แสดงกระทู้
|
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to. |
Messages - RDNpromote
|
หน้า: 1 [2] 3 4
|
43
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / วัดผาซ่อนแก้ว ในความประทับใจ ของ....
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2013, 02:00:25 pm
|
ในวันมาฆบูชา ที่จะมาถึงบางท่านยังไม่มีที่ไป อยากจะแนะนำ สถานที่ปฏิบัติธรรม อีกที่หนึ่ง สวยงามมาก เงียบ ไม่อึกทึก ปฏิบัติตามแนว อานาปานสติ ตามแบบพระพุทธเจ้า คือวัดพระธาตุ ผาซ่อนแก้ว ครับ
วัดพระธาตุผาแก้ว หรือผาซ่อนแก้ว เป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นท่ามกลางธรรมชาติและบรรยากาศที่เงียบสงบ เทือกเขาสลับซับซ้อนโดยรอบมีพระเจดีย์ที่งดงามโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดเขา คือ เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิต เจดีย์ที่ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยกระเบื้องหลากหลายสี เครื่องประดับ พลอย สร้อย กำไล ถ้วยชามเครื่องเบญจรงค์ เป็นต้น นำมาตกแต่งทีละชิ้นๆ จนทั่วองค์พระเจดีย์ รอบๆ องค์พระเจดีย์แบ่งเป็นสถานที่พักของนักปฏิบัติธรรม และเขตสังฆาวาส แยกเป็นสัดส่วน ที่สะดุดตากว่าสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งอื่นๆ อยู่ที่การสร้างกุฏิ อาคารที่พักของนักปฏิบัติธรรมอย่างสวยงาม กลมกลืนกับธรรมชาติ ด้วยยึดหลักที่ว่า หากได้อยู่ในสถานที่สงบสวยงาม จิตใจก็จะสงบได้โดยง่าย
ประวัติความเป็นมา วัด พระธาตุผาแก้ว เดิมชื่อพุทธธรรมสถานพระธาตุผาซ่อนแก้ว เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมซึ่งมีทิวทัศน์สวยงามรอบด้านมองเห็นผาซ่อนแก้วและทิว เขาสลับซับซ้อน มีศาลาปฏิบัติธรรมประดิษฐานพระพุทธรูปหยกงดงามภายในตกแต่งด้วยภาพวาดศิลปะ สวยงามแปลกตา ตั้งอยู่ ณ บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งได้เริ่มก่อสร้างในราวปลายปี 2547 โดย คุณภาวิณี และ คุณอุไร โชติกูล ได้มีจิตศรัทธาซื้อที่ดินถวายเริ่มแรกจำนวน 25 ไร่ เพื่อก่อสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแก่พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ปัจจุบันมีผู้ร่วมถวายปัจจัยซื้อที่ดินเพิ่มรวมทั้งสิ้นมีที่ดินรวม 91 ไร่ สถานที่อันเป็นธรรมภูมิที่งดงาม ซึ่งเรียกว่าผาซ่อนแก้วนี้ มีธรรมชาติเป็นภูเขาที่สูงใหญ่ ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรม และบนยอดเขาสูงตระหง่านนั้น มีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขา ซึ่งมีชาวบ้านทางแดงหลายคน ได้เห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้า และลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์และเรียกตามๆ กันว่า “ผาซ่อนแก้ว” และพุทธสถานที่มาตั้งในจุดที่โอบล้อมด้วยทิวเขาดังกล่าว จึงเรียกว่า “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” เพื่อเป็นนิมิตมงคลแก่ชาวบ้านทางแดง และผู้มาปฏิบัติธรรมสืบไป สำหรับใครที่ผ่านไปยังจังหวัดเพชรบูรณ์ ผาซ่อนแก้ว แห่งนี้ คืออีกหนึ่งสถานที่ที่ควรแวะไปสักการะ แล้วท่านจะพบกับความสวยงามที่สงบ ร่มรื่น การผ่อนคลายจิตใจด้วยการปฏิบัติธรรมท่ามกลางธรรมชาติ ถือเป็นการให้รางวัลกับชีวิต
การเดินทาง รถส่วนตัว : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านจังหวัดปทุมธานี จังหวัดอยุธยา จังหวัดสระบุรี แล้วเลี้ยวขวาที่หลักกิโลเมตรที่ 125 แยกบ้านพุแค ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 เดินทางไปยัง จังหวัดเพชรบูรณ์ มุ่งตรงสู่อำเภอเขาค้อ จากนั้นเลี้ยวขวาที่แยกแคมป์สน มุ่งไปทางอำเภอหล่มสัก ระยะเวลาประมาณ 2-3 กิโลเมตร จะพบป้ายบอกทางเข้าหมู่บ้านทางแดงอยู่ซ้ายมือ ขับรถลงเนินไปเรื่อย ๆ ราว 3 กิโลเมตร จะเจอวัดพระธาตุผาแก้วอยู่บนเนินเขา รถสาธารณะ : นั่งรถโดยสารไปลงที่ตัวเมืองเพชรบูรณ์ ต่อรถไปยัง ตลาดห้วยไผ่ เดินเข้าหมู่บ้านทางแดงประมาณ 10 นาที จะเห็นสะพานเข้าวัดอยู่ทางขวามือ
|
|
|
44
|
ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / “หลวงพ่อกิตติศักดิ์ กิตติสาโร พระผู้เข้าถึงหัวใจพระพุทธศาสนา”
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2013, 01:44:41 pm
|
