐานได้รวดเร็ว เหล่านิวรณ์ธรรม ยักษ์ผีรากษส  งูพิษ เสือร้าย  ไม่อาจเป็นภัย

  5.  จิตใจสงบ ปวงภัยไม่เกิด ฝันร้ายไม่มี ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล

  6.มั่นคงในคุณธรรมความอุดมสมบูรณ์ปรากฎเกินความคาดฝันครอบครัวสุขสันต์

     วาสนายั่งยืน

  7.  คำกล่าวเป็นสัตย์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหาย เทพยดา ยินดีปรีดา

  8.  คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี  ความทุกข์หายเข็ญ สตรีจะได้เกิดเป็นชาย

  9.  พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาเลิศล้ำ บุญกุศลเรืองรอง

 10. สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็น  เป็นเนื้อนาบุญอย่างอเนกทุกชาติของผู้สร้างที่เกิด  จะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้า  ปัญญาในธรรมแก่กล้า  สามารถได้อภิญญาหก สำเร็จโพธิญาณ พระกรรมฐานเจริญรุ่งเรือง ตลอด 5,000 ปี

 นิพพานปัจโยโหนตุ
21  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / ภาพงานหล่อพระมัชฌิมากรรมฐาน29ม.คที่ผ่านมาพร้อมวีดีโอ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2012, 07:30:44 pm
เชิญชมวีดีโอพิธีการหล่อพระเมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมาได้ตามวีดีโอด้านล่างครับ






http://www.youtube.com/v/2-h-4Bf0JnE&feature=player_embedded

=================================================================
รูปบางส่วนในวันงานหล่อพระ ;29 มกราคมที่ผ่านมา

ประธานงานหล่อพระพุทธมัชฌิมามุนี

-มล.ปกิต มาลากุล ผู้อำนวยการกองพระราชพิธีสำนักพระราชวัง
-ศ.นพ.นิธิ มหานนท์  สถาบันหัวใจ เพอร์เฟคฮาร์ท โรงพยาบาลปิยะเวท



1.รูปประธานในพิธีครับ

2.ญาติโยมมาร่วมงานประมาณ๓๐๐เศษ

3.โต๊ะบูชาครูบวงสรวงเทวดา


4. รูปพิธีกรในงาน และด้านขวาคือพระอาจารย์วีระ(หลวงพ่อจิ๋ว);เจ้าคณะ5ครับ


5.รูปโต็ะบวงสรวงในพิธี




6.เบ้าหลอม พระมัชณิมามุนีรวมทั้งหมด4องค์ครับ(อีกองค์หนึ่งที่เพิ่มมาเป็นของทางช่างครับเพราะทางคณะช่างเห็นแล้วเกิดศรัทธาจึงขอร่วมหล่อด้วยอีกองค์นึงแล้วขอไว้บูชา)
=================================================================

อานิสงส์การสร้างพระพุทธมัชฌิมามุนี

 การจัดสร้างพระพุทธมัชฌิมามุนี ได้อานิสงส์กุศลดังนี้

  1. อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน  จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ

  2.  ได้สืบต่อพระพุทธศาสนา สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง  สรรพภยันตรายสลาย

  3.เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อนเมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้ว  ก็จะเลิกเว้นการจองเวร

  4.  เจริญกรรมฐานได้รวดเร็ว เหล่านิวรณ์ธรรม ยักษ์ผีรากษส  งูพิษ เสือร้าย  ไม่อาจเป็นภัย

  5.  จิตใจสงบ ปวงภัยไม่เกิด ฝันร้ายไม่มี ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล

  6.มั่นคงในคุณธรรมความอุดมสมบูรณ์ปรากฎเกินความคาดฝันครอบครัวสุขสันต์

     วาสนายั่งยืน

  7.  คำกล่าวเป็นสัตย์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหาย เทพยดา ยินดีปรีดา

  8.  คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี  ความทุกข์หายเข็ญ สตรีจะได้เกิดเป็นชาย

  9.  พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาเลิศล้ำ บุญกุศลเรืองรอง

 10. สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็น  เป็นเนื้อนาบุญอย่างอเนกทุกชาติของผู้สร้างที่เกิด  จะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้า  ปัญญาในธรรมแก่กล้า  สามารถได้อภิญญาหก สำเร็จโพธิญาณ พระกรรมฐานเจริญรุ่งเรือง ตลอด 5,000 ปี

 นิพพานปัจโยโหนตุ

================================================================

ท่านที่สนใจร่วมทำบุญหล่อพระแต่ยังไม่ได้โอนสามารถร่วมบุญได้ถึง ประมาณวันที่ 15 กุมพาพันธ์ 2555นะครับ
ร่วมบุญหล่อพระโอนเงินไปที่ ธนาคาร กสิกรไทย สาขาโพธ์สามต้น บัญชีเลขที่ 067-2-83847-9 บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี พระวีระ สุขมีทรัพย์(ร่วมหล่อพระมัชฌิมา)

