ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - ชมพู่
หน้า: 1 [2] 3
41  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: เรียน เว็บมาสเตอร์ ช่วงกลางวัน รู้สึก ว่าเว็บ มัชฌิมา จะเข้าได้ยาก มากคะ เมื่อ: กันยายน 23, 2011, 09:34:11 am
ช่วงใกล้ ๆ เที่ยงเข้าไม่ค่อยได้ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะสัญญาณเน็ตที่นี่ หรือเป็นที่เว็บ คะ

 :25: :c017:
42  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: สถานการณ์น้ำท่วม ทำให้เดือนร้อยกันหลายจังหวัด เมื่อ: กันยายน 13, 2011, 09:31:07 am
สถานการณ์ น่าเป็นห่วง มาก จริง ๆ คะ

 :'( :'( :'(
43  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ตำนาน พระอุปคุต เมื่อ: สิงหาคม 30, 2011, 09:00:49 am
อ่านแล้ว ทำให้เกิดความอยาก ได้ หลวงพ่อ อุปคุต ติดตัว สักองค์ คะ

ขอบคุณ ลุงปุ้ม นะคะ

 :25: :25: :25:
44  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / เรี่ิมศึกษา เรื่อง สมาธิ ควรเริ่มจากตรงไหน คะ เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 12:16:36 pm
คือ บางครั้ง มาทบทวนดูเรื่องการทำสมาธิ ที่ไม่ก้าวหน้า นั้นอาจจะเป็นเพราะเราศึกษาเรื่อง สมาธิ มาไม่เพียงพอ หรือไมดี ดังนั้นก็เลยมาคิดว่า ถ้าจะเริ่มนับหนึ่งเืรื่องการศึกษาภาวนาสมาธิ ควรเริ่มต้นศึกษา เรื่องใดก่อน คะ

โปรดแนะนำด้วยนะคะ

 :c017: :25: :88:
45  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ปฏิบัติธรรมเสริมบารมีเนื่องในวันแม่แห่งชาติ วัดใหม่ห้วยลึก 9-15 สิงหาคม 2554 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2011, 11:20:09 am

วัดใหม่ห้วยลึก ต.สวนป่าน อ.เมืองนครปฐม ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรมเสริมบารมีถวายเป็นพระราชกุศล 9-15 สิงหาคม
วัดใหม่ห้วยลึก ได้จัดปฏิบัติธรรมเสริมบารมีเนื่องในวันแม่แห่งชาติ ซื่งจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 9-15 สิงหาคม 2554

จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมปฏิบัติธรรม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนม์พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ

ท่านใดที่สนใจ ติดต่อสอบถามแจ้งชื่อลงทะเบียนได้ที่เจ้าอาวาสฯ 08-7303-0639

วัดใหม่ห้วยลึก
เลขที่ 81 หมู่ที่ 2 ตำบลสวนป่าน อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม 73000
โทรศัพท์ : พระปลัดมณี วฑฺฒโน 08-7303-0639


http://www.watmaihuailuek.org/
46  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2011, 09:37:52 am
   

               กาเยน วาจาย จ โยธ สญฺญโต
มนสา จ กิญฺจิ น กโรติ ปาปํ
น อตฺตเหตุ อลิกํ ภณาติ
ตถาวิธํ สีลวนฺติ วทนฺติ

          ผู้ใดสำรวมในโลกนี้ สำรวมทางกาย วาจาและใจ
ไม่ทำบาปอะไรๆ และไม่พูดพล่อย เพราะเหตุแห่งตน
ท่านย่อมเรียกคนเช่นนั้นว่า ผู้มีศีล

    จาก :- สรภังคชาดก ขุททกนิกายชาดก ข้อ ๒๔๖๖


ขอบคุณเนื้อหาจาก
http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html

47  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ผู้เจริญอุโบสถ พึงเจริญกรรมฐาน เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2011, 09:34:40 am
อุโบสถจึงมีผลมาก  เพราะจิตของผู้รักษาบริสุทธิ์  ไม่มีผลมากเพราะจิตเศร้าหมอง

   บุคคลที่รักษาอุโบสถแล้ว  เจริญพุทธานุสสติ  ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ 
พระพุทธเจ้าตรัสว่า  บุคคลนั้น  ชื่อว่าเข้าจำ  *พรหมอุโบสถ  อยู่ร่วมกับพรหม  และมีจิตผ่องใสเพราะ
ปรารภพรหม

* อุโปสถสูตร อํ ติกนิบาต ข้อ ๕๑๐

   คำว่า  พรหม  ในที่นี้  แปลว่า  ประเสริฐ  เป็นชื่อของพระพุทธเจ้า

   บุคคลที่รักษาอุโบสถแล้ว  เจริญธัมมานุสสติ  ระลึกถึงคุณของพระธรรมเป็นอารมณ์  พระพุทธเจ้า
ตรัสว่า  บุคคลนั้น  ชื่อว่าเข้าจำ  ธรรมอุโบสถ  อยู่ร่วมกับธรรม  และมีจิตผ่องใสเพราะปรารภธรรม

   บุคคลที่รักษาอุโบสถแล้ว  เจริญสังฆานุสสติ  ระลึกถึงคุณของพระสงฆ์เป็นอารมณ์  พระพุทธเจ้า
ตรัสว่า  บุคคลนั้น  ชื่อว่าเข้าจำ  สังฆอุโบสถ  อยู่ร่วมกับสงฆ์  และมีจิตผ่องใสเพราะปรารภสงฆ์

   บุคคลที่รักษาอุโบสถแล้ว  เจริญสีลานุสสติ  ระลึกถึงความบริสุทธิ์แห่งศีลของตน  พระพุทธเจ้า
ตรัสว่า  บุคคลนั้น  ชื่อว่าเข้าจำ  ศีลอุโบสถ  อยู่ร่วมกับศีล  และมีจิตผ่องใสเพราะปรารภศีล

   ศีลที่บริสุทธิ์นั้น  คือ  ศีลที่ไม่ขาด  คือไม่ขาดศีลข้อต้นหรือข้อปลายเหมือนผ้าที่ขาดตรงชาย ๑
   ไม่ทะลุ  เหมือนผ้าที่ทะลุตรงกลาง  เพราะขาดศีลตอนกลางในระหว่างข้อต้นและข้อปลาย ๑
   ไม่ด่าง  เหมือนแม่วัวที่มีรอยด่างสีดำหรือแดง  รูปกลมหรือยาว  ที่หลังหรื่อที่ท้อง  เพราะขาด
ศีลติดต่อกันเป็นลำดับ  ๒  หรือ  ๓  ข้อ ๑
   ไม่พร้อย  เหมือนแม่วัวที่มีจุดตามตัว  เพราะศีลขาดเป็นระหว่างๆ ๑

   บุคคลที่รักษาอุโบสถแล้ว  เจริญเทวตานุสสติ  ระลึกถึงคุณธรรมที่ทำให้ไปเกิดเป็นเทวดา 
พระพุทธเจ้าตรัสว่า  บุคคลนั้น  ชื่อว่าเข้าจำ  เทวดาอุโบสถ  อยู่ร่วมกับเทวดา  และมีจิตผ่องใสเพราะ
ปรารภเทวดา

   ผู้รักษาอุโบสถ  เมื่อพากเพียรระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเป็นต้นอยู่อย่างนี้  จิตย่อมผ่องใส 
ไม่เศร้าหมองเพราะกิเลส