มหาสิติปัฏฐานสูตร ; หลวงพ่อกิตติศักดิ์ กิตติสาโร วัดป่าหนองหลุบ จังหวัดขอนแก่น สติปัฏฐานทั้ง 4 คือ กาย เวทนา จิต ธรรม ซึ่งเป็นสภาพของการปรุงแต่งที่เกิดขึ้นกับปัจจุบันที่จิตนั้นได้สัมผัสรับรู้อยู่ทุกขณะจิตนั้นได้สัมผัสรับรู้อยู่ทุกขณะทุกขั้นตอนว่านี่คือธรรมะที่เป็นขันธ์5ซึ่งย่อลงมาเหลือ2คือรูปกับนามเท่านั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้ให้คำจำกัดความเกี่ยวกับเรื่องการปฏิบัติในแบบวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งท่านย่อลงมาเหลือ 2 คือรูปกับนาม ว่าอารมณ์วิปัสสนานั้นมีอยู่ 6 อย่าง ต้องขอพูดในหลักวิชาการนิดหน่อย อารมณ์วิปัสสนามี 6 อย่าง ขันธ์ 5, อายตนะ 12, ธาตุ 18, อินทรีย์ 22, อริยสัจ 4, ปฏิจจสมุปบาท 12 อันนี้เป็นอารมณ์วิปัสสนาคือ สิ่งที่ต้องกำหนดรู้ให้ทันปัจจุบัน อันนี้เป็นอารมณ์วิปัสสนาภูมิ ที่ผู้ปฏิบัติธรรมฝ่ายวิปัสสนาจะต้องทำความเข้าใจว่า อะไรคือ อารมณ์สมถะ อะไรคือ อารมณ์วิปัสสนา อารมณ์สมถะซึ่งเป็นความสงบมีอยู่ 40 กองชนิด เรียกว่ากรรมฐาน 40 อารมณ์ของวิปัสสนามี 6 ชนิด เรียกว่าวิปัสสนาภูมิ 6 อารมณ์สมถะ 40 อย่างนั้น มีอะไรบ้าง ก็มี กสิณ 40 อสุภะ 10 อนุสติ 10 อาหาเรปฏิกูลสัญญา1พรหมวิหาร4จตุธาตุววัตฐาน1อรูปฌาน4 เมื่ออาตมาได้เห็นและได้รู้ในสิ่งที่เป็นนิมิตเครื่องหมายก็มาพิจารณาทางธรรมใน จุลลสุญญตาสูตร เกี่ยวกับเรื่องความว่างอย่างเบา มหาสุญญตาสูตร ความว่างอย่างยิ่ง ในมหาสติปัฏฐานสูตร และในธาตุกรรมฐานมั่ง ในพระธรรมที่เป็นพระสูตรต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ เช่นแสดงให้กับ พระราหุลว่า….ดูก่อนราหุล เธอจงครองธาตุดิน โดยความเป็น อนัตตา อย่าครองธาตุดินด้วยความเป็นอัตตาเลย เธอจงครองธาตุน้ำ ด้วยความเป็นอนัตตา อย่าครองธาตุน้ำด้วยความเป็นอัตตาเลย เธอจงครองธาตุลมด้วยความเป็นอนัตตา เธอจงอย่าครองธาตุลมด้วยความเป็นอัตตาเลย เธอจงครองธาตุไฟด้วยความเป็นอนัตตา เธอจงอย่าครองธาตุไฟด้วยความเป็นอัตตาเลย อันนี้เป็นธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงให้กับพระราหุล ก็คือ ทรงแสดงเรื่องความไม่ใช่ตัวตนความไม่มีตัวตน ความว่างเปล่าจากตัวตนในธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม ซึ่งเป็นรูปที่ประชุมกันใหญ่ เรียกว่ารูปใหญ่ๆ มีธาตุสี่ ดิน น้ำ ไฟ ลม และในมหาสติปัฏฐานสูตร พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ในหมวดต่างๆ เรื่องกาย เวทนา จิต ธรรม ก็เข้าไปพิจารณาเห็นกายว่า ที่จริงในอริยาบถทั้งหลายตั้งแต่ อานาปานสติ ซึ่งเป็นหมวดลมหรือหมวดกายก็ดี ลมหายใจก็เป็นเพียงสักว่าเป็นธาตุลม เพราะในการสรุปข้อสุดท้ายแต่ละหมวดที่พระองค์ทรงสรุปไว้ เธอเป็นเพียงมีสติที่อาศัยเป็นเครื่องอาศัยระลึกมีสัมปชัญญะเป็นเครื่องรู้ แต่เธอจะต้องไม่ติดอยู่ เธอจะต้องไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไรๆ ในโลกเลย ก็มองเห็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติของกายก็ดี เป็นธรรมชาติที่ไม่ควรยึดมั่น ว่างเปล่าจากตัวตนเห็นเวทนาก็ดี ทั้งทุกข์ เฉยก็ดี ว่างเปล่าจากตัวตน จิตก็ดี เป็นธรรมชาติว่างเปล่าจากตัวตน แม้ธรรมก็ดีเป็นของว่างเปล่าทั้งนั้น ไม่มีตัวตนในกาย เวทนา จิต ธรรม ในอริยาบถทั้งหลายและในสติปัฏฐานทั้งหมด เป็นเพียงธรรมะเท่านั้น ซึ่งธรรมะไม่ควรยึดมั่นถือมั่น เพราะฉะนั้นแม้การพิจารณาลมหายใจอาตมาก็พิจารณาดู ออ…..ลมหายใจอยู่ในจุลลสุญญตาสูตร มหาสุญญตาสูตรก็ดี พระองค์ทรงตรัสว่า เธอจงเป็นผู้ไม่มีนิมิต อยู่ในดิน อยู่ในป่า อยู่ในบุคคล อยู่ในสัตว์ เป็นผู้มีสติอยู่กับลมหายใจ เธอชื่อว่าเป็นผู้ก้าวลงสู่ความว่างตามความเป็นจริง บัดนี้เราว่างจากสัตว์ จากบุคคล จากบ้าน จากเรือน จากธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ แต่ไม่ว่างอยู่ธาตุเดียวคือ ภาวะของลมนั่นคือการก้าวลงสู่ความว่างตามความเป็นจริง จนกระทั่งสุดท้ายก็ว่างเปล่าไม่มีตัวตน เพราะฉะนั้นในธาตุดิน ธาตุน้ำก็เป็นธรรมชาติที่ว่างเปล่า ว่างเปล่าจากตัวตนไม่มีตัวตนในสิ่งที่เป็นดิน น้ำ ไฟ ลม นั่นคือ ธรรมชาติที่เป็นรูปธรรม ส่วนนามธรรมก็คือ จิตใจ มโน วิญญาณเหล่านี้เป็นพยัญชนะที่เรียกตามกัน แต่ความหมายก็คือ ธรรมชาติรู้ ธาตุรู้ ธาตุรู้เป็นนามธรรม สิ่งที่ถูกรู้ก็เป็นเพียงรูปธรรม นามธรรมก็ว่างเปล่าจากตัวตนในธาตุรู้ สิ่งที่ถูกรู้รูปธรรมที่ประชุมกันอยู่เท่านั้น ทั้งผู้รู้และสิ่งที่ถูกรู้ต่างว่างเปล่าทั้งนั้น นั่นคือ ธรรมชาติที่เป็น สุญตาสุญตา คือ ความว่าง ที่มีอยู่ในความมี และไม่เป็นอะไรที่ไม่มีจะเป็นคนเป็นสัตว์ มันมีอยู่ในสภาวะที่ถูกปัจจัยปรุงแต่ง เป็นเพียงรูปธรรมและนามธรรมอาศัยซึ่งกันและกัน เกิดดับเท่านั้น