ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - รักหนอ
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9
281  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: อธิวาสนะขันติ คืออะไร ครับ เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 06:25:53 am
อนุโมทนา คะ

 :25: :25:
282  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เชิญร่วมฝึกสมาธิ กับ อาจารย์ทองทิพย์ โอภาโส เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 06:24:10 am
อนุโมทนา คะ

 :25:
283  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / Re: แนะนำเ็ว็บธรรมะ ชาวเชียงใหม่ ( วัดอุโมงค์ เจ๊า ) เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 06:23:37 am
อนุโมทนา คะ
 :25:
284  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เจ้าชายสิทธัตถะรู้ชัดแน่แท้แล้ว ว่า จักได้ตรัสรู้เป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อ: กันยายน 18, 2010, 01:29:50 pm
ตามประวัติพระไตรปิฏก นั้น

 ครั้งที่ 1 เจ้าชายสิทธัตถะ ครั้นออกอภิเนษกรม แล้ว ตอนปลงพระเกศานั้น

   ก็เสีียงทายด้วยสามารถ หากเราจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ ขอให้เส้นผมนี้อย่าล่วงหล่นสู่ธรณี

   พอปลงพระเกศา พระอินทร์ก็น้อมรับพระเกศา ไปด้วยฤทธิ์ บรรจุไว้ใน จุฬามณี


 ครั้งที่ 2 นักบวชสิทธัตถะ ก็อธิษฐานตอนคลายความเพียร ด้วยการทรมานตน ด้วยการเสวย

 ข้าวมธุปายาส ของนางสุชาดา พร้อมกันนั้น ก็ได้อธิษฐาน ลอยถาดทองคำ ด้วยการอธิษฐานว่า

 หากเราจักได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วขอให้ถาดทองคำนี่จงลอย ทวนน้ำ

 ถาดนั้นก็ลอยทวนน้ำ และลงไปทับถาดของพระพุทธเจ้าอีก 3 พระองค์ในกัปป์นี้ ที่เมืองนาค


ครั้งที่ 3 ที่พระองค์ทรงเห็นโอภาสในค่ำคืนวิสาข นั้น พระองค์จึงทรงอธิษฐานอีกครั้งด้วยความมั่นใจ

ว่าจะได้บรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเ้จ้า อีกครั้งหนึ่ง

 แม้เลือดและหนัง เอ็นกระดูก ของเรานี้ จักเหือดแห้งไปก็ตามที หากเรายังไม่ได้บรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ก็จักไม่ลุกจากบัลลังก์นี้


( จากการวิเคราะห์ นั้น นักบวชสิทธัตถะ สามารถเข้าสมาบัติ 8 และ 9 ได้อยู่แล้วเนื่องด้วยสำเร็จ สมาบัติ

มาจากสำนัก อุทกดาบส และ อาฬารกดาบส ซึ่งเป็น อรูปกรรมฐาน ดังนั้นแม้ นักบวชสิทธัตถะ หรือดาบส

อธิษฐานเช่นนั้น ก็ย่อมรู้กำลังของตนอยู่แล้วว่า สามารถเข้าสมาบัติได้ไม่ต่ำกว่า 15 วัน และเพราะพระองค์

ได้ผ่านการทรมานตนด้วยการอดอาหารมา เป็นเวลา 6 ปี จึงรู้กำลังว่าเสวยครั้งนี้จะสามารถเข้าสมาบัติได้นาน

เท่าใด ดังนั้นเนื่องจากทุกครั้งนั้น พระสติของพระองค์พะวงด้วยเรื่องอาหารบ้าง วิธีการบ้าง แต่ครั้งนี้ ดาบส

ก็รู้แล้วว่าการทำเช่นนั้นด้วยการทรมานกายไม่เกิดประโยชน์อะไร นอกจากตบะทางจิต พระองค์เห็นหนทางแล้ว

จึงได้เจริญ อานาปานสติกรรมฐาน ด้วยความปล่อยวาง จากกาย และ จิต และกลับมาพิจารณาความจริงแห่ง

สัจจธรรมคือ พระอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ( แหมเขียนยังกับว่ารู้ภาวะของพระดาบสเลย ไม่ใช่คะจำมาจากพระ

อาจารย์คะ ) ในค่ำคืนนั้นพระองค์ จึงได้เข้าสู่การบรรลุญาณ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตามลำดับ คะ

 แต่ครั้งนี้พระทัยของพระองค์นึำกไปถึง การเข้า ปฐมฌาน ตอนพระเยาว์โดยบังเอิญนั้นเป็น สมาธิอันเนื่อง

ด้วยแสงสว่าง ที่วางและว่าง พระองค์จึงกำหนดอารมณ์นั้นเป็นกำลัีงในสมาธิ จึงทำให้จิตไม่ถูกย้อมด้วยวิธีการ

ทั้งปวง และเนื่องด้วยวิบากกรรมของพระองค์หมดแล้ว จึงได้สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


 :25: :25:
Aeva Debug: 0.0006 seconds.
285  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หลักปฏิบัติง่าย ๆ ที่สุด ในการเดินจิตไว เมื่อ: กันยายน 18, 2010, 01:11:21 pm

อ้างถึง
ขอเป็นกำลังแรงใจให้ คุณปอง และคุณรักหนอ
:13: :25:
286  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หลักปฏิบัติง่าย ๆ ที่สุด ในการเดินจิตไว เมื่อ: กันยายน 18, 2010, 09:34:18 am
อ้างถึง
อาจารย์ท่านสั่งให้อัดขันธ์ค่ะ "
ถามว่า " อัดขันธ์เป็นอย่างไร "
ได้รับคำตอบว่า " อาจารย์ให้กลั้นใจ "

คำพูด ประโยคว่า อาจารย์ ต่อไปควรระบุนามนะคะ เพราะว่าผู้อ่านที่ไม่เข้่าใจ อาจจะนึกว่า

เป็นคำพูดของพระอาจารย์สนธยา คะ

ขอตอบแทนพระอาจารย์นะคะ ว่าพระอาจารย์ไม่เคยสอนคำว่า อัดขันธ์ หรือ กลั้นใจ คะ


เคยได้ยินแต่ ฟอกธาตุ ฟอกขันธ์ สลายขันธ์ สลายกาย สลายจิต

ดังนั้น วิธีการที่อ้างถึง ไม่ใช่คำพูดของพระอาจารย์สนธยา ขอให้เพื่อนสมาชิก เวลาใช้คำว่า

อาจารย์ ควรระุบุชื่อ ไว้ด้วยคะ ป้องกันการเข้าใจผิดในเนื้อหา


ที่นี้่มากล่าว เรื่อง การอัดนิ่ง นั้นเป็นอัตตกิลมถานุโยค หรือไม่ ก็ขอตอบว่าไม่เพราะเป็นธรรมชาติของผู้

ได้ฌาน ตั้งแต่ ฌาน 3 ขึ้นไป เพราในสภาวะอัดนิ่งจะเป็นอยู่มากเช่นนั้น จึงมีคำกล่าวแสดงไว้ในพระไตรปิฏก

ว่าเป็นสภาวะที่ไม่หายใจ หรือ หายใจน้อย เพราะอยู่ในสภาวะอัดนิ่ง

สำหรับ รักหนอ เคยได้ฟังเรื่อง สติปัฏฐาน สันโดด พระนิพนธ์ ของหลวงปู่

ก็กล่าวเรื่องนี้ไว้ โดยการฝึกอัดนิ่งไว้ ที่ 16 อักขระ อันประกอบด้วย อักขระ อ อา เป็นต้น

