ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
หน้า: [1] 2 3 ... 10
 1 
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 04:39:31 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

 2 
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 01:12:10 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

 3 
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 12:50:51 pm 
เริ่มโดย aventure1 - กระทู้ล่าสุด โดย aventure1
ดันกระทู้

 4 
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 09:31:01 am 
เริ่มโดย raponsan - กระทู้ล่าสุด โดย raponsan
.



หิริโอตัปปะและศีล ๕ : หลักธรรมป้องกันการทุจริต
โดย พระพรหมบัณฑิต ศ.ดร. อธิการบดีมหาจุฬาฯ เทศน์ "สุจริตกถา"


กล่าวว่า มหาจุฬาฯ ร่วมกับสำนักงานการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ การจัดงานครั้งนี้เพื่อเป็นโอกาสสำคัญในการแสดงถึงความกตัญญูต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งสองพระองค์ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม โดยมีพระปฐมบรมราชองค์การว่า

"เราจะครองแผ่นโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" คำว่า "โดยธรรม" หมายถึง "สุจริตธรรม" พระพุทธเจ้าแสดงธรรมเรื่องสุจริตธรรมครั้งแรกให้พระเจ้าสุทโทธนะ มีหน้าที่ด้วยความสุจริต มี ๓ ประการ

    ๑. "ไม่บกพร่องต่อหน้าที่" ทำหน้าที่ตนเองให้ที่สุด ร้องให้สุดคำ รำให้สุดแขน ทำให้ดีที่สุด ทำอะไรอย่าให้บกพร่อง
    ๒. "ไม่ละเว้นต่อหน้าที่" ผู้เป็นบิดามารดาไม่ละทิ้งหน้าที่ในการสั่งสอนบุตรของตน เพราะถ้าบุตรเป็นโจร บิดามารดาย่อมมีส่วนโจรด้วยเพราะไม่สั่งสอนบุตร
    ๓. "ไม่ทุจริตต่อหน้าที่" ไม่ใช้หน้าที่ของตนในการทำการทุจริต รวมถึงทรัพย์สินเงินทอง ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ

พระพุทธเจ้าตรัสว่า "บุคคลไม่ควรประพฤติหน้าที่ให้ทุจริต" อาณาจักรหรือประเทศจะล้มสลายถ้ามีการทุจริต กล่าวว่า "สนิมเกิดแต่เหล็ก จะกัดกินเหล็ก" ซึ่งสภาพในสังคมไทยปัจจุบันมีการทุจริตจำนวนมากเป็นสนิทร้ายต่อประเทศ ลักษณะมือใครยาว สาวได้สาวเอา มีการแย่งอาหารกันกิน แย่งถิ่นกันอยู่ แย่งคู่กันพิศวาส แย่งอำนาจกันเป็นใหญ่

นำไปสู่การขาดความสามัคคีในประเทศชาติ เป็นการละเมิดศีล ๕ ในข้อที่ ๒ คือ ถือเอาสิ่งของจากเจ้าของท่านไม่ได้ให้ ควรงดเว้นด้วยวิรัติ ถือว่าเป็นการงดเว้น ต้องมีหิริ ความละอายแก่ใจ การส่งเสริมในเรื่องศีล ๕ ของมหาเถรสมาคม จึงเป็นการต่อต้านการทุจริตนั่นเอง

@@@@@@@

สมัยอดีตก็มีการทุจริต ทนันชาณิพราหมณ์มีการปล้นพระราชา ฉ้อราษฏร์บังหลวง อ้างพระราชาปล้นประชาชน อ้างว่าจะไปช่วยเหลือประชาชน แต่กลับเอาไปใช้ส่วนตัว อ้างว่าเอาเงินไปเลี้ยงบิดามารดา บุตร และ ณ สวนสัตว์แห่งหนึ่งมีการทุจริตต่อหน้าที่ ในการเลี้ยงเสือ ประชาชนมาดูเสือทำไมเสือไม่อ้วน เสือผอม ทำไมเสือผอมเป็นการตั้งคำถามของประชาชน เพราะอาหารเสือโดนเบียดบัง ผู้อำนวยการสวนสัตว์ส่งผู้ตรวจการ ๓ คน มาตรวจทุจริตทั้ง ๓ คน จึงมีโครงโลกนิติว่าด้วยว่า "เบิกทรัพย์วันละบาทซื้อมังสา" กล่าวว่า