จิตใจก็จะดำเนินอยู่ในสัมมาทิฏฐิคือ ความเห็นถูก พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้คือ การแจกแจงเกี่ยวกับเครื่องสืบต่อที่มีอยู่ในชีวิตของเราคือ ตากับรูป หูกับเสียง จมูกกับกลิ่น ลิ้นกับรส กายกับสัมผัส ใจกับอารมณ์ทั้งหลาย ถ้ามองเห็นว่าอายตนะทั้งภายนอกและภายในเป็นรูปธรรมและนามธรรมเท่านั้น มีความเห็นอย่างนี้เชื่อว่า เป็นความเห็นถูก เป็นสัมมาทิฏฐิ เห็นถูกหยั่งลงชื่อว่า เป็นผู้มีความดำริถูก เมื่อมีความดำริถูกวาจาก็ย่อมพูดจาถูก การกระทำก็ย่อมทำถูก ความเป็นอยู่หรือสัมมาอาชีพ ความผ่องแผ้วของใจก็จะถูกต้อง เพราะฉะนั้นความเพียรสัมมาวายามะ ก็จะถูก สติที่ระลึกก็จะเป็นสติที่ถูกต้อง สมาธิความตั้งมั่นของจิตก็จะเป็นความถูกต้องของจิต เรียกว่า สัมมาสมาธิ เมื่ออริยมรรคมีองค์แปดเจริญขึ้นอย่างนี้ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ของสัตว์นั้นย่อมบริสุทธิ์หมดจด ผู้นั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้ได้กำหนดรู้ธรรมที่ควรกำหนดรู้ยิ่งด้วยปัญญา ก็คือ กำหนดรู้ทุกขอริยสัตว์ ได้แก่ อุปาทาน ความยึดมั่นในขันธ์ ทั้ง 5 หรือยึดมั่นในรูปในนามว่าเป็นเรา ผู้นั้นชื่อว่าเป็นผู้ละธรรมที่ควรละยิ่งด้วยปัญญาอันชอบก็คือ อวิชชาตัณหา ผู้นั้นชื่อว่าเป็นผู้ทำความเจริญยิ่งได้แก่ สมถวิปัสสนา ผู้นั้นชื่อว่าได้กระทำให้แจ้งซึ่งธรรมะที่ควรทำให้แจ้งอย่างยิ่งด้วยปัญญาเรียกว่า วิชชา หรือ วิมุตติ คือ ธรรมะที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้ เพราะฉะนั้นบุคคล ผู้มีความเห็นอย่างนี้ ทำอย่างนี้ชื่อว่าเป็นผู้เจริญอยู่ในอริยมรรคมีองค์แปด เมื่อบุคคลเจริญอยู่ในอริยมรรคมีองค์แปดถูกต้องชื่อว่าเป็นผู้ดำเนินไปใน โพธิปักขยธรรม 37 ประการ ให้ถูกต้องตามความเป็นจริง คือ ได้เจริญสติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 และอริยมรรคมีองค์ 8 ถูกต้อง ตามพระธรรมวินัย อันนี้คือ สิ่งที่เป็นธรรมะ เมื่อย่อลงมาเหลือสองคือ รูปกับนามที่ว่างเปล่าจากตัวตน เป็นการดำเนินอยู่ในธรรมชาติแห่งความว่างเปล่าที่ไม่ติดกับรูป ไม่ติดกับเสียง ไม่ติดกับความประพฤติที่เศร้าหมอง ไม่ติดกับพระธรรม ไม่ติดกับธรรมะ แม้มีธรรมะก็เป็นสักว่าเป็นธรรม เพราะธรรมะทั้งปวงเป็นของว่างจากตัวตนไม่ควรยึดมั่นถือมั่นธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่นนั่นเอง
“หลวงพ่อกิตติศักดิ์ กิตติสาโร พระผู้เข้าถึงหัวใจพระพุทธศาสนา” ขอขอบพระคุณและโมทนาบุญอย่างสูงสำหรับข้อมูลจาก : โลกทิพย์ 404 ปีที่ 23 ประจำเดือนพฤศจิกายน 2546: กองบรรณาธิการ เรียบเรียง. หน้า 30-32.http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%9A-%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%87%E0%B8%81/158269660982477
|
|
|
45
|
เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: สัญญาณ เสียง RDN ขาด ๆ หาย ๆ ครับ
|
เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2013, 01:03:41 pm
|
ทุกท่าน ที่ช่วยกันแจ้งปัญหาการรับฟัง เข้ามากัน รู้สึกปลื้มใจ แทนทีมงานด้วยครับ ว่ายังมีผู้สนใจฟังรายการ อยู่ ทุกเสียงของท่าน เราใส่ใจเสมอครับ แต่การแก้ไขต้องให้เวลา ด้วยครับ เพราะเราไม่ได้เป็นองค์กร ที่มีผู้สนับสนุนจำนวนมาก แต่เพียง นิติบุคคล เล็ก ๆ ที่ตั้งใจสนับสนุน พระกรรมฐาน ในแนวทาง กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ครับ
|
|
|
55
|
ธรรมะสาระ / กระดานข่าวทางวัดแก่งขนุน / เชิญ นิมนต์ พระคุณเจ้า ร่วมงานปริวาส วัดแก่งขนุน วันที่ 11 - 20 ม.ค. 56
|
เมื่อ: มกราคม 08, 2013, 11:38:35 pm
|
เป็นประจำทุกปีที่วัดแก่งขนุน ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี 18000 ได้จัดงาน เข้าปริวาสกรรมให้กับพระสงฆ์ เป็นประจำทุกปี สำหรับปีนี้ ก็ เริ่มวันที่ 11 - 20 ม.ค. 56
ซึ่งสถานที่ ก็ใช้ สวนป่าเช่น เดิม ปีที่แล้วมีการปรับปรุงสวนป่า ด้วยการเกรดที่ และถมที่ ไปแล้วเมื่อปริวาสที่ผ่านมา สำหรับปีนี้มีการปู แผ่นปูน ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวก แก่ พระสงฆ์ ที่เข้าร่วมปฏิบัติธรรม เข้าอยู่ กรรม และ อุบาสก อุบาสิกา ที่มาร่วมสวดมนต์ ฟังธรรม กัน
|
|
|
58
|
เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ขอเชิญร่วมงานสวดลักขี 4-7 ม.ค. 56 วัดธรรมมงคล สุขุมวิท 101
|
เมื่อ: มกราคม 02, 2013, 06:34:45 pm
|
มีศรัทธาในหลวงพ่อวิริยังค์ ฯ ด้วยคนหนึ่ง..........