ท่านที่ต้องการร่วมหล่อพระกรุณา โอนเงินโดยปิดการลงท้ายจำนวนด้วยเลข .10 สตางค์ในทุกครั้งที่โอนด้วยนะครับ
ตัวอย่างเช่น  ท่านต้องการโอน200 บาทก็โอนด้วยจำนวน 200.10 เป็นต้นครับ
(สาเหตุที่ต้องกำหนดเช่นนี้เพราะเพื่อที่หลวงพ่อจะได้ทราบในเจตนาการโอนครั้งนี้ว่าเป็นไปเพื่อการร่วมหล่อพระครับผม) สาธุๆๆๆ



credit: ข้อมูลจาก

http://www.somdechsuk.org[/size]



22  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / 31ธ.ค;ร่วมสวดมนต์ข้ามปีรับพุทธบารมีที่วัดราชสิทธาราม(พลับ)คณะ5 เมื่อ: ธันวาคม 30, 2011, 11:08:42 am
สวัสดีครับทุกท่าน



ใกล้จะปีใหม่แล้ว เราเหล่าชาวพุทธก็ต่างพากันไปทำบุญเสริมดวงกันและอีกหนึ่งกิจกรรมที่คนส่วนใหญ่นิยมทำกันก็คือ การสวดมนต์ข้ามปี

เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยต้อนรับปีใหม่ที่จะมาถึง และในวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ หากใครเคยไปร่วมนับถอยหลังฉลองปีใหม่ตามสถานที่ต่าง ๆ ดูแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศใช้โอกาสปีใหม่นี้ไปร่วมกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” ดูกันสักทีดีไหมครับ เพื่อเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยสิ่งดี ๆ เป็นมงคล แล้วยังให้คุณประโยชน์ในหลาย ๆ ด้านด้วย

จึงอยากเรียนเชิญทุกท่านมาร่วมสวดมนต์ข้ามปีรับบารมีพระที่วัดราชสิทธาราม(พลับ)คณะ5 ด้วยกัน ในวันที่31ธ.คนะครับ
ที่วัดพลับจะมีการสวดมนต์ข้ามปีกันที่โบสถ์และถ้าท่านใดสนใจสามารถมาค้างคืน+ปฎิบัติธรรมที่วัดราชสิทธารามคณะ5ได้ในช่วง31 ธันวาคม-1มกราคม2555 ได้เช่นกันครับ



ท่านใดต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ หลวงพ่อจิ๋ว โทร. 084-651-7023
;[พระครูสิทธิสังวร;วีระ ฐานวีโร ;ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง]




รายละเอียดของสถานที่สวดมนต์ข้ามปี
ที่คณะ 5 วัดราชสิทธาราม(พลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ โทร. 084-651-7023




รถเมล์สาย 19 40 56 57 149 ผ่านหน้าวัด


=================================

ในเดือน ธันวาึคม 2554 -มกราคม2555   
จะมีการจัดอบรมกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ
กำหนดการปฏิบัติธรรม  ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่   31 ธันวาคม 2554 – 1 มกราคม 2555
รายละเอียดของสถานที่ฝึก
ที่คณะ 5 วัดราชสิทธาราม(พลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ โทร. 084-651-7023

รถเมล์สาย 19 40 56 57 149 ผ่านหน้าวัด


=================================



กำหนดการปฏิบัติธรรม  ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ 

31 ธันวาคม 2554 – 1 มกราคม 2555

วันเสาร์ที่   31 ธันวาคม    2554 ขึ้น   7 ค่ำ เดือน   2 

เวลา 09.30-10.15               ลงทะเบียน รับศีล ขึ้นกรรมฐาน

เวลา 10.15-11.00               รับประทานอาหารกลางวัน   ปฏิบัติธรรมตามอัธยาศัย

เวลา 13.00-14.00               ฟังธรรมบรรยาย ถามปัญหา พักดื่มน้ำปานะ

เวลา 14.00-16.30               เจริญจิตภาวนา เดินจงกรม อาบน้ำ   ทำธุระส่วนตัว

เวลา 16.30-17.00               ทำวัตรเย็น 

เวลา 23.00น.-24.00น.         เค้าดาว Count Down สวดมนต์ต้อนรับปีใหม่ในพระอุโบสถ วัดราชสิทธาราม   รับพรพระสงฆ์

วันอาทิตย์ที่   1 มกราคม 2555   ขึ้น   8 ค่ำ เดือน   2

เวลา   06.30 - 07.00             ทำวัตรเช้า   รับประทานอาหารเช้าไปตักบาตรพระภิกษุฉลองปีใหม่

เวลา   07.000 -11.00            นั่งกรรมฐาน   เดินจงกรม รับประทานอาหารกลางวัน

เวลา   13.00-14.00             ฟังบรรยายธรรม

เวลา   16.30-17.00              ญาติโยมทำวัตรเย็น     ลากลับบ้าน
======================================================

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

http://www.somdechsuk.org




1. ย้อนไปสมัยพุทธกาลนั้น พระราหุลมหาเถระเจ้า ได้บรรลุอรหันต์เป็นเอตทัคคะในทางผู้ใคร่ในการศึกษา