    เบิกทรัพย์วันละบาทซื้อ มังสา
    นายหนึ่งเลี้ยงพยัคฆา ไป่อ้วน
    สองสามสี่นายมา กำกับ กันแฮ
    บังทรัพย์สี่ส่วนถ้วน บาทสิ้นเสือตาย

เสือ หมายถึง ประเทศชาติ รวมถึงประชาชนในชาติ ผู้นำรัฐ ข้าราชการ ต้องประพฤติสุจริตธรรม ประเทศถึงจะอยู่รอด การทุจริตทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซื้อสิทธิ์ขายเสียง ก็ถือว่าเป็นการทุจริต สหประชาชาติจึงประกาศให้วันที่ ๙ ธันวาคมของทุกปี เป็นวันต่อต้านการทุจริตของโลก ประชาชนต้องไม่สนับสนุนการทุจริต

ธรรมะที่คุ้มครองโลก คือ "หิริและโอตัปปะ" เป็นธรรมะที่ให้มนุษย์ประเสริฐกว่าสัตว์ เป็นธรรมะฝ่ายขาวคุ้มครองโลก
    หิริ หมายถึง ความละอายต่อบาป ต่อความชั่วทั้งหลาย ไม่นำร่างกายไปเปื้อนกับความสกปรก
    คำว่า โอตตัปปะ หมายถึง ความเกรงกลัวต่อบาป เปรียบเหมือน ถ่านไฟ อย่าได้ไปเข้าใกล้มันร้อน
    เมื่อหิริโอตตัปปะมีอยู่โลกจะสามารถอยู่รอดและปลอดภัย

การงดเว้นการทุจริตก็ต่อเมื่อมีธรรมะ คือ "หิริและโอตตัปปะ" เป็นหลักธรรมป้องกันการทุจริต เพราะเมื่อละอายแก่ใจ ดังคำกล่าวว่า" อดอยากเยี่ยงอย่างเสือ" เหมือนนางขุตชุตรา เป็นนางสาวใช้ของพระนางสามวดี เบิกเงินไปซื้อดอกไม้ แต่ซื้อเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เธอได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า ทำให้กลับตัวกลับใจ มีความหิริภายในใจ เธอพยามสร้างอริยทรัพย์ เป็นทรัพย์ภายใน "ความรู้จักพอเป็นยอดแห่งทรัพย์"


@@@@@@@

เศรษฐกิจพอเพียงขององค์ในหลวง ถือว่าเป็นการป้องกันการทุจริต คือ ให้เรารู้จักพอ เพียงพอ ประมาณตนเอง ในการบริหารชีวิต เพราะถ้าไม่พอก็เกิดความโลภ โอตัปปะเป็นความกลัว กลัวต่อการกฎหมายลงโทษอย่างมีประสิทธิภาพ กลัวต่อการตกนรก คนสมัยโบราณกลัวการทุจริต กลัวต่อผลบาปการทุจริต จึงยึด "ทำได้ดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว"

เราปฏิบัติสุจริตย่อมมีชีวิตที่มีความสุขในโลกนี้และโลกหน้า มีพราหมณ์คนหนึ่งสมัยพระเจ้าโกศล เขาทดลองว่า ถ้าประพฤติทุจริตจะเป็นอย่างไร.? ด้วยการหยิบเหรียญวันละ ๑ เหรียญ ทำเรื่อยๆ และหยิบเป็นกำมือ จนคนตะโกนว่าจับโจร พระราชาถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ พราหมณ์ตอบว่า เป็นการทดลองการประพฤติผิดว่าจะเป็นอย่างไร พราหมณ์จึงออกบวชในศาสนาของพระพุทธเจ้า

องค์ในหลวงของเรารักเป็นแบบอย่างที่ดีในการประพฤติสุจริตธรรม จะทำให้ประเทศของเรามีความ "มั่นคง มั่งคั่ง และสันติสุข" สืบไป





Thank to :-
image : https://www.pinterest.ca/
URL : https://www.mcu.ac.th/news/detail/12803
๑๐/๐๘/๒๐๑๖

 5 
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 08:45:35 am 
เริ่มโดย raponsan - กระทู้ล่าสุด โดย raponsan
.



มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ขอเชิญนิสิตบัณฑิตศึกษาและประชาชนทั่วไป ร่วมปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน มจร.วังน้อย พระนครศรีอยุธยา

ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ  ขอเชิญนิสิตบัณฑิตศึกษาและประชาชนทั่วไป ร่วมปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ครั้งที่ 10 รับจำนวน 150 รูป/คน เท่านั้น ระหว่างวันที่ 1-4 มิถุนายน  2567 เฉลิมพระเกียรติ วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

ณ อาคาร 72 ปี พระวิสุทธาธิบดี (หอฉันชั้น 4)สถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

กรุณาอ่านก่อนสมัครทุกครั้ง https://shorturl.asia/xvZmo

สมัครเข้าร่วมโครงการ https://plan-vipassana.mcu.ac.th/vi/register.php?id=50

เข้าLINEกลุ่ม กด https://line.me/ti/g/Qdd1K_vA5

ทำบุญสนับสนุนโครงการ https://plan-vipassana.mcu.ac.th/vi/donate/register2.php

ส่วนวางแผนและพัฒนาการอบรม สถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

รับเฉพาะผู้อยู่ร่วมโครงการได้เท่านั้น การสมัครแทนกันให้ถามความสมัครใจของผู้เข้าร่วมว่าสะดวกหรือเปล่า

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนวางแผนและพัฒนาการอบรม สถาบันวิปัสสนาธุระ โทร: 035-802-737

พระมหาแสงตะวัน ขนฺติเมธี โทร 06-1935-9836 นายชรัณวัชร์ ลีวัฒนโชตเดชากุล โทร 0621070470

(จองห้องพักอาคาร ๙๒ ปีปัญญานันทะ โทร 0925052870)

https://plan-vipassana.mcu.ac.th/?p=6823











Thank to :  https://www.mcu.ac.th/news/detail/51673
23 พ.ค. 67 | ข่าวมหาวิทยาลัย

 6 
 เมื่อ: วันนี้ เวลา 08:34:16 am 
เริ่มโดย raponsan - กระทู้ล่าสุด โดย raponsan

 :25: :25: :25:

“Golden Boy” ประติมากรรมล้ำค่า อายุนับพันปี คือ “พระศิวะ” จริงหรือ?


Golden Boy ประติมากรรมสำริดที่ไทยเพิ่งได้รับคืนจากสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร



 :96: :96: :96:

“Golden Boy” คือ“พระศิวะ” จริงหรือ.?

ในที่สุด Golden Boy และประติมากรรมสตรี โบราณวัตถุ 2 รายการที่มีอายุนับพันปี ก็เดินทางกลับสู่เมืองไทยเป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางความยินดีของคนไทยทั้งประเทศ พร้อมจัดแสดงในวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ที่อาคารมหาสุรสิงหนาท พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

เมื่อครั้ง Golden Boy จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน นครนิวยอร์ก (The MET) สหรัฐอเมริกา คำอธิบายใต้ประติมากรรมชิ้นนี้ คือ “พระศิวะประทับยืน” ซึ่งในวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 ที่มีพิธีรับมอบโบราณวัตถุ 2 รายการ คือ Golden Boy และประติมากรรมสตรี จาก The MET ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

จอห์น กาย (John Guy) ภัณฑารักษ์ แผนกศิลปะเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จาก The MET ที่ร่วมในพิธีรับมอบ ก็ได้ระบุว่า Golden Boy คือ “พระศิวะ”

เหตุผลดังกล่าวคืออะไร.?