หรือนับเนื่อง กำหนดห้วงไว้ที่ 37 เม็ดประคำ  ไม่ใช่ให้ตั้งหน้าตั้งตา กลั้นหายใจ

แต่ทุกครั้งที่ทำให้วางจิต เป็นไปพระิินิพพาน ทำอุปสมานุสสติ ไว้ขณะนั้น

การทำเยี่ยงนี้เรียกว่า นิวาสจิต หรือ นิสวาตะ

ดังนั้นการฝึกอัดนิ่ง นั้นเป็นธรรมชาติของจิตละเอียด ที่เป็นสมาธิ

จุดประสงค์เบื้องต้น ของคนที่ยังไม่มี ฌานลาภี ก็เพื่อทำให้ นิวรณ์ระงับ

คุณต้องลองหายใจแบบนั้นดู จะทำให้คุณเหนื่อย จะมีผลเหมือนไปเดินจงกรม เช่นกัน

ทำให้จิตหายเร่าร้อนในช่วงนั้นได้ เพราะวางอารมณ์ถูกเพื่อพระนิพพานไว้ด้วย


ฟังคนอื่นวิจารณ์ ไม่สู้เท่ากับลงมือทำเอง

คนวิจารณ์อาจจะไม่เคยฝึก หรือ มีอคติไว้ล่วงหน้า

ดังนั้น กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ จึงไม่มุ่ง สันโดดใน กรรมฐาน กองใด กองหนึ่ง

เพราะจริต และ บารมี ของการสั่งสมมาแตกต่างกัน
 :25: :25:



287  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หลักปฏิบัติง่าย ๆ ที่สุด ในการเดินจิตไว เมื่อ: กันยายน 15, 2010, 07:14:08 am
 :25: :25:

288  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / นิมนต์พระอาจารย์ อบรมกรรมฐาน 4 ชั่วโมงที่วิทยาลัย เมื่อ: กันยายน 14, 2010, 08:12:35 am
ทางทีม รักหนอ มี พี่วิริยา พี่หมวดAxe คุณหมวยจ้า ได้คุยกับกลุ่ม เรื่องกิจกรรมเกี่ยวกับพระสงฆ์ ใน ม.

ก็ได้รับมติเสียง ให้จัดมีการบรรยายธรรมะ เพื่อเป็นมงคลแก่ นักศึกษา จำนวน 120 คน ตั้งแต่ บ่ายโมง - สี่โมงเย็น 2 คาบ โดยจัดให้ทีม รับผิดชอบ นิมนต์พระสงฆ์ มาอบรม

จึงต้องการนิมนต์พระอาจารย์ มาอบรมคะ

 :25: :25:
289  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / การใช้ สติ กับการมี สมาธิ เป็นองค์เดียวกันหรือป่าวคะ เมื่อ: กันยายน 14, 2010, 08:08:52 am
ได้ไปฟัง อธิบาย การสอนปฏิบัติสติ และ พระคุณเจ้า

ที่สอนได้บอกโยม สติ กับ สมาธิ คือองค์เดียวกัน

จึงเรียนถามพระอาจารย์ เพื่อความกระจ่าง ว่า

 สติ กับ สมาธิ เป็นองค์เดียวกันหรือป่าวคะ

 :25: :25:
290  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ห้องกรรมฐาน มีทั้งหมด กี่ห้อง คะ เมื่อ: กันยายน 14, 2010, 08:06:35 am
อ้างถึง
1. ห้องพระธรรมปีติ 5 พระองค์ แยก กาย แยก ใจ

 ทำไมห้อง นี้จึงชื่อว่า แยกกาย แยกใจ คะเพราะ การภาวนา

  ควรจะหมายถึง รวมกาย และ ใจ ไม่ใช่หรือคะ

 :25: :25: :25:
291  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ไำฟทั้งสี่ ผู้ปฏิบัติ พึงสังวร ครั้นเมื่อจะตายจักเป็นที่พึ่ง เมื่อ: กันยายน 14, 2010, 08:05:25 am
รักหนอ พยายาม อ่านก็พอเข้าใจว่า ต้องมีไฟ หรือ ต้องได้ไฟ

อยากเรียนถามพระอาจารย์ว่า

   เอาแค่ ไฟหิ่งห้อย จักทำให้เกิดได้อย่างไร คะ

   รักหนอ ปรารถนาเบื้องต้น เท่านี้ก่อน คะ


 :25: :25: :25:
292  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สุดมือสอยก็ปล่อยมันไป เมื่อ: กันยายน 14, 2010, 08:02:29 am


สุดมือสอยก็ปล่อยมันไป

เมื่อคุณชี้แจงไป แล้ว เขาก็ควรจะยอมรับฟัง แต่เมื่อเขาไม่ฟัง และคุณก็ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุดไปแล้ว ก็คงต้อง “ ปล่อยมันไป ”

ในโลกนี้ มีเรื่องอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างที่เราไม่สามารถให้เวลากับมัน หรือไม่สามารถทำในสิ่งนั้นให้ดีที่สุด   แต่แล้วเราก็ต้องปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นผ่านไป เพราะหากเรามัว แต่จะ “ นับเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา ” เวลาของคุณคงไม่พอเป็นแน่
( มีความหมายว่า จะพยายามทำให้คนทั้งโลกรู้สึกพอใจตัวเองในทุกเรื่อง) 

ดังนั้น ทำอะไรก็ตาม ควรทำเท่าที่เราทำได้ เมื่อทำอย่างดีที่สุดแล้ว คนเขาไม่เห็นว่าดีก็ต้อง “ ปล่อยมันไป ”

เลือกทำในสิ่งที่เห็นว่า เราถนัดที่สุด และมีความสุขที่จะทำก็พอแล้ว
อะไรก็ตาม ที่เราไม่ถนัด หรือถึงถนัด...แต่ไม่มีความสุขที่จะทำ ก็อย่าทำ

เรามีเวลาไม่มาก นักหรอกที่จะแบกสารพัดภาระในโลกนี้ ควรมองไหล่ของตัวเองดูสักหน่อยว่า พร้อมจะแบกเป้หลังที่มีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด อย่าแบกอะไรที่เกินกำลังของตัวเองเพราะไม่เพียงแต่มันจะทำให้คุณเป็นทุกข์ แต่บางทีอาจมีผลต่อการยืนตรงๆ อย่างยาวนานของคุณด้วย

ขออนุโมทนาขอบคุณชาวพุทธทุกท่านที่กรุณา forward mail แนะนำธรรมทานนี้ต่อ ๆ กันไป 
ทางชมรมฯ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ใด ๆ   และขออภัยอย่างสูง   หาก mail นี้รบกวนท่าน
กรุณา reply เพื่อปฏิเสธการรับ mail ครั้งต่อ ไปด้วย
293  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เรื่องสั้น ๆ เสน่ห์ยาแฝด เมื่อ: กันยายน 07, 2010, 06:14:31 am
ฉันกับแฟนคบกันมา 4 ปี มีโครงการจะแต่งงานกันสิ้นปีนี้ แต่แล้วจู่ ๆ เค้าก็มาบอกว่า 'เราเลิกกัน

เค้าไม่ได้รักฉันแล้ว ตอนนี้เค้าพบคนใหม่ ตลอดเวลาเค้าหลอกฉันมาตลอดว่ารัก เค้าจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่สิ้นปีนี้'ฉัน ทำทุกวิถีทางเพื่อจะฉุดรั้งเค้ากลับมา ฉันถามว่าฉันผิดตรงไหน ไม่ดีตรงไหน ฉันจะปรับปรุงตัวใหม่ เค้าต้องการอะไรฉันทำให้ได้ทุกอย่างและยอมทุกอย่าง ขอเพียงแค่ 'กลับมาเหมือนเดิม' แต่สิ่งที่ฉันได้รับคือความเฉยชา,หงุดหงิด,รำคาญ ทำอะไรก็ผิดไปหมด

เพื่อนแนะนำฉันให้ 'ไปทำเสน่ห์' ปกติฉันเป็นคนที่กลัวเรื่องพวกนี้ไม่อยากยุ่งเกี่ยว

ไม่อยากเข้าใกล้ แต่....ณ จุดจุดนี้ ไม่ได้แล้ว ความรักบังตาฉันยอมทุกอย่าง ขอเพียงได้เค้ากลับคืน อะไรก็ได้สำหรับฉัน ณ ตอนนี้'ปู่ฤาษี ' คือผู้ที่เพื่อนฉันพาไปหา เพื่อนบอกว่า 'ท่านเก่ง ญาติของเพื่อน สามีหนีไปอยู่กับเมียน้อยท่านก็เป็นคนเรียกกลับมา ทุกวันนี้ทั้งรักทั้งหลงภรรยา ไม่ไปมีใหม่อีกเลย' บ้านปูนชั้นเดียว มีลานจอดรถที่พอจอดรถยนต์ได้ประมาณ 10 คัน