พระองค์ ได้สอบถามกับพระพุทธองค์ว่าพุทธองค์มีการปฎิบัติกรรมฐานอย่างใด และท่านได้รวบรวมไว้เป็นหมวดหมู่อีกทั้งท่านยังได้ ไปเรียนรู้และสอบถามความรู้เพิ่มเติมกับพระอรหันต์สาวกองค์อื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก และรวบรวมการปฎิบัติกรรมฐานของพระพุทธศาสนาไว้เป็นด้วยกันเป็นการฝึกฝนแบบตามลำดับขั้นตอน

จากนั้นจึงกำเนิดการเรียนรู้กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ในขอบเขตของบวรพระพุทธศาสนาขึ้น จากการเรียบเรียงของพระราหุลนั่นเอง


 บูรพาจารย์เล่าว่าในสมัยโบราณผู้ศึกษากรรมฐานในพุทธศาสนานั้นมีการฝึกฝนสมาธิและวิปัสสนาตามแบบกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ทั้งสิ้นไม่มีการแบ่งแยกเหมือนสมัยนี้แต่อย่างใด

รูปพระราหุลมหาเถระเจ้า



เหตุที่เรียก พระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ เพราะเป็นพระกรรมฐานที่ไม่เอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ในพระสมถะกรรมฐานทั้ง ๔๐ กอง และเรียนเป็นลำดับไปจนครบ ๔๐ กอง จนถึงลำดับสู่วิปัสสนากรรมฐาน จึงเป็นการรวบรวมเอาพระสมถะกรรมฐานทั้ง ๔๐ กอง และวิปัสสนากรรมฐานทั้งมวลไว้ในที่เดียวกัน เพื่อมิให้แตกกระจายไปในทางปฏิบัติ มิต้องให้ความสำคัญกับพระกรรมฐานกองใดกองหนึ่ง

สรุปได้้่ว่่ากรรมฐานมัชฌิมา คือการเรียนปฎิบัติไปตามกำลังของจิต เกิดสมาธิเป็นขั้นๆไป นั่นเองครับ

จากนั้น กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ได้รับการสืบทอดต่อๆกันมาเรื่อยๆได้เข้ามาแถบเอเชียอาคเนย์ และทางสุวรรณภูมิ โดยกลุ่มของพระโสณะและพระอุตตระ นั่นเองครับ

รูปภาพที่มีผู้เชื่อว่าเป็นกลุ่มของพระโสณะและพระอุตตระ

 จากนั้น ประเทศไทยของเราตั้งแต่สมัย ทวาวดี สุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีการฝึก กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ เป็นอันมากและเป็นกรรมฐานหลักในการฝึกฝนในประเทศไทย เป็นแบบเดียวที่มีการฝึกฝนกัน 

  ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น นั้นผู้ที่ สืบทอดต่อมาเป็นปรมาจารย์ต้นของยุคนี้ คือ สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเถระเจ้า (สุก ไก่เถื่อน)

รูปสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเถระเจ้า (สุก ไก่เถื่อน)ครับ


และในช่วงนี้ 2554 ผู้ที่ดำรงการสืบทอดกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ คือ พระครูสิทธิสังวร (วีระ ฐานวีโร ) ที่คณะ 5 วัดราชสิทธาราม(พลับ) ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ โทร. 084-651-7023
ผู้บอกวิชชาพระกรรมฐาน ยุคปัจจุบันครับ


[size=20pt]
-ข้อมูลสำหรับการศึกษาเพิ่มเติม
http://www.somdechsuk.org

http://www.somdechsuk.com

[/color]

[/size]


=============================================
วีดีโอกรรมฐาน

http://www.youtube.com/v/a_q00e8kIgs

http://www.youtube.com/v/udIZLdBGXw4



=============================================



กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ นั้นมีวิธีการฝึกและ การปฎิบัติที่เป็นแบบแผนแน่นอน สรุปได้ง่ายๆดังนี้ครับ

1. เข้าหากัลยาณมิตร คืออาจารย์ผู้บอกกรรมฐาน
2. ขอขึ้นกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ตามแบบแผนแต่โบราณ
3. เริ่มนั่งกรรมฐานตามแบบที่พระอาจารย์บอก โดยแรกท่านจะให้ ภาวนาว่าพุท-โธ สติตั้งมั่นนึกรู้ ตั้งใต้สะดือ2 นิ้ว

คำว่า2 นิ้วนี้วัดโดยใช้นิ้วมือของเรา2นิ้วทาบใต้สะดือสุดที่ใดก็เอาสติไว้ตรงจุดนั้นนั่นเอง

ทุกครั้งที่นั่งกรรมฐานต้องมีการ ขอขมาพระ และกล่าวคำอาราธนากรรมฐานตามแบบ กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับทุกครั้ง และเมื่อนั่งเสร็จต้องแผ่เมตตาก่อนจึงลุกจากที่นั่ง
4. การเกิดนิมิตรู้เห็นอย่างใดให้แจ้งแก่อาจารย์ผู้บอกกรรมฐานแต่เพียงผู้เดียวห้ามบอกผู้อื่น และไม่ควรอ่านสภาวะธรรมต่างๆก่อนเพื่อกันอุปาทานและจิตหลอนนั่นเอง