1. ค่ำวันเสาร์ที่ 8 มกราคม นี้ .... ได้ไปร่วมแสดงมุทิตาจิตในวาระครบ 91 ปี ของหลวงพ่อ โดยมีพระภิกษุ...พระเกจิ ฯ ...พระปฎิบัติ.....ฯลฯ ระดับดังๆ สูง ๆ ทั่วประเทศไทย จำนวน 99 รูป มาสวดถวาย
อดีตรัฐมนตรี นายพินิจ จารุสมบัติ มาร่วมงานพิธี ( ชั้นล่างพระอุโบสถ )
2. รุ่งเช้าวันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม ตั้งแต่ 05.30 น. ไ ด้ตักบาตร ( ใส่บาตร )ร่วมกับสาธุชนจำนวนมาก ( หลาย ๆ ๆ พันคน ) ที่รอบบริเวณวัด..........มีข้อสังเกตุเกี่ยวกับการ ใส่บาตร ดังนี้
เทรนด์การตักบาตรพระสมัยใหม่............พ.ศ. 2554 ! ! ! ขอรายงาน ดังนี้
2.1 ถือเอา " อาการ นำของใส่บาตรพระ " โดยมีวัตถุประสงค์ " จะเอาบุญสำเร็จนำหน้า " มากกว่าเจตนาการใส่บาตร เพื่อให้พระได้มีภัตตาหารฉัน... เพื่อยังชีพ......เช่นที่คนพุทธเคยปฎิบัติมาแต่พุทธกาล ! ! !
เพราะ...............
- - - วัดมีห่ออาหารสำเร็จรูป จำพวกมาม่า ฯลฯ ห่อละ 20 บาท วางขายหลายๆ จุด เพื่อให้ผู้คนซื้อไปใส่บาตร
- - - พระทุกองค์ที่เดินมารับ... หรือที่ยืนอยู่กับที่... ต่างเปิดฝาบาตรรอ... ในบาตรมีแต่ธนบัตรราคาต่างๆ จำนวนไม่น้อยนอนก้นอยู่........ที่แปลกใจ คือ ไม่ว่าพระแต่ละองค์ จะเดินวนกี่รอบ หรือจะยืนประจำที่อยู่นานเท่าใดก็ตาม....... มีผู้คนใส่บาตรกันเป็นจำนวนมาก...ดังกล่าว...หรืออาหารที่นำมาจากบ้าน....แต่
2.2 แต่เมื่อคนที่จะเข้าไปใส่บาตร พระ ทุกคน ....สามารถเห็นได้ว่า ..........ในบาตรพระ ที่ตนจะนำของไปใส่ นั้น ไม่มีอาหาร ไม่มีห่ออาหารใด ๆ เป็นบาตรว่าง ๆ มีแต่ธนบัตรราคาต่างๆ นอนอยู่ที่ก้นบาตรจำนวนไม่น้อย ( ทั้งๆ ที่พระแต่ละองค์ได้รับบาตรจากพุทธศานิกชนเป็นจำนวนหลาย ๆ สิบคน มาแล้ว )
- - - ต่อมา ก็สามารถทำความเข้าใจได้ว่า ....... จะมีฆราวาส ( คนของวัด ) ยืนถือถุงใหญ่อยู่แถวนั้น... ณ บริเวณที่พระยืนรับบาตร 7 - 8 รูป หรือ 10 กว่ารูปก็ตาม ชายเหล่านี้จะคอยนำห่ออาหาร ถุงอาหารที่หลังจากมีผู้ใส่บาตรแล้ว ......ถ่ายนำมาลงในถุงใบใหญ่.......แล้วนำกลับไปเวียนส่งให้ที่โต๊ะขายอาหารใส่บาตรของวัดต่อไป
บาตรพระทุกองค์ จึงว่าง อยู่เสมอ... เพื่อรอคนใส่ใหม่
- - - แต่ผู้เก็บอาหาร จะไม่แตะต้อง ธนบัตร ในบาตร....เด็ดขาด ! ! ! !
2.3 คำถามคือ.......
- - - ทำไมต้องเสียเวลาไปซื้ออาหาร ราคาห่อละ 20 บาท มาใส่บาตร ( เสียเวลาทั้งคนขาย และคนซื้อ )
- - - ก็หากจะถือเป็นรายได้เข้าวัด ก็ให้คนทำบุญถวายเงินสดแก่วัดไปทีเดียวเลย.... และให้คนทำบุญแบ่งเงินอีกส่วนหนึ่ง เป็นธนบัตร เงินสด ......ใส่ลงในบาตรพระ
ก็สิ้นเรื่อง
ได้บุญแน่นอน.... โดยไม่ต้องเสียเวลา...ไม่ว่าแก่ฝ่ายใด
....ที่สำคัญ...จะไม่ต้องมา อีหลัก...อีเหลื่อ......กระทำการข้ามเจตนาที่แท้จริงในการใส่บาตรพระสงฆ์
.....ชัดเจนดีด้วย
คำถามสุดท้าย..... หรือนี่เป็นการประยุกต์.. หรือเป็นวิวัฒนาการ ของการทำบุญ......ในรูปแบบใหม่ ?
ศาสนาอื่นๆ เขาทำกันแบบนี้ไหม ? ? ?