   ครั้นเจริญอนุสสติให้จิตใจสงบอย่างนี้แล้ว  ตายไปย่อมเกิดในสวรรค์  หากเจริญธรรมให้สูงยิ่ง
กว่านี้  คือเจริญสมถะกรรมฐาน  เป็นนิจจนได้ฌาน  ฌานก็จะนำเกิดในพรหมโลกหรือหากเจริญวิปัสสนา
จนสำเร็จมรรคผล  เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนาแล้ว  ผู้รักษาอุโบสถศีลนั้นก็สามารถกำหนดการ
เกิดของตนได้ว่า  ยังมีอีกหรือไม่  คือถ้าเป็นพระโสดาบัน  พระสกทาคามี  พระอนาคามี  ก็ยังต้องเกิดอีก 
แต่อย่างมากก็เกิดอีกไม่เกิน  ๗  ชาติ  หากสำเร็จเป็นพระอรหันต์  ก็ไม่เกิดอีกเลย

   ก็เพราะอริยอุโบสถมีผลมาก  มีอานิสงส์มากอย่างนี้  คืออย่างต่ำทำให้เกิดในสวรรค์  ๖  ชั้น 
อย่างกลางทำให้เกิดเป็นพรหม  อย่างสูงทำให้ไม่เกิดอีกเลย  ทุกท่านที่รักษาอุโบสถ  จึงควรรักษาอริย
อุโบสถ  ดำเนินรอยตามพระอริยะ  ส่วนผลที่ได้รับจะสูงต่ำเพียงใดนั้น  ขึ้นอยู่กับการกระทำของเราเอง 
รวมทั้งปัญญาบารมีที่ได้สั่งสมอบรมมาแต่ปางก่อนด้วย




ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.bloggang.com
48  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / อุโบสถ* มี ๓ อย่าง เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2011, 09:32:30 am
อุโบสถ*  มี  ๓ อย่าง  คือ
   ๑.  โคปาลกอุโบสถ  อุโบสถที่เปรียบเหมือนคนรับจ้างเลี้ยงโค
   ๒.  นิคัณฐอุโบสถ  อุโบสถของพวกนักบวชนิครนถ์
   ๓.  อริยอุโบสถ  อุโบสถของพระอริยะ

* อุโปสถสูตร อํ ติกนิบาต ข้อ ๕๑๐

   บุคคลผู้รักษาอุโบสถเหมือนคนรับจ้างเลี้ยงโคนั้น  เมื่อสมาทานอุโบสถศีลแล้ว  ก็ปล่อยใจให้
คิดแต่เรื่องราวของความโลภความต้องการ  อยากได้สิ่งโน้นสิ่งนี้มาบำรุงบำเรอตน  ไม่ได้คิดจะทำความ
ดีอย่างอื่นให้เกิดขึ้นเลย   ไม่ผิดอะไรกับคนที่รับจ้างเลี้ยงโค   ที่เมื่อถึงเวลาเช้าก็ไปรับโคมาเลี้ยง  เวลา
เย็นก็นำโคมาส่งเจ้าของแล้วรับเอาค่าจ้างไป  กลับบ้านแล้วก็คิดแต่ว่าพรุ่งนี้จะพาโคไปกินหญ้า  กินน้ำที่
ไหน  คนรับจ้างนั้นไม่เคยได้รับประโยชน์อะไรจากโค  มีน้ำนมเป็นต้นเลย  ผู้รักษาโคปาลกอุโบสถก็เช่น
กัน  ไม่ได้รับประโยชน์จากอุโบสถศีลที่ตนรักษาเลย  การรักษาแบบ  โคปาลกอุโบสถ  จึงไม่มีผลมาก 
ไม่มีอานิสงส์  เพราะความตรึกไม่บริสุทธิ์

   ส่วน  นิคัณฐอุโบสถ  นั้นเป็นอุโบสถของนักบวชนอกพระพุทธศาสนา  ซึ่งแตกต่างจากการรักษา
อุโบสถในพระพุทธศาสนา  กล่าวคือ  ในอุโบสถ  พวกนักบวชนิครนถ์  จะแนะนำชักชวนสาวก  เป็นต้นว่า 
ไม่ให้ฆ่าสัตว์ในที่ทั้ง  ๔  ในที่เลยร้อยโยชน์ไป  นอกจากนั้นมิได้ห้าม   การแนะนำชักชวนสาวกอย่างนี้ 
ชื่อว่า  ห้ามการฆ่าสัตว์ในที่บางแห่ง  ไม่ห้ามฆ่าสัตว์ในที่บางแห่ง  เป็นการขาดความกรุณาเอ็นดูในสัตว์
บางพวก  มิได้ให้ความเอ็นดูแก่สัตว์ทุกหมู่เหล่า  อุโบสถของพวกนิครนถ์จึงไม่มีผลมาก

   แต่  อริยอุโบสถ  นั้นเป็นอุโบสถที่มีผลมาก  มีอานิสงส์มาก  เพราะผู้รักษามิได้ปล่อยใจให้
ฟุ้งซ่านไปในความยินดีต้องการ  หรือความเศร้าหมองใดๆ  ด้วยอำนาจของกิเลส  แต่มาพากเพียรระลึก
ถึงพระคุณของพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์  ตลอดจนระลึกถึงศีลที่บริสุทธิ์ไม่ด่างพร้อยของตน  และ
ระลึกถึงคุณธรรมของผู้ที่เกิดเป็นเทวดา  ว่าเทวดาเหล่านั้นได้เกิดเป็นเทวดา  เพราะประกอบด้วยศรัทธา 
ศีล  สุตะ  จาคะ  ปัญญา  เช่นใด  แม้เราก็ประกอบด้วยศรัทธา  ศีล  สุตะ  จาคะ  ปัญญา  เช่นนั้น  เมื่อพาก
เพียรระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า  เป็นต้น  จิตย่อมผ่องใส  ไม่เศร้าหมองเพราะกิเลส  การรักษาอุโบสถ
โดยการไม่ปล่อยใจให้ตกไปในอำนาจของอกุศลแล้วมาเจริญกุศลอย่างนี้  ชื่อว่า  อริยอุโบสถ



49  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ศีล คู่ กับ คุณธรรม เป็นการเจริญคุณธรรม เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2011, 09:29:40 am
อนึ่ง  ผู้ที่ไม่ฆ่าสัตว์  แต่ชอบเบียดเบียนสัตว์ให้เป็นทุกข์เดือดร้อน  แม้ศีลข้อที่  ๑  ไม่ขาด  แต่ก็
ขาดธรรม  คือเมตตากรุณา  ด้วยเหตุนี้ผู้ที่จะรักษาศีล  ๕  ให้บริสุทธิ์หมดจดจริงๆ  จึงต้องมีธรรมที่คู่กับศีล
แต่ละข้อกำกับไว้ด้วย  คือ

   ๑.  เมตตากรุณา  คู่กับศีลข้อที่  ๑  เมตตา  นั้นได้แก่  ความปรารถนาจะให้ผู้อื่นเป็นสุข  ส่วน 
กรุณา  นั้นปรารถนาจะให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
   ๒.  สัมมาอาชีวะ  การเลี้ยงชีวิตชอบ  คู่กับศีลข้อที่  ๒  ในที่นี้หมายถึงการประกอบอาชีพที่สุจริต
ไม่ผิดศีลผิดธรรม  เพื่อให้ได้ทรัพย์สินมาใช้สอยเลี้ยงดูตนเองและผู้ที่อยู่ในความรับผิดชอบของตน
   ๓.  ความสำรวมในกาม  คือยินดีเฉพาะคู่ครองของตน  คู่กับศีลข้อที่  ๓
   ๔.  ความมีสัจจะ  คือพูดจริงทำจริง  คู่กับศีลข้อที่  ๔
   ๕.  ความมีสติ  สำรวมระวังไม่ประมาท  คู่กับศีลข้อที่  ๕