เขากล่าวว่า ประติมากรรมสำริดกะไหล่ทองรูปพระศิวะในศาสนาฮินดูนี้ ถือเป็นผลงานชิ้นเอกชิ้นเดียวอย่างไม่ต้องสงสัย และเป็นหนึ่งในประติมากรรมทางศาสนาที่สำคัญที่สุดประเภทรูปเคารพ ที่ยังหลงเหลืออยู่ในแผ่นดินใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสภาพการเก็บรักษาเกือบสมบูรณ์

ประติมากรรมสำริดรูปพระศิวะ ทำหน้าที่เป็นรูปเคารพทางศาสนาที่สำคัญในเทวสถาน ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 16-17 ซึ่งน่าจะหมายถึง “พระศิวะ” เทพในศาสนาพราหมณ์

“หากพิจารณาจากผ้านุ่งห่มแบบสมพตในภาษาเขมร หรือผ้านุ่งในภาษาไทย มีการตกแต่งรอยผูกที่ชายผ้าด้านหน้า และปมผ้าด้านหลังก็ตกแต่งอย่างสวยงาม สะท้อนเรือนร่างที่สวมใส่อยู่ เครื่องประดับ พาหุรัด กำไลข้อมือ กำไลข้อเท้า กรองคอ และ มงกุฎ เป็นส่วนสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์” ภัณฑารักษ์จาก The MET เผยถึงความงามของ Golden Boy

เขาบอกอีกว่า ประติมากรรม Golden Boy และประติมากรรมสตรี หล่อด้วยกระบวนการสูญขี้ผึ้ง (Lost Wax) โดยมีแกนเหล็กที่ยื่นออกมาจากส่วนมงกุฎถึงเท้า การตกแต่งในขั้นตอนสุดท้ายบนพื้นผิวสำริด ทำได้อย่างประณีตและละเอียด

เมื่อตรวจสอบพระพักตร์ของทั้งพระศิวะและสตรีนั่งชันเข่าโดยละเอียด พบว่า ทั้ง 2 องค์มีการตกแต่งด้วยการฝังแก้ว หินผลึก และโลหะที่แตกต่างกัน คือทองคำและเงิน พระเนตรของพระศิวะล้อมด้วยเงิน และพระเนตรดำอาจเคยมีหินคริสตัลฝังอยู่ หนวดและเคราก็มีร่องรอยการประดับตกแต่งด้วยการฝังวัตถุเช่นเดียวกัน

@@@@@@@

อย่างไรก็ดี แม้ The MET จะตีความว่าเป็น “ประติมากรรมพระศิวะ” แต่กรมศิลปากรก็ระบุว่า ท่าทางของพระหัตถ์ทั้งสองมีความแตกต่างจากประติมากรรมโดยทั่วไป ที่มักจะถือสัญลักษณ์ของพระศิวะ และไม่ปรากฏพระเนตรที่สามบนพระนลาฏ

แล้วบอกอีกว่า Golden Boy จึงอาจหมายถึงรูปบุคคลในสถานะเทพ หรืออาจมีความเป็นไปได้ว่า ถูกสร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์ 2 อย่าง คือ เป็นรูปเคารพเพื่อบูชาในศาสนสถานประจำราชวงศ์ หรือเป็นรูปเคารพของบูรพกษัตริย์

อ่านเพิ่มเติม :-

    • ใครคือ “Golden Boy” ? รู้จักพระเจ้าชัยวรมันที่ 6 ต้นวงศ์มหิธรปุระแห่งพิมาย
    • รู้ได้อย่างไร “Golden Boy” เป็นของไทย ไม่ใช่เขมร?
    • น่าสงสัย!? ประติมากรรม “Golden Boy” เก่าแก่กว่ายุคพระเจ้าชัยวรมันที่ 6





ขอขอบคุณ :-
ผู้เขียน : กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม
เผยแพร่ : วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2567
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 22 พฤษภาคม 2567
URL : https://www.silpa-mag.com/history/article_132885

 7 
 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2024, 07:39:12 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

 8 
 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2024, 03:42:32 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

 9 
 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2024, 11:18:16 am 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

 10 
 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2024, 09:55:29 am 
เริ่มโดย aventure1 - กระทู้ล่าสุด โดย aventure1
ดันกระทู้

หน้า: [1] 2 3 ... 10