ขอความกรุณาท่านผู้รู้ตอบด้วย.... เพื่อสติปัญญาของข้าพเจ้า
3. ต่อมาเวลา 10.00 น. สำนักพระราชวัง นำสัญญาบัตร และพัดยศ " เจ้าคุณชั้นธรรม ฯ....... พระธรรมมงคลญาณ " ที่หลวงพ่อวิริยังค์ ฯ ได้รับ มาประกาศที่วัดนี้ ( ชั้นบนพระอุโบสถ ) โดยท่านเจ้าคุณ สมเด็จวัดบวรนิเวศ ฯ เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ นายสุวิทย์ คุณกิตติ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
4. ถัดมาวันเดียวกัน เวลา 14.30 น. ศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อ ฯ ถวายกองผ้าป่า
* * * มีคนมาร่วมงานพิธี รวมทั้งผู้มาร่วมบวช.... ร่วมสวดลักขี..............และศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศ มากเป็นหมื่น ๆ คน
จากคุณ : Detente
|
|
|
60
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / การสวดมนต์นั้นมีอานิสงส์ ดังนี้ ( เป็นกุศลอย่างยิ่ง )
|
เมื่อ: มกราคม 02, 2013, 05:44:51 pm
|
การสวดมนต์นั้นมีอานิสงส์ดังนี้ http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php?user=dokgaew&topic=11547
๑. สามารถไล่ความขี้เกียจ เพราะขณะสวดมนต์ อารมณ์เบื่อ เซื่องซึม ง่วงนอน เกียจคร้านจะหมดไป และเกิดความแช่มชื่นกระฉับกระเฉงขึ้น
๒. เป็นการตัดความเห็นแก่ตัว เพราะในขณะนั้นอารมณ์จะไปหน่วงอยู่ที่การสวดมนต์อย่างตั้งใจ ไม่ได้คิดถึงตัวเอง ความโลภ โกรธ หลง จึงมิได้เกิดขึ้นในจิตตน
๓. เป็นการกระทำที่ได้ปัญญา ถ้าการสวดมนต์โดยรู้คำแปล รู้ความหมาย ก็ย่อมทำให้ผู้สวดได้ปัญญาความรู้ แทนที่จะสวดเหมือนนกแก้วนกขุนทองโดยไม่รู้อะไรเลย
๔. มีจิตเป็นสมาธิ เพราะขณะนั้นผู้สวดต้องสำรวมใจแน่วแน่ มิฉะนั้นจะสวดผิดท่อนผิดทำนอง เมื่อจิตเป็นสมาธิ ความสงบเยือกเย็นในจิตจะเกิดขึ้น
๕. เปรียบเสมือนการได้เฝ้าพระพุทธเจ้า เพราะขณะนั้นผู้สวดมี กาย วาจา ปกติ (มีศีล) มีใจแน่วแน่ (มีสมาธิ) มีความรู้ระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธเจ้า (มีปัญญา) เท่ากับได้เฝ้าพระองค์ด้วยการปฏิบัติบูชา ครบไตรสิกขาอย่างแท้จริง
และในวิมุตติสูตรได้กล่าวว่า การสาธยายมนต์คือเหตุหนึ่งในวิมุตติ ๕ ประการ (เหตุแห่งวิมุตติ ๕ ประการ คือ การฟังธรรม การเทศน์ การสวดมนตร์สาธยาย และการคิดอย่างแยบคาย ) ดังมีว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกประการหนึ่ง พระศาสดาหรือเพื่อนสพรหมจารีผู้อยู่ในฐานะครูบางรูป ก็ไม่ได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ แม้ภิกษุก็ไม่ได้แสดงธรรมเท่าที่ได้สดับ ได้ศึกษาเล่าเรียนมาแก่ชนเหล่าอื่นโดยพิสดาร ก็แต่ว่าภิกษุย่อมทำการสาธยายธรรมเท่าที่ได้สดับ ได้ศึกษาเล่าเรียนมาโดยพิสดาร เธอย่อมเข้าใจอรรถ เข้าใจธรรมในธรรมนั้น ตามที่ภิกษุสาธยายธรรมเท่าที่ได้สดับ ได้ศึกษาเล่าเรียนมาโดยพิสดาร เมื่อเธอเข้าใจอรรถ เข้าใจธรรม ย่อมเกิดปราโมทย์ เมื่อเกิดปราโมทย์แล้ว ย่อมเกิดปีติ เมื่อใจเกิดปีติกายย่อมสงบ ผู้มีกายสงบแล้ว ย่อมได้เสวยสุข เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นเหตุแห่งวิมุตติข้อที่ ๓ ซึ่งเป็นเหตุให้จิตของภิกษุผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มี ใจเด็ดเดี่ยว ที่ยังไม่หลุดพ้น ย่อมหลุดพ้น อาสวะที่ยังไม่สิ้นไป ย่อมถึงความสิ้นไป หรือเธอย่อมได้บรรลุธรรมอันเกษมจากโยคะชั้นเยี่ยม ที่ยังไม่ได้บรรลุ
เรื่องการสวดมนต์ มีบางแห่งกล่าวถึงเหตุผลของการสวดมนต์ไว้ว่า
๑. เป็นการรักษาธรรมเนียม ประเพณีที่ดีให้คงอยู่ ๒. เป็นการแสดงความเคารพบูชาพระรัตนตรัย ๓. เป็นการเชื่อมสามัคคีในหมู่คณะ ครบไตรทวาร ๔. เป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน ๕. เพื่อฝึกกายใจให้เข็มแข็งอดทน ๖. เพื่อดำรงรักษาเอกลักษณ์ของชาติไทยไว้ ๗. เพื่ออบรมจิตใจให้สะอาด สงบ สว่าง ๘. เพื่อฝึกจิตให้เกิดสมาธิ ไม่ฟุ่งซ่าน ๙. เพื่อเป็นการทบทวนพระพุทธพจน์
และกล่าวถึงประโยชน์ของการไหว้พระสวดมนต์ไว้ว่า...
