ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมะ...ธรรมชาติ (ก็มันคือความจริงของชีวิต)  (อ่าน 1607 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

รักหนอ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +22/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 369
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คุณหมอก้อยค่ะ



ธรรมะ...ธรรมชาติ (ก็มันคือความจริงของชีวิต)
posted on 01 May 2010 23:26 by koymoo

ยิ่งพยายามเหวี่ยงชีวิตให้โลดแล่นไปตามความสนุกของสังคมเท่าไร ยิ่งรู้สึกว่าในใจกลับยิ่งเปล่าเปลี่ยวมากขึ้นเท่านั้น


สุดท้ายก็ต้องกลับมานั่ง พิจารณา ความเป็นจริงของชีวิตตามเดิม นั่นก็คือ "ชีวิตที่มีธรรมะ" หรือเป็นความจริงของธรรมชาติที่เกี่ยวกับชีวิต...

เพราะความจริงแล้ว คำตอบมันก็อยู่แทบเท้าเรานี่เอง...


ความสุขที่เราคิดว่าต้องถูกปรนนิบัติจากอามิสวัตถุภายนอกหรือกิเลสตัณหาต่างๆที่เรารับมาจากประสาทสัมผัสทั้งห้าหรือแม้แต่ "ทางใจ"...

อยากให้ทุกคนได้ลองหยุดคิดและพิจารณาสำรวจภาย ในตนสักนิด... ว่าตอนนี้เราเอง ใช้ชีวิตและมีจิตใจห่างไกลจากสิ่งที่เป็น ดั้งเดิม มากน้อยแค่ไหน...

....เข่นฆ่า... อาฆาต พยาบาทง... อิจฉาริษยากัน เพื่ออะไร
ในเมื่อทุกคน ต่างก็เคยเป็นญาติกันมาทั้งสิ้น

คนเราไม่เหมือนกัน ตั้งแต่ชาติกำเนิด...ดังนั้นการกระทำและความคิดจึงต่างกัน
ไม่มีใครอยากเป็นคนเลวในสายตาคนอื่น...

เพียงแต่การที่เราจะมองใครออกจากใจของเรา ให้เรามองใจของเราดูก่อนดีกว่า
ตนเอง ยังพิจารณาไม่ถี่ถ้วน ... แล้วควรแล้วหรือที่เอาตาและใจไปคอยมองแต่สิ่งที่อยู่ภายนอกจิตใจตนเอง...

ถ้าเร่าไม่อยากให้ใครทำแบบไหนกับเรา ก็อย่าทำกับเค้าแบบนั้น แม้กระทั่ง "กรรมทางความคิด" หรือ มโนกรรม ก็ส่งผล หมอพิสูจน์มาแล้ว...และเห็นประจักษ์ 100% เลยว่า ฟ้ามีตา เวรกรรมมีจริง ... ผลแห่งความคิดและการกระทำมีจริง

ทุกอย่างในโลกล้วนเคลื่อนไหวและดึงดูดสรรพสิ่งด้วยพลังงาน...ดังนั้น แค่ความคิด ก็อย่าคิดว่า จะไม่มีผล!

                       

ตัวหมอ่น่ะ...ไม่ได้อยากจะปรัชญงปรัชญาหรือมธรรมะอะไรมากมาย...

แต่จะหมอทำอย่างไรล่ะ...
ก็ ในเมื่อ ทุกอย่างในธรรมะ มันคือ "ความจริงทั้งสิ้น"...

การมีชีวิตอยู่ด้วยปรัชญาแห่งการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง มีคนต้นแบบที่ดีงาม และมีธรรมะในจิตใจนั้น

หมอคิดว่า เป็นชีวิตที่มีความสุข เพราะสิ่งเหล่านี้จะไม่ดึงเราไปจากความเป็นจริง และจะทำให้ใจของเรา ปล่อยวางเรื่องบางเรื่องได้อย่างสบาย

แต่อย่าลืมว่า การกระทำทุกการกระทำ ต้องเดินทางสายกลาง และมีสติปัญญาประคองไปด้วยเสมอ...
หมายถึงว่า สิ่งไหนพิจารณาแล้ว ว่า ทำแล้วไม่เกิดประโยชน์ ก็ควรละสิ่งนั้น... และหันมาใช้ชีวิตในทางที่เจริญและดีงาม...

โลกใบนี้มีความจริงรอให้ค้นพบอีกมากมาย
โลกที่เราเหยียบ...เรามองมันแค่สามมิติ ทั้งๆที่มีอีก สิบมิติ ให้เราได้ค้นหา...

อย่าใช้ชีวิตไปวันๆ...
อย่าเสียเวลาไปกับเรื่องไม่สมควรและไร้สาระ

ให้ธรรมะนำทาง...
มีชีวิตอยู่โดยคิดจะให้... ไม่ใช่คิดแต่จะเอา...

From: หมอก้อย

ที่มา

http://koymoo.exteen.com/20100501/entry
บันทึกการเข้า