5. เมื่ออาจารย์ให้ผ่านแล้วก็จะมีการเลื่อนกรรมฐานไปห้องอื่นๆสูงขึ้นไปตามลำดับชั้นของห้องกรรมฐานนั้นๆจนจบกรรมฐาน40 และต่อวิปัสสนากรรมฐานเป็นขั้นๆไปตามลำดับ




============================================================================



[size=18pt]คู่มือ สมถะ-วิปัสสนากรรมฐาน มัชฌิมาแบบลำดับ

ของสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรมหาเถรเจ้า (สุก ไก่เถื่อน)
วัดราชสิทธาราม ราชวรวิหาร (พลับ) กรุงเทพฯ

พระครูสังฆรักษ์วีระ ฐานวีโร รวบรวม เรียบเรียง



============================================================================

คำนำ

พระสมถะ-วิปัสสนากรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ข้าพเจ้าได้รวบรวม และเรียบเรียงมาจาก พระคัมภีร์กรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ ฝ่ายเถรวาท ซึ่งถือตามคติที่พระอรหันต์พุทธสาวก ที่ได้วางหลักพระธรรมวินัย และธรรมปฏิบัติเป็นแบบแผนไว้เมื่อครั้งตติยสังคายนา และนับถือแพร่หลายมาในประเทศ ไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา เป็นของเก่า สืบทอดต่อมาโดยสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม แต่ได้มาอธิบาย พระกรรมฐานของเก่าขึ้นใหม่ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย และเพิ่มศรัทธา ให้มีผู้เข้ามาปฏิบัติธรรม ของเก่าดั่งเดิมกันมากขึ้น เป็นการจรรโลงการปฏิบัติธรรมของเก่ามิให้ เสื่อมสลาย สูญสิ้นไป
สมดังปณิธาน ของสมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน และ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย(รัชกาลที่๒)ที่ได้ทรงกระทำสังคายนาพระกรรมฐานมัชฌิมา ภาคปฏิบัติเอาไว้ ตั้งแต่ปีพระพุทธศักราช ๒๓๖๔

พระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับนี้ เป็นของเก่าเล่าเรียนปฏิบัติ สืบต่อกันมาช้านาน แต่ครั้งพุทธกาลโดยพระราหุลเถรเจ้า ทรงเป็นต้นสาย สืบต่อมา ถึงครั้งตติยสังคายนา นำเข้ามาสู่ลังกา และนำเข้ามาสู่สุวรรณภูมิ

โดยพระโสณเถรเจ้า พระอุตระเถรเจ้า พระองค์ท่านได้นำพระพุทธศาสนาเข้ามาเผยแพร่ในดินแดนสุวรรณภูมิ พร้อมพระสมถะ-วิปัสสนากรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ผ่านยุคผ่านสมัยเรื่อยมาจนถึงยุคศรีทวารวดี

ต่อมาประมาณปีพระพุทธศักราช ๖๐๙–๖๕๓ พระอุปติสสะเถรเจ้า แห่งลังกาทวีป ได้นำเอาพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ซึ่งเป็นพระกรรมฐาน ภาคปฏิบัติ อันทรงจำสืบกันมา นำมาแต่งจารึกลงเป็นอักษร เรียงลำดับ เรียงหมวดหมู่พระกรรมฐานไว้เป็นภาคปริยัติ เรียกว่า คัมภีร์วิมุตติมรรค เพื่อให้ผู้ปฎิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ มาแล้ว ได้ศึกษาหาความรู้ภาคปริยัติต่อไป

ต่อมาประมาณปีพระพุทธศักราช ๙๕๖ พระพุทธโฆสะ ได้นำคัมภีร์วิมุตติมรรค มาแต่งเป็น  พระคัมภีร์วิสุทธิมรรคเพื่อแสดงปัญญา ให้ได้มาซึ่ง คัมภีร์อรรถคาถา
แต่การบอกพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ยังคงบอกต่อๆกันมา ในภาคปฏิบัติ และจำสืบกันมาเรื่อยๆ เพื่อป้องกันการชี้นำ และเกิดอุปาทาน และจิตหลอน จึงสืบต่อมาจนถึง

ยุคศรีทวารวดี ยุคสุโขทัย ยุคอยุธยา และยุครัตนโกสินทร์

ในยุครัตนโกสินทร์นี้เอง พระสมถะ-วิปัสสนากรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ได้เริ่มเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ ประมาณปีพระพุทธศักราช ๒๓๖๔ พระสงฆ์ สามเณร ปะขาว ชี เริ่มประพฤติปฏิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมา ออกนอกลู่ นอกทาง ของการปฏิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมา แต่ก่อนมา ไม่ปฏิบัติเป็นขั้น เป็นตอน ทำให้พระพุทธศาสนาภาคปฏิบัติ ค่อยๆเสื่อมถอยลง