วันแรกที่ฉันไปมีรถยนต์จอดอยู่ 3 คัน มองเข้าไปในบ้านมีคนนั่งจนล้นออกมาข้างนอกมีเสียงหัวเราะดังออกมาเป็นระยะ เพื่อนพาฉันเข้าไป ภาพที่ฉันเห็น 'ชายหนุ่มอายุน่าจะประมาณ 28 – 29 ปี ผมยาวมีลายสักเต็มตัว นัยต์ตาหวานเยิ้ม มือคีบบุหรี่พูดไป ยิ้มไป ปล่อยมุกสนุกสนาน ทำให้ผู้ที่เข้ามาหาหัวเราะเป็นระยะ ๆ นุ่งชุดลายเสือ ดูดีมีเสน่ห์' คน นี้เรอะที่เพื่อนบอกว่าเป็นปู่ฤาษี ทำไมยังหนุ่ม แต่ ณ วินาทีนั้นความรักบังตาไม่ได้คิดอะไร เพื่อนบอกว่าดี ฉันก็เชื่อโดยที่ไม่ได้คิดถึงเหตุการณ์ในวันข้างหน้าเลย

เราสองคนนั่งรออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง คนที่เข้ามาล็อตแรกก็ออกไป ถึงคิวของฉัน

เพื่อนแต่งขันธ์ห้า (ดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่) พร้อมเงิน 100 บาท ให้ฉันเขียนชื่อ-นามสกุล พร้อมที่อยู่ ของฉันและของแฟน ยื่นให้ปู่ฤาษี '.........(เอ่ยชื่อฉัน) ดวงไม่ดี จะถูกแย่งของรัก ....... (เอ่ยชื่อแฟน) คนนี้เป็นแฟนใช่มั๊ย?'

ฉันตอบ 'ใช่ค่ะ'

'มีอะไรจะถาม?' ท่านถามฉัน

......เงียบ .....ฉันก็ไม่รู้จะถามอะไร

เพื่อนหันมาสะกิด 'ตอบไปซิ'

ก็ไม่รู้จะตอบอะไร..........

ท่านนั่งหลับตาสวดคาถาประมาณ 5-10 คำ แล้วหันมาถาม ' รักเค้ามาก ตอนนี้ใจเศร้าหมอง ในสมอง มีแต่คิดจะฆ่าตัวตาย ........อยากได้เค้ากลับมามั๊ย?' ท่านหันมาถาม

'อยากได้ค่ะ' ฉันตอบ

'ถ้าอยากได้คืน จะช่วย แต่จะต้องจ้างน่ะ มีเงินเท่าไหร่?'

'สองพันค่ะ'

ท่านหลับตาสักพัก 'ไม่ใช่หรอก ในกระเป๋าตังค์มีเงิน ห้าพันบาท ในสมุดบัญชีมีเงินอีก 3 หมื่น'

ฉันตกใจ ท่านรู้ได้อย่างไง

'ถ้าอยากได้คืน ปู่คิดค่าจ้าง 3 หมื่น'

'ตกลงค่ะ!' ฉันตอบตกลง

'จะบ้าเหรอ.....3 หมื่นน่ะแก ไม่คิดก่อนหรือไง' เพื่อนฉันตกใจรีบหันมาถามฉัน

แต่สำหรับฉันตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญเท่าการได้แฟนกลับคืนมา

ปู่ฤาษี มองหน้ายิ้ม ๆ 'ให้ไปเอา...................................' ท่านสั่งให้ฉันนำสิ่งของมาเข้าพิธี รุ่งขึ้น เดินทางไปหาปู่ฤาษี ไปถึงก็มีคนมารอท่านเต็มอาศรมไปหมด รายแรก....มากันประมาณ 5-6 คน แต่งขันธ์ 5 จานเดียวใส่เงิน 100 บาท แต่มีรายชื่อในกระดาษประมาณ 10 ชื่อได้ ท่านรับขันธ์ 5 ไป หลับตาสวดมนต์ ดูให้ทีละคน การทำนายของท่านแม่นเหมือนตาเห็น ท่านจะทักเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยก่อนว่า เป็นลักษณะไหนอยู่ตรงไหนมีอะไรเป็นจุดเด่น (มาทราบภายหลังว่าท่านไม่ได้ดูจากวันเดือนปีเกิด แต่จะส่งจิตไปยังบ้านที่เราอาศัยอยู่เพื่อไปตรวจสอบยังสถานที่ ท่านจึงต้องถามว่าสถานที่ที่ท่านไปถูกต้องหรือไม่)

ท่านจะทักแต่ละคนตามรายชื่อที่เขียนไป จนกระทั่งไปสะดุดที่ชื่อของลูกสาวของคนที่มาดู

'มันหนีออกจากบ้านไปใช่มั๊ย?' (จริง ๆ แล้วท่านจะพูดเป็นภาษาอีสาน แต่ว่าฉันแปลเป็นภาษาภาคกลางให้เพื่อจะได้เข้าใจ)

'ใช่จ๊ะ'คนเป็นแม่พูด น้ำตาเริ่มไหล

ท่านหลับตาสวดมนต์สัก 5-10 คำ 'มันหนีไปกับผู้ชายตอนนี้มันอยู่ กาฬสินธ์ อยู่บ้านเค้า'

'ปู่ช่วยหน่อย ตามมันกลับมาให้หน่อย'แม่พูดไปพร้อมเช็ดน้ำตา ฉันเองก็พาลจะน้ำตาไหลตามไปด้วย

ท่านสวดมนต์สักพัก

'เออ....ปู่จะช่วย วันจันทร์มันจะกลับมา พอมันมาแล้วให้พามันมาหาปู่……..'ท่าน พูดปลอบใจเขาสักพักแล้วก็เริ่มสอนให้เข้าใจถึงวิถีชีวิตของมนุษย์เป็นคำสอน ตามแบบของศาสนา จนพ่อแม่ของน้องผู้หญิงผ่อนคลายหายเศร้าท่านจึงให้กลับ

รายที่ สอง เป็นชาวบ้านมาประมาณ 4-5 คน รายนี้ภรรยาหนีตามชู้ไป

ทิ้งสามีกับลูกสองคน สามีเค้ารักภรรยามาก อยากได้ภรรยาคืน ฤาษีท่านดูไปแล้วทักว่า ภรรยาของแกหนีตามผู้ชายข้างบ้านไป ผู้ชายคนนั้นก็มีภรรยาแล้วใส่เสน่ห์ภรรยาของแกด้วย พอท่านพูดถึงตรงนี้ ผู้หญิงที่มาด้วยบอกว่าเป็นสามีของแกเอง ปู่จึงหันมาถามว่าจะเอาคืนด้วยหรือ ฝ่ายหญิงตอบว่าไม่เอา

ปู่จึงหันไปถาม ฝ่ายชายว่าจะเอาคืนจริง ๆ หรือ ไม่รังเกียจเค้าหรือที่เค้าทำแบบนี้ โกรธเค้าไหม เกลียดเค้ามั๊ย ซึ่งฝ่ายชายก็ยืนยั นคำเดียวว่าจะเอาคืน ท่านถามซ้ำ 3 ครั้ง ฝ่ายชายก็ยังยืนยันคำเดิมท่านรับปากว่าจะช่วยแล้วให้บูชาของสิ่งหนึ่งไป เรียกเก็บเงิน 500 บาท ฉันเริ่มสงสัย เอ...ทำไมของฉัน 3 หมื่น ส่วนของคนนี้แค่ 500 บาท แต่ก็ยังไม่ได้ถามตอนนั้น

รายที่สามเป็นคุณยาย พาหลานสาวมากราบท่าน

บอกว่าเป็นคนนี้ที่หนีออกจากบ้านแล้วให้ท่านตามมาให้ กลับมาแล้วตามที่ท่านบอก ท่านเรียกน้องผู้หญิง (อายุประมาณ 16-17 ปี) เข้ามานั่งต่อหน้าท่านแล้วเริ่มสอน ซึ่งคำสอนของท่านฉันฟังแล้วน้ำตาแทบไหล.....

