แสดงกระทู้
|
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to. |
Messages - kittisak
|
หน้า: 1 ... 12 13 [14] 15
|
523
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / นมัสการ พระพุทธบาท ที่แม่ริม
|
เมื่อ: เมษายน 21, 2010, 06:02:19 am
|
ได้ไปกราบมาแล้วครับ แม้ทางขึ้นเขาจะค่อนข้างเลี้ยวลด แต่สองฟากข้างที่เดินทางขึ้นไปนั้นก็สวยงามครับ ไปถึงทีี่นี่แล้ว ผมรู้สึกได้ถึงแรงศรัทธาของผู้คนที่ขึ้นมาจริง ครับ นำรูปมาฝากให้ชมครับ
|
|
|
524
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / วิปัสสนึก วัปัสสนา และ วิปัสสหนา ช่วยกันวิจารณ์หน่อยครับ
|
เมื่อ: เมษายน 21, 2010, 05:47:36 am
|
กล่าวถึง หลักการปฏิบัติ ภาวนาในพระพุทธศาสนาแล้ว ผมว่าคงไม่พ้นคำว่า วิปัสสนา ไปได้ ดังนั้นความเข้าใจคนส่วนใหญ่ จึงนึกว่า คิดว่า การภาวนาในพระพุทธศาสนานั้น มีอยู่แต่เพียงการคิด
กล่าวถึง คำว่า เห็นตามความเป็นจริง กับ คำว่า คิดตามความเป็นจริง อันนี้เป็นวิปัสสนาหรือไม่ ?
ยกตัวอย่าง เมื่อเราเห็นว่าทุกคน เกิดมาแล้วต้องแ่ก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย ผมว่า้เห็นตามความเป็นจริง ก็เห็นแล้วเข้าใจแล้ว แต่ผมก็ยังไม่รู้สึกว่า ผมจะสิ้นกิเลสได้จริง ถึงแม้ผมจะรู้ว่า ต้องแก่ ผมก็แก่จริง ๆ เมื่อความแก่เกิดขึ้น จึงไม่ทุกข์ ไม่เดือดร้อนกับความแก่ แต่ก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมคลายจากสังโยชน์ทั้ง 10 ได้จริง ถึงแม้ผมจะรู้วา ต้องเจ็บ ผมก็เจ็บจริง ๆ เมื่อความเจ็บเกิดขึ้น เช่นปวดท้อง ก็รู้ว่ามันปวดท้อง มันเป็นไปตามโรค สมุฏฐาน และ ธาตุ ต่าง ๆ เป็นไปตามวัฏจักรแห่งชีวิตของมนุษย์ รู้แล้วใจก็ว่าง แต่ความเจ็บก็ไม่ได้หาย ที่หายเพียงแต่หายทุรน ทุราย ทางจิต ถึงแม้ผมรู้อย่างนี้ ผมก็ยังรู้สึกได้ว่า ไม่ได้สิ้นกิเลส หรือทำผมพ้นไปจากวัฏฏสงสารลงได้
การที่ผมรู้อย่างนี้ สำหรับผมนั้น เหมือนคำว่า ปลอบใจ ตนเองเท่านั้นเอง ไม่ใช่ รู้เห็นตามความเป็นจริง
การดำเนินจิตอย่างนี้ สำหรับผม รู้ตลอดเวลา ว่าเป็น เพียง วิปัสสนึก เท่านั้น
ดังนั้นถึงแม้ผมอ่าน มหาสติปัฏฐาน 4 จนจบไปหลายรอบ ก็ไม่ทำให้ผมสิ้นกิเลสลงแต่อย่างใด
ผมอุตส่าห์ ฝ่่าฟันไปเรียน พระอภิธรรม ที่คิดว่าเป็นธรรม อันเลิศแล้ว แต่สุดท้ายก็เพียงแต่เกิดความเข้าใจเหมือนสูตร แกง สูตรเลข ที่ต้องเป็นไปตามนี้ แม้จะศึกษาเรื่อง อริยสัจจะ 4 ตามที่พระคุณเจ้าแต่ละรูปพรำ่สอนและแนะนำผม อยู่ แต่ผมก็รู้ตัวว่า มันมีแต่ความเข้าใจ ว่ากำหนด รู้ รูป และ นาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมสิ้นกิเลส
จนกระทั่ง วันหนึ่งผมได้มาศึกษาหลักพระกรรมฐานภาคปฏิบัติ ซึ่งไม่มีการเรียนแบบนักเรียน มีแต่ถูกไล่ให้ภาวนาแต่ประการเดียว
