สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เคยได้ยินมาว่า เมื่อเราหลับ จิต ของ เราก็จะออกจากกาย เดินทางไปใน มิติ ของจิต ซึ่งมีผสมกาลเวลา ทั้ง 3

คือ บางครั้งก็กลับไปในอดีิต บางครั้ง ก็เข้าอยู่ในภาวะปัจจุบัน และ บางครั้งก็ไปยังอนาคต

อันนี้เป็นจริง หรือ มีข้ออธิบาย ในแนวกรรมฐาน หรือ ไม่ครับ

 ขอบคุณมากครับ

  :25: :c017:

 เวลาหลับแล้ว ถ้าไม่ฝัน จิตจะอยู่ในภวังค์ เรียกว่า "ภวังคจิต"
 การที่จิตถูกส่งออกไปรับรู้เหตุการณ์ต่างๆ แสดงว่า จิตขึ้นสู่วิถี เรียกว่า "วิถีจิต"
 แต่คุณจตุพรบอกว่า หลับแล้วจิตไปรับรู้เหตุการณ์ และไม่ได้บอกว่าฝัน
 ผมไม่เข้าใจตรงที่ว่า เมื่อหลับแล้วจะไปรับรู้อะไรได้ ถ้าไม่ได้ฝัน

---

 สาเหตุของการฝันมี ๔ ข้อ ข้อหนึ่งก็ คือ เทพสังหรณ์

     ฝันโดยเทพสังหรณ์ เกิดขึ้นจากเทวดาที่มีอำนาจจิตมาสะกดจิตของผู้นอนหลับ เพื่อบอกเหตุร้ายหรือเหตุดีก็ได้ โดยสร้างนิมิตฝันให้เห็นหรือสร้างภาพให้คนนั้นเห็นทางใจ มีบ่อยๆ ที่เทวดามาบอกว่าตอนนี้มีโจรขึ้นบ้าน กำลังเกิดไฟไหม้บ้าน หรือมีญาติกำลังเดือนร้อน เป็นต้น 

     อย่างไรก็ดี ต้องเข้าใจว่าเทวดามีกิเลสเหมือนมนุษย์ เทวดาดีก็มี เทวดาไม่ดีก็มี ถ้าไปเจอเทวดามิจฉาทิฏฐิ ก็อาจหลอกลวงให้ฝันเลอะเทอะในเรื่องไม่เป็นเรื่องได้ แต่บางทีเทวดาต้องการบอกอย่างหนึ่ง แต่คนนอนฝันต่อความยาวออกไปเองก็มี ตื่นขึ้นมาเลยไม่รู้ว่าเทวดาบอกอะไร

ข้อมูลจาก http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/000575.htm (http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/000575.htm)

---

   ความเป็นไปได้ของจิตที่ออกไปรับรู้เหตุการณ์ต่างๆ
   ตามที่คุณจตุพรถาม ในขณะหลับได้นั้น น่าจะมาจาก"เทพสังหรณ์"   
   ถ้าจะโยงมาเรื่องกรรมฐาน ผมนึกถึง "ทิพยจักขุญาณ" การมีตาทิพย์จะทำให้รู้อดีต ปัจจุบันและอนาคตได้
    :25:

เวลาหลับ ก็คือ ฝัน ตอนที่ฝัน ก็หมายถึง ว่าิิจิตออกจากร่างไปสู่ มิติ ที่เป็นเท็จ เป็นจริงผสมกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเท็จ บางครั้งก็อาจจะมีความรู้สึกว่า เหมือนกับไปอดีต หรือไปอนาคต อันนี้มีผู้กล่าวว่า เวลาที่คนเราฝันนั้น จิตออกจากกายไป จะมีเส้นวิญญาณคอยประสานชีวิตไว้ หากเส้นวิญญาณนี้ขาด ก็คือไม่สามารถกลับมาที่ร่างได้

 อันนี้เป็นเรื่อง ที่เคยฟัง เล่า ต่อ ๆ กันมานะคะ

 (http://www.horo999.com/images/horoscope%20dream.jpg)

ผมเองก็เคยฝัน ๆ บ่อย ๆ ฝัน แปลก ๆ ครับ

 ส่วนเรื่องจิตออกนอกกาย ถ้าตามความเชื่อของ ผม ก็เชื่อนะครับ ส่วนการที่กลับมาไม่ได้ ผมก็เคยเห็นคนไหลตายมาหลายคนแล้วครับ นอนยิ้มตาย ทั้ง ๆ ที่ไม่มีสาเหตุการตายเลย ทางบ้านผมเรียกว่าว ไหลตาย คนพวกนี้น่าจะเป็นพวกที่ เส้นวิญญาณขาด กระมังครับ