'เห็น หน้ายายมั๊ย แกเสียใจขนาดไหน เค้าเลี้ยงเรามากี่ปี แต่ผู้ชายอีกคนพึ่งเจอกันไม่เท่าไหร่ ทำไมถึงทุ่มเททุกอย่างให้เค้าได้ขนาดนั้น ยายเค้าเสียใจขนาดไหนเห็นมั๊ย? (คุณยายเริ่มเช็ดน้ำตา)

ที่ปู่ช่วยไม่ได้อยากช่วยเราน่ะ ปู่สงสารยายของเราถึงได้ช่วยเรียกกลับมา' ท่านสอนอยู่นานพอควร

เกือบบ่าย 2 ถึงคิวฉันซะที ท่านหันมายิ้ม 'เดี๋ยวจะทำน้ำมนต์ให้อาบ' ท่านให้ฉันอาบน้ำมนต์โดยท่านเป็นผู้ปลุกเสก จะมีผู้ชายอีกคนเป็นคนอาบให้

ในระหว่างที่อาบเค้าก็จะสวดคาถาไปด้วย ....หลังจากอาบน้ำมนต์เสร็จ ท่านก็ให้นำของที่เตรียมมาให้ ทำพิธีอยู่ประมาณ 10 นาที หลังเสร็จพิธีท่านผูกแขนให้ฉันแล้วสั่งให้ฉันปฏิบัติตามคำสั่ง 1. ทุกวันตอนเย็น ให้ฉันเดิน 999 ก้าว โดยให้นับทีละก้าวห้ามนับผิด หากนับผิดหรือไม่แน่ใจให้เริ่มนับใหม่

2. ก่อนนอนให้สวดมนต์ 99 จบ

3. ให้คุยกับ คุณพ่อหรือคุณแม่ทุกวัน เล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟังให้หมด ห้ามปิดบังและโกหก

4. ไม่ให้รับรู้หรือพูดคุยกับแฟนโดยเด็จขาด ภายใน 15 วัน หากผิดคำสัญญาจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่จนกว่าจะครบ 15 วัน ท่านให้ฉันปฏิบัติอยู่ 15 วันแล้วให้กลับมาหาท่านใหม่ ซึ่งท่านสัญญาว่าภายใน 15 วัน หากฉันทำได้ตามคำสั่งแฟนของฉันจะกลับมาหาฉันแน่นอน

ฉันรับปาก และเริ่มปฏิบัติตามที่ท่านสั่งไว้......เวลาเริ่มผ่านไปจากวันที่หนึ่ง

เป็นวันที่สอง วันที่สาม วันที่สี่ วันที่ห้า.......วันที่สิบห้า

วันที่ 15 ครบจำนวนวันที่ท่านสัญญาไว้ ฉันเดินทางไปหาท่านแต่เช้า......

'เป็นไง.....รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือเปล่า' ท่านถาม

'ค่ะ สบายใจขึ้น มากแล้วค่ะ'

'รักเค้ามากเลยหรือ' ท่านถาม

'ค่ะ'

'ได้โทรหาแม่ทุกวันหรือเปล่า'

'โทรค่ะ'

'แม่ว่าไง เค้าเสียใจมั๊ย'

'แม่ไม่ว่าอะไรค่ะ ท่านจะคอยปลอบใจ แล้วท่านก็เสียใจมากค่ะ'

'แม่เสียใ จ แล้วเราเสียใจมั๊ย'

.....ฉันเงียบ เริ่มคิด 'เสียใจค่ะ'

'ตอนเราร้องไห้ แม่เค้าว่าไง' ' ......แม่เค้าก็ร้องไห้ค่ะ....'

'รักแม่มั๊ย'

'รักค่ะ'

'ใครทำให้เราเสียใจ?...ใครทำให้เราเป็นแบบนี้? ผู้ชายคนนั้นใช่มั๊ย'

.......ฉันนั่งนิ่ง น้ำตาเริ่มไหล.......

'ทำ งานมาเคยให้เงินแม่บ้างมั๊ย....เวลาไปตลาดเห็นกับข้าวเคยจำได้มั๊ยว่าแม่ชอบ กินอะไร จำได้หรือเปล่าว่าตัวเราชอบกินอะไร..............ทุกวันนี้กับข้าวที่ซื้อมา กินเป็นที่เราชอบหรือเป็นที่ผู้ชายคนนั้นชอบ........ทำไมต้องให้เค้ามามี อิทธิพลอยู่เหนือตัวเองขนาดนั้น

เค้าทิ้งเราไปเพราะอะไร.......ตอบได้มั๊ย'

'.......เค้าไปมีคนใหม่ค่ะ'

'ทำไมเค้าไปมีคนใหม่'

'......ไม่ทราบค่ะ' ฉันตอบไปพลางเช็ดน้ำตา

'เพราะสันดาน......เข้าใจคำว่าสันดานมั๊ย คนดี จะคิดดี ทำดี พูดดี คนไม่ดี ความคิดมันก็เลวไปด้วย อยากจะทุกข์ทรมานอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิต ก็จะเอามันคืนให้ แต่ถ้าอยากจะมีความสุข ไม่อยากให้แม่เสียใจ มีชีวิตที่ดี เจอคนดี ๆ ก็เลิกกับมันซะ ปู่ไม่เคยเห็นใครตายเพราะอกหัก แต่ที่คนมันตายก็เพราะมันสิ้นคิด เพราะแพ้ใจตัวเอง

ใจ อ่อนแอ ถ้าไม่คิด ไม่นำจิตไปวางไว้กับมัน มันก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง บังคับตัวบังคับกายมันทำได้ แต่การบังคับใจถ้าไม่แกร่งจริงมันก็ยาก แต่ใจมันเป็นของเราถ้าเรายอมแพ้มัน เราก็จะแพ้ไปตลอดชีวิต ถ้า เราเคยเอาชนะมันได้บังคับมันได้ เราก็จะไม่มีทุกข์ ไม่มีใครช่วยเราได้หรอกหมอที่ไหนก็รักษาให้ไม่ได้ มีแต่ตัวเรากับเวลาเท่านั้นที่ช่วยตัวเราได้ ......สิบห้าวันผ่านมาเป็นไงบ้าง'

'ไม่ได้คิดอะไร ก็รู้สึกดีค่ะ'

'ทำต่อไปน่ะ ตัดใจซะ มันทำไม่ได้ทันทีหรอกแต่มันจะค่อย ๆ ดีขึ้น คิดถึงแม่ไว้ให้มาก ๆ ไม่สบายใจอะไรก็เล่าให้ เค้าฟัง ให้มีสติ อย่าไปจดจ่ออยู่กับมัน 15 วันผ่านมาไม่มีเค้าเราก็อยู่ได้ ไม่เห็นจะตายไม่ใช่หรือ ตัดใจซะเอาสมาธิไปจดจ่ออยู่กับสิ่งอื่น อย่าไปใส่ใจกับม ัน คนมันไม่ดีก็ปล่อยมันไปตามวิถีชีวิตของมัน........' ปู่ฤาษี หันไปหยิบของในย่าม เป็นเงิน 3 หมื่นบาท ยื่นคืนให้ฉัน

'เงิน 3 หมื่น ปู่ไม่เอาหรอก ให้เอาไปเก็บไว้ 2 หมื่น เอาให้แม่ 5 พัน อีก 5 พัน ไปซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอาง แต่งตัวใหม่ให้ดูดีกว่านี้' พูดจบแกก็หัวเราะ