   ผู้มีทั้งศีลและธรรมคู่กันไป  ย่อมเป็นผู้งามพร้อมไม่มีที่ติ  เพราะฉะนั้น  ศีล ( ที่ประกอบด้วย
ธรรม )  จึงเป็นอาภรณ์  หรือเครื่องประดับอันประเสริฐสำหรับมนุษย์

   ผู้ที่ปรารถนา  ลาภ  ยศ  สรรเสริญ  สุข  ตลอดจนการเกิดในสุคติเป็นมนุษย์  และเทวดา  หรือ
ปรารถนาจะไม่เกิด  คือบรรลุนิพพาน  ก็ต้องอาศัยศีล

   พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า  ความปรารถนาของผู้มีศีลเท่านั้นที่จะสำเร็จ  หรือความสำเร็จ
ผลสมความปรารถนาจะเกิดแก่ผู้มีศีลเท่านั้น

   ทุกคนปรารถนาของดีทั้งสิ้น  ไม่มีใครปรารถนาของไม่ดี  เมื่อปรารถนาของดีก็ต้องทำดี  ผลที่
ได้รับจึงจะดีตามการกระทำ   แต่ถ้าปรารถนาของดีแล้วทำชั่ว  ผลที่ได้รับก็ชั่วตามการกระทำ   เมื่อได้รับ
ผลชั่วมีการเกิดในอบายเป็นต้นแล้ว  ความปรารถนาเหล่านั้นจะสำเร็จได้อย่างไร

   ผู้ที่ไม่ทำชั่วจึงต้องมีศีลเป็นเครื่องคุ้มครองป้องกัน


50  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ศีลมี 3.ระดับ เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2011, 09:16:45 am
ศีลที่บุคคลสมาทานรักษา  เพื่อต้องการภวสมบัติ  และโภคสมบัติ  ด้วยอำนาจตัณหา  ความต้อง
การ  ชื่อว่า  หีนศีล  ศีลอย่างต่ำ
   ศีลที่บุคคลสมาทานรักษา  เพื่อต้องการให้ตนเองหลุดพ้นจากกิเลส  ชื่อว่า  มัชฌิมศีล 
ศีลอย่างกลาง
   ศีลที่พระโพธิสัตว์รักษา  เพื่อต้องการให้สัตว์ทั้งหลายหลุดพ้นจากกิเลส  ชื่อว่า  ปณีตศีล 
ศีลอย่างประณีต

   ศีลมีทั้งศีลของบรรพชิต   และศีลของคฤหัสถ์
   ศีลของบรรพชิต  แบ่งเป็นสอง  คือ   ศีลของภิกษุมี  ๒๒๗  ศีลของสามเณรมี  ๑๐
   ศีลของคฤหัสถ์  ได้แก่ศีล  ๕  ศีล  ๘  และศีลอุโบสถ

   สำหรับบรรพชิตนั้น ท่านไม่เป็นพิษเป็นภัยแก่ใครอยู่แล้ว  เพราะอยู่ในกรอบของศีลที่พระพุทธองค์
ทรงบัญญัติไว้  แต่คฤหัสถ์ที่ปราศจากศีล  ๕  อาจเป็นพิษเป็นภัยแก่ตนเองและผู้อื่นด้วย  ในที่นี้จึงขอกล่าว
ถึงศีลที่คฤหัสถ์ควรรักษาเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง  และเพื่อความสงบสุขของสังคม เพียงแต่ทุกคนพา
กันรักษาศีล  ๕  ข้อเท่านั้น  ชาวโลกก็จะอยู่ร่วมกันเป็นปกติสุข



ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.kiddyiam.cc.cc
51  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ผู้มีศีลย่อมได้รับอานิสงส์ ๕ ประการ เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2011, 09:15:15 am
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ในมหาปรินิพพานสูตรทีฆนิกาย  มหาวรรค ว่า
ผู้มีศีลย่อมได้รับอานิสงส์  ๕  ประการ  คือ
   ๑.  ย่อมได้รับโภคทรัพย์ใหญ่  เพราะความไม่ประมาทเป็นเหตุ  ( ดังที่พระท่านแสดง
อานิสงส์ของศีลในเวลาให้ศีลว่า  สีเลน  โภคสมปทา )
   ๒.  เกียรติศัพท์อันงามของผู้มีศีล  ย่อมฟุ้งขจรไปไกล
   ๓.  ผู้มีศีลเข้าไปสู่สมาคมใดๆ  ย่อมเข้าไปอย่างองอาจไม่เก้อเขิน
   ๔.  ผู้มีศีลย่อมไม่หลงทำกาละ  ( คือไม่หลงในเวลาตาย )
   ๕.  ผู้มีศีล  ตายแล้วย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์  ( สีเลน  สุคตึ  ยนฺติ )


52  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / อานิสงส์ของศีลที่เป็นกุศล คือ กุศลศีล เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2011, 09:13:23 am
ใน  กิมัตถิยสูตร  อังคุตตรนิกาย  ทสกนิบาต  ข้อ  ๑  พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า 
ทรงแสดงอานิสงส์ของศีลที่เป็นกุศล  คือ  กุศลศีล  ที่มีกุศลจิตเป็นสมุฏฐาน แก่ท่านพระอานนท์ไว้  ๑๐ 
ประการ  คือ
   ๑.  ศีลที่เป็นกุศลมีอวิปปฏิสาร  คือความไม่เดือดร้อนใจเป็นผล  เป็นอานิสงส์
   ๒.  ความไม่เดือดร้อนใจมีความปราโมทย์เป็นผล  เป็นอานิสงส์
   ๓.  ความปราโมทย์มีปีติเป็นผล  เป็นอานิสงส์
   ๔.  ปีติมีปัสสัทธิ  คือความสงบใจเป็นผล  เป็นอานิสงส์
   ๕.  ปัสสัทธิ  มีสุข  คือความสุขใจเป็นผล  เป็นอานิสงส์
   ๖.  สุขมีสมาธิเป็นผล  เป็นอานิสงส์
   ๗.  สมาธิมียถาภูตญาณทัสสนะ  คือความเห็นด้วยญาณตามความเป็นจริงเป็นผล  เป็นอานิสงส์
   ๘.  ยถาภูตญาณทัสสนะ  มีนิพพิทาวิราคะ  คือความหน่ายความคลายเป็นผล  เป็นอานิสงส์
   ๙.  นิพพิทาวิราคะ  มีวิมุตติญาณทัสสนะ  คือความเห็นด้วยญาณเป็นเครื่องหลุดพ้นเป็นผล 
เป็นอานิสงส์
   ๑๐.  ศีลที่เป็นกุศลย่อมถึงอรหันต์โดยลำดับ  ด้วยประการฉะนี้



ขอบคุณภาพประกอบจาก http://lukkaew.diaryclub.com

53  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: อ่านข้อความ เข้าข้อมูล ส่วนตัวไม่ได้ครับ เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2011, 04:05:51 pm
น่าจะ Ok แล้วมั้งคะ ผมก็ลุ้นมาตั้งแต่เช้าเหมือนกัน

แบบเคยอ่าน ประจำ นะึคะ

 :s_hi:
54  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: จะทราบอย่างไร เพราะสงสัยอยู่ว่า กรรมฐาน รักษาโรคได้จริงหรือ? เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2011, 05:03:39 pm
เรื่องนี้มีประโยชน์ มากคะ เกี่ยวกับเรื่องการรักษาโรค ด้วยกรรมฐาน

