สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 11, 2016, 07:22:39 pm



หัวข้อ: ไพร่ ไม่มีสิทธิ์อยู่เรือนไทย เพราะเป็นเรือนของเจ้าขุนมูลนาย
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 11, 2016, 07:22:39 pm
(http://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2016/10/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2.jpg)
เรือนไทย เป็นที่อยู่ของเจ้าขุนมูลนาย ไม่ใช่ของไพร่บ้านพลเมือง (ภาพเรือนไทยตัวอย่างที่คุ้มขุนแผน อยุธยา จาก www.wikalenda.com (http://www.wikalenda.com))


ไพร่บ้านคนจนเมือง ไม่มีสิทธิ์อยู่เรือนไทย เพราะเป็นเรือนของเจ้าขุนมูลนาย ขี้ข้าอยู่เรือนไทยมีความผิด

กระท่อม, กระต๊อบ, เรือนไม้ไผ่ใกล้สับปะรังเค เป็นที่อยู่อาศัยของคนยุคดั้งเดิมดึกบรรพ์ ราว 3,000 ปีมาแล้ว และของไพร่บ้านพลเมือง หรือชุมชนคนจนเมือง มีหลักฐานตรงๆ ในยุคอยุธยา ล่าสุดคือชุมชนป้อมมหากาฬ กรุงเทพฯ

เรือนไทยเป็นของเจ้าขุนมูลนาย ไม่ใช่ของสามัญชน

เรือนไทย เป็นที่รู้และเข้าใจคลาดเคลื่อนทั่วกันมานานมาก ว่าเป็นเรือนของคนไทยชาวบ้านทั่วไปอยู่อาศัยมาแต่ดั้งเดิมดึกดำบรรพ์ เรือนไทยในที่นี้หมายถึงเรือนมีใต้ถุน มีฝากระดานและมีหลังคาหน้าจั่วแหลมและโค้งเหมือนหลังคาโบสถ์วิหาร

บางกลุ่มอาจบ้าคลั่งหนักข้อว่าเรือนไทยเป็นของคนไทยมาตั้งแต่อยู่เทือกเขาอัลไต จนถึงอาณาจักรน่านเจ้า แล้วเข้าสู่ยุคสุโขทัย ราชธานีแห่งแรกของไทย แต่แท้จริงแล้วไม่เป็นอย่างนั้น

เรือนไทย เป็นเรือนของเจ้าขุนมูลนายผู้มีศักดิ์ ไม่ใช่เรือนของสามัญชนทั่วไปที่ล้วนเป็นไพร่บ้านพลเมือง สามัญชนไพร่บ้านพลเมือง ถ้าปลูกเรือนไทยอยู่อาศัยต้องรับโทษ ถูกข้อหาทำเทียมเจ้านาย อาจถูกตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร

ประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทยไม่มีสังคมและชุมชน จึงไม่มีเรื่องราวความเป็นมาของบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของไพร่บ้านพลเมือง หรือชุมชนคนจนเมือง คนชั้นนำกับคนชั้นกลางทุกวันนี้จึงบิดเบือนใส่ร้ายไล่รื้อชุมชนป้อมมหากาฬ ทั้งๆ เป็นหลักฐานประวัติศาสตร์สังคมชุมชนคนจนเมืองเหลือแห่งเดียวในกรุงเทพฯ และในไทย

 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

เครื่องผูก, เครื่องสับ

เรือนของคนไทยชาวสยามเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช้ด้านแปหรือด้านข้างเป็นหน้า-หลังเรือน (แตกต่างจากเรือนมอญ) สมัยก่อนแบ่งเรือนเป็น 2 อย่าง คือ เรือนเครื่องผูกกับเรือนเครื่องสับ เรือนเครื่องผูก คือเรือนที่สร้างด้วยไม้ไผ่ล้วนๆ และโครงร่างใช้หวายหรือตอกผูกมัดกันทั้งสิ้น

หลังคามุงด้วยใบ้ไม้ประเภทกรอง (หญ้า) คา หรือมุงใบจาก ใบกระท่อม และใบไม้อื่นๆ เรียกง่ายๆ เข้าใจกันง่ายๆ ว่า กระท่อม หรือกระต๊อบ

เรือนเครื่องผูกคงมีมาก่อนเรือนเครื่องสับ เรื่องนี้ “เสฐียรโกเศศ” อธิบายไว้ในหนังสือเรื่อง “ปลูกเรือน” ว่า เพราะในภาษาไทยมีคำพูดติดปากอยู่คำหนึ่ง คือคำว่า “ตกฟาก” หมายถึงเวลาเด็กคลอดออกจากครรภ์มารดาลงมาสู่พ้นเรือนซึ่งเป็นฟากไม้ไผ่

