ทำไมต้อง'คิดถุ๊ง...คิดถุง'!?
ทำไมต้อง 'คิดถุ๊ง...คิดถุง'!? : คอลัมน์ เล่าสู่กันฟัง : โดย ... บัญญัติ คำนูณวัฒน์
“ถุงพลาสติก” ฮีโร่ที่เคยช่วยตอบโจทย์ลดการใช้ถุงกระดาษ เพื่อลดการตัดไม้ทำลายป่า แต่มาวันนี้ถุงพลาสติกใบเล็กๆ กลับสร้างปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เพราะย่อยสลายยาก เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โลกร้อนและเกิดภัยธรรมชาติตามมา ส่งผลกระทบต่อตัวเรามากขึ้นทุกวัน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้รับเอกสาร “รวมพลังลดถุงพลาสติก ลดโลกร้อน” จากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีเนื้อหาสาระสำคัญที่น่าสนใจนำมา “เล่าสู่กันฟัง” ในฉบับนี้ ถุงพลาสติกก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร? ถุงพลาสติกเป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งานสั้น พร้อมเป็นขยะทันทีหลังการใช้
แต่ใช้เวลาย่อยสลายนานประมาณ 450 ปี และยังใช้พลังงานในการผลิตและรีไซเคิลสูง
มีการคำนวณว่าในกระบวนการผลิตถุงพลาสติกเพียง 9 ใบ
สามารถเปลี่ยนเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงให้รถวิ่งได้ไกลถึง 1 กิโลเมตร
ที่สำคัญการนำถุงพลาสติกมาใส่ขยะมูลฝอย หากนำไปฝังกลบเพื่อย่อยสลายรวมกับขยะชนิดอื่นๆ จะเกิดความร้อนออกมา และปล่อยก๊าซมีเทนซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกอีกชนิดหนึ่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ
ส่งผลให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น หากนำถุงพลาสติกไปกำจัดโดยการเผา ก็จะส่งผลให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ ขยะจากถุงพลาสติกยังเป็นสาเหตุของการเพาะพันธุ์และแพร่กระจายพาหนะนำโรค ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมเนื่องจากการอุดตันของท่อระบายน้ำ และยังมีแนวโน้มจะเกิดการรั่วไหลของสารปรุงแต่ง หรือสารประกอบเป็นพิษที่ใช้ในการกระบวนการผลิตถุงพลาสติก ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน ถุงพลาสติกมาจากไหน? ถุงพลาสติกที่นิยมใช้ในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่เป็นพลาสติกประเภทเทอร์โมพลาสติก
เมื่อได้รับความร้อนในระดับหนึ่งจะอ่อนตัวลงและหลอมเป็นของเหลวหรือของหนืด
สามารถนำไปอัด ฉีด เป่า หรือปั่น เพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ
และเมื่อหมดอายุการใช้งานแล้ว สามารถนำเศษกลับไปหลอมเพื่อขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อีก ผลิตได้ง่ายในปริมาณมากและต้นทุนต่ำ โดยแบ่งเป็นถุงเย็น และถุงร้อน ไม่ใช้ถุงพลาสติกแล้วจะใช้อะไรทดแทน? มีบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ทดแทนถุงพลาสติกได้ เช่น
1.พลาสติกไซเบอร์พลาส เป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทถุงหิ้ว ถุงมือ และหลอดดูดที่ย่อยสลายได้ด้วยแสงอาทิตย์
2.ถุงพลาสติกประเภทย่อยสลายได้ด้วยแสงอาทิตย์และย่อยสลายได้ทางชีวภาพ เช่น ถุงร้อน-ถุงเย็นที่ใช้ใส่อาหาร ถุงแบบนี้จะผสมสารย่อยสลาย ซึ่งจะแทรกตัวอยู่ในโมเลกุลของเม็ดพลาสติก สารย่อยสลายนี้เมื่อเจอกับแสงอาทิตย์ก็จะทำปฏิกิริยากับเม็ดพลาสติกให้โมเลกุลแตกสลาย โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี ในการย่อยสลาย
3.ใช้ถุงกระดาษอย่างเมืองนอก เวลาเราดูหนัง เขาซื้อของกลับบ้านอุ้มถุงกระดาษเข้ามา ก็เพราะเขาไม่ต้องการถุงพลาสติกที่ย่อยสลายยาก
4.ใช้ถุงผ้า ปิ่นโต ตะกร้า ฯลฯ นำถุงผ้าหรือภาชนะไปใส่ของแทน แล้วก็พูดว่า “ไม่ต้องใส่ถุงพลาสติกก็ได้” ถ้าเราใช้ถุงผ้าสัปดาห์ละ 1 วัน จะช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกได้มากกว่า 100 ล้านถุงต่อปี เราจะลดใช้ถุงพลาสติกในชีวิตประจำวันได้อย่างไร? เช่น
1.ปฏิเสธถุงพลาสติกใบเล็กใบน้อย เช่น ซื้อปากกา ดินสอ ลิปสติก ต่างหูจากผู้ขาย ก็หันมาใส่กระเป๋าแทน โดยพูดว่า “ขอโทษค่ะ/ครับ ไม่รับถุงพลาสติก”
2.ลองหันมาใช้ถุงผ้าแทน ปัจจุบันมีถุงผ้าสวยๆ ที่ถือแล้วอินเทรนด์ไม่อายใคร
3.ไปช็อปปิ้งก็ใช้ถุงใหญ่ใบเดียวใส่ทุกอย่างรวมกันก็ช่วยลดปริมาณขยะถุงใบเล็กใบน้อยได้
4.สำหรับผู้ที่ชอบซื้ออาหารมาทาน ลองนั่งทานที่ร้าน ประหยัดทั้งถุงพลาสติกและเวลาที่ต้องมานั่งล้างจาน
5.ใช้ปิ่นโต กล่องข้าว ใส่อาหารแทนการใช้ถุงพลาสติก
6.ใช้แก้วประจำตัว ซื้อน้ำใส่แก้วของเราเอง ไม่ต้องพึ่งถุงพลาสติก
7.คัดแยกขยะก่อนทิ้ง ก่อนผลักไสไปเป็นขยะ
8.เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่บรรจุด้วยวัสดุจากธรรมชาติ
9.ช่วยกันอุดหนุนสินค้าที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล สร้างรายได้ สร้างชาติ แถมยังลดมลภาวะอีกด้วย เป็นต้น
เราทุกคนสามารถช่วยกันแก้ไขปัญหาขยะถุงพลาสติกได้ โดยการหันมาให้ความสำคัญและร่วมกันลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกอย่างจริงจัง นอกจากจะช่วยลดการทำลายสิ่งแวดล้อม ลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บขยะแล้ว ยังช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมหาศาล
หากคนไทยทั้งประเทศ (67 ล้านคน) ช่วยกันลดถุงพลาสติกลงคนละ 1 ใบต่อวันใน 1 ปี
จะสามารถลดถุงพลาสติกได้ถึง 24,455 ล้านใบ
ถึงเวลาที่เราทุกคนต้องใช้ถุงพลาสติกอย่างมีความรับผิดชอบ ด้วยการ “ลด ใช้ซ้ำ ทำใหม่”
และขอยืมศัพท์สแลงของวัยรุ่นยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมว่า
รักษ์โลกบ้าง คิดถึงถุงพลาสติกกันบ้าง อย่าลืม! “คิดถุ๊ง...คิดถุง” กันนะครับขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20120411/127622/ทำไมต้องคิดถุ๊ง...คิดถุง!.html