อยากให้เพื่อน ๆ ได้อ่านคะ

 :58:
55  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / กัลยาณวัตร คืออะไร พี่น้องเพื่อนสมาชิกธรรม ทราบหรือยัง คะ เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2011, 05:01:43 pm
อานนท์ ! ก็กัลยาณวัตรอันเราตั้งไว้ในกาลนี้
นี้เป็นไปเพื่อความ เบื่อหน่ายโดยส่วนเดียว เพื่อคลายกำหนัด
เพื่อความดับ เพื่อความสงบระงับ เพื่อความรู้ยิ่ง
เพื่อความรู้พร้อม เพื่อนิพพาน.
อานนท์ ! กัลยาณวัตรนี้ เป็นอย่างไรเล่า ?
นี้คือ อริยอัฏฐังคิกมรรค, กล่าวคือ
สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ;
สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ;
สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ.
อานนท์ ! ความขาดสูญแห่งกัลยาณวัตรนี้ มีในยุคแห่งบุรุษใด
บุรุษนั้นชื่อว่า เป็นบุรุรษคนสุดท้ายแห่งบุรุษทั้งหลาย....
เราขอกล่าวย้ำกะเธอว่า...
เธอทั้งหลายอย่าเป็นบุรุษพวกสุดท้ายของเราเลย.
ม. ม. ๑๓/๔๒๗/๔๖๓.



ขอบคุณภาพจาก http://www.bloggang.com
56  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / วิธีการทำจิตเมื่อถูกทำร้าย เมื่อ: มิถุนายน 02, 2011, 11:49:33 am
วิธีการทำจิตเมื่อถูกทำร้าย

ผัดคุนะ ! ถ้ามีใครกล่าวติเตียนเธอต่อหน้า

ผัดคุนะ ! ในกรณีเช่นนั้น เธอพึงละฉันทะ และวิตก ชนิดที่เป็นวิสัยแห่งชาวบ้านเสีย

ผัดคุนะ ! ในกรณีเช่นนั้น เธอพึงทำความสำเหนียกอย่างนี้ว่า
“จิตของเราจักไม่วิปริต เราจักไม่เปล่งวาจาหยาบ
และเราจักยังคงเป็นผู้มีความเอ็นดูเกื้อกูล มีเมตตาจิต ไม่มีโทษอยู่ในภายใน” ดังนี้

ผัดคุนะ ! เธอพึงสำเหนียกอย่างนี้

ผัดคุนะ ! ถ้ามีใครประหารเธอด้วยฝ่ามือ ด้วยก้อนหิน ด้วยท่อนไม้ หรือด้วยศาตรา

ผัดคุนะ ! ในกรณีแม้เช่นนั้น เธอก็พึงละฉันทะ และวิตก ชนิดที่เป็นวิสัยแห่งชาวบ้านเสีย

ผัดคุนะ ! ในกรณีเช่นนั้น เธอพึงทำความสำเหนียกอย่างนี้ว่า
“จิตของเราจักไม่วิปริต เราจักไม่เปล่งวาจาชั่วหยาบ
และเราจักยังคงเป็นผู้มีความเอ็นดูเกื้อกูล มีเมตตาจิต ไม่มีโทษอยู่ในภายใน” ดังนี้

ผัดคุนะ ! เธอพึงทำการสำเหนียกอย่างนี้ แล

- มู. ม. 12/250/264.

57  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: อาการหมั่นไส้ คน ที่มารยา นี้จะแก้อย่างไรดีคะ เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2011, 01:32:02 pm
ทำแบบ ญี่ปุ่น ดีหรือคะ ทำหุ่นฟาง แล้วเขียนชื่อ ไปตีตะปู เลย

หรือแบบจีน เขียนชื่อ แล้วให้พระชักบังสุกุล แล้วเผา

แต่จะแบบไหน ๆ นั้น ถ้าเป็นศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ตัวจริง

ก็คงต้องเข้าถึงธาตุ ก่อน ใช่หรือไม่คะ เพราะกรรมฐาน เริ่มด้วยธาตุ ดิน ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตนของเรา

ต้องเข้มข้นในกรรมฐาน มากขึ้นคะ
58  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: โรคเครียด พัฒนา สู่โรคหัวใจ ได้ พึงระวังครับ..... เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 03:56:13 pm
กระทู้นี้ช่วยได้คะ สำหรับโรคเครียด วิตก กังวล
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3733.0

อานาปานสติ ปฏิสัมภิทามรรค เพื่อการภาวนา
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=811.0

่ต้องลองอ่านต่อด้วยนะคะ ช่วยได้จริง ๆ คะ

 :13:
59  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: โอม~ คำนี้เจ๋งกว่าที่คุณคิด เมื่อ: เมษายน 22, 2011, 03:54:36 pm
ต้องลองฟังเสียงเพลง กำำักับบทด้วยจะดีคะ

เพลงช่วยดำเนินสมาธิ เปิดจักระ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3298.0




 :96:
60  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ไม่เข้าใจ กับคำว่า "มีแต่จิตล้วน ๆ " เมื่อ: เมษายน 21, 2011, 07:10:46 pm
วิจิกิจฉา จะดับได้ต้องฝึกภาวนาจริง ๆ คะ เพียงแต่นึกแล้วก็ปรุงแต่งไปเรื่อย ๆ ก็ไม่เข้าใจถึงเรื่องนี้ได้คะ

ภาวนา ๆ ๆๆๆๆๆ มาก ๆๆๆ ก็น่าจะเข้าใจ คะ

 :25:
61  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: จะไปสอบเอ็น... แต่ไม่มั่นใจ เลยไปบน สิ่งศักด์สิทธิ์ เมื่อ: มีนาคม 25, 2011, 05:44:42 pm
หัวอกเดียวกันเลยคะ

ทำเหมือนกัน

และเชื่อว่าหลายคนก็ทำเช่นนี้ คะ เด็กไทย

และพ่อแม่ หลายคน ก็คงจะไปบน ด้วยกระมัง

 :49:
62  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: ประกาศเรื่องการจัดรายการออกอากาศ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 01:48:29 pm
เห็นด้วยคะ ถ้ามีความจำเป็น เพราะส่วนใหญ่ที่เห็นในเว็บที่จัดรายการธรรมะกัน ก็จะทำได้สักพักแล้วก็จะหายไป
อย่างนี้คะคงเป็นเพราะมีความจำเป็นด้านค่าใช้จ่ายกระมังคะ

 :c017:
63  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทำไมคนทำเลว จึงได้ดีคะ คนทำดี จึงไม่ได้ดีตกต่ำ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2011, 10:03:04 am
คนชั่ว ขนาดไหนก็ตาม ก็ต้องการคนที่ทำความดีกับตนเช่น

  คนชั่ว ต้องการให้ลูกน้องเคารพ ซื่อสัตย์ ( เป็นคุณธรรมความดี ) ถ้าลูกน้องไม่ซื่อสัตย์ ก็ฆ่าทิ้งหมดเป็นต้น

 เห็นไหมว่า จะเลวขนาดไหน ก็ยังมีส่วนที่ต้องการทำความดีอยู่ นะ

 :25:
64  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ตายแล้ววิญญาณไปไหน เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 02:59:35 pm
65  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: "เป็นเศรษฐีได้ด้วยซากหนูตายเพียงตัวเดียว" เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 03:13:05 pm
เฮง จริง ๆ เฮง มาก ๆ จะได้แบบนี้บ้าง ในปัจจุบัน ถ้าจะยาก

  นี่ละหนา เขาบอก คน เก่ง ไม่รวย คนที่รวย ก็คือ คน เฮง แต่ถ้ารวยไม่ ก็กลายเป็น เฮงซวย.....

