ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทุ สะ นะ โส - บุญมี บาปมี นรกมี สวรรค์มี  (อ่าน 279 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28453
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ทุ สะ นะ โส - บุญมี บาปมี นรกมี สวรรค์มี
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2024, 08:01:01 am »
0
.



ทุ สะ นะ โส

สัมมาทิฏฐิ หมายถึงความเห็นชอบ ว่าบุญมี บาปมี นรกมี สวรรค์มี เรียกว่ารู้ดี พอมีสัมมาทิฏฐิ คือรู้ดีอย่างนี้แล้ว การพูดดี ทำดี คิดดี ก็จะตามมา ตรงกันข้าม คนที่มีมิจฉาทิฏฐิ รู้ผิดก็จะทำความดีไม่ได้

ดังมีเรื่องเล่าในสมัยพระพุทธเจ้า ว่า พระเจ้าปเสนทิโกศลบรรทมหลับแล้วทรงสุบินคือฝันว่าได้ยินเสียงเปรตร้องส่งเสียงดักกึกก้องว่า ทุ สะ นะ โส อยู่ในโสตประสาทตกพระทัยสะดุ้งตื่นจากบรรทม จึงรับสั่งให้ไปตามพราหมณ์ปุโรหิตมาเฝ้าทำนายฝัน

พราหมณ์ปุโรหิตพวกนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิ ต่างทูลว่า จักเป็นลางร้ายต่อราชสมบัติของพระองค์ พวกเขากราบทูลพระเจ้าปเสนทิโกศลว่าต้องทำบูชายัญด้วยการฆ่าม้า ช้าง แกะ แพะ อย่างละ ๕๐๐ ตัว รวมทั้งฆ่ามนุษย์ที่เป็นทาสกรรมกรอีก ๕๐๐ คนด้วย

พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงเชื่อคำของพวกเขาแล้วรับสั่งให้จับคนและสัตว์เหล่านั้นมากักขังไว้ เพื่อเตรียมฆ่าบูชายัญ มีเสียงร้องระงมไปทั่ววัง พระไปบิณฑบาตได้ยินเสียงร้องจึงถามว่า เสียงอะไรอึกทึกคึกโครม ได้รับคำตอบว่าพระเจ้าแผ่นดินกำลังเคราะห์ร้าย ทรงได้ยินเสียงเปรตนรกพูดว่า ทุ สะ นะ โส ต้องฆ่าสัตว์บูชายัญอย่างละ ๕๐๐

ฝ่ายที่เป็นสัมมาทิฏฐิไปกราบทูลแนะนำพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า ให้เสด็จไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า แล้วกราบทูลถามว่า ที่ทรงได้ยินเสียงว่า หมายถึงอะไร.?

@@@@@@@

เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลถามปัญหานี้ พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า

แต่กาลก่อนในพระนครนี้ มีบุตรเศรษฐี ๔ คน ทำความผิดต่อภรรยาคนอื่นตายไปเกิดในโลหกุมภีนรกจมลง ๖๐,๐๐๐ ปี ดำผุดดำว่ายอยู่ในนรกนั้นลงไปถึงก้นนรกแล้วผุดขึ้นมา เปรตตนที่หนึ่งพูดได้คำเดียวว่า ทุ แล้วก็จมลงไป เปรตตนที่สองพูดได้คำเดียวว่า สะ แล้วก็จมลงไป เปรตตนที่สามพูดได้คำเดียวว่า นะ แล้วก็จมลงไป เปรตตนที่สี่พูดได้คำเดียวว่า โส แล้วก็จมลงไป

    - คำว่า ทุ มาจากคำว่า ทุชฺชีวิตมฺชีวมฺหา เป็นต้น แปลความว่า เราเมื่อมีโภคสมบัติอยู่ ไม่ได้ให้ทานเลย ไม่ได้ทำที่พึ่งสำหรับตนเลย จัดว่ามีชีวิตอยู่ชั่วช้า
    - คำว่า สะ มาจากคำว่า สฏฺฐิวสฺสสหสฺสานิ เป็นต้น แปลความว่า เราไหม้อยู่ในนรกตั่ง ๖๐,๐๐๐ ปี เมื่อไรจักสิ้นสุดกันเสียที
    - คำว่า นะ มาจากคำว่า นตฺถิ อนฺโต กุโต อนฺโต เป็นต้น แปลความว่า ไม่มีที่สิ้นสุด จะสิ้นสุดได้แต่ที่ไหน ความสิ้นสุดไม่ปรากฏเลย พวกเราเอ๋ย เพราะข้ากับเจ้าทำบาปกรรมไว้มากในครั้งนั้น
    - คำว่า โส มาจากคำว่า โสหํ นูน อิโต คนฺตฺวา เป็นต้น แปลความว่า เราพ้นไปจากโลหกุมภีนี้แล้ว ได้เกิดเป็นมนุษย์รู้ถ้อยคำของพวกยาจก มีศีลสมบูรณ์ จักต้องสร้างกุศลไว้ให้มากเป็นแน่แท้


@@@@@@@

พระเจ้าปเสนทิโกศลพอได้สดับคำอรรถาธิบายของพระพุทธเจ้าอย่างนั้น ทรงรับสั่งให้เลิกบูชายัญ ปล่อยสัตว์ทั้งหลายเป็นอิสระ ทรงถวายทาน รักษาศีล เจริญภาวนา

นี่แสดงว่า เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลได้สดับคำอรรถาธิบายของพระพุทธเจ้าแล้วได้สัมมาทิฏฐิ คือ ความรู้ดี จึงเกิดสัมมาสังกัปปะ คือ คิดดี มีเมตตา กรุณาต่อสัตว์ที่ถูกจับเพื่อบูชายัญ และทำดีด้วยการไว้ชีวิตสัตว์เหล่านั้น





ขอขอบคุณ :-
ข้อธรรม : บันทึกจากเจ้าอาวาส ลำดับที่ ๑๐๑ , จากพระธรรมเทศนา ๕๗ กัณฑ์ เรื่องสัมมาทิฏฐิกถา ว่าด้วยเรื่องความเห็นชอบ , สมัยดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙.,Ph.D) , แสดงในพระอุโบสถวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร , เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
Image by : https://www.pinterest.ca/pin/16255248648897859/
URL : https://www.watprayoon.com/main.php?url=about1&code=content139&id=150
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