๑. เป็นการเสริมสร้างสติปัญญา ๒. เป็นการอบรมจิตใจให้ประณีตและมีคุณธรรม ๓. เป็นสิริมงคล แก่ชีวิตตน และ บริวาร ๔. เป็นการฝึกจิตใจให้มีคุณค่าและมีอำนาจ ๕. ทำให้มีความเห็นถูกต้องตามหลักพุทธศาสนา ๖. เป็นการรักษาศรัทธาปสาทะของสาธุชนไว้ ๗. เท่ากับได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าแม้ปรินิพพานแล้ว ๘. เป็นเนตติของอนุชนต่อไป ๙. เป็นบุญกิริยา เป็นวาสนาบารมี เป็นสุขทางใจ
|
|
|
63
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สุดปลื้ม! วัยรุ่น 80% สวดมนต์ข้ามปี ^^
|
เมื่อ: มกราคม 02, 2013, 05:20:11 pm
|
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า พศ.ได้สรุปภาพรวมการจัดโครงการสวดมนต์ข้ามปี ทำความดี ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ซึ่งจัดขึ้นที่วัดกว่า 30,000 วัดทั่วประเทศและวัดไทยในต่างประเทศกว่า 400 วัด โดยส่วนกลางจัดที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหารและที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม ภาคเหนือจัดที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่วัดพระธาตุพนม จ.นครพนม และภาคใต้วัดพระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาทุกจังหวัด (พศ.) ได้สำรวจที่วัดระดับเจ้าคณะจังหวัด 122 วัด ใน 77 จังหวัด ซึ่งเป็นศูนย์กลางการจัดงานของแต่ละจังหวัดเฉลี่ยวัดละ 3,000-5,000 คน วัดเจ้าคณะอำเภอ 878 อำเภอ เฉลี่ยวัดละ 2,000-3,000 คน วัดเจ้าคณะตำบล เฉลี่ยวัดละ 1,000-2,000 คน วัดระดับหมู่บ้านเฉลี่ยวัดละ 1,000-1,500 คน ส่วนวัดในต่างประเทศ 400 วัด พบว่ามีประชาชนร่วมประมาณ 50,000 คน อย่างไรก็ตามจากข้อมูลที่ได้สำรวจนั้นพบว่าจำนวนประชาชนที่เข้าร่วมสวดมนต์ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้คือประมาณ 30 ล้านคน
พระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กล่าวว่า ในส่วนของวัดสระเกศฯ มีประชาชนเข้าร่วมสวดมนต์ประมาณ 1 แสนคน ซึ่งประเมินจากพระผงหลวงพ่อดวงดี 1 แสนองค์ น้ำมนต์ 1 แสนขวด และยันต์ผ้าแดง 1 แสนผืน ที่เตรียมไว้แจกจ่ายแก่ประชาชนผู้มาร่วมสวดมนต์ข้ามปี ส่วนผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในปีนี้กว่า 80% พบว่าเป็นกลุ่มคนทำงานและวัยรุ่น ซึ่งเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมานับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เยาวชนคนรุ่นใหม่หันมาสวดมนต์กันมากขึ้น
ข่าวจากคมชัดลึก 02/01/2556
|
|
|
70
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ขอเสนอให้ พระอาจารย์ พบลูกศิษย์ ทาง MSN อาทิตย์ ละครั้ง
|
เมื่อ: ธันวาคม 18, 2012, 08:49:26 pm
|
test ครั้งที่ 1
สรุปเบื้องต้น ถ้าะใช้ skye face ติดต่อประสานงานกันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตอบได้ตอนนี้ไม่เวริ์ก เหมือนโดนบล๊อก เพราะอืดมาก ๆ ต้องคลิ๊กเปิด เครดิตกับ skype ด้วยซึ่งมีค่าใช้จ่าย ส่วนการใช้ เว็บแคม ก็เสียเงินอีกเช่นกัน โปรแกรมที่ msn ให้อัพเดท skype ล็อกว่าต้องจ่ายค่าบำรุง webcam ด้วย ดังนั้นจะหลีกเลี่ยงไม่ให้มีค่าใช้จ่าย ตอนนี้ยังทำไม่ได้ หรือ ใครมีวิธี ที่ไม่เสียเงินหรือค่าใช้จ่าย ก็ช่วยแนะนำด้วย
test ครั้งที่ 2 เบื้องต้นตอบได้เลยว่า ไม่เวิร์ก สู้ MSN เดิมไม่ได้ แต่ปัจจุบัน MSN ได้ขายลิขสิทธิ์ไปให้กับ Skype แล้วก็คือถูกบังคับ เมื่อเปิด windows live ก็ต้อง update skype ด้วยเพราะถ้าไม่คลิ๊กก็ไม่ทำงาน ตอบได้เบื้องต้นว่า ห่วย ว่ากว่า MSN เดิมมากครับเพราะอันนี้ติตตั้งเสร็จ ก็ออนกันได้แล้ว อันนี้มา 3 ชั่วโมง
test ครั้งที่ 3 ติดตั้งมา 3 ชั่วโมงแล้ว ยังออนใครไม่ได้เลย แถมเครื่อง อืดเหมือนมีคนมาบังครับเครื่องเราซะนั่นอีก ท่านทั้งหลายอาจจะสงสัยว่า คอม spect เครื่องต่ำหรือไม่ ตอบเบื้องต้นว่า เครื่องเป็น I7 การ์ด 1 Gb 256 bit ram 6 GB HDD blue 1 TB ระบบ internet ADSL 10 mb เต็ม upload 512 mb
ผลสรุปชั่วโมงที่ 4 สรุปอีกครั้งสำหรับผู้ที่เสนอ ระบบ วีดีโอคอนเฟอเร้นท์ ตอบตอนนี้เลยเบื้องต้นเลยว่า ไม่เวิร์ก ครับ
ทั้งหมดเป็นผลทดสอบ ที่ทำงานใน ระบบปฏิบัติการ WinxP Service pack 3 update ทุกอย่างที่ ระบบต้องการ แต่ผลสรุป เครื่องอืดมาก แต่ตัวเครื่องไม่มีกล้อง Webcam ไม่มีไม่ค์