 :85:
66  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล จะเปลี่ยนชีวิตได้จริงหรือ เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 03:11:30 pm
ไม่เคยรู้สึกว่าทำอะไรแล้วชีวิตดีขึ้นอย่างชัดเจนและรวดเร็วเท่าการปฏิบัติธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ เลยค่ะ
เห็นผลในปัจจุบันจริงๆเลย

ส่วนการเปลี่ยนชื่อเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น ไม่เชื่อเรื่องนี้
เชื่อเรื่อง กรรม(คือการกระทำ) มากกว่า


เชื่อว่าชื่อที่พ่อแม่ตั้งมาให้อย่างดีแล้ว เป็นศิริมงคลอยู่แล้ว

ส่วนการเปลี่ยนชื่อ
ถ้าจะมีผล น่าจะเป็นทางอ้อมในแง่จิตวิทยา
(เปลี่ยนชื่อแล้วรู้สึกว่าได้กำจัดสิ่งที่เป็นกาลกิณีหรือไม่ดีตามความเชื่อ
ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้น เลยทำสิ่งดีๆมากขึ้น ก็ได้รับสิ่งดีๆกลับมา)
67  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ถ้าเราถูกทักว่าชาติที่แล้วไปโกงที่ิดิน เผาบ้าน ทำคนตายสามคนค่ะ ควรเชื่อดีไหมคะ เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 01:10:20 pm
ถ้าเราถูกทักว่าชาติที่แล้วไปโกงที่ิดิน เผาบ้าน ทำคนตายสามคนค่ะ ควรเชื่อดีไหมคะ


แต่ป้าเราถูกทัก ว่าชาติที่แล้วไปโกงที่ิดิน เผาบ้าน ทำคนตายสามคนค่ะ จากตอนที่ดูดวงน่ะค่ะ โดยเป็นการดูดวงจากคนสนิท ที่ไม่เอาเงิน ทางโทรศัพท์ค่ะ โดยมีแค่วันเดือนปีเกิด เวลาเกิดโดยประมาณ กับคุยกับป้าเราทางโทรศัพท์น่ะค่ะ แล้วเขาก็ทำนายๆมาเรื่อยๆจนถึงเรื่องนี้แหละค่ะ เค้าบอกว่ากรรมที่ป้าเราทำหนักมากจนจะโดนจองเวรมีคราวซวยตอนช่วงอายุ 39 51 63 75 บอกเราว่าทุก 12 ปี นรกจะเปิด แล้วป้าเราทำคนตาย 3 คนเค้าเลยจะรอสามปีหลังครบรอบ 12 ปีแล้วถึงจะมาเล่นงานป้าเรา เจ้ากรรมป้าเราจะเอาป้าเราลงนรกให้ได้ต้องระวังไว้ ซึ่งตอนอายุ 27 ผ่านมาแล้วป้าเราไม่โดนอะไรเลยเพราะเป็นปีที่ดีมาก เค้าเลยบอกว่าอาจจะเป็นเพราะป้าเรากำลังอุ้มท้อง มีลูกในปีนั้นอยู่เค้าเลยไม่ทำอะไร แต่ให้ระวังปีเหล่านี้ไว้ และให้คอยทำบุญ ตามวัดพวกชำระธรณีสงฆ์น่ะค่ะ ป้าเราฟังเรื่องนี้แล้วตกใจมาก ไม่รู้เลยว่าควรเชื่อหรือไม่เชื่อดี

เพราะเท่าที่รู้และทราบมา ลุงคนนี้ก็ประมาณว่าฝึกวิชากรรมฐานของพระอภิญญามาหลายรูป และเป็นหมอดู แต่ไม่ได้ืทำความเดือดร้อนให้คนอื่น เราเลยไม่รู้จะเชื่อดีมั้ย ส่วนใหญ่ที่ลุงเค้าทักก็ถูก แต่บางอย่างก็ไม่ใช่ สรุปแ้ล้ว ขอความเห็นด้วยนะคะ


เป็นของญาติคนหนึ่งคะ ที่ไปดูหมอดู และร่างทรง
68  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ แถลงผลปฏิบัติงานปี 53 เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 12:00:25 pm
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ แถลงผลปฏิบัติงานปี 53 ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์ 7,855 ราย

วันนี้  17 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า    นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แถลงผลการปฏิบัติงานในรอบปี 2553 ว่าได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนทั้งในและต่างประเทศทั้งสิ้น 7,855 ราย นับเป็นสถิติสูงที่สุดในรอบ 11 ปี ที่ผ่านมา โดยมี 5 หัวข้อที่น่าสนใจดังนี้

สถิติการถูกข่มขืน,อนาจาร มีมากถึง 635 ราย สูงสุดในรอบ 11 ปี อายุผู้ถูกกระทำต่ำสุด 3 ปี และอายุผู้ถูกกระทำสูงสุด 60 ปี ผู้กระทำผิดส่วนใหญ่เป็นบุคคลใกล้ชิด ในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่เป็นพ่อเลี้ยงกระทำกับลูกเลี้ยงมากที่สุด , สถิติการถูกทารุณกรรม,กักขัง มีมากถึง 558 ราย สูงสุดในรอบ 11 ปี อายุผู้ถูกกระทำต่ำสุด 3 วัน อายุผู้ถูกกระทำสูงสุด 76 ปี , สถิติการถูกล่อลวงค้าประเวณี มีมากถึง 172 ราย สูงสุดในรอบ 11 ปี อายุผู้ถูกกระทำต่ำสุด 8 ปี อายุผู้ถูกกระทำสูงสุด 40 ปี

สถิติคนหายในรอบปี 2553 มีมากถึง 269 ราย สูงสุดในรอบ 11 ปี อายุผู้ถูกกระทำต่ำสุด 1 ปี 2 เดือน อายุผู้ถูกกระทำสูงสุด 68 ปี , สถิติการถูกล่อลวงทาง Internet มีมากถึง 56 ราย สูงสุดในรอบ 11 ปี อายุผู้ถูกกระทำต่ำสุด 13 ปี และอายุผู้ถูกกระทำสูงสุด 29 ปี ส่วนสถิติที่มีแนวโน้มลดลงคือ ปัญหาแรงงานไม่เป็นธรรม

ทั้งนี้มูลนิธิปวีณาฯ  ทำงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ก็ด้วยความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ทั้งนี้ขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กองบัญชาการตำรวจนครบาล , กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 - 9 , และจ้าหน้าที่ตำรวจในระดับสถานีตำรวจ , กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ , กระทรวงยุติธรรม , กระทรวงศึกษาธิการ , กระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งประชาชนที่เป็นหูเป็นตาช่วยกันแจ้งเบาะแสช่วยเหลือ และขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ได้ตีแผ่ปัญหาสังคมให้ประชาชนรับทราบ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการป้องกันและกระตุ้นให้ทุกคนใส่ใจรับ ผิดชอบดูแลสังคมร่วมกัน หากท่านใดพบเห็นการทารุณกรรม การเอารัดเอาเปรียบในสังคม สามารถแจ้งมายังสายด่วนมูลนิธิปวีณาฯ ที่หมายเลย 1134 , 08-1814-0244 หรือ ตู้ปณ.222 ธัญบุรี ได้ทันที

ขอบคุณที่มา
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=419&contentID=116058
69  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: จิตปภัสสร เป็นเช่นไร เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 02:46:49 pm
เมื่อรู้ว่าจิตเป็น ประภัสสร ก็ต้องสนใจวิธีทำจิตให้ผุดผ่อง