ต่อมาล้นเกล้าฯรัชกาลที่ ๒ จึงได้ให้ชุมนุมพระสงฆ์ วิปัสสนา-พระกรรมฐานมัชฌิมา มาร่วมกัน ทำสังคายนาพระกรรมฐานมัชฌิมาไว้ และทรงแต่งตั้งภิกษุ ไปเป็นพระอาจารย์บอกพระสมถะ-วิปัสสนากรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับต่อจากนั้นสมถะ-วิปัสสนานากรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ จึงได้มีมาจนทุกวันนี้ ซึ่งบางสมัยก็เจริญ บางสมัยก็เสื่อม โดยความไม่รู้ทั่วถึง จึงต้องมีการฟื้นฟู ผดุงรักษา พระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ไว้

ฉะนั้น โบราณจารย์ พระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ แต่ปางก่อนทั้งหลาย จึงได้กล่าว เป็นคติพยากรณ์ถึงการรักษาแบบแผน การปฏิบัติพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ไว้เป็น ๓ คาบว่า

ลัชชี รักขิสสติ ภิกษุลัชชีจักรักษา
 ลัชชีรักขิสสติ ภิกษุลัชชีจักรักษา
ลัชชีรักขิสสติ ภิกษุลัชชีจักรักษา
ดังเช่น..หลวงปู่สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรมหาเถรเจ้า (สุก ไก่เถื่อน) ดังนี้ เป็นต้น


พระครูสังฆรักษ์วีระ ฐานวีโร
คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม
โทรศัพท์-084-651-7023

======================================================

ขั้นตอนการปฏิบัติพระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

ตอนสมถะภาวนา


รูปกรรมฐาน ตอน ๑
๑.ห้องพระปีติห้า
๒.ห้องพระยุคลหก
๓.ห้องพระสุขสมาธิ
พระกรรมฐาน ๓ ห้องนี้เป็นพระกรรมฐาน สำหรับฝึกตั้งสมาธิ เป็นพระกรรมฐานต่อเนื่องของจิต จากจิตหยาบ ไปหาจิตที่ละเอียด ถึงขั้นอุปจารสมาธิเต็มขั้น หรือ เรียกว่ารูปเทียมของปฐมฌาน สอบนิมิต เป็นอารมณ์

รูปกรรมฐาน ตอน ๒
๔.ห้อง อานาปานสติ ๙ จุด ทำให้จิตละเอียดขึ้น ถึงอัปปนาสมาธิ หรืออัปปนาฌาน
๕.ห้อง กายคตาสติกรรมฐาน
๖.ห้องกสิณ ๑๐ ประการ
๗.ห้องอสุภ ๑๐ ประการ เพื่อละราคะ
๘.ห้องปัญจมฌาน

ห้องพระอานาปานกรรมฐาน ถึงห้องปัญจมฌาน เป็นรูปกรรมฐาน สอบนิมิต เป็นพระกรรมฐานต่อเนื่องใน กายคตาสติกรรมฐาน และกายานุปัสสนาสติปัฎฐาน
พระโยคาวจร ผู้เจริญอานาปานสติ เจริญอาการ ๓๒ เจริญกสิณ ๑๐ ประการ เจริญอสุภะ ๑๐ ประการ เจริญปัญจมฌาน พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า เป็นการเจริญกาย คตาสติกรรมฐานทั้งสิ้น ย่อมได้รับอานิสงส์มากมาย เปรียบเหมือน น้ำเต็มขอบสระ กาบินมาแต่ทิศใดย่อมดื่มกินน้ำได้ทุกทิศ

อรูปกรรมฐาน (สอบสภาวธรรม)
๙.ห้อง อนุสสติ เจ็ดประการ เป็นคุณธรรม ของพระโสดาบัน
๑๐.ห้อง อัปปมัญญาพรหมวิหาร
๑๑. ห้อง อาหาเรปฎิกูลสัญญา
๑๒.ห้อง จตุธาตุววัฏฐาน
๑๓.ห้อง อรูปฌาน

ตั้งแต่ห้อง อนุสสติ ๗ ประการ ถึงห้องอรูปฌาน เป็นอรูปกรรมฐาน สอบอารมณ์ สอบสภาวธรรม จิตได้สภาวธรรมเต็มที่ การเจริญวิปัสสนา ก็แจ่มแจ้งยิ่งขึ้น เมื่อจะขึ้น พวิปัสสนาฌาน ให้ทำฌานสมาบัติแปด ถอยมาถึง ตติยฌาน แล้วเจริญ พระวิปัสสนา

(จบสมถะ)

======================================================
วิปัสสนากรรมฐาน มัชฌิมาแบบ ลำดับ

