หัวข้อ: ssd เทคโนโลยี ที่จะมาแทน harddisk เริ่มหัวข้อโดย: เสริมสุข ที่ สิงหาคม 20, 2011, 04:56:00 pm (http://vhttp://www.oknation.net/blog/home/blog_data/487/16487/images/6-4-07-sandisk_5000_ssd.jpg)
SSD : Solid State Drives SSD เป็นการใช้ชิปหน่วยความจำเก็บข้อมูลแทนจานแม่เหล็กในฮาร์ดดิสก์ พูดง่ายๆก็เหมือนกับ FlashDrive ที่เราใช้กันอยู่ในทุกวันนี้นั่นเอง มีส่วนประกอบสำคัญ 2 ส่วน คือชิปหน่วยความจำ กับชิปคอนโทรลเลอร์สำหรับควบคุมการทำงานของ SSD SSD นั้นผลิตได้่ 2 แบบ คือ 1. NOR Flash (หน่วยความจำจะถูกเชื่อมต่อ กันแบบขนาน ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างอิสระ อ่านข้อมูลเร็วมาก แต่ มีความจุต่ำ และราคาแพงมาก) 2. NAND Flash (เป็นแบบเข้าถึงข้อมูลทีละบล๊อก ทำให้มีความจุสูง ราคาถูก) FlashDrive ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้จึงเป็นแบบ NAND Flash เพราะราคาถูกกว่า ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท - Single-Level Cell (SLC) : ในแต่ละเซลเก็บข้อมูลได้ 1 บิต ทำงานเร็ว กินพลังน้อย และมีอายุการใช้งานนาน (เขียนได้ 1 แสนครั้งโดยประมาณ) แต่ราคาสูง - Multi-Level Cell (MLC) : 1 เซลเก็บข้อมูลได้มากกว่า 1 บิต (ปัจจุบัน 1 เซลเก็บได้ 2 บิต และอยู่ในระหว่างการพัฒนาให้เก็บได้มากขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วต่ำกว่า ใช้พลังงานมากกว่า SLC เขียนได้ ไม่เกิน 1 หมื่นครั้ง แต่มีราคาถูก) ข้อดีของ SSD - ใช้เวลาเข้าถึงข้อมูลน้อยกว่าฮาร์ดดิสก์ เพราะไม่มีหัวอ่าน ไม่มีจานแม่เหล็ก ไม่ต้องหมุน สามารถเข้าถึงข้อมูลได้เลย ปัจจุบัน SSD มีความเร็วในการอ่านถึง 120 MB/s และเขียนที่ 100MB/s ซึ่งเกือบจะเร็วเท่าฮาร์ดดิสก ์ที่เร็วที่สุดอยู่แล้ว และสามารถพัฒนาไปได้อีกไกล(นี่เพิ่งเริ่มต้น) - เงียบ เพราะไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวได้เหมือนอาร์ดดิสก์ - ทนแรงกระแทก การสั่นสะเทือน และอุณหภูมิที่สูงกว่า - น้ำหนักเบา - ที่สำคัญ ปัญหาเรื่อง การกระจายของไฟล์ (File Fragmentation) ไม่มีผลต่อ ความเร็วของ SSD อีก (เพราะอะไรเดวจะเข้าใจ) เพราะฉะนั้น โปรแกรม Defrag จึงไม่จำเป็นต่อ SSD ข้อเสีย - ราคาแพงมาก เมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสก์ - ความจุต่ำ - ความคงทนในการใช้งาน อย่างที่เคยกล่าวไว้แล้วว่า เขียนได้แบบจำกัดจำนวนครั้งต่อ 1 บล๊อก ส่วนอ่านไม่มีปัญหา จึงได้มีการพัฒนา เทคนิค "Wear-Leveling" ขึ้นมาเพื่อช่วยยืด อายุการใช้งานหน่วยความจำแบบ Flash หลักการทำงาน คือ ทำการกระจาย การเขียนข้อมูลไปยังทุกๆบล๊อกของหน่วยความจำ เพื่อไม่ให้มีการ เขียนข้อมูลซ้ำที่ตำแน่งเดิมบ่อย ซึ่งจะทำให้เสียเร็วกว่าตำเหน่งอื่นๆ แบ่งเป็น 2 ประเภท - Static Wear-Leveling เป็นการค้นหาเนื้อที่หน่วยความจำทั้งหมด โดย จะย้ายไฟล์ในบล๊อกที่ใช้งานบ่อย ไปบล๊อกที่ใช้งานน้อยที่สุด โดยจะย้ายทั้งไฟล์ระบบ หรือไฟล์ที่ปกติไม่มีการย้ายหรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่ - Dynamic Wear-Leveling คล้ายกับประเภทแรก แต่จะไม่ยุ่งกับ พวกไฟล์ระบบ การย้ายและเขียนข้อมูลใหม่จึงทำในส่วนบล๊อคที่เป็นข้อมูลทั่วไป และบล๊อกที่ว่างอยู่ (กระจายแต่ไม่ทั่วทั้งความจุ) ถึงแม้ว่าผู้ผลิตจะมีเทคนิคดังกล่าว แต่ความคงทนในการใช้งาน ก็ยังมีความคลุมเครืออยู่พอสมควร ผู้ผลิตบางที่บอก แสน บางที่บอกล้านครั้ง ส่วนการดูแลรักษาก็ไม่มีไรมาก ถึกกว่า HDD เสียอีก ที่สำคัญ ต้องย้ำเลยนะครับว่า ไม่มีความจำเป็นต้อง Defreg ข้อมูลเลย เพราะจะทำให้ SSD เสื่อมสภาพไวกว่าที่ควร เพราะจากคุณสมบัติข้างต้น เป็นอย่างไรบ้างกับบทความที่ย่อมาฝากหวังว่าคงมีประโยชน์กานนะ กว่าจะพิมพ์หมดเหมื่อยๆ ขอบคุณ หนังสือ Shopping Computer |