  วิธีดำเนินจิต ในพระสูตรนี้กล่าวถึงข้อภาวนาอย่างไรคะ

 :25:
70  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: มารู้จัก ผีเปตร กันเถอะ เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 03:16:08 pm
กระทู้เจ๊หมวย เดือดร้อนพร้อม กับพวกที่ราชประสงค์แน่ ๆ เลย จำได้คะ

มีพี่หวานอีก 2 คน ไม่รู้เป็นอย่างไรบ้าง เดี๋ยวนี้ไม่เห็นมาโพสต์หายไปนานแล้ว

 :13: :13: :13:
71  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / การใช้ไม้จิ้มฟันอย่างถูกวิธี เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 02:07:24 pm
หลาย คนคงจะเคยประสบกับปัญหามีเศษอาหารติดอยู่ตามซอกฟันหลังการรับประทานอาหาร ซึ่งแต่ละคนก็คงจะมีวิธีแก้ไขต่างๆ กันไป แต่วิธีที่ง่าย สะดวกที่สุด อีกทั้งมีอุปกรณ์ไว้คอยบริการอยู่ตามร้านอาหารทั่วไป ก็คือ การใช้ไม้จิ้มฟัน ชื่อก็บอกอยู่แล้วนะ คะว่า ไม้จิ้มฟัน ดังนั้นหน้าที่ของมันก็คือ ใช้จิ้มฟันเขี่ยเศษอาหารที่ติดอยู่บริเวณซอกฟันออก


        การใช้ไม้จิ้มฟันอย่างถูกวิธี คือ ใช้ไม้จิ้มฟันเขี่ยเศษอาหารจากเหงือกไปตามซี่ฟัน ไม่ควรทิ่มเข้าไปในซอกฟัน หรือทิ่มจากด้านหน้าฟันทะลุไปถึงหลังฟัน       

    แต่คงมีหลายคนที่ใช้ไม้จิ้มฟันผิดวิธี คือใช้ไม้จิ้มฟัน ทิ่มเข้าไปในซอกฟัน เพราะความเรียวเล็กที่ปลายและค่อยๆ ใหญ่ขึ้นถึงโคน เมื่อทิ่ม เลยเข้าไปในซอกฟันมากๆ เข้า ขนาดของไม้จิ้มฟันก็จะไปเบียดให้ยอดเหงือกถูกกดต่ำลง เมื่อใช้บ่อยๆ เข้ายอดเหงือกที่เคย แหลมปิดซอกฟันก็จะถูกเบียดให้ต่ำลง และทำให้ยิ่งมีช่องว่างที่ใหญ่ขึ้นส่งผลให้เศษอาหารยิ่งเข้าไปติดง่ายขึ้น อีกทั้งเมื่อเกิด ช่องว่างระหว่างฟันทำให้ขาดความสวยงามด้วย     

  นอกจากนี้เรื่องความสะอาดของไม้จิ้มฟันก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้อย่างเด็ดขาด ไม้จิ้มฟันตามร้านอาหารชั้นนำอาจมีรูปแบบการบรรจุแยกชิ้น ซึ่งก็จะมีความสะอาดในระดับหนึ่ง แต่ไม้จิ้มฟันที่เรา เห็นกันอยู่ตามร้านอาหารทั่วไปมักใส่กล่องไว้เฉยๆ บางร้านมีฝาปิด บางร้านไม่มี ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรค และ ฝุ่นละอองได้ทั้งสิ้น ถ้าเราใช้ไม้จิ้มฟันอย่างไม่ระวัง โอกาสที่จะทำให้มีการติดเชื้อก็เป็นไปได้ง่ายโดยเฉพาะคนที่เป็นโรคเหงือก อักเสบอยู่แล้ว บางคนมีความเคยชินที่จะต้องใช้ไม้จิ้มฟันหลังอาหารทั้งๆที่ไม่มีเศษอาหารติด ฟัน คือขอเพียงแค่เอาไม้จิ้มฟันไป กัดไว้เล่นๆ ซึ่งก็เป็นการเพิ่มโอกาสที่จะนำเชื้อโรคเข้าสู่ช่องปากของเราโดยไม่จำเป็น             

     วิธีการทำความสะอาดซอกฟันที่ทันตแพทย์แนะนำให้ใช้ ได้แก่ การใช้ไหมขัดฟัน (Dental Floss) ไหมขัดฟันเป็นใย ไนลอนที่ใช้ทำความสะอาดซอกฟันและสามารถขจัดคราบอาหารหรือเศษอาหารชิ้นโตๆได้ เป็นอย่างดี รวมทั้งไม่เป็นอันตรายต่อ เหงือกและไม่ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟัน แต่ข้อจำกัดของการใช้ไหมขัดฟันคือการใช้เวลาค่อนข้างมากในการทำความสะอาด ซอกฟันให้ครบทุกซี่         

 

จะ เห็นได้ว่าการขจัดเศษอาหาร ออกจากซอกฟันมีวิธีการหลายวิธี ดังนั้นเราควรเลือกวิธีการที่มีประสิทธิภาพและไม่ส่งผล เสียต่อเหงือกและฟันของเรานะคะ แต่ถ้าหากมีความจำเป็นต้องใช้ไม้จิ้มฟัน ก็ควรใช้อย่างถูกวิธีและพิจารณาความสะอาดของไม้ จิ้มฟันก่อนที่จะนำเข้าปากทุกครั้งนะคะ
72  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ในโลกนี้ มีใครไม่เคยทำผิด บ้าง ควรอภัยให้คนทำผิดบ้างหรือไม่ เมื่อ: มกราคม 04, 2011, 11:58:29 am
ในโลกนี้ มีใครไม่เคยทำผิด บ้าง ควรอภัยให้คนทำผิดบ้างหรือไม่

  ความไม่ดี นิสัยไม่ดี ความประพฤติผิด น่าจะเป็นเรื่องวิสัยของคน

 แต่เมื่อสำนึกในความผิดนั้นได้ แล้วกลับตัวเป็นคนใหม่

  เราควรจะให้โอกาสกับคน พวกนี้หรือไม่


    หรือว่า เรื่องที่คนกลับใจ นั้นต้องยกไว้เป็นบางเรื่อง ที่ไ่ม่ควรยกโทษให้

  :03: :03: :03:
73  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อวยพรส่งท้ายปีเก่า 2553 และ ต้อนรับปีใหม่ 2554 กันเถอะคร้า.... เมื่อ: ธันวาคม 29, 2010, 05:46:55 pm

ตอนนี้โพสต์ภาพเดิมก่อนนะคะ เพราะกำลังทำใหม่อยู่คะ

74  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: สระบุรี-พระฟิล์ม - รัฐภูมิ สึกแล้ว เมื่อ: ธันวาคม 23, 2010, 04:05:13 pm
ตอนนี้ก็กำลังใช้กรรมทั้งคู่

น่าเห็นใจนะคะ ชีวิตพวกดารา นี่เป็นเป้าของสังคม

แต่เชื่อเรื่องผลของกรรม คะ ถ้าทำกรรมดี ก็ต้องได้รับผลดีคะ

 :58:
75  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ประมวลภาพคลิบ เหตุการณ์พระสงฆ์ ถูกทำร้าย ที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เมื่อ: ธันวาคม 23, 2010, 04:03:20 pm
เห็นภาพ และ วีดีโอ แล้วน้ำตาไหล เลย ทำไมประเทศไทยเราจึงมีเมืองเถืื่อนอยู่อีกนะนี่

มีการขอของบริจาคไปช่วยผู้ประสพภัยที่ยะลา แล้วไม่อยากส่งไปให้เลย เพราะไม่รู้ว่าส่ง