ฟาก เป็นชื่อเรียกไม้ไผ่ผ่าสอง แล้วทุบให้แตกผ่าราบ ใช้ปูเป็นพื้นเรือนเครื่องผูกมาแต่ยุคแรกเริ่มดั้งเดิมดึกดำบรรพ์ ฉะนั้นจึงมีคำว่า “ตกฟาก” เหลืออยู่ในภาษาปาก

นอกจากนั้นทรงหลังคาเรือนฝากระดานสมัยก่อนจะงอนอ่อนช้อย สะบัดขึ้นน้อยๆ แสดงว่าสร้างเลียนแบบเรือนเครื่องผูกที่ใช้ลำไม้ไผ่ ทั้งลำเป็นโครงหลังคา สันหลังคาจึงแอ่นและงอนอ่อนช้อย จึงเป็นร่องรอยว่าเรือนเครื่องผูกมีมาก่อนเรือนเครื่องสับ

ชาวบ้านทั่วไปอยู่ “กระท่อม” เรือนเครื่องผูกพื้นฟากไม้ไผ่ ดัง ลา ลูแบร์ บันทึกว่า “ที่อยู่อาศัยของชาวสยามนั้นเป็นเรือนหลังย่อมๆ…พื้นเรือนนั้นก็ใช้ไม้ไผ่มาสับเป็นฟากและเรียงไว้ไม่ค่อยถี่นัก แล้วยังจักตอกขัดแตะเป็นฝาและใช้เป็นเครื่องบนหลังคาเสร็จไปในตัว”


(http://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2016/10/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B8%81-768x957.jpg)
[ลายเส้นจากหนังสือ สารานุกรมไทย เล่ม 20 โดย อุทัย สินธุสาร พิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม พ.ศ. 2521 หน้า 3837]


แต่เรือนทุกหลังไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน เช่น พื้นไม่จำเป็นต้องเป็นฟากไม้ไผ่ จะใช้ต้นหมากก็ได้ บันทึกจีนชื่อหม่าฮวน จดว่าเรือนของชาวสยามยุคอยุธยาใช้ต้นหมากผ่าออกเป็นแผ่นยาวๆ อย่างซีกไม้ไผ่เอามาเรียงชิดกัน แล้วผูกอย่างแน่นหนาด้วยหวาย ปูทับด้วยเสื่อหวาย หรือเสื่อลำแพนทำจากตอกไม้ไผ่

เรือนเครื่องสับ คือเรือนที่สร้างด้วยไม้จริง แม้จะมีไม้ไผ่เป็นเครื่องประกอบบ้าง ก็ยังคงเรียกเรือนเครื่องสับ การประกอบเรือนแบบนี้ต้องใช้มีดขวานสับบากเข้าปาก เข้าเดือย เจาะตรึงหมุดตัวไม้ ไม่มีตะปู เรือนเครื่องสับยังมีชื่อเรียกอื่นๆ ตามวัตถุที่ใช้เป็นเครื่องกั้นฝา เช่น เรือนกั้นด้วยไม้ไผ่ผ่าเป็นซี่แล้วสานขัดกันเรียกเรือนฝาขัดแตะ หรือเรือนมีฝา ถ้ากรุด้วยกระแชงอ่อนเรียกเรือนฝากระแชงอ่อน เรือนที่ปลูกสร้างด้วยไม้จริงล้วนๆ ใช้ไม้กระดานเป็นฝาเรียกเรือนฝากระดาน ซึ่งนับเป็นเรือนชั้นดีที่สุด

     สรุปว่าเรือนเครื่องสับก็คือสิ่งที่เรียกกันทุกวันนี้ว่า เรือนไทย เป็นที่อยู่ของเจ้าขุนมูลนาย ดังที่ลา ลูแบร์ มีบันทึกว่า
     “ขุนนางผู้ใหญ่แห่งราชสำนักอยู่เรือนไม้ทั้งหลัง กล่าวได้ว่ารูปร่างดังตู้ใบใหญ่ๆ แต่ในเรือนหลังนี้เป็นที่อยู่อาศัยเฉพาะเจ้าบ้าน ภรรยาหลวงกับบุตรธิดาของตนเท่านั้น ส่วนภรรยาน้อยคนอื่นๆ กับบุตรธิดาของตน ทาสแต่ละคนในครอบครัว มีเรือนหลังเล็กๆ แยกกันอยู่ต่างหากจากกัน แต่หากอยู่ภายในวงล้อมรั้วไม้ไผ่ร่วมกับเรือนเจ้าของบ้าน มาตรว่าจะแยกกันออกไปเป็นหลายครัวก็ตาม”

