หัวข้อ: เหตุให้แจ้งในสมาธิในภาวนา ยังไม่ใช่หนทางในพระศาสนา เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กรกฎาคม 24, 2010, 08:59:17 am เมื่อ มหาลีทูลถามพระพุทธองค์ว่า
[๒๕๐] โอ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุทั้งหลายเห็นจะประพฤติพรหมจรรย์ใน พระผู้มีพระภาค เพื่อเหตุจะทำให้แจ้ง ซึ่งสมาธิภาวนาเหล่านั้นเท่านั้น. ภ. ดูกรมหาลี มิใช่ภิกษุทั้งหลายจะประพฤติพรหมจรรย์ในเรา เพื่อเหตุจะทำให้แจ้ง ซึ่งสมาธิภาวนาเหล่านั้นเท่านั้น ดูกรมหาลี ธรรมเหล่าอื่นที่ภิกษุประพฤติพรหมจรรย์ในเรา เพื่อเหตุจะทำให้แจ้ง อันดีกว่าและประณีตกว่ายังมีอยู่. โอ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรมทั้งหลายที่ภิกษุประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค เพื่อเหตุจะทำให้แจ้ง อันดีกว่าและประณีตกว่านั้น เป็นไฉน? ภ. ดูกรมหาลี ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นโสดาบัน มีความเป็นผู้ไม่ตกต่ำเป็นธรรม เป็นผู้เที่ยง มีอันจะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า เพราะสัญโยชน์ ๓ หมดสิ้นไป ดูกรมหาลี ธรรมนี้แล ที่ภิกษุประพฤติพรหมจรรย์ในเรา เพื่อเหตุจะทำให้แจ้ง อันดีกว่าและประณีตกว่า. [๒๕๑] ดูกรมหาลี ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุเป็นสกทาคามี มาสู่โลกนี้เพียงอีกครั้งเดียว จะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ เพราะสัญโยชน์ ๓ หมดสิ้นไป และเพราะราคะ โทสะ โมหะ เบาบางไป ดูกรมหาลี แม้นี้ก็เป็นธรรมที่ภิกษุประพฤติพรหมจรรย์ในเรา เพื่อเหตุจะทำให้แจ้ง อันดีกว่าและประณีตกว่า. [๒๕๒] ดูกรมหาลี ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุไปเกิดในภพสูง ปรินิพพานในภพนั้น ไม่ต้องเวียนกลับมาจากโลกนั้น เพราะสัญโยชน์ส่วนเบื้องต่ำ ๕ ประการหมดสิ้นไป ดูกรมหาลี แม้นี้ก็เป็นธรรมที่ภิกษุประพฤติพรหมจรรย์ในเรา เพื่อเหตุจะทำให้แจ้ง อันดีกว่าและประณีตกว่า. อริยมรรคมีองค์ ๘ [๒๕๓] ดูกรมหาลี ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง บรรลุเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันไม่มีอาสวะ เพราะสิ้นอาสวะอยู่ในปัจจุบัน ดูกรมหาลี แม้นี้ก็เป็นธรรมที่ ภิกษุประพฤติพรหมจรรย์ในเรา เพื่อเหตุจะทำให้แจ้ง อันดีกว่าและประณีตกว่า ดูกรมหาลี เหล่านี้แล ธรรมทั้งหลายที่ภิกษุประพฤติพรหมจรรย์ในเรา เพื่อเหตุจะทำให้แจ้ง อันดีกว่า และประณีตกว่า. [๒๕๔] โอ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มรรคมีอยู่หรือ ปฏิปทาเพื่อทำให้แจ้งธรรมเหล่านั้น