ไปช่วยโจรหรือป่าว

 :'( :'( :smiley_confused1:
76  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: นักเรียนนักเลงยังซ่า ชักปืนยิงขู่อริ ก่อนพลาดเป้ากระสุนเจาะเข้าชายโครงสาวเทคนิค เมื่อ: ธันวาคม 23, 2010, 04:01:42 pm
พวกน้ำเน่า พวกนี้ เมื่อไร จะหมดไปจากโลกสักที

จับไปเป็นทหาร อยู่ ยะลา ซะ ก็ดีนะพวกนี้

 :'( :'( :'(
77  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / คุณยายวัย 82 ยอดนักกังฟูมาแว๊ว เมื่อ: ธันวาคม 14, 2010, 11:18:30 am
คุณยายวัย 82 ปี ชาวแดนมังกรท่านหนึ่ง มีสุขภาพอนามัยที่คนหนุ่มสาวบางคนยังต้องอาย กับลีลาการออกกำลังกายด้วยท่าทางในแบบฉบับกังฟู ไฟติ้ง โชว์ความยืดหยุ่นของร่างกาย โดยไม่แค่ว่ากระดูกกระเดี้ยวจะพังครืนแต่อย่างใด จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วยุทธภพ จนทึ่งกันทั้งบางกับวิทยายุทธ์ของคุณยาย



จ้าว หยู ฟาง คุณยายวัย 82 ปี ที่มีถิ่นพำนักอยู่กลางกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน สร้างความฉงนให้กับผู้ที่พบเห็นอย่างมาก กับลีลาวิทยายุทธ์ในการเอ็กเซอร์ไซส์ของคุณยายในยามเช้าๆ ด้วยท่าทางการดัดตัวที่อ่อนช้อย และแข็งแรง ที่คนหนุ่มคนสาวบางคนยังต้องเอาปี๊บมาคลุมหัวเลยทีเดียว

โดยทุกๆเช้าที่สวนสาธาณะใกล้บ้านของคุณยายจ้าว หยู ฟางนั้ น คุณยายจะมาทำกายบริหารยามเช้าทุกวัน กับการออกท่าออกทาง ที่คนตัวอ่อนอย่างนักกีฬายิมนาสติกหรือเด็กๆ ที่ได้รับการฝึกเท่านั้นจะสามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม หากมองไปยังโปรไฟล์ในอดีตของคุณยายจ้าวแล้วก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ

คุณยายนั้นมีดีกรีเป็นถึงอาจารย์ในการสอนกังฟูของวัดเส้าหลิน รวมถึงยังฝึกมวยไท้เก๊กมาอีกด้วย มิหนำซ้ำคุณยายยังทำการฝึกโยคะให้กับตัวเองมามากกว่า 70 ปีมาแล้วอีกด้วย คุณยายจ้าว หยู ฟาง ได้อธิบายถึงความแข็งแรงของตัวเองว่า "ฉันออกกำลังกายสามชั่วโมงต่อวัน และได้ทำกิจกรรมเหล่านี้จนเป็นเรื่องปกติของชีวิตแล้ว ขณะเดียวกันฉันก็หยุดกินเนื้อสัตว์มานานเสียจนจำไม่ได้แล้วว่ารสชาติของมัน นั้นเป็นอย่างไร"

"สมัยที่ฉันยังเป็นเด็กนั้น ไม่มีอาจารย์กังฟูคนไหนยอมมาสอนกังฟูให้กับฉัน เนื่องจากมองฉันเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ดังนั้นเมื่อฉันอยากรู้ฉันจึงต้องเรียนรู้ด้วยตัวฉันเอง จนเมื่อฉันได้กลับไปที่โรงเรียนสอนกังฟูอีกครั้ง และสามารถเอาชนะอาจารย์ได้ เขาถึงยอมที่จะขอโทษฉันในที่สุด" คุณยายกล่าวอย่างภาคภูมิ
78  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / สมัยก่อน พระแสดงฤทธิ์ นั้นเพื่อรักษาพระศาสนา เมื่อ: ธันวาคม 08, 2010, 11:03:51 am
เช่น คราวที่ บรรดาคนต่างศาสนานั้นกล่าวว่า พระอรหันต์ ไม่มีจริง เพราะไม่สามารถเหาะได้

แต่ พระโมคคัลลานะ ให้ พระ ปิณฑภารทวาชะ เหาะขึ้นไปถึง บาตร การแสดงฤทธิ์ครั้งนั้นเป็นเหตุ

ให้บัญญัติ วินัย ห้ามพระสาวกแสดงฤทธิ์

 แท้ที่จริง การแสดง ฤทธิ์ครั้งนั้น เป็นเหตุให้พวกต่างศาสนา รู้ว่า พระโมคคัลลานะ มีฤทธิ์ เป็นต้นเหตุ

การจ้างสังหาร พระโมคคัลลานะ ประมาณนี้

  แต่สำหรับ ส่วนตัวหนูนั้น พระโมคคัลลานะ นั้นเป็นผู้ทำเรื่อง ฤทธิ์ให้ปรากฏในการบันทึกของพระพุทธศาสนา

เป็นการยืนยันเรื่อง ฤทธิ์ และ ญาน 10 ใช่หรือป่าวคะ

 :25:
79  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / บูชาชูชก... สัญญาณกลียุค? (เจิมศักดิ์ขอคิดด้วยฅน) เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 05:45:40 pm
บูชาชูชก... สัญญาณกลียุค? (เจิมศักดิ์ขอคิดด้วยฅน)
ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- จันทร์ที่ 30 สิงหาคม 2553 03:00:42 น.
ระยะหลัง เริ่มมีกระแสบูชาชูชก

ขายความคิดที่ว่า มีสรรพคุณในทางโชคลาภ เมตตามหานิยม โดยเฉพาะในเรื่องการขอ ทั้งขอเงินขอทอง ขอกู้หนี้ยืมสิน ขอผัดผ่อนหนี้สิน ขอทวงเงิน ขอเจรจาธุรกิจ ขอความรัก และทุกๆ สิ่งอย่างในด้านการขอ

คิดง่ายๆ ก็ขนาดขอ ยังให้ แล้วทำมาค้าขายจะไม่ให้คล่องตัว ลื่นไหล เงินไหลนองทองไหลมา ได้อย่างไร
คิดได้อย่างนี้ ก็ทำให้กระแสบูชา "ชูชก" ได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนไม่น้อย
เรื่องนี้ มีข้อน่าคิด หลายประการ
1) เรื่องราวของ "ชูชก" ปรากฏอยู่ใน "พระเวสสันดรชาดก"

สรุปความสั้นๆ ได้ว่า ชูชกเป็นพราหมณ์แก่คนหนึ่ง ได้เด็กสาวรูปงามมาเป็นเมีย ปรนนิบัติดูแลชูชกอย่างดี อยู่มาวันหนึ่ง เมียเด็กก็บอกให้ชูชกไปหาเด็กมาเป็นทาส คอยรับใช้ทำงานบ้าน โดยแนะให้ไปขอลูกของพระเวสสันดร อันได้แก่ กัญหา-ชาลี ซึ่งพระเวสสันดรก็ให้ทานบุตรและธิดาทั้งสอง ระหว่างเดินทางกลับบ้าน พระราชาซึ่งเป็นปู่ของเด็กทั้งสองคนได้โอกาสขอไถ่ตัวคืนมา แลกกับทรัพย์สินเงินทองบรรดามี และได้จัดเลี้ยงอาหารชั้นเลิศแก่ชูชก แต่ในที่สุด ชูชกผู้ละโมบโลภมากก็กินจนท้องแตกตาย