เพียง 7 วันการภาวนา พระกรรมฐานจึงทำให้ผมรู้ว่า ความรู้ทางธรรมที่ผมอุตส่าห์ไปร่ำเรียนมานั้น สู้การภาวนาจริงไม่ได้เลย
ผมขอเล่าไปตามลำดับ นะครับ
วันที่ 1 กับการรักษา ศีล และ สมาทานพระกรรมฐาน ซึี่่งมีรูปแบบเป็นพิธีกรรมแต่ผมก็ปฏิบัติตาม นั่งกรรมฐาน สลับ เดินจงกรม ตั้งแต่เช้ายันเย็น ผมทำครั้งแรกก็นึกอยู่ในใจว่า ทำแบบนี้ก็เคยทำมาแล้ว จะไปได้อะไรเพิ่ม แต่ผลที่ได้ ๆ ครูจริง ๆ มาสอนทำให้ผมรู้ว่า การเดินจงกรมผมนั้นไม่ได้เรื่องเลย แบบ รูปนาม ที่กำหนด แบบระยะ ซ้ายย่าง ขวาย่าง การเดินจงกรมของผม แค่ครูผมสอนให้หลับตาเดินก็ไม่เป็นเลยครับ คราวนี้ได้เดินจงกรมแบบ สมาธิ เดินกำหนดธาตุ เท่านั้น เดินจงกรม 30 นาที ครูผมก็ให้ผมนั่งกรรมฐานต่อ ครับ ซึ่งทำอยู่หลายรอบจนกระทั่งใกล้เย็น ผมจึงเริ่มได้รู้สึกการเห็นองค์ธรรม องค์แรกแห่งสมาธิ นั้น ก็คือ ปีติ พอเกิดครับ เป็นระลอกคลื่นเลยครับ ( มีอาการแห่งปีติ มากกว่านี้ ) คืนที่ 1 ผมอยากได้ปีติอย่างนี้ ทั้งคืน นอนหลับเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ผมนอนหลับได้ดีมากครับ
วันที่ 2 การฝึก ก็ยังคงเป็นแบบเก่าอยู่แต่ รอบนี้ไม่ต้องมีครู มาคุมแล้ว สามารถฝึกได้เอง การเดินรู้สึกได้เลยครับว่าเบามาก และเริ่มเดินได้คล่องยังเดินเร็วอยู่ครับ พอกลับมานั่งกรรมฐานต่อรู้สึกดีมากขึ้นขยายเวลาการนั่งได้จาก 30 นาทีเป็น 45 นาที
วันที่ 3 การฝึก ก็ยังคงเป็นแบบเดิมอยู่ แต่วันนี้ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเิดินจังหวะช้ามากขึั้น วันนี้ลองกำหนดหลับตาเดิน มีความรู้สึกภายในว่า ไม่โคลงไม่โยก และไม่ส่าย ซึ่งต่างวันแรก และ วันที่สอง พอกลับมาันั่งกรรมฐานแล้ว ขยายเวลาเพิ่มขึ้นเป็น 50 นาที และ 1 ชั่วโมงเศษ
วันที่ 4 เดินจงกรมนานขึ้นไปกลับรอบหนึ่งเกือบชั่วโมง นั่งกรรมฐานได้ถึง 1 ชั่วโมง ถึง 2 ชั่วโมง
วันที่ 5 เดินจงกรมนานขึ้นมาก ๆ พร้อมกับเห็นจังหวะในโลกช้าไปหมด มีการเห็นที่ครูผมเรียกว่า นิมิต ด้วย นั่งกรรมฐานวันนี้ได้เรียนกรรมฐานเพิ่มขึ้น แสงสว่าง เฉพาะหน้าเริ่มเกิดขึ้นเหมือนแสง หิ่งห้อย ที่สว่าง ๆ ดับ ๆ และเริ้มชัดเจนขั้นเฉพาะหน้า เหมือนดวงเทียน วันนี้ครูสอนเรื่อง นิมิต และการดำเนินจิตในสมาธิ
วันที่ 6 ไม่มีครูก็ทำเอง ซึ่งทำได้ดี วันนี้ครูผม สอนให้ผมว่า คำภาวนาที่ ธรรมดา ๆ หลังนั่งสมาธิ ผมก็ว่าไปโดยครูผมกำชับว่า ไม่ต้องไปตามคิด ตามนึก ให้ว่าไปด้วยจิตที่เป็นสมาธิ ผมเองก็ว่าไปตามซื่อ
วันที่ 7 คำภาวนา แทรกถึงใจ ผมว่าไปตามซื่อแต่น้ำตาไหล พราก ๆ เลยครับ ไม่ได้นึกคิดตามแต่ ใจมันเห็น อย่างไร บอกท่านไม่ถูก รู้แต่ว่าต่างจากการที่ผมกำหนดรู้ และ เข้าใจที่เีขียนไว้ในตอนต้นมาก ๆ