'จำคำปู่ไว้ อย่าเชื่อใจคน อย่ามองเพียงแค่ภายนอก แล้วอย่าไปทำเสน่ห์ที่ไหนอีก ทุกคนมีเสน่ห์อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่เสน่ห์ที่เรามีจะถูกใจใครเท่านั้น พวกนุ่งผ้าเหลือง ผ้าขาว บางคนสักแต่เอาผ้ามาห่ม แต่ใจมันไม่ใช่คน เราเป็นผู้หญิงต้องระวังตัวให้ดี ถ้าเจอคนดีก็ดีไป ถ้าเจอพวกไม่ดีเราจะเสียทั้งตัว เสียทั้งเงิน เสียทั้งใจ จะไปโทษใครบอกใครก็ไม่ได้ เราโง่เอง ..หยุด...ห้ามไปทำเสน่ห์ที่ไหนอีก จำคำปู่ไว้ให้ขึ้นใจ วันนี้แฟนเราจะมาหา ก็ตัดสินใจเอาก็แล้วกัน' ฉันกลับที่พัก เริ่มนั่งคิดทบทวน เรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมา

ความเจ็บปวดที่เคยมี ทุกครั้งฉันแทบจะทนไม่ได้ถ้าคิดถึงเค้า แต่ตอนนี้ทำไมความเจ็บปวดมันลดลง เริ่มมองเห็นสิ่งต่าง ๆที่ผ่านมา จิตใจที่เคยอ่อนแอ มันเริ่มแข็งแรงตั้งแต่เมื่อไหร่ฉันไม่รู้ น้ำตาที่เคยไหลไม่หยุดหากเมื่อไหร่ที่คิดถึงเค้า ทำไมมันหายไปไหน คำสอนของปู่ก้องอยู่ในสองหู ฉันตัดสินใจ.....จากนี้ต่อไปฉันต้องเข้มแข็ง

...........เสียงเคาะประตูหน้าห้อง.....

'ใครค่ะ?' ฉันถาม

'เราเอง' เหมือนที่ปู่บอกไว้ไม่ผิด เค้ามาจริง ๆ ใจที่เคยเด็ดเดี่ยวเมื่อครู่หายไปไหนหมดหัวใจเต้นแรง ใจเริ่มอ่อน เริ่มหวั่นไหว........ 'มีธุระอะไร?' ฉันไม่ยอมเปิดประตู

'.....เราคิดถึง.....เปิดประตูให้เราหน่อย'

.......ฉันเริ่มสับสน น้ำตาเริ่มไหล จะทำไงดี..คิดถึงคำพูดของปู่ฤาษี คิดถึงหน้าแม่.......

'กลับไปก่อนน่ะ วันนี้เรายังไม่อยากคุย ตอนนี้เราอยู่กับแม่ กลับไปเถอะ' ฉันโกหกเพราะรู้ว่าตัวเองยังไม่เข้มแข็งพอ หากเจอเค้าวันนี้ฉันต้องใจอ่อนแน่นอน ทุก วันนี้ฉันฝากตัวเป็นศิษย์ของท่าน ผู้ให้ชีวิตใหม่แก่ฉัน ถ้าไม่มีท่านฉันก็ไม่รู้ว่าชีวิตของฉันจะต้องพบเจออะไร อาจจะเจอสิ่งที่เลวร้าย เจอพวกซาตานในคราบนักบุญ ต้องเสียทั้งตัว เสียทั้งใจ จึงอยากจะขอเตือนเพื่อน ๆ ที่คิดจะไปทำเสน่ห์ ให้ไตร่ตรองให้ดี ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีเหมือนฉันเสมอไปน่ะคะ
294  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ข้อคิดดี ก็มีนะ ก่อนตัดสินใจอะไรไปในทางผิด เมื่อ: กันยายน 07, 2010, 06:02:21 am



กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหญิงสาวคนหนึ่งผิดหวังในรักเนื่องจากคนรักของตนได้ทิ้งไป

จึงกำลังจะฆ่าตัวตาย ขณะนั้นเองมีพระธุดงค์รูปหนึ่งผ่านมาพบเข้า จึงได้กล่าวให้สติกับสีกาว่า "โยมจะทำอะไรรึ"
หญิงสาว "ดิชั้นจะฆ่าตัวตายเพราะไม่รู้จะอยู่ไปทำไม มีแฟนแฟนก็มาทิ้งไปเจ้าค่ะ"
หญิงสาวตอบ พระธุดงค์จึงได้เทศนาให้หญิงสาวฟังว่า
"เหตุใดโยมจึงต้องเสียใจเล่าในเมื่อคนที่ควรจะเสียใจ ควรจะเป็นแฟนของโยมสิ"
หญิงสาวหยุดคิดและถามกลับไปด้วยความสงสัยว่า "ทำไมล่ะเจ้าคะ"
พระธุดงค์ตอบว่า "ในเมื่อโยมมิได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญไปเลยน่ะสิ"

หญิงสาวตั้งใจฟังพระธุดงค์แล้วก็ตอบกลับไปว่า "ไม่จริงหรอกค่ะ ดิชั้นสูญเสียแฟนอันเป็นที่รักยิ่งไปนะเจ้าค่ะ"

พระธุดงค์ตอบ "โยมได้สูญเสียคนที่มิได้รักและห่วงใยโยม ซึ่งจะมีค่าอันใด แต่แฟนโยมซิที่สูญเสียคนที่รักและห่วงใยเค้าเช่นโยม ใครควรจะเสียใจกว่ากันล่ะโยม"

สาธุ...เรื่องจบแค่นี้ให้เดาเอาเองแล้วกันนะคะว่า หญิงสาวจะยังคิดแบบเดิม คือฆ่าตัวตายหรือเปล่า.


295  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: การตกแต่ง กราฟฟิก ด้วยโปรแกรม โฟโต้ช๊อบ เมื่อ: กันยายน 02, 2010, 08:03:41 am
http://www.webthaidd.com/photoshop/?page=2

ไปเรียนได้ที่นี่ คะ อีกที มีการสอนหลายรูปแบบ
แต่ต้องมีพื้นฐาน บ้างนะคะ

296  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / Re: ฝากกลอน ด้วย คร้า เมื่อ: กันยายน 02, 2010, 07:05:04 am
รอดูหลายวัน เห็นกลอน คุณปุ้ม แล้ว

อนุโมทนาสาธุ ที่ยอมมาร่วมแจมด้วย คะ

 :88: :25:
297  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: อัสมิมานะ คือ อะไร ครับ มีความหมายอย่างไร เมื่อ: กันยายน 02, 2010, 06:47:20 am
ธรรมเป็นเครื่องถอนอัสมิมานะในปัจจุบัน



   ภิกษุ ท.! นี้เป็นสิ่งที่หวังได้ สำหรับภิกษุผู้มีมิตรดี (กลฺยาณมิตฺต)
มีสหายดี (กลฺยาณสหาย) มีพวกพ้องดี (กลฺยาณสมฺปวงฺก) คือ จักเป็นผู้มีศีล
สำรวมด้วยการสำรวมในปาติโมกข์ ถึงพร้อมด้วยมารยาทและโคจร มีปกติเห็น
เป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้มีประมาณน้อย สมาทานศึกษาในสิกขาบททั้งหลาย
อยู่ ;

   ภิ กษุ ท .! นี้ เป็ น สิ่ งที่ ห วังได้ สํ าห รับ ภิ กษุ ผู้ มี มิ ต รดี มี ส ห ายดี มี
พวกพ้องดี; กล่าวคือ กถาเป็นเครื่องขูดเกลาอย่างยิ่ง เป็นธรรมเครื่องสบาย
แก่การเปิดโล่งแห่งจิต ได้แก่อัป ปิจฉกถา (เรื่องป รารถนาน้อย) สันตุฏ ฐิกถา
(เรื่องสันโดษ) ปวิเวกกถา (เรื่องความสงัด) อสังสัคคกถา (เรื่องไม่คลุกคลี) วิริยา-
รัมภกถา (เรื่องมีความเพียร) สีลกถา (เรื่องศีล) สมาธิกถา (เรื่องสมาธิ) ปัญ ญ า-
กถา (เรื่องปัญญา) วิมุตติกถา (เรื่องวิมุตติ) วิมุตติญาณทัสสนกถา (เรื่องวิมุตติญาณ-
ทัสสนะ), เธอ จักเป็นผู้ได้โดยง่าย ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ซึ่งกถาเช่นนี้ ;

