ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ความตายที่ท่านยังไม่รู้จัก  (อ่าน 2819 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

รักหนอ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +22/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 369
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ความตายที่ท่านยังไม่รู้จัก
« เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2010, 01:36:49 pm »
0

ความตายที่ท่านยังไม่รู้จัก


คัดลอกมาจากหนังสือ "ความตายที่ท่านยังไม่รู้จัก พระธรรมเทศนาของพระธรรมาจารย์ " จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา

พระพุทธองค์ตรัสว่า มรณธมฺโมมฺ มรณํ อนตีโต เรามีความตายเป็นธรรมดา หนีความตายไปไม่พ้น

การที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนอย่างนี้ ไม่ได้สอนให้เราทั้งหลายเกิดความกลัวตายหรือเกิดความหวาดหวั่นพรั่นพรึงคิด ที่จะหลบหนี

หากแต่ที่ท่านได้ทรงตรัสสอนไว้นั้น เป็นการเตือนให้เราท่านทั้งหลายได้สำนึกแก่ใจอยู่เสมอๆในเรื่องของความตาย จะได้หมดกังวลจากอันตรายทั้งปวงของชีวิตันมีอยู่อย่างมากมาย ทั้ง ภายใจและภายนอก ซึ่งไม่บอกเวลาตายเป็นเครื่องหมายให้เราได้รู้ล่วงหน้าได้เลย เปรียบเหมือนกับการที่เราโดยสารรถ พอรถหมดระยะทางจึงควรเตรียมตัวละวางจากที่นั่งและลงจากรถทันที

ขณะ นี้กรรมส่งให้เรามาโดยสารอยู่ในวิถีชีวิตของมนุษย์ ไม่มีตั๋วหรือไม่มีเครื่องหมายว่าจะสิ้นสุดระยะทางเมื่อไร ที่ไหน เราจึงควรเตรียมตัวของเราให้มีความพร้อมอยู่เสมอ โดยการเจริญมรณัสสติกัมมัฏฐาน นึกถึงความตายไว้บ้าง เป็นการเตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อนที่ความตายจะมาถึง

จะให้ดีที่สุด คือให้ท่านได้หัดตายเสียก่อนตาย กับทั้งมาดำเนินชีวิตของเราให้อยู่แต่ในทางก่อประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่น ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ไม่ก่อความเดือดร้อนให้แก่ตนเองและผู้อื่น ด้วยการให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา เมื่อ ถึงเวลาสิ้นสุดระยะทางเมื่อใด เราท่านทั้งหลายที่ได้ปฏิบัติดังกล่าวมาแล้วนี้ ก็จักลงได้ด้วยความพร้อม ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังอีกต่อไป

ความตายไม่ใช่สิ่งน่ากลัวสำหรับทุกคน แต่สิ่งที่น่ากลัวและจะต้องระวังให้มากที่สุดคือระยะเวลาของการเดินทาง ระหว่างที่ยังไม่ตาย ว่าจะดำเนินชีวิตอย่างไร จึงจะสมฐานะแห่งความเป็นมนุษย์ที่จะแสดงถึงคุณค่าแห่งชีวิตของเรา เมื่อระยะเวลาแห่งชีวิตของเราได้เดินทางมาถึงที่สิ้นสุดแล้ว

ความตาย

โดย สมเด็จพระฐาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ

ทุกคนเกิดมาแล้วล้วนต้องตาย "ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนพาล ทั้งบัณฑิต ล้วนไปสู่อำนาจแห่งความตาย ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า"

แทบ ทุกคนเคยได้รับรู้ความหมายของข้อความข้างต้นนี้อยู่แล้ว แทบทุกคนเคยพูดออกจากปากคนเองมาแล้ว แม้จะไม่ต้องเป็นคำๆ แต่ก็มีความหมายตรงกันกับข้อความข้างต้นนี้ ทั้งยังเป็นการพูดชนิดที่เรียกว่าติดปากอีกด้วย คือพูดอยู่เสมอ ได้รู้ได้เห็นการตายของผู้ใดทีไร ก็มักจะอุทานเป็นการปลงด้วยความหมายดังกล่าวแทบทั้งนั้น

นี่เป็นเพราะทุกคนมีความรู้อยู่แก่ใจว่า ทุกคนเกิดมาต้องตาย ไม่มีสักคนเดียวที่จะหนีความตายพ้น นับ ว่าทุกคนมีความได้เปรียบอยู่ประการหนึ่งที่มีความรู้นี้ติดตัวติดใจอยู่ แต่แทบทุกคนก็มีความเสียเปรียบอยู่ประการหนึ่ง ที่ไม่เห็นค่าไม่เห็นประโยชน์ของความรู้นี้ จึงมิได้ใส่ใจเท่าที่ควร ปล่อยปละละเลย รู้จึงเหมือนไม่รู้ สิ่งที่เป็นคุณเป็นประโยชน์จึงเหมือนเป็นสิ่งไม่มีค่า