วันนี้ ผมเลยมานั่งทบทวนกับคำว่า วิปัสสนึก วิปัสสนา และ วิปัสสหนา
ต้องขอบคุณ ครู ผมด้วยจริง ๆ
|
|
|
525
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / โหราศาสตร์ กับ พุทธศาสน์ ไปด้วยกันได้หรือไม่ ?
|
เมื่อ: เมษายน 21, 2010, 05:17:08 am
|
วันนี้วันพระ ครับได้มาสวดมนต์ที่วัด บวร ฯ แล้วก็งัดโน๊ตบุ๊คออกมานั่งตามข่าวในเว็บ สักหน่อยหายไปนานครับ ในช่วงวันสงกรานต์
เริ่มหัวข้อ เรื่องไว้ว่า โหราศาสตร์ กับ พุทธศาสน์ ไปด้วยกันได้หรือไม่ ?
ที่จริงว่าไปตามแต่อดีต ก็จะเห็นพวก พราหมณ์ นั้นมาบวชในครั้ง พุทธกาล เป็นจำนวนมาก และก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์จำนวนมากด้วยเช่นกัน ดังนั้นผมว่าคติ และ ความประพฤติ ของพราหมณ์ ก็ยังไม่หมดไปในหมู่สงฆ์แม้จะเป็นพระอรหันต์ ดังนั้นจึงเห็นว่า พุทธศาสนา ( เอาในประเทศไทย ) จะเห็นว่า พิธีของพราหมณ์ จึงถูกสอดแทรกกันไว้อย่างเหนียวแน่น
กับมาเรื่อง โหราศาสตร์ ถ้าบอกว่าไม่เป็นจริง ก็ยังมีพุทธประวัติ หลายตอน เกี่ยวกับการทำนาย เช่น
1. ตอนเจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติ ก็มีการ ชุมนุม พราหมณ์ 108 คน มาทำนาย ( ดูดวง )ให้กับเจ้าชายสิทธัตถะ ในจำนวนนั้น มีพราหมณ์ชื่อว่า อัญญาโกณฑัญญะ ( พระอรหันต์ รูปแรก ) เชื่อมั่นในคำทำนายถึงกับออกบวช รอเจ้าชายสิทธัตถะเลย พร้อมสหาย
2. พราหมณ์ผู้เคาะกระโหลก แล้วทำนายบอกสถานที่ไปเกิด ( คติ )ของผู้ตายได้ ชื่ออะไรจำไม่ได้
3. พระพุทธเจ้า พระองค์เองก็ยังทำนายเรื่องต่าง ๆ เช่น พระสุบินของพระเจ้าปัสเสนทิโกศล หรือ พุทธพยากรณ์ เหตุการณ์ ต่าง ๆ จะด้วยญาณ หรือ ด้วยการศึกษา แต่ก็ชี้ชัดว่า
โหราศาสตร์ กับ พุทธศาสน์ เหมือนวิ่งคู่ไปด้วยกัน
พูดถึงความพร้อม แม้องค์พระมหากษัตริย์ เองก็ยังต้องใช้อยู่ เช่น พิธีแรกนาขวัญ ของเมืองไทยเรา นี่ก็เป็นพิธีเกี่ยวกับเรื่อง ฤกษ์มงคล ต่าง ๆ
โหราศาสตร์ เป็นเรื่องที่ ทำให้เกิดกำลังใจ แรงบันดาลใจ เพื่อที่จะใช้ชีวิต ในโลกเยี่ยงปุถุชน พุทธศาสน์ เป็นเรื่องที่ ทำให้เกิดปัญญา ในการสละ ละออก จากสังสารวัฏฏ์ ของปุถุชน
|
|
|
528
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / จักรแก้ว รัตนะแก้ว คู่พระบารมีพระพุทธองค์
|
เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 06:11:00 pm
|
หัวข้อนี้ ที่จริงผมก็ไม่ค่อยรู้ ครับแ่ต่คิดว่าคุณปุ้ม น่าจะมีข้อมูล
ผมเคยได้ยิน หรือ อ่านมาถึง รัตนะ 7ประการ ประมาณนี้
ไม่ทราบว่า รัตนะ 7 ประการมีอะไรบ้างครับ
ผมลองไล่ดู ก็ได้ไม่ครบ
1. นางแก้ว
2. ม้าแก้ว
3. จักรแก้ว ( ไม่รู้คืออะไร )
4......? 5......? 6......? 7......?