มีอยู่หรือ? ภ. ดูกรมหาลี มรรคมีอยู่ ปฏิปทาเพื่อทำให้แจ้งธรรมเหล่านั้นมีอยู่. โอ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็มรรคเป็นไฉน ปฏิปทาเพื่อทำให้แจ้งธรรมเหล่านั้น เป็นไฉน? ภ. มรรคมีองค์ ๘ อันประเสริฐนี้แหละ คือ ความเห็นชอบ ความดำริชอบ เจรจาชอบ การงานชอบ เลี้ยงชีพชอบ ความเพียรชอบ ความระลึกชอบ ความตั้งใจชอบ ดูกรมหาลี มรรคนี้ปฏิปทานี้แหละ เพื่อทำให้แจ้งธรรมเหล่านั้น. พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๑ ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค - หน้าที่ 191 หัวข้อ: Re: เหตุให้แจ้งในสมาธิในภาวนา ยังไม่ใช่หนทางในพระศาสนา เริ่มหัวข้อโดย: whanjai ที่ กรกฎาคม 25, 2010, 10:00:17 am สาุูธุ พระอาจารย์ช่วยเตือน เป้าหมายในการภาวนา
คือ คุณธรรมอันประณีต มีพระโสดาปัตติมรรค จนถึง พระอรหัตตผล หลวงปู่สุก ก็มีเป้าหมายในพระกรรมฐาน สูงสุดที่ พระอรหันต์ เวลา พระองค์ท่านให้สิ่งที่ระลึก ก็คือ พระอรหัง เป็นต้น หัวข้อ: Re: เหตุให้แจ้งในสมาธิในภาวนา ยังไม่ใช่หนทางในพระศาสนา เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม_พุทโธ ที่ กรกฎาคม 26, 2010, 05:26:33 am อนุโททนาครับ
:25: :08: หัวข้อ: Re: เหตุให้แจ้งในสมาธิในภาวนา ยังไม่ใช่หนทางในพระศาสนา เริ่มหัวข้อโดย: chatchay ที่ กรกฎาคม 26, 2010, 10:26:03 pm อ้างถึง ภ. มรรคมีองค์ ๘ อันประเสริฐนี้แหละ คือ ความเห็นชอบ ความดำริชอบ เจรจาชอบ ผมชอบพระพุทธบทนี้ครับ เพราะรู้สึกตรงกับวันนี้ดี วันอาสาฬหบูชา :86: :) :25: หัวข้อ: Re: เหตุให้แจ้งในสมาธิในภาวนา ยังไม่ใช่หนทางในพระศาสนา เริ่มหัวข้อโดย: sathukrab ที่ กรกฎาคม 27, 2010, 09:27:10 am :25: :25:
หัวข้อ: บางคนหลงทางในเรื่องสมาธิ จนลืมไปว่าสิ่งสำคัญที่องค์พระศาสดามาตรัสรู้คืออะไร เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กรกฎาคม 29, 2010, 09:59:44 pm อนุโมทนา ด้วยที่หลายท่านได้อ่านพระสูตรที่ลงให้อ่าน แล้วเข้าใจในความหมาย
แท้ที่จริง ธรรมอันประณีตนั้นเป็นเป้าหมายในการปฏิบัติ ไม่ใช่การได้ความสุข ที่ไม่แท้ ไม่ใช่การได้ยศศักดิ์ และฐานะ ไม่ใช่การได้ สมาบัติ แต่ธรรมะอันประณีตอัน นำเราออกจากสังสารวัฏฏ์ นั้นเป็นเป้าหมายของกรรมฐาน ผู้มีสติ ย่อมพิจารณาในธรรม เห็นอยู่ในธรรม ย่อมรู้แจ้งเห็นจริงด้วยอำนาจแ่ห่งปัญญาอันเกิดแต่สมาธิ เขาผู้นั้่นพึงพอกพูนธรรมะนั้นให้เนือง ๆ หัวข้อ: Re: เหตุให้แจ้งในสมาธิในภาวนา ยังไม่ใช่หนทางในพระศาสนา เริ่มหัวข้อโดย: kittisak ที่ สิงหาคม 01, 2010, 09:13:57 am :25:
|