ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 'หลวงปู่บุญหนา' วัดป่าโสตถิผล ละสังขาร คณาจารย์สายกรรมฐาน-หลานหลวงปู่ฝั้น  (อ่าน 1819 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0





'หลวงปู่บุญหนา' วัดป่าโสตถิผล ละสังขาร คณาจารย์สายกรรมฐาน-หลานหลวงปู่ฝั้น

พระคณาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐานละสังขารลงอีกองค์ "หลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน" วัดป่าโสตถิผล อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร มรณภาพด้วยโรคมะเร็งปอดหลังจากรักษาตัวอยู่ประมาณ4ปี สิริอายุ 84 ปี

ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของศิษย์ใกล้ชิดกล่าวว่า เมื่อวานนี้(5เม.ย.) หลังกลับจากกิจนิมนต์ท่านเกิดอาพาธน่าจะสืบเนื่องจากอาการของโรคมะเร็งปอดกำเริบ ลูกศิษย์จึงนำท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น โดยพักอยู่หนึ่งคืน เมื่อคณะแพทย์ตรวจอาการแล้วจำเป็นต้องมีการผ่าตัดโดยด่วน แต่เสมือนท่านล่วงรู้วาระสุดท้ายแห่งจิต จึงไม่ให้ผ่าตัด และบอกให้พาท่านกลับวัดป่าโสตถิผลในช่วงเช้าของวันที่ 6  เม.ย. ก่อนที่จะละสังขารลงในเวลาประมาณ 14.52 น. ณ กุฏิกลางน้ำ รวมอายุ 84 ปี 9 เดือน 1 วัน 64 พรรษา


 :25: :25: :25: :25:

หลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน" วัดป่าโสตถิผล อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เป็นศิษย์สายวิปัสสนากรรมฐานพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต รุ่นสุดท้าย ท่านเป็นหลานแท้ๆ ของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อีกทั้งเคยปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้ครูบาอาจารย์สายกรรมฐานมากมายหลายรูป อาทิ พระอาจารย์ชอบ ฐานสโม, พระอาจารย์ตื้อ อจลธัมโม, ท่านพ่อลี ธัมมธโร, หลวงปู่แหวน สุจิณโณ, พระอาจารย์สิม พุทธาจาโร และพระอาจารย์จาม มหาปุญโญ เป็นต้น จึงเชื่อมั่นได้ในวัตรปฏิบัติอันงดงาม และความแก่กล้าแห่งสมาธิจิต

กล่าวได้ว่าในบรรดาพระคณาจารย์ดังแห่งเมืองสกลนคร หลวงปู่บุญหนามีชื่อเสียงมาในลำดับต้นๆ เช่นเดียวกับสิ่งมงคลที่ท่านเมตตาให้สร้างและอธิษฐานทุกชนิดล้วนเป็นที่หมายปองของศิษยานุศิษย์ เพราะเชื่อว่ามีพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์ที่ก่อเกิดจากการบำเพ็ญทานบารมีของท่าน

 st12 st12 st12 st12

เรื่องราวของหลวงปู่บุญหนามีบันทึกไว้ว่าเมื่ออายุ ๑๒ ปี ได้เข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดแจ้งบ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่านเองและได้ญัตติฝ่ายมหานิกาย ท่านได้ปฏิบัติอุปัฎฐากรับใช้ครูบาอาจารย์นานถึง ๑๒ ปี ตั้งแต่ครั้งสมัยเป็นสามเณร อาทิ หลวงปู่ฝั่น อาจาโร ซึ่งเป็นหลวงอาได้นำท่านมาอยู่ด้วย โดยเฉพาะกับพระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ศิษย์สายธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

นอกจากนี้แล้วท่านยังได้อุปัณฐากรับใช้ครูบาอาจารย์อื่นๆ อีกหลายรูป อาทิ พระอาจารย์ชอบ, พระอาจารย์ตื้อ, พระอาจารย์ลี, หลวงปู่แหวน, หลวงปู่สิม และพระอาจารย์จาม ภายหลังหลวงปู่บุญหนาได้มาจำพรรษาอยู่ ณ วัดป่าโสตถิผล บ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ตราบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน


 st11 st11 st11 st11

หลวงปู่บุญหนาเป็นพระสมถะสันโดษ ไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญตามแบบฉบับพระสายป่าที่มุ่งเน้นในความเรียบง่ายเป็นธรรมชาติ และสอนญาติโยมให้ความสำคัญในเรื่องของการปฏิบัติธรรมมากกว่าหลงใหลในวัตถุ โดยจะเน้นให้แง่คิดแก่ผู้เดินทางมากราบนมัสการเสมอว่า "ให้เป็นผู้มีสติ ระลึกรู้ในกาย สติระลึกรู้ในวาจาคำพูด สติระลึกรู้ในใจ เมื่อสติรู้ซักซ้อมอยู่ภายในกายวาจา และใจแล้ว ทำ พูด คิด ถูกและผิด ก็ระลึกรู้อยู่ ปรับปรุงอยู่อย่างนี้เสมอ" ซึ่งเป็นคำสอนของพระอาจารย์อ่อนที่ได้เล่าเรื่องของท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสิโล เทศน์แสดงธรรมสั้นๆ ในช่วงที่เคยเดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่มั้นครั้งนั้นว่า กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต กายบริสุทธิ์ วาจาบริสุทธิ์ ใจบริสุทธิ์

โดยปกติของพระคณาจารย์สายกรรมฐานจะไม่มุ่งเน้นการสร้างวัตถุมงคล แต่ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนต้องการที่พึ่งทางจิตใจ ส่งผลให้พระคณาจารย์หลายท่านเมตตาให้จัดสร้างสิ่งมงคลแก่ศิษย์ศรัทธาทั้งหลาย โดยนัยเพื่อให้เกิดขวัญกำลังใจ ที่สำคัญ เพื่อนำปัจจัยจากการร่วมทำบุญบูชาไปบูรณะพัฒนาวัด

 :96: :96: :96: :96: :96:

หลวงปู่บุญหนาท่านคือสุปฏิปันโนที่เปี่ยมด้วยเมตตาบารมี ที่ผ่านมาลูกศิษยพากันมาขอเมตตาให้ท่านช่วยอธิษฐานจิตมงคลวัตถุเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ที่เคารพศรัทธา ซึ่งหลวงปู่ก็ช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง และท่านก็ได้เมตตามอบให้ผู้ที่เดินทางไปกราบขอพรท่าน โดยมิได้คิดมูลค่าเงินทองแต่อย่างใด

พระเครื่องและวัตถุมงคลหลวงปู่บุญหนาทุกรุ่นล้วนเป็นที่นิยม วัตถุมงคลสิ่งแรกของหลวงปู่บุญหนา รุ่นแรก ออกเมื่อปี ๒๕๓๘ เป็นรูปถ่ายหลังมีแผ่นจาร จัดสร้างเพื่อแจกคนงานที่มาสร้างโบสถ์กลางน้ำเนื่องจากคนงานไม่ยอมรับเงินค่าจ้างแต่ขอเป็นวัตถุมงคลของหลวงตาแทน นายช่างสาธร ทัศนเอี่ยม จึงได้ขออนุญาตถ่ายรูปหลวงตาแล้วนำไปอัดมาแจก แต่หลวงตาได้ให้ตัดแผ่นเงิน/ทองแดง/ตะกั่ว(แต่ละรูปแผ่นจารด้านหลังจะไม่เหมือนกัน) ให้ท่าน..แล้วท่านก็จารให้..พร้อมทั้งท่านได้ลงมืออัดกรอบพลาสติกเองและทำตะกรุดร้อยเชือกด้วยตัวท่านเองทุกชิ้น


 ans1 ans1 ans1 ans1

ล็อกเกต หลวงตาบุญหนา จัดสร้างเพื่อแจกญาติโยมที่มาร่วมแรงร่วมใจกันสร้างโบสถ์กลางน้ำ เมื่อปี ๒๕๓๘ ออกก่อนเหรียญรุ่นแรกกริ่งฉลองพระประธานโบสถ์กลางน้ำ จัดสร้างเพื่อเป็นที่ระลึกในงานถวายพระประธานโบสถ์น้ำในปี ๒๕๓๘ โดยนายช่างสาธร ทัศนเอี่ยม (ผู้สร้างเหรียญรุ่นแรก บล็อกแรก)

เหรียญหลวงตาบุญหนา รุ่นแรก บล็อกแรกพิมพ์เต็มองค์ (สมาธิ) จัดสร้างถวายโดยนายช่างสาธร ทัศนเอี่ยม และคุณชูชาติ กิตติธรรม เพื่อแจกในงานฉลองโบสถ์กลางน้ำของวัดป่าโสตถิผล เมื่อปี ๒๕๔๐



ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20160406/225449.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


    ใครที่อยากมีบุญหนา...ก็ขอเชิญไปกราบสักการะท่านได้ครับ

   ...สาธุ..ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

suchin_tum

  • ไม่กลับมาเกิด
  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 486
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

      ขออนุโมทนาในบุญนั้น ของท่านทั้งหลาย
บันทึกการเข้า
ขอน้อมอาราธนากำลังแห่งครูอาจารย์กรรมฐานมัชฌิมาจงมาประสิทธิ์ประศาสตร์

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