วานผู้รู้ทุกท่าน ช่วยประดับความรู้ให้ด้วยครับ
|
|
|
531
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / รายชื่อ ภาพยนต์ ละคร ธรรมะ ส่งเสริมคุณธรรม
|
เมื่อ: เมษายน 06, 2010, 09:07:36 pm
|
ผมโดนตั้งคำถาม จากหลานชาย ผมที่หยุดภาคฤดูร้อน เหตุเกิดตรงที่ผมไปบ่นว่า "ในช่วงปิดเทอม อย่ามัวแต่ดูการ์ตูนทั่วไป ให้ดูภาพยนต์ หรือ หนังเกี่ยวกับธรรมะบ้าง" หลานชาย ผมก็สวนกับมาว่า "แล้วลุงจะให้ผมดู ภาพยนต์ธรรมะเรื่องอะไรบ้างครับ ผมไม่รู้จักสักเรื่อง" วินาทีนั้น ผมก็พยายามนึกถึง ภาพยนต์เกี่ยวกับการส่งเสริม ธรรมะในทางพระพุทธศาสนาโดยตรง ชื่อหนัง และ ละคร ต่าง ๆ เริ่มพรั่งพรูเข้ามา ได้อย่างยากเย็น จริง ๆ ครับ ( อาจจะเป็นเพราะว่าผมไม่ค่อยดูหนัง ละคร ข่าว ครับ ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตกับการภาวนา และตำราธรรมะมากกว่าครับ ) ตอนนั้นนึกได้ก็มีเรื่อง 1.อรหันต์ซัมเมอร์ 2.องคุลีมาล 3.การตูนพุทธประวัติ 4.การ์ตูนเรืองพระนาคเสน 5.การ์ตูนบารมี 10 6.สมเด็จพุฒาจารย์ ( โต ) จากนี้ไปก็มึน ๆ ครับ อยากให้เพื่อน สมาชิก ช่วยกัน ลิสต์ รายการภาพยนต์ ละคร ธรรมะให้ผมหน่อยครับ
|
|
|
534
|
เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: วันธงไชย ในปี 2553
|
เมื่อ: เมษายน 06, 2010, 08:50:15 pm
|
กึ่ง ๆ ครับ พอดีผมได้ไปเรียนที่ชมรม โหราศาสตร์ แห่งประเทศไทยครับ รู้สึกว่าพระอาจารย์ ก็ไปเรียนมาด้วยสมัยเป็นฆราวาส ครับ ท่านเลยบอกให้ผมมาลงตรงพื้นที่นี้ครับ เพราะท่านเกรงว่า จะทำให้สมาชิกเข้าใจว่าท่านเป็น โหรครับ ส่วนเรื่องยามอุบากอง นั้นไว้ใช้ในการเดินทาง หรือ ทำศึก เรียกโดยตรง ยามพม่าแหกคุก ซึ่งตกทอดกันมาหลายยุค สำหรับโหรแล้ว จะใช้ จับยามสามตา เป็นหลักครับ หรือ ตัวเลข
สำหรับในนี้ คงต้องขออนุญาต พระอาจารย์ก่อนครับ
|
|
|
536
|
เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / Re: การเวียนว่ายตายเกิด
|
เมื่อ: เมษายน 06, 2010, 08:38:53 pm
|
ในหลักการ พระพุทธศาสนา นั้นที่ผมเรียนมาในสายพระอภิธรรมนั้น
คือ วัฏฏะ 3 ทั้งฝ่าย รูปวัตถุ ฝ่ายเจตนา ฝ่ายนามรูป ฝ่ายธาตุ ฝ่ายธรรม