   ภิ กษุ ท .! นี้ เป็ น สิ่ งที่ ห วังได้ สํ าห รับ ภิ กษุ ผู้ มี มิ ต รดี มี ส ห ายดี มี
พวกพ้องดี ; กล่าวคือ จักเป็นผู้มีความเพียรอันปรารภแล้ว เพื่อการละซึ่งอกุศล-
ธรรมทั้งหลาย เพื่อการถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย มีกำ ลัง (จิต) มีความ
บากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย

   ภิ กษุ ท .! นี้ เป็ น สิ่ งที่ ห วังได้ สํ าห รับ ภิ กษุ ผู้ มี มิ ต รดี มี ส ห ายดี มี
พวกพ้องดี ; กล่าวคือ จักเป็นผู้มีปัญ ญ า ประกอบด้วยปัญ ญ าเครื่องให้รู้ซึ่ง
ความเกิดและความดับ (อุทยตฺถคามินี) อันเป็นปัญญาที่เป็นอริยะ เป็นเครื่อง
เจาะแทงกิเลส ให้ถึงซึ่งสิ้นทุกข์โดยชอบ.

   ภิกษุ ท.! ภิกษุ ผู้ตั้งอยู่ในธรรมห้าประการ เหล่านี้แล้ว พึ ง
   เจริญธรรม ๔ ประการให้ยิ่งขึ้นไป คือ :-
   เจริญ อสุภะ เพื่อ ละ ราคะ ;
   เจริญ เมตตา เพื่อ ละ พยาบาท ;
   เจริญ อานาปานสติ เพื่อ ตัดเสียซึ่งวิตก ;
   เจริญ อนิจจสัญญา เพื่อ ถอน อัสมิมานะ.
   
   ภิกษุ ท.! เมื่อภิกษุมีอนิจจสัญญา, อนัตตสัญญา ย่อมตั้งมั่น ;
ผู้มีอนัตตสัญญา ย่อมถึงการถอนเสียได้ซึ่งอัสมิมานะ คือ นิพพาน ในทิฏฐธรรม
เทียว.


- นวก. อํ. ๒๓/๓๖๕/๒๐๕
298  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: อัสมิมานะ คือ อะไร ครับ มีความหมายอย่างไร เมื่อ: กันยายน 02, 2010, 06:42:53 am
อัสสมิมานะ คือ ความสำัคัญว่ามีอัตตาตัวตน คะ

๙๐๐] ความสำคัญว่ามีอัตตาตัวตน เป็นไฉน
ความสำคัญในรูป ว่าเป็นตัวเรา ความพอใจในรูปว่าเป็นตัวเรา ความเข้าใจในรูปว่าเป็นตัวเรา
ความสำคัญในเวทนาว่าตัวเรา ฯลฯ
ความสำคัญในสัญญาว่าเป็นตัวเรา ฯลฯ
ความสำคัญในสังขารว่าเป็นตัวเรา ฯลฯ
ความสำคัญในวิญญาณว่าเป็นตัวเรา ความพอใจในวิญญาณว่าเป็นตัวเรา ความเข้าใจในวิญญาณว่าเป็นตัวเรา
ความถือตัว กิริยาที่ถือตัว สภาพที่ถือตัว การยกตน การเทิดตน การเชิดชูตนดุจธง ความยกตนขึ้น
ความที่จิตต้องการเป็นดุจธง อันใด มีลักษณะเช่นว่านี้ นี้เรียกว่า ความสำคัญว่า มีอัตตา ตัวตน

 :25: :25:
299  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: เวลาที่ ท้อใจ ทำอย่างไรดีคะ จึงจะไม่เกิดความย่อท้อ เมื่อ: กันยายน 02, 2010, 06:40:35 am
 :'( :'( :'(

ซึ้งใจจริง กับความพยายามของคุณพ่อ ที่ต่อสู้

 :25: :25:
300  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / Re: ฝากกลอน ด้วย คร้า เมื่อ: สิงหาคม 24, 2010, 06:58:23 am
อนุโมทนา กุศล ที่มอบกลอนให้ กับเว็บนี้ คะ

 :25: :25:
301  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: คำอธิษฐาน จะเป็นโมฆะ หรือป่าวคะ เมื่อ: สิงหาคม 24, 2010, 06:54:11 am
คำอธิษฐาน อย่างนี้ถือว่าดีคะ จากที่รักหนอได้ ตามไปอ่านกลอน

ที่คุณลูกเกต พยายาม พรรณาในเนื้อหา ก็ทราบแล้วว่า

ตั้งใจที่จะอยู่คนเดียว แล้วในสังสารวัฏฏ์ จะิติดตามไปเร็ว

ก็อนุโมทนา ด้วยที่ปลงได้ และ ภาวนาได้

 :25:
302  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร เมื่อ: สิงหาคม 24, 2010, 06:51:23 am
ขอบคุณ คะ กระทู้นี้ก็นานมากแล้ว

 เหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้น กับความกล้าหาญ ที่จะยอมรับความจริง