๑.เจริญวิสุทธิเจ็ดประการ เอาองค์ฌาน เป็นบาทฐาน
๒.พระไตรลักษณะญาณ ๓
๓.พระอนุวิปัสสนา ๓
๔.พระวิโมกข์ ๓ ประการ
๕.พระอนุวิปัสสนาวิโมกข์ ๓
๖.พระวิปัสสนาญาณ ๑๐
๗.พระโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ เป็นบาทรองรับวิปัสสนา
๘.สัญโญชน์ ๑๐ เพื่อให้รู้กิเลสที่จะละ
๙.ออกบัวบานพรหมวิหาร เจริญเพื่อละพยาบาท เป็นหนทางสู่ มรรค ผล นิพพาน

(จบ-สมถะ-วิปัสสนามัชฌิมา แบบลำดับ)

======================================================



23  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / 11กรกฎาคมรับพระผงผสมเกศาหลวงตามหาบัว+ฟังธรรมะหลวงตาเยื้อนวัดเขาศาลาที่จุฬา เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2011, 03:51:06 pm
ขอเชิญพี่น้องชาวจุฬาฯ และผู้สนใจ เข้าร่วมกราบนมัสการ ทำบุญ และฟังธรรม
จากพระธุดงคกรรมฐาน
หลวงตาเยื้อน ขันติพโล วัดเขาศาลาฐานะอตุลฐานะจาโร จ.สุรินทร์






ครั้งหนึ่งในชีวิต คุณเคยทำบุญกับพระที่เล่าลือว่าท่านเป็นพร​ะอรหันต์หรือไม่??
ขอเชิญพี่น้อง นิสิตเก่า นิสิตปัจจุบัน จุฬาฯ เยาวชนและญาติธรรมผู้สนใจทุกท่าน
เข้าร่วมกราบนมัสการ หลวงตาเยื้อน ขันติพโล วัดเขาศาลาฐานะอตุลฐานะจาโร จ.สุรินทร์

ณ ห้อง๒๑๑ (ห้องสมุดสุภาฯ) ชั้น ๒ คณะ เศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๖.๐๐-๑๘.๐๐น.
ฟังธรรม ในหัวข้อ "สุขกับงาน เบิกบานกับชีวิต"
จะจัดให้พี่น้องทั้งหลายได้เข้านมัสการอย่​างใกล้ชิด และทำบุญกับท่านด้วยมือของพี่น้องทุกท่านเ​อง(ถ้าไม่ติดขัดจนเกินไปนะครับ)
และร่วมถวายพระบรมสาีรีริกธาตุ สีประดุจฉัพพรรณรังสี สิบสองผอบ เพื่อบรรจุพระพุทธรูป "พระพุทธบารมี สยามบุรีพิทักษ์" ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ และความร่มเย็นของสันติสุขของทั้งสองฝ่าย

จึงขอเชิญพี่น้องทุกท่าน ร่วมสร้างมหากุศล กับพระสุปฏิปันโน และร่วมรักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยเลือดรักชาติ อันเต็มเปี่ยมด้วยกันนะครับ

"การสั่งสมบุญนำสุขมาให้" งานนี้หลวงตาท่าน นั่งรถมาจากสุรินทร์เพื่องานนี้โดยเฉพาะ โอกาสสำคัญแบบนี้ พลาดไม่ได้นะครับ
สอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติม ๐๘๘-๒๓๗-๗๔๗๗ ณัฏฐกรณ์ (ตั้งแต่ ๑๘.๐๐-๒๓.๕๙น. )


[url=http://board.palungjit.com/f63/11]http://board.palungjit.com/f63/11
ก-ค-54ร​่วมฟังธรรมหลวงตาเยื้อน-เกศาท่านเป็นพระธา​ตุแล้ว-ที่กลุ่มสมาธิ-จุฬาฯ-296366.html[/url]

=================
ผู้ที่สนใจ  เข้าร่วมฟังธรรม
จะได้รับพระผง อุดมสิริสุขโตทวีป (ชุดทำน้ำมนต์5)


แจกประมาณ 100 องค์

ทุกองค์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุข้าวบิณฑ์

ปางยืนทรงเครื่องจักรพรรดิเปิดโลก
อธิษฐานจิต โดย หลวงปู่ศรี มหาวีโร


นอกจากนี้ มีชนวนมวลสารหลายชนิด เช่น

[size=30pt]เกศาหลวงตาพระมหาบัวญาณสัมปันโน


ผงจิตรลดา น้ำสรงพระแก้วมรกต ผงชันเพชรจากเครื่องทรงพระแก้วมรกต  ผงหลวงปู่โต๊ะ ผงหลวงปู่แหวน
ผงหลวงปู่อุตตมะ ผงเจ้าคุณนรฯ ผงงาช้าง ผงกะลาตาเดียว ผงเหล็กน้ำพี้หลวงปู่หมูน ผงหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ผงแก้วโป่งข่าม ผงพระธาตุเขาสามร้อยยอดผงมหากัน ญาท่านสวน ผงคำข้าวหลวงพ่อฤาษี
 แป้งเสกหลวงปู่บุดดา ยาอนันตคุณหลวงปู่ศรี ผงว่า108หลวงพ่อฤาษี