จากเรื่องราวในพระเวสสันดรชาดกข้างต้น ได้ถูก "ตัดตอนความคิด" และ "แปลงเป็นทุน" โดยอ้างว่า ชูชก คือ สุดยอดนักขอ นักเจรจาค้าขาย
ชูชกสามารถเจรจาทวงหนี้จนได้เมียเด็ก สวยงาม แถมทำงานปรนนิบัติสามีอย่างดีเยี่ยม
ขนาดว่า ไปขอลูกอันเป็นที่รัก พระเวสสันดรก็ยังยกให้
จึงกลายเป็นที่มาของการบูชาชูชกในวันนี้

2) เรื่องราวของ "ชูชก" ในพระเวสสันดรชาดก หากพิเคราะห์ด้วยสติปัญญา โดยไม่บิดเบือนตัดตอน จะพบว่า ชูชกเป็นเสมือนตัวละครที่เป็นตัวร้าย ตรงกันข้ามกับพระเวสสันดร ที่เป็นตัวเอก
ลองนึกเทียบเคียงกับละครหลังข่าว ที่มีพระเอกกับผู้ร้าย
พระเวสสันดร เป็นรูปธรรมของ "การให้"และ "เสียสละ"
ในขณะที่ชูชก เป็นรูปธรรมของ "การขอ" และ "ความโลภ" รวมถึง "ความเห็นแก่ตัว"
3) แม้แต่รูปลักษณ์ภายนอกของชูชกถูกระบุไว้ชัดเจนว่า เป็น "ตัวร้าย"

ศึกษาตามพระไตรปิฎก จะพบว่า ร่างกายของชูชกนั้น เข้าลักษณะ "บุรุษโทษ" คือ ลักษณะที่เป็นโทษ 18 ประการ ได้แก่ เท้าทั้งสองข้างใหญ่และคด, เล็บทั้งหมอกุด, ปลีน่องทู่ยู่ยาน, ริมฝีปากบนย้อยทับริมฝีปากล่าง, น้ำลายไหลออกเป็นยางยืดทั้งสองแก้ม, เขี้ยวงอกออกพ้นปากเหมือนเขี้ยวหมู, จมูกหักฟุบดูน่าชัง, ท้องป่องเป็นกระเปาะดั่งหม้อใหญ่, สันหลังไหล่หักค่อม คดโกง, หนวดเครามีพรรณดังลวดทองแดง, ลูกตาเหลือง เหลือก เหล่, ร่างกายคดค้อมในที่ทั้งสาม คือ คอ หลัง สะเอว ฯลฯ
เรียกว่า เป็นตัวร้าย ทั้งพฤติกรรม และรูปลักษณ์ภายนอก

4) น่าคิดว่า การที่คนในสังคมสมัยนี้บางส่วน หันไปนิยมชมชอบ ยกย่องบูชาชูชก ทั้งๆ ที่ มีพฤติกรรมเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ มักมากไม่รู้จักพอ เป็นคนขี้ขอ สะท้อนอะไร
เป็นเพราะการคิดแบบตัดตอน เอาผลลัพธ์โดยไม่สนใจวิธีการ
เห็นเงินเป็นใหญ่ คิดเอาแต่ได้

ไม่เห็นคุณค่าของการทำงานหนัก แต่จะเอาอย่างไรก็ได้ หวังรวยเร็วรวยลัด รวยแล้วไม่พอ
บูชาความโลภ มากกว่าความรู้จักพอเพียง พอประมาณ

วิธีคิดแบบนี้หรือไม่ ที่ทำให้สังคมไทยได้นักการเมืองและคนแบบที่ว่า "โกงก็ได้ถ้าช่วยให้รวย" หรือ "รวยแล้วก็ยังโกง" เข้ามามีอำนาจในบ้านเมือง

วิธีคิดที่นำไปสู่การบูชาชูชก เป็นวิธีคิดแบบเดียวกันกับที่ก่อให้เกิดการบูชาทักษิณ

ด้วยพื้นฐานความคิดอย่างนี้ สอดรับกับระบบอุปถัมภ์ที่ดำรงอยู่ในสังคมไทย ทำให้ "ระบอบทักษิณ" สามารถฉวยโอกาส แฝงเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง ถึงขั้น "ขอ" เอาคนไปเป็นทาส รับใช้ รับจ้างทำงานให้แบบไม่ลืมหูลืมตา ไม่สนใจใยดีว่าจะกระทำผิดธรรมนองคลองธรรมอย่างไร คดโกง เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ขอแต่เพียงได้รับปันส่วนผลประโยชน์บ้างก็พร้อมที่จะกระทำ

อย่าลืมว่า คนอย่าง "ชูชก" กินจนท้องแตกตาย เกิดชาติหน้าก็กลายเป็น "เทวทัต" ที่ก่อกรรมแสนเข็ญ และต้องตกนรก รับผลกรรมอย่างทรมานที่สุด
ก็ฝากคิดว่า คนอย่าง "ทักษิณ" เกิดชาติหน้าจะเป็นอย่างไร ?

ระหว่าง "บุรุษโทษ" กับ "นักโทษหนีคดี" จะมีผลกรรมเหมือนหรือแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด?
5) วิธีคิดแบบชูชก ตรงกันข้ามกับวิธีคิดแบบเศรษฐกิจพอเพียง

น่าคิดว่า ทำอย่างไรผู้คนจะเข้าถึง เข้าใจ และสามารถนำวิธีคิดแบบพอเพียงไปใช้ในชีวิตจริงอย่างรู้เท่าทันมากกว่านี้

วิธีคิดแบบพอเพียง มิใช่ให้คนงอมืองอเท้า ละทิ้งความสะดวกสบายทุกสิ่งอย่าง หรือปฏิเสธเทคโนโลยี

แต่หมายถึงวิธีคิดที่พยายามพึ่งพาความสามารถของตัวเอง เริ่มต้นแก้ปัญหาโดยการลงมือทำด้วยตนเอง มิใช่คอยหวังพึ่งพาผู้อื่น หรือพึ่งอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์
ไม่ละโมบโลภมาก ไม่ฟุ้งเฟ้อเกินอัตภาพ

ที่สำคัญ ผู้คนที่ใช้ชีวิตตามหลักพอเพียงนั้น ไม่ว่าจะร่ำรวยหรือยากจนเพียงใด ก็ล้วนแต่มีความสามารถที่จะเป็น "ผู้ให้" ในบางลักษณะได้ทั้งสิ้น
มีเงินมาก ก็ทำทาน
มีกำลังกายมาก ก็ออกแรงทำงานสาธารณะ
มีเวลามาก ก็แบ่งเวลาไปช่วยดูแลชุมชน ดูแลสิ่งแวดล้ม

มีผลผลิตออกมามาก ก็แบ่งไปขาย หรือแบ่งปันเพื่อนบ้าน นำไปทำบุญ ทำประโยชน์แก่สังคมบ้าง
แทนที่จะคิดเลียนแบบ "ชูชก"หรืออยากจะเป็น "ผู้ขอ" เก่งเหมือนชูชก

น่าจะลองคิดและพยายามในอีกทาง คือ พยายามฝึกฝนเป็น "ผู้ให้" เจริญรอยตามแก่นคิดของพระเวสสันดร
เพื่อสัมผัสกับความสุขของการให้ การเสียสละ การลดความเห็นแก่ตัว
สังคมเรา คงจะน่าอยู่กว่านี้มาก
ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิต
80  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / Re: เชิญร่วมปฏิบัติธรรม ๓๐ - ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม เมื่อ: ตุลาคม 13, 2010, 01:55:12 pm
สาธุ สาธุ คะ

 :25: :25:
หน้า: 1 [2] 3