 คุณปุ้มอยากให้เล่า ก็เล่าสักนิดคะ



  อันความรัก ถ้ามีเกิดขึ้นกับใครแล้ว ในยามนั้น เหมือนโลกหยุด

ยิ่งยามที่เราได้อยู่กับคนที่เรารัก ด้วยแล้ว เวลาทั้งหมด อยากให้

ไหลผ่านไปช้า ช้า

  ความรัก มาคู่กับ ธรรม 2 อย่าง คือ สมหวัง และ ผิดหวัง

 คุณจะได้ยืนอยู่ตรงไหนของความรัก ก็ขึ้นอยู่ที่บุพพกรรมที่ทำร่วมกันมา

 หากเราไม่เคย สั่งสมความเป็นเนื้อคู่กันมาก็ย่อมไม่ประสพกับความสมหวัง

 หากเราได้เคยสั่งสม ความเป็นเนื้อคู่กันมาก็ย่อมประสพกับความสมหวัง

    สำหรับธรรม ที่รักหนอได้ พบนั้นเป็นเรื่องของความไม่สมหวัง เนื่อง

จากคนที่เรารัก ก็พึ่งจะแต่งไปช่วงไม่กี่เดือนนี้แล้ว เขาใช้เวลาจีบ ดูใจกัน

เพียง 2 เดือน ในขณะที่เรานั้น คบกันมาตั้งแต่ ม4 ( 10 กว่าปี ) ด้วยสัญญา

หากเรียนจบแล้ว มีงาน มีฐานะ ก็จะมาสู่ขอหมั้นหมาย กัน

   คำสํญญา ในครั้งนั้นผูกมัด หัวใจของหญิงสาว ที่รอความหวัง

ให้ตั้งความหวัง และ ก็มอบใจให้ แต่ไม่พลีกายให้ เนื่องด้วยรักหนอ

นั้นเป็นอุบาสิกา มั่นคงในศีล มีการอบรมธรรมะมาตั้งแต่อายุ 15 ปี

เนื่องด้วยคุณยายเป็นผู้สนับสนุน ได้ฟังธรรมะ จากพระสงฆ์ ผู้ทรงศีล

และกิตติคุณ ไม่น้อย

  แต่ยามเมื่อความรัก มันแผลงศรเป็นพิษ ที่ปักในทรวง ยิ่งทรมาน

ด้วยความมาดหมายว่าเราเป็นเจ้าของ เจ้าของ และ เจ้าของ

  ด้วยธรรมะที่เกิดแต่สมาธิ มีพระอาจาย์เป็นผู้อบรมในกรรมฐาน

ใจที่รุ่มร้อนนั้น ก็มองเห็นได้ว่า แท้จริง กายนี้ไม่ใช่เรา การนี้ไม่เป็นเรา

กายนี้ไม่มีในเรา มีแต่จิตล้วน ๆ ที่ดำเนินตามกฏแห่งกรรม

  สังสารวัฏ มีแต่ความทุกข์ และ ความทุกข์ก็รอเราอยู่อีกมากในสังสารวัฏฏ์นี้

พุทโธ เป็นธรรมะที่ล้ำค่า เพราะประกอบด้วยประโยชน์แห่งจิต เมื่อได้ภาวนา

พุทโธ จึงส่งผลให้ใจแช่มชื่นด้วยปีติ และ เบิกบาน พร้อมปล่อยวาง ความเป็น

เรา มีเรา และ เรา ๆ ออก ถึงแม้จะปลดออกได้ไม่หมด ก็ขอตอบว่า

  ขณะนี้ใจรักหนอ สุขสงบมาหลายเดือน แล้วเทียว เปลี่ยนความสิเน่หา เป็น

การอนุโมทนา ให้กับคนที่เราเคยรัก และห่วงใย ตอนนี้ รักหนอ ก็ขอมอบความรัก

นี้ให้กับบุคคลที่สำคัญ กว่าใครอื่น ก็คือ คุณพ่อ และ คุณแม่ และ คุณยาย ที่อบรม

เลี้ยงดู มอบคุณธรรมให้รักหนอ ได้รู้จักและพบพาน พุทธศาสนา อันเป็นที่พึ่งที่แท้

   ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ที่ใดมีทุกข์ ที่นั่นก็มีธรรมะ ที่ใดมีสุข ที่นั้นก็มีวิป้สสนา

   คำสอนที่ รักหนอ จดจำไว้จากพระอาจารย์ ก็คือ "แม้สุขก็ต้องละ จักถึงนิพพานได้"

 :25: :25:
303  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: มารู้จักกับ "ดอกเข้าพรรษา" เมื่อ: สิงหาคม 21, 2010, 08:12:43 am
สาธุ
  :25: :25:
304  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ปัจจุบันมีพระที่ปฏิบัติได้จริงอยู่หรือป่าว เมื่อ: สิงหาคม 21, 2010, 08:11:57 am
 :93: :25:
305  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: อะไีีร เป็นสิ่งที่ทำให้พระพุทธศาสนา ต่างจากศาสนาอื่น คะ เมื่อ: สิงหาคม 21, 2010, 08:11:37 am
 :25:
306  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / Re: ฝากกลอน ด้วย คร้า เมื่อ: สิงหาคม 21, 2010, 08:09:21 am


ร่วมด้วยคน แต่แต่งกลอนไม่เป็น
307  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ธรรมะ คือ อะไร ? เมื่อ: สิงหาคม 18, 2010, 07:02:04 am
สาธุ
 
;) :25:
308  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / พระที่เคยต้องคดี ฆาตกรรม มา บวชพระแล้ว เป็นพระหรือป่าว คะ เมื่อ: สิงหาคม 18, 2010, 07:00:28 am
เป็นโจทย์ อยู่ในเรื่อง อุปสมบถ คะ

  สมมุติ นะคะ

    นาย ก ได้ ฆ่า คนตาย คนหนึ่ง แล้ว หนีคดีไป บวชเป็นพระ อยู่ ในวัดป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งไกลจากผู้คน

แล้วต่อมา ก็มีคนไปพบเข้าและจำได้ ก็พาตำรวจไปจับท่านสึก พระ ก ไม่ยินยอมสึก แต่ถูกบังคับ และ

ถูกจับดำเนินคดี


คำถามนะคะ

 1.นาย ก เป็น พระหรือป่าวคะ

 2.ถ้า นาย ก เป็น พระ เจ้าหน้าที่ จับพระ สึก ( ไม่ิยินยอม ) พระ ก ยัง เป็นพระ หรือ ป่าว คะ

 3.เจ้าหน้าที่ มีบาป หรือ ป่าว ที่ทำตามหน้าที่


 :17: :17: :c017: :25: :25:
309  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ลักษณะเปตร มีกี่ประการ เมื่อ: สิงหาคม 18, 2010, 06:54:23 am
สาธุ สาธุ

 :25:
310  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: วัตถุมงคล เช่น พระสมเด็จ และ ตะกุด จะช่วยป้องกันภัย ได้จริงหรือครับ เมื่อ: สิงหาคม 18, 2010, 06:53:49 am
วัตถุมงคล เป็นสิ่งที่มีความจำเป็น สำหรับพวกเทวดา นะคะ

แต่สำหรับ พระอริยะ แล้วไม่มีความจำเป็นคะ

สำหรับ รักหนอ แล้วมีไว้ก่อนดีกว่าไม่มี คะ

แต่มีมากก็แจกคะ บางทีไปทำบุญมา พระท่านให้มา ก็แจกคะต่อคะ

เป็นขวัญกำลังใจคะ อย่างน้อยมีสรณะ คือ พระพุทธบ้าง พระธรรมบ้าง พระสงฆ์บ้าง คะ

 :bedtime2: เวลาหลับ แล้วก็มีความอุ่นใจได้บ้าง

 :25: และมีกำลังใจในการเดินทางบ้าง

 ;) มีสรณะในใจบ้าง

ส่วนคนที่ไม่มีวัตถุมงคล และ ไม่ใช่พระอริยะนั้น ส่วนใหญ่พวกนี้จะเป็นคน ที่กระด้าง คะ ( ที่พบ )

เหมือนเพื่อนที่เรียน ส่วนใหญ่พวกผู้ชายจะไม่นับถือ พระ ใด ๆ ทั้งนั้นพวกนี้ เขานับถือแต่ สุรา คะ

ถ้าพูดถึงพระ ถึง วัด จะแค่นเสียง หรือ เดินหนีเป็นส่วนใหญ่

ส่วนใหญ่ จะบอกว่า วัดเอาไว้เข้าตอนแก่ สัก 50 ปี หรือ เกษียณงานแล้ว ไม่มีอะไรทำ

วัด เป็นสถานที่ของพวกสิ้นคิด ไม่มีทางไป

นี่เป็นความเห็นของเพื่อน ที่คณะ ที่เป็นพวกผู้ชาย ส่วนใหญ่ มีผู้หญิง น้อยมากที่คิดอย่างนี้ แต่ก็มีอยู่บ้าง

ยิ่งถ้าชวนมาดูเน็ตธรรมะ แล้ว ส่วนใหญ่จะบอกว่า นั่งฟังเพลงจาก เว็บแคม ดีกว่า

 :03: :bedtime2:

ดังนั้น วัตถุมงคล มีไว้ก่อน ดีคะ ที่สำคัญ ต้องมี ศรัทธา และ ความเลื่อมใส จึงจะมีอานุภาพ นะคะ
 :25: :25:
311  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ร่างทรง นี้ ทรงได้จริง หรือป่าว ครับ เมื่อ: สิงหาคม 18, 2010, 06:45:06 am
ร่างทรง ก็เป็นปุถุชน นี่คะ ทำผิดได้เหมือนกับคน

ต้องนับถือ พระอริยะ ให้มากคะ

เคารพในพระรัตนตรัย ให้มากคะ

พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งได้คะ

ยามที่ชีวิตเราถึง ทางตันคิดไม่ออก มานั่งสงบ ๆ หน้าพระพุทธรูป บ้างก็ได้คะ

แต่ถ้าเป็นร่างทรง แล้ว มีแต่เสียคะ ที่พบ มา....