เกศาที่ผสมทำพระ  มีดังนี้ หลวงตามหาบัว  ท่านพ่อลี หลวงปู่ศรี มหาวีโร หลวงปู่บุญฤทธิ์ หลวงพ่อชา สุภัทโท หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่แหวน หลวงปู่ชอบ หลวงปู่สิม หลวงปู่ท่อน ฯลฯ มากมายเกือบ100รูป

ชานหมาก ของพระอริยสงฆ์มากมาย ชานหมากหลวงปู่ขาน ฐานวโร หลวงปู่ทอง จันทสิริ  หลวงปู่อว้าน เขมโก  หลวงปู่อุ่นหล้า  หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ฯลฯ

อัฐิธาตุ  หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ หลวงปู่เพียร ฯลฯ มีมากจริงๆครับ

เอาพระไปถวายหลวงปู่ท่อน ญาณธโร ท่านกล่าวว่า" พระนี้ดี ของดี ให้เอาไว้สูง อย่าเอาไว้ต่ำ เราจะแจกคนที่มาร่วมสร้างเจดีย์ ในวาระสำคัญ"

ถวายหลวงปู่ทอง จันทสิริ  ท่านกล่าวว่า "พระนี้สำคัญ เก็บไว้ให้ดี"

มอบให้กับผู้ที่มาฟังธรรม  และต้องมาร่วมงานก่อน16.30น. และอยู่ฟังธรรมจนเสร็จ

0882377477 ณัฏฐกรณ์ ผู้ที่จะรับ มีคุณสมบัติ 1.รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2. สละความอาฆาตพยาบาท 3.กตัญญูมารดาบิดา 4. ห้ามนำพระไปขาย ต้องแจกฟรีเท่านั้น

 แจกประมาณ100องค์ มาก่อนมีสิทธิ์ได้รับก่อนครับ

แจกเฉพาะที่มาร่วมงานเท่านั้น   กรุณาอ่านรายละเอียดให้เข้าใจด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ




=======================================[/size]

ออร่าของพระอุดมสิริสุขโตทวีป(เนื้อโลหะ)
ภาพจากกล้อง version 2
เป็นเหรียญแรกและเหรียญเดียวในประวัติศาสตร์ที่กล้องตัวนี้ถ่ายได้เป็นสีขาวล้วน
บ่งชี้ถึงความสงบ ความสะอาดจากสิ่งใดๆทั้งปวง สูงส่ง และไร้ความยึดติด(ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ)




ภาพจากกล้อง version 3



สีขาว เป็นสีที่มีความสมดุล และสมบูรณ์แบบมากที่สุด จะปรากฏกับพวกนักบุญ พระ หรือ ผู้ฝึกสมาธิวิปัสสนาสม่ำเสมอ
ผู้ที่มีสีขาวปรากฏอยู่ในออร่า หมายถึง กายแสงได้รับการชำระและฟอกให้บริสุทธิ์ หรืออาจหมายถึง สภาพจิตใจที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และบริสุทธิ์
แสดงถึงความบริสุทธิ์ใจของผู้สร้างพระชุดนี้เพื่อรวบรวมเด็กและเยาวชนผู้ใฝ่ใจธรรมะเพื่อช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาจริงๆ


===============
แผนที่การไปฟังธรรม




ณ ห้อง๒๑๑ (ห้องสมุดสุภาฯ) ชั้น ๒ คณะ เศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๖.๐๐-๑๘.๐๐น.
24  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววันที่ 5 ธันวาคม 2553 ตอนเช้า เมื่อ: ธันวาคม 05, 2010, 08:25:02 pm
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววันที่ 5 ธันวาคม 2553 ตอนเช้า



ขออัญเชิญกระแสพระราชดำรัสมาให้อ่านกันนะครับ


"ขอขอบพระทัยและขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่งที่มีไมตรีจิต
พรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิดรวมทั้งให้สำคัญคำมั่นสัญญาโดยประการต่างๆ
ข้าพเจ้าขอสนองพรและไมตรีจิตทั้งนั้นด้วยใจจริงเช่นกัน

บ้านเมืองของเราเป็นปึกแผ่นมั่นคงและร่มเย็นเป็นปกติสุขสืบมาช้านาน เพราะเรามีความยินดียึดมั่นในชาติ
และต่างร่วมแรงร่วมใจกันบำเพ็ญกรณียกิจต่าง ๆ ทำหน้าที่โดยถือประโยชน์ส่วนรวมของชาติ
เป็นเป้าหมายสำคัญสุด ท่านทั้งหลายในสมาคมนี้ตลอดจนคนไทยทุกหมู่เหล่า จึงควรจะได้
ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนไว้ให้กระจ่าง แล้วตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด
มีความไม่ประมาทและด้วยความมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ เพราะการกระทำโดยประมาทขาดความรอบคอบ
เป็นเหตุให้เกิดความผิดพลาดเสียหายในหน้าที่และการกระทำโดยขาดสติยั้งคิด
ขาดเหตุผลความรู้จักถูกผิดนั้นเป็นเหตุให้เกิดความหลงความลืมตัว ทำให้กระทำสิทธิ์
ที่ไม่ใช่หน้าที่โดยชอบได้ ซึ่งเป็นอันตรายมาก อาจจะนำความเสียเสื่อมสลายมาสู่ตนเองตลอดถึงประเทศชาติได้
จึงขอให้ทุกคนได้สังวรระวังให้มาก และประคับประคองกายใจให้เที่ยงตรงหนักแน่น
ในอันที่จะปฏิบัติภารกิจในตนของตนให้ถูกต้องตามหน้าที่ เพื่อความมั่นคงและเพื่อสามารถ
ประโยชน์สุขอันยั่งยืนของชาติบ้านเมืองเรา

ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านให้ปราศจากทุกข์
ปราศจากภัยและอำนวยสุขศิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลให้สำเร็จผลแก่ท่านทั่วหน้ากัน"

============

ดูโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกจากโรงพยาบาลศิริราช
จนกระทั่งเสด็จถึงวัดพระแก้ว มีประชาชนรับเสด็จสองข้างทางเป็นจำนวนมาก ประทับใจคำปฏิญาน
ของทหารรักษาพระองค์มาก พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสกับผู้ที่เข้าเฝ้าและประชาชน
ซึ่งขออัญเชิญกระแสพระราชดำรัสมาให้อ่านกันนะครับ

หากมีข้อผิดพลาดประการใดเกล้ากระหม่อมขอพระราชทานอภัยโทษมา ณ ที่นี้ด้วยเทอญ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ถอดความพระราชดำรัสโดย

คุณพยัพหมอก และคุณบุญโทนคนซื่อ pantip.com

credit:บางส่วนจาก
http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=1149.msg8957#msg8957
25  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / แจกเหรียญทำน้ำมนต์หลวงปู่ศรี มหาวีโรเพื่อช่วยป้องกันภัยภิบัติ เมื่อ: กันยายน 11, 2010, 04:54:50 pm
แจกเหรียญทำน้ำมนต์หลวงปู่ศรี มหาวีโรเพื่อช่วยป้องกันภัยภิบัติ 
   
(หวังว่าคงไม่ผิดห้องนะครับถ้าผิดAdmin กรุณาย้ายให้ด้วยนะครับ   
ขออภัยและขออโหสิกรรมทุกท่านล่วงหน้าด้วยนะครับถ้ามีข้อความใดไม่เหมาะสม)

ประกาศแจกเหรียญทำน้ำมนต์หลวงปู่ศรี มหาวีโรวัดป่ากุงรุ่น3เพื่อช่วยป้องกันภัยภิบัติ

ท่านใดสนใจกรุณาเข้ามาที่กระทู้นี้ครับ
http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=825.0

ภาพเหรียญทำน้ำมนต์(credit เว็บอุดร108ครับ)


ภาพauraวัตถุมงคลที่กำลังจะแจกครับ;เหรียญทำน้ำมนต์หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง


credit ภาพลิขสิทธิ์ของพี่หมอเทวดาจากเว็บพลังจิตครับ

เหรียญทำน้ำมนต์ ลป.ศรี มหาวีโรรุ่น3

พลังซ้อนพลัง จากเหลือง กลายเป็น เหลืองอมเขียว เหลืองอมส้ม เหลืองอมแดง เหลืองอมขาวพลังงานคลุมเต็มพื้นที่ frame พุทธคุณครอบจักรวาล
อยาก ได้อะไร(ที่ไม่เกินกฎแห่งกรรม)ก็อธิษฐานเอาได้ครับ ทั้งป้องกันและแก้ไข อีกทั้งโชคลาภอีกด้วย จากภาพออร่าแปลได้ว่าเหรียญนี้ ฤทธิ์มาก ไสยศาสตร์และภัยพิบัติยาก

ที่จะโดน มีรายงานเรื่องโชคลาภมาก บางคนเรียกเหรียญเศรษฐี

เหรียญชุดนี้คุณประโยชน์มากมายจริงๆครับ ใช้ทำน้ำมนต์ก็ได้ทั้งป้องกันทั้งแก้ไขพุทธคุณ ครอบจักรวาลครบทุกด้าน

กัน ทั้งรังสีนิวส์เคลียร์ รังสีต่างๆ โรคระบาด โรคภัยไข้เจ็บ ภัยพิบัติต่างๆ เป็นมหาสะท้อน
มหาคุ้มกันภัย มหาเมตตา มหาโชคลาภค้าขาย หนุนดวง กลับร้ายกลายเป็นดีกำทำสมาธิก็ดีสามารถช่วยให้จิตสงบเป็นสมาธิได้ดี,มีผู้ใช้ได้ผลมาแล้ว (ก่อนนำมากำขอบารมี

พระควรนำไปเลี่ยมก่อนนะครับเพื่อกันการปรามาสพระ)

===================================
แถมครับ
ขอมอบพระบรมสารีริกธาตุให้ผู้สนใจครับ(แต่ต้องมารับด้วยตนเองนะครับ)
 ท่านใดสนใจกรุณาเข้ามาที่กระทู้นี้ครับ

http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=827.msg5099#msg5099



หน้า: [1]