      ขี้ข้าถ้าริอยู่เรือนไทยอาจหัวขาด



บทความของ สุจิตต์ วงษ์เทศ
ขอบคุณภาพและบทความจาก http://www.matichon.co.th/news/307775 (http://www.matichon.co.th/news/307775)


หัวข้อ: Re: ไพร่ ไม่มีสิทธิ์อยู่เรือนไทย เพราะเป็นเรือนของเจ้าขุนมูลนาย
เริ่มหัวข้อโดย: Hero ที่ ตุลาคม 12, 2016, 09:58:30 am
เรื่อง ไพร่ ได้ยินแต่ชาวเสื้อแดง พูดกัน

ปัจจุบัน ระบบ ไพร่ ไม่มีตั้งแต่ ยุค ร5 ฝังใจกันไปก็ไม่มีประโยชน์

   พวกคอมมิวนิสต์ จะมีหลักการ คือความเท่ากัน ในกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นใคร  จะเป็น พ่อ หรือ แม่ พี่ น้อง เพือ่น ถ้าอยู่ด้วยกัน ก็เสมอกัน ได้เท่ากัน ( ไม่จริง )  เพราะอย่างไร คนเราไม่กินก็ไมเท่ากัน ตัวก็ไม่เท่ากัน สุดท้ายคนออกคำสั่ง ก็เป็นแต่ผู้ออกคำสั่ง เท่านั้น ไม่ได้ไปช่วย ไม่ว่า ระบบไหน มันก็ต้องมี คนถูกใช้ กับ คนที่ใช้   

     คนถูกใช้ ก็เรียกว่า ไพร่ ( ถ้าเป็นกองกำลังเยอะมากตั้งแต่ 5 คน ก็เติมคำว่า พล ) เป็น ไพร่พล
    ส่วนคนที่ใช้ ก็เรียกว่า นาย ถ้ามีกองกำลังเกิน 5 คน ก็เรียกว่า เจ้านาย ( ไม่ได้หมายถึงความเป็นกษัตริย์ )

    ระบบพวกนี้ จะเรียกให้สวยหรู ในปัจจุบัน

    ก็คือ ลูกพี่ ( เจ้านาย ) ลูกน้อง ( คนรับจ้าง )
    อันนี้พูดกันในสังคม ระบบนอกครัวเรือน

    แต่ถ้าเป็น ครัวเรือน แล้ว ก็เรียกกันให้ หรูหน่อย
      ผัว  เมีย  ลูก หลาน
    ระบบปกครอง ก็ต้องไปตามลำดับชั้น ตั้งแต่ ทวด ลงมา มันก็เป็นระบบเดียวกัน

    แต่เพราะว่า คนเรามีสติปัญญา แตกต่างกันไป มันจึงมีการ ปีนเกลียว ที่เรียกว่า โลกาภิวัฒน์ เพื่อให้เข้ากับตน ไม่ได้เข้ากับสังคมอะไรทั้งนั้น แต่มีเพื่อ เอื้อประโยชน์ แก่ตนเอง ที่ไหน ๆ ก็เป็นอย่างนี้ ทั้งนั้นจะอ้างอะไร เพือ่ผลประโยชน์ ทุกวันนี้ผมไม่เชื่อเรื่องการเมือง ใครบอกมาช่วยประเทศชาติ ไม่มีจริงหรอก มันก็ต้องหาผลประโยชน์ แต่จะน่าเกลียดเกินไปไหม นั่นแหละ

 :49:


   



หัวข้อ: Re: ไพร่ ไม่มีสิทธิ์อยู่เรือนไทย เพราะเป็นเรือนของเจ้าขุนมูลนาย
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ ตุลาคม 12, 2016, 04:09:35 pm
   มีไพร่มีนาย     มีควายเฆี่ยนตี
แม้นนายอัปรีย์     ไพร่ดีก็จม.   


หัวข้อ: Re: ไพร่ ไม่มีสิทธิ์อยู่เรือนไทย เพราะเป็นเรือนของเจ้าขุนมูลนาย
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ ตุลาคม 14, 2016, 06:58:34 am
ได้ความรู้ครับ และก็ได้ทราบประวัติศาสตร์