 :25: :25:
312  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การสวดพระมาลัย จำเป็นต้องมีในงานศพ ทุกครั้งหรือป่าว เมื่อ: สิงหาคม 18, 2010, 06:42:21 am
สาธุ ได้รู้เรื่องเพิ่มจริง ๆ ปกติ

คุณธรรมธวัช ไม่แต่งกลอนส่งท้าย ไปอีกหน่อยหรือ คะ

 :c017: :s_good: :25:
313  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การระงับความโกรธ แบบปัจจุบัน ที่ได้ผล เมื่อ: สิงหาคม 10, 2010, 07:20:03 am
สาธุ

 :25:
314  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เห็นผี ควรทำอย่างไร คะ เมื่อ: สิงหาคม 10, 2010, 07:19:46 am
 :)

สุญญตาพุทโธ สุญญตาพุทโธ สุญญตาพุทโธ

ลองตวาด ดูแล้ว


อืม

อนุโมทนาคะ
 :25:
315  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ร่วมสร้างเจดีย์ กับ วัดป่าหนองหลุบ เมื่อ: สิงหาคม 10, 2010, 07:16:40 am
บรรยากาศดีมาก ๆ เลย คะ ตั้งใจจะไปกัน คะ

อนุโมทนา ด้วยคะ

 :25:
316  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / สถานที่ปฏิบัติ ที่ประทับใจในปี นี้ ที่อยากแนะนำคะ เมื่อ: สิงหาคม 07, 2010, 09:17:35 am
ปีนี้ รักหนอได้ไปร่วมปฏิบัติ 3 ที่นี้ดูรู้สึก ชอบกับบรรยากาศคะ

ที่แรก แดนมหามงคล จ.กาญจนบุรี



ที่สอง วัดเขาสมโภชน์ ลพบุรี



ที่สาม ภูดอยโอบ เชียงใหม่ ( ไปกับ คณะวัดมเหยงค์ อยุธยา )



ส่วนรูปนี้ ไม่เกี่ยว แต่ก็อยากไปปีนเขากับเขาบ้าง



317  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: ขึ้นพระกรรมฐาน ใหญ่ ครั้งที่ ๒๒๘ ณ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เมื่อ: สิงหาคม 07, 2010, 08:37:35 am
 อนุโมทนา คะ
 ;)

ตอนนี้อยู่ห้อง คอม มหาลัย ทั้ง 4 คน คะ
 :88: :25: :25:


318  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / เว็บคณะสงฆ์ อำเภอเสาไห้ มีข้อมูล ดี ๆ น่าอ่านหลายเรื่อง เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2010, 07:51:04 am
จากการหาข้อมูล ของวัดในสระบุรี รักหนอ เห็นว่ามีประโยชน์คะ



http://saohaimonk.igetweb.com/index.php?mo=3&art=223976

319  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / พระสงฆ์ที่น่านับถือ กราบไหว้ ของสระบุรี อีกรูปคะ เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2010, 07:37:02 am
ข้อความนำมาเพิ่มให้คะ
http://bbznet.pukpik.com/scripts/view.php?user=arjannoo&board=3&id=246&c=1&order=lastpost



พระเกจิแถว บ้านย่าผมเองครับ สมัยเด็กๆผมเคยไปกราบท่าน ที่วัดแปดอาร์ ส่วนเหรียญรุ่นนี้ดังมานานแล้วครับ คนพื้นที่จะทราบกันดี แต่ผมไม่ได้เอาข้อมูลมาลง พอดีเห็นออกทางทีวีช่อง5 ก็เลยนำประวัติมาฝากครับ

==============================================

หลวงพ่อผัน วัดราษฎร์เจริญ(วัดแปดอาร์) ต.หนองแขม อ.หนองแค จ.สระบุรี หลวงพ่อผัน (พระครูสรกิจพิจารณ์) ท่านเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๔๕๔ ปีกุน ณ บ้านหนองแขม หมู่ ๑ ต.หนองแขม อ.หนองแค จ.สระบุรี อุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๔๗๔ ณ พัทธสีมาวัดหนองโสน ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี พระครูนิเทศธรรมคาถา วัดบ้านสร้าง เป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการจาด วัดวงษ์สวรรค์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการหนู วัดบ้านสร้าง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "จิณฺณธมฺโม" หลังจากนั้นได้มาจำพรรษาที่วัดราษฎร์เจริญ

ในช่วงที่ หลวงพ่อผัน เข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสครั้งแรก สภาพของวัดราษฎร์เจริญทรุดโทรมอย่างหนัก อาคารเสนาสนะต่างๆ ชำรุดมาก หลวงพ่อก็ไดบูรณปฏิสังขรณ์จนดีขึ้นตามลำดับ และมีความเจริญรุ่งเรืองครบถ้วนสมบูรณ์ในทุกๆ ด้าน หลวงพ่อผัน เป็นพระเถราจารย์ผู้มีประพฤติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบมาโดยตลอด และปฏิบัติกิจการพระศาสนาอย่างถูกต้อง
อีกทั้งท่านยังมีเมตตาธรรมในการปกครองคณะสงฆ์ งานด้านต่างๆ เช่น งานสาธารณูปการณ์ การก่อสร้างศาสนวัตถุต่างๆ ภายในวัด ท่านก็ได้เป็นผู้นำดำเนินการก่อสร้างเพื่อประโยชน์แก่พระศาสนาและพุทธ ศาสนิกชนมากมาย เช่น ก่อสร้างอุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ วิหารกุฏิ ฌาปนสถาน ซุ้มประตูหน้าวัด กำแพงรอบวัด เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการใช้สอยและความสวยงาม ร่มรื่นเป็นระเบียบเรียบร้อยในทุกๆ ด้าน

นอกจากนี้ ท่านยังได้สนับสนุนในการก่อสร้างอาคารเรียนของโรงเรียนวัดราษฎร์เจริญ เพื่อประโยชน์แก่ลูกหลานชาวบ้าน ตลอดทั้งให้ความเอื้อเฟื้อแก่ชุมชนชาวบ้านทุกครัวเรือน หลวงพ่อผันเป็นพระสุปฏิปัณโณผู้มีเมตตาธรรมสูง มีศีลบริสุทธิ์ ปฏิบัติกิจของพระศาสนาอย่างดีเยี่ยม จนเป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนทั่วไปทั้งใกล้และไกล และที่สำคัญอย่างยิ่งคือ หลวงพ่อผัน ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากท่านหนึ่งของ จ.สระบุรี ที่พุทธศาสนิกชนทั่วไปให้ความเคารพนับถือ และเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก

หลวงพ่อปฏิบัติตัวเป็นพระของชาวบ้านอย่างแท้จริง ไม่ถือตัว ไม่เลือกชั้นวรรณะ เวลามีญาติโยมมานิมนต์ให้ท่านไปงานบุญกุศลต่างๆ ท่านจะสนองศรัทธาถ้วนทั่วทุกบ้านเรือน โดยไม่ถือว่าจะเป็นบ้านของคนมั่งมี หรือบ้านของคนยากจน ท่านให้ความเสมอเหมือนกันหมด ส่วนจตุปัจจัยที่ท่านได้รับจากการที่มีผู้ศรัทธาถวาย ท่านจะนำมาก่อสร้างถาวรวัตถุ เสนาสนะต่างๆ ภายในวัดราษฎร์เจริญ จนหมดสิ้น ไม่เก็บสะสมไว้เป็นสมบัติส่วนตัวแต่ประการใด จึงทำให้วัดมีความมั่นคงอยู่จนทุกวันนี้

หลวงพ่อได้ละสังขารไปเมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๘สิริรวมอายุ ๙๔ ปี และได้เกิดปาฏิหาริย์พิเศษ คือ สรีระของหลวงพ่อ ไม่ปรากฏอาการเน่าเปื่อยแต่อย่างไร กลับแข็งเหมือนหิน มีลักษณะเป็นสีขาวเหมือนแป้ง ขณะเดียวกัน ได้ปรากฏในเวลาต่อมาว่า ทั้งเส้นผม และเล็กมือเล็บเท้าของหลวงพ่อได้งอกยาวออกมาจากเดิมอีกด้วย วัดจึงเก็บรักษาสรีระของหลวงพ่อไว้ในxxxบแก้ว โดยตั้งบำเพ็ญกุศลเพื่อให้ศรัทธาสาธุชนทั่วไปสักการบูชาจนถึงทุกวันนี้
320  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / Re: วัดที่น่าจะมีตำนาน เกี่ยวกับพระกรรมฐาน และ พระแก้วมรกต ในสระบุรี เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2010, 06:51:11 am
คุณธรรมธวัช น่าจะถ่ายรูป หลวงพ่อพุทโธ มาลงให้ใหม่นะคะ

เห็นพระอาจารย์ บอกว่า เป็นศิษย์ วัดนี้ไม่ใช่ หรือ คะ

 :25: :25:
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9