สรุปให้ท่านทั้งหลาย ทราบว่า มีการทดสอบ ระบบนี้ หลายครั้ง และหลายวัน แต่ติดปัญหา ด้วยระบบ skype ต้องมีการเสียเงินด้วย มีระบบปิด ล็อก ระบบ ไม่เหมือนเมื่อก่อน ส่วน msn นั้นไม่มี เพราะคลิ๊กแล้ว ก็เป็น Skype เลย
|
|
|
71
|
เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / http://www.watnairong.net วัดนายโรง
|
เมื่อ: ธันวาคม 13, 2012, 07:01:40 pm
|
http://www.watnairong.net วัดนายโรงประวัติวัดนายโรง
วัดนายโรง เป็นวัดขนาดเล็กที่ก่อสร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ประมาณ พ.ศ. ๒๔๐๓ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีโบราณสถาน โบราณวัตถุที่สวยงามในพื้นที่เขตบางกอกน้อย และเป็นวัดที่มีความสงบร่มรื่น เน้นการศึกษาและพัฒนาตนตามแนวทางพระพุทธศาสนา และกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อการอนุรักษ์ ส่งเสริม สนับสนุนศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมอันดีงาม ในอดีตวัดนายโรงเคยเป็นที่พำนักของหลวงปู่รอด ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านการสอนวิปัสสนากัมมัฏฐาน ด้านวิทยาคมและวัตถุมงคล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เบี้ยแก้ และลูกอมชานหมาก
ประวัติความเป็นมาของวัด ไม่มีหลักฐานหรือรายละเอียดที่ชัดเจนแน่นอนว่าก่อสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อใด เป็นแต่เพียงได้สืบทราบจากคําบอกเล่าว่า นายกรับซึ่งเป็นเจ้าของคณะละครนอกที่มีชื่อเสียงในสมัยรัชกาลที่ ๓ - ๔ เป็นผู้สร้าง นายกรับ เป็นทั้งครูสอนและนายโรงละคร (เจ้าของโรงละคร) รับงานแสดงละครจนมีฐานะร่ำรวย จึงได้นำเงินที่ได้จากการแสดงละครมาสร้างวัดไกล้ ๆ บ้านขึ้น และได้ตั้งชื่อว่า ตามคำเรียกของชาวบ้านให้ชื่อว่า “วัดนายโรง” วัดนายโรงเดิมมีชื่อเรียกหลาย ๆ ชื่อด้วยกัน คือ บ้างก็เรียกว่า “วัดเจ้ากรับ” หรือ “วัดละครเจ้ากรับ” ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ พระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อวัดนายโรงใหม่ว่า “วัดสัมมัชชผล” แต่ประชาชนในท้องถิ่นมักจะเรียกว่า “วัดนอก” เป็นการเรียกคู่กันกับ “วัดใน” (วัดบางบําหรุ) ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ไกล้ชิดกัน หรือบางทีก็เรียกว่า “วัดปากคลอง” เพราะตั้งอยู่ตรงปากคลองบางบําหรุ
สถานที่ตั้ง : เขตที่ตั้งของวัด
ทิศตะวันออก ติดกับที่ของเอกชนและโรงเรียนมัธยมวัดนายโรง ทิศตะวันตก ติดกับคลองบางกอกน้อย ทิศเหนือ ติดกับที่ของเอกชน ทิศใต้ ติดกับคลองบางบําหรุ
การเดินทาง
การเดินทางมาที่วัดสามารถเดินทางได้ทั้งทางบกและทางเรือ โดยทางบก สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ ส่วนทางเรือขึ้นเรือหางยาวจากท่าช้างเส้นทางที่จะไปบางกรวยหรือบางใหญ่ เรือจะวิ่งผ่านหน้าวัดนายโรง ซอยบรมราชชนนี ๕ ตรงมาเรื่อย ๆ จนกระทั้งถึงซอย ๔๕ แล้วเลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อย ๆ จะผ่านวัดบางบำหรุ และโรงเรียนมัธยมวัดนายโรง จึงจะถึงวัดนายโรง เข้าตรงซอยบรมราชชนนี ๑๕ ข้างศาลพระศิวะ หรือภัตตาคาร ป.กุ้งเผา จะผ่านหมู่บ้านพันธ์ศักดิ์ เลี้ยวซ้ายตรงมาเรื่อย ๆ จนถึงแนวกำแพงวัดบางบำหรุ แล้วให้เลี้ยวขวาไปตามแนวถนนจนสุดซอย ก็จะถึงวัดนายโรงhttp://www.watnairong.net/index.php?option=com_content&view=article&id=60:2012-09-30-02-58-13&catid=40:2012-09-30-02-54-25&Itemid=71
|
|
|
72
|
เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / 5 ธ.ค. วันพ่อแห่งชาต สดุดีมหาราชา ( ทีมงานมัชฌิมา )
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2012, 08:53:33 am
|
เพลง "พ่อแห่งแผ่นดิน" เพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐
คำร้อง : ชาลี อินทรวิจิตร - อาจินต์ ปัญจพรรค์ - สุนทรียา ณ.เวียงกาญจน์ - สุรพล โทณะวณิก ทำนอง : เรืออากาศตรี ศ.พิเศษ ดร.แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ - วิรัช อยู่ถาวร พิมพ์ปฏิภาณ พึ่งธรรมจิตต์ - จิรวุฒิ กาญจนะผลิน
(หญิง) อัครศิลปิน กรองศาสตร์ กรองศิลป์ การดนตรี ร้อยกรอง บทกวี ซึ้งกมล ตราบฟากฟ้า ครึ้มฝน ต้นไม้ทุกต้น พลอยยินดี รู้รักสามัคคีเพื่อพ่อแห่งไทย
(ชาย) เหล่าประชา คารวะ สดุดี แผ่นดินนี้ มีสุข ด้วยองค์ พระทรงชัย บรรดาชาติชน ชื่นชม สมใจ ถวายบังคม เทิดไท้ ภูมิพลมหาราชา