  :hee20hee20hee: :hee20hee20hee:

ผมก็มีความเชื่อว่า เวลาเราหลับ จิตเราจะท่องเที่ยวไปในมิติ ต่างๆ ตามโมหะจริต ของตนเอง
แต่เมื่อใดที่เราหยุด โมหะจริต นี้ได้ จิตเราก็ไม่ต้องฝันอีกต่อไป

  บุคคลที่จะไม่ฝันอีกแล้ว ก็คือ พระอนาคามี

  :13:

อย่างนี้เวลาเราฝัน ว่าอดีตเคยเป็นอย่างนี้ บ่อย ๆ ซ้ำ ๆ จัดเป็น ความจริง หรือไม่คะ

 :c017:

อย่างนี้เวลาเราฝัน ว่าอดีตเคยเป็นอย่างนี้ บ่อย ๆ ซ้ำ ๆ จัดเป็น ความจริง หรือไม่คะ

 :c017:

ผู้ฝันย่อมฝันด้วยเหตุ ๔ ประการ คือ
   ธาตุโขภะ ธาตุกำเริบ ๑
   อนุภูตปุพพะ เคยเสพมาก่อน ๑
   เทวโตปสังหาระ เทวดาดลใจ ๑
   ปุพพนิมิต ลางบอกเหตุ ๑.

               ในความฝัน ๔ ประการนั้น
ผู้มีธาตุกำเริบ เพราะดีเป็นต้นกำเริบ ชื่อว่าฝันโดยธาตุกำเริบ.
ผู้ฝันโดยเคยเสพมาก่อนแล้ว ย่อมเห็นอารมณ์ที่เคยเสพมาแล้วในกาลก่อน.
ฝันโดยเทวดาดลใจ ย่อมเห็นอารมณ์ทั้งหลายด้วยอานุภาพของเทวดาทั้งหลาย.
ฝันโดยบอกเหตุล่วงหน้า ย่อมฝันเห็นลางบอกเหตุล่วงหน้าแห่งสิ่งที่เป็นประโยชน์ หรือสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
อันประสงค์จะให้เกิดด้วยอำนาจบุญและบาป.

     ในความฝันเหล่านั้น ฝันโดยธาตุกำเริบและโดยที่เคยเสพมาก่อนแล้ว ไม่เป็นจริง.
     ฝันโดยเทวดาดลใจ จริงบ้างไม่จริงบ้าง. เพราะเทวดาโกรธ ประสงค์จะให้ถึงความพินาศโดยอุบาย ก็แสดงทำให้วิปริต.
     ฝันโดยบอกเหตุล่วงหน้า จริงโดยส่วนเดียว.

ที่มา "ลิงหลับแล้วฝันอย่างไร" ในบาลีมีคำตอบ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=4334.msg16017#msg16017 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=4334.msg16017#msg16017)

เวลาหลับ ร่างกายจะเข้าสู่ อำนาจจิตฝักฝ่าย กุศลธรรม และ อกุศลธรรม ที่สั่งสมไว้ยามตื่น เป็นการปรุงแต่งทางจิตที่เกิดขึ้นตามอำนาจ จิตแท้ จิตเดิม ดังนั้นเรือง หลับแล้ว จิตออกจากกายนั้นเป็นเรื่องที่พูดยาก เพราะบางครั้งบางท่านก็สามารถผันผ่านเข้าไปสู่ มิติ ที่เป็นจริง เวลาตื่นขึ้นมาก็สามารถ อดีตชาติ ได้ก็มี บางท่านก็รู้อนาคต บ้างก็มี บ้างท่านก็ฝั่นเฝือ ก็มี ดังนั้น เอาแน่กับความฝัน นั้นมิได้

 เท็จ เป็น จริง  จริง เป็น เท็จ เท็จ เท็จ จริง จริง ก็เป็นเรื่อง ของฝัน

 ผู้มีเจโตปริยญาณ ระดับ ที่ 4 จะสามารถเข้าควบคุมความฝัน ของบุคคลอื่นได้ เรียกว่า ภาพลวงตา

 เรื่องของญาณเป็นเรื่องที่พูดยาก ก็พอได้คุยกันเป็น สัพเพเหระ กันเท่านี้ นะจ๊ะ

 เจริญธรรม
  ;)