ควรหัดตายก่อนตายไว้เสมอ

ความ รู้ว่าทุกคนเกิดมาแล้วต้องตายเป็นสิ่งที่เป็นคุณเป็นประโยชน์ยิ่งใหญ่ แม้ใส่ใจในความรู้นี้ให้เท่าที่ควร ก็จะสามรถนำให้เกิดคุณเกิดประโยชน์แก่ตนเองได้มหาศาล ไม่มีคุณไม่มีประโยชน์ใดอาจะเปรียบปานได้

เพื่อเสริมส่งความรู้นี้ให้บังเกิดคุณประโยชน์ยิ่งใหญ่แก่ตนเองและแก่ส่วน รวม ปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาทั้งหลาย ท่านจึงคงสอนให้ หัดตายเสียก่อนถึงเวลาตายจริง ท่านสอนให้หัดตายไว้เสมอ อย่างน้อยก็ควรวันละหนึ่งครั้ง ครั้งละ 5 นาที 10 นาทีเป็นอย่างน้อย

พิจารณาความกลัวตายช่วยให้จิตใจเกิดเมตตา

การหัดตายนั้นบางคนบางพวก น่าจะเริ่มด้วยหัดคิดถึงสภาพ เมื่อตนกำลังจะถูกประหัตประหารให้ถึงตายจนได้ แม้จะกลัวแสนกลัว แม้จะพยายามกระเสือกกระสนช่วยตนเองให้รอดพ้นได้อย่างไร ก็หารอดพ้นไม่ด้วยความทรมานทั้งกายทั้งใจ

การหัดตายด้วยเริ่มตั้งแต่ ความกลัวตายแบบทารุณโหดร้าย เช่นนี้ มีคุณเป็นพิเศษแก่จิตใจ จักสามารถอบรมบ่มนิสัย ที่แม้เหี้ยมโหดอำมหิตปราศจากเมตตากรุณาต่อชีวิตร่างกายผู้อื่นให้เปลี่ยน แปลงได้

ความ คิดที่จะประหัตประหารเขาเพื่อผลได้ของตนจักเกิดได้ยาก หรือจักเกิดไม่ได้เลย เพราะความการพยายามหัดให้รู้สึกหวาดกลัวการถูกประหัตประหารผลาญชีวิตนั้น เมื่อทำเสมอๆ ก็จะมีผลเป็นความเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้อื่นที่จะต้องหวาดกลัวเช่นเดียว กัน ความเมตตาปรานีชีวิตผู้อื่นสัตว์อื่นก็จะเกิดขึ้นได้ แม้จะไม่เคยเกิดมาก่อน ซึ่งก็เป็นการเมตตาปรานีชีวิตตนเองไปพร้อมกันด้วยอย่างแน่นอน

ผู้ประหัตประหารเขา แม้ จะได้สิ่งที่มุ่ง แต่ผลที่แท้จริงอันจะเกิดจากกรรมคือการประหัตประหารที่ได้ประกิบกระทำลงไป นั้น จักเป็นทุกข์โทษแก่ผู้กระทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กรรมนั้นให้ผลสัตย์ซื่อนัก เหมือนผลของยาพิษร้าย กรรมนั้นเมื่อทำแล้วก็เหมือนดื่มยากพิษร้ายแรงเข้าไปแล้ว จักไม่เกิดผลแก่ชีวิตและร่างกายย่อมไม่มี ย่อมเป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นกรรมดีก็จักให้ผลดี ถ้าเป็นกรรมชั่วก็จักให้ผลชั่ว เราเป็นพุทธศาสนิกชน นับถือพระพุทธศาสนา พึงมีปัญญาเชื่อให้จริงจังถูกต้อง ในเรื่องกรรมและการให้ผลของกรรมเถิด จักเป็นสิริมงคล เป็นความสวัสดีแก่ตนเอง
บันทึกการเข้า

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ความตายที่ท่านยังไม่รู้จัก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 06:27:22 pm »
0
เรื่องการหัดตายนั้น มีบทเทศนา ของพระสังฆราชให้ฟังเต็ม ๆ ในรายการ RDN ช่วงบ่าย

จะนำให้ดาวน์โหลดเสียง ในโครงการต่อไป กำลังศึกษาเรื่อง Bandwidth อยู่ เพราะ

สอบถามทาง hosting  แล้ว ไม่เหมาะให้กับการดาวน์โหลด จะทำให้ ระบบโดยรวมช้าลง

ถึงจะเป็น unlimit

เจริญพร
 ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