(หญิง) ภักดีถวาย ดวงใจ ของไทยทั้งชาติ มหาราช ปราดเปรื่อง เรื่องของกีฬา
(ชาย) ล้ำเลิศสื่อสาร พลังงานแทนแก้ปัญหา ฝนหลวง ฟ้าห่วงชาวนา ชาติไทย นับว่าโชคดี
(ชาย - หญิง) ทรงนำเศรษฐกิจพอเพียง หล่อเลี้ยงชีวา เป็นปรัชญา เกริกฟ้า ก้องปฐพี ไทยทั้งผอง ภูมิใจ ไทยเป็นไทยจนวันนี้ เพราะองค์ภูมิพลที่ คุ้มครองไทย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอ เดชะ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน 5 ธ.ค. วันพ่อแห่งชาต สดุดีมหาราชา ( ทีมงานมัชฌิมา )
|
|
|
75
|
เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / สำหรับ เรื่องตาราง ออกอากาศนั้น ยังไม่สามารถ ดำเนินการให้ได้
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2012, 04:42:45 pm
|
สำหรับ เรื่องตาราง ออกอากาศนั้น ยังไม่สามารถ ดำเนินการให้ได้ หลายท่านที่ส่งจดหมายเข้ามาถาม ว่าจะเปิดเสียง พระอาจารย์ในช่วงไหนบ้าง ก็คงตอบให้เข้าใจตามนี้ว่า ยังไม่สามารถจัดการให้ได้ เพราะเจตนาคือ ต้องการให้ท่านได้ฟังธรรม รวม ๆ ตามบารมี ธรรมดังนั้นจึงไม่ยังสามารถระบุเวลาที่แน่นอนเสียงพระอาจารย์ได้ สำหรับรายการประจำวัน นั้น ปัจจุบัน งดการทำวัตรเช้า เพราะถ้าเปิดเสียง ทำวัตรเช้าช่วง 9.00 น.ไป กว่าจะจบก็ประมาณ 10.30 น.สำหรับสวดมนต์แปล ก็จะถึง 11.00 น. ซึ่งได้รับกระแสตอบรับมาว่า ไม่ใช่ทำวัตรเช้า ดังนั้นหลายท่านแสดงความเห็นว่า ควรเปิดรายการ ตี 4 เพื่อจะได้ทำวัตร และนั่งสมาธิ ด้วย แต่ความเป็นจริง สถานีออนไลน์ไม่ใช่เป็น สถานีปกติ คือ ทุกท่านต้องออนไลน์เน็ต ถึงจะรับฟังได้ ดังนั้นส่วนนี้จึงลดเวลาเรื่องการดำเนินการของสถานีลง เรื่องด้วยการบริหารค่าไฟฟ้าช่วงที่เปิดลงเอาเหมาะสมคือ 9.00 น. หากกำลังค่าใช้จ่ายมีพอ จะขยายเวลาให้ในอนาคต สำหรับรายการที่เิปิดกันเป็นประจำตอนนี้ 1.เสียงธรรมยามเช้า โดย พระคุณเจ้า หลายรูป หลายองค์ ก็เป็นไฟล์เสียงต้นฉบับทั้งหมด เพราะที่สถานีจะไม่เปิดไฟล์เสียงประเภท wma จะเปิด mp3 เป็นหลัก ดังนั้นจำนวนความจุไฟล์จึงสูงไม่สามารถให้ดาวน์โหลดได้ แต่ก็แจกไฟล์เสียงตามที่ขอมากันเป็นราย ๆ ไป 2.บรรยายวิสุทธิมรรค โดย พระอาจารย์กิตติวุฑโฒ เป็นเืรื่องสนับสนุนกรรมฐานโดยตรง แนวอภิธรรม 3.เสียงบรรยายกรรมฐาน โดย เจ้าคุณระแบบ วัดบวรนิเวศน์ ซึ่งได้ไปจัดหามา 4.เสียงอ่านพระสูตรพระไตรปิฏก 5.ทำวัตรเย็น 6.เสียงบรรยายธรรมจากพระไตรปิฏก 7.เรื่องเล่ากฏแห่งกรรม อาจารย์ยอด ซึ่งตอนนี้ได้รับไฟล์เสียงสนับสนุนมาจาก อาจารย์ยอดเอง 500 กว่าเรื่อง ทะยอยเปิดไป ในที่อื่น ๆ ไม่มีให้ดาวน์โหลดเช่นกัน 8.เสียงธรรมกรรมฐาน ช่วงเวลาค่ำ 19.00 - 20.30 น. อันนี้ก็ยังเปิดกันอยู่ทุกวัน ถึงจะซ้ำไปซ้ำมา ก็ให้เปิดอยู่เท่านี้ที่เป็นสากล นะครับ 10.ส่วนเสียงธรรมบรรยาย ครูอาจารย์ อื่น ๆ ที่มี ก็มีหลายรูป หลายองค์ ซึ่งเราได้รับแผ่นต้นฉบับ ทังบริจาคมา และไปจัดหามาด้วยทุนปัจจัย ก็มีจำนวนมาก ทุนปัจจัยที่นำเสียงเหล่านี้มาเป็นหลักหมื่นนะครับ ไม่ใช่ได้มาฟรีทุกท่านทุกรูป เราต้องทำบุญสนับสนุนธรรมทานด้วย เพื่อต่ออายุธรรมทานในที่อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ประกาศให้ทราบตามนี้นะครับ
|
|
|
76
|
เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: เข้าเว็บได้ช้า ถึงขั้นช้ามาก ในหน้าเว็บบอร์ด ครับ
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2012, 04:32:42 pm
|
ตอนนี้คิดว่า ยังขยายไม่ได้เพราะยังมีกำลังคนไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือด้านนี้ ก็เป็นที่เกรงใจกันโดยเฉพาะ คุณทินกร ตอนนี้งานก็ล้นมืออยู่ ดังนั้นคิดว่าต้องดูกันไปอีกสักระยะ ส่วนจะเพิ่มระดับใดนั้น ขอพิจารณากันก่อนนะครับ ต้องดูทุนปัจจัยด้วยครับ ลำพังที่ทำให้สถานีวิ่งไปได้ทุกวันนี้ สมาชิกที่เป็นศิษย์ต้น ๆ ก็ต้องเสียสละกันมากแล้วนะครับ ค่าไฟฟ้าสถานี ตกเดือนละเป็นพัน นะครับค่าสัญญาณ อินเตอร์เน็ต อีก 700 บาท สองอย่างรวมกันแล้วก็อยู่ประมาณ 2000 กว่าบาททุกเดือนนะครับ ที่คิดไว้คือตั้ง Serverเอง โดยเช่าซื้อสัญญาณ 3ิิbb คือ ล็อก ip address แต่มีค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนกำลังตอนนี้ยังทำไม่ได้ นะครับ ถ้าถูกลงมาหน่อยก็น่าจะเป็น VPS แต่ก็เป็นรายเดือนขั้นต่ำ 1500 บาท ที่ 3 GB ก็ต้องดูโอกาสการสนับสนุนกันต่อไปนะครับ
|
|
|
|