โดยมีหลักการเดียวกันทั้งหมดที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้
1. กิเลส 2.กรรม 3.วิบาก
อธิบาย ได้ทั้งสมมุติ และปรมัตถ์ ทั้งสภาวะ และ ทั้งมิใช่สภาวะ
|
|
|
539
|
เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: วันธงไชย ในปี 2553
|
เมื่อ: เมษายน 06, 2010, 08:15:06 pm
|
สำหรับเดือน พฤษภาคม 2553 วันธงไชย 9 พ.ค. 2553 เหมาะกับการ บวงสรวง รับคนเข้าบ้าน ซ่อมแซม ทำสัญญา ขอบุตร รับตำแหน่ง แต่งงาน ส่งขันหมาก /ไม่เหมาะกับการ ยกเลิกสัญญา ตัดชุด ขึ้นบ้านใหม่ เบิกเนตร เดินทาง ขอโชคลาภ ตั้งเสาเอก
17 พ.ค. 2553 เบิกเนตร เข้าโรงเรียน ซ่อมแซมบ้าน ขอพร เดินทางไกล เปิดร้าน ขึ้นบ้านใหม่ / ไม่เหมาะกับการ โกนจุก ขุดบ่อ แต่งงาน รับคนเข้าบ้าน ตัดต้นไม้ รับตำแหน่ง
20 พ.ค. 2553 โกนจุก ส่งขันหมาก ขึ้นบ้านใหม่ ขอพร เปิดร้าน รับแขก แต่งงาน โยกย้าย บนบาน / ไม่เหมาะกับการ ขอพร แต่งงาน เปิดกิจการ ขี้นบ้านใหม่
21 พ.ค. 2553 ] บวงสรวง ทำสัญญา ฝังศพ / ไม่เหมาะกับการ ขอพร แต่งงาน เปิดกิจการ ขึ้นบ้านใหม่
24 พ.ค. 2553 บวงสรวง เซ่นไหว้ ขอพร ซ่อมและสร้าง (สิ่งประดิษฐ์ ) แต่งงาน / ไม่เหมาะกับการ เปิดโกดัง ซ่อมแซมบ้าน ตั้งเสาเอก ขึ้นบ้านใหม่ ฝังศพ เดินทางไก 26 พ.ค. 2553 เดินทาง เปิดกิจการ แต่งงาน ฝังศพ / ไม่เหมาะกับการ ให้เงินกู้ ทำสัญญา ขึ้นบ้านใหม่
29 พ.ค. 2553 บวงสรวง เซ่นไหว้ เข้าโรงเรียน โยกย้าย รับตำแหน่ง นำสัตว์มาเลี้ยง สร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ / ไม่เหมาะกับการ ยกเลิกสัญญา ขุดบ่อ แต่งงาน รับคนเข้าบ้าน ซ่อมและสร้าง และขุดดิน
เลขนำโชค 1 พฤษภาคม 2553========5 9 7, 6 6 0 ,4 6,2 6 16 พฤษภาคม 2553======= 5 3 6 2 7 ,8 8 9 9
วันสำคัญ
1 พ.ค. วันแรงงานแห่งชาติ 5 พ.ค. วันฉัตรมงคล 13 พ.ค. วันพืชมงคล 28 พ.ค. วันวิสาขบูชา ( อย่าลืมไปเวียนเทียนกันด้วยนะครับ )
วันธรรมมัสสวนะ 6 พ.ค. ,13 พ.ค. ,21 พ.ค. ,28 พ.ค.
|
|
|
543
|
เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: วันธงไชย ในปี 2553
|
เมื่อ: มีนาคม 26, 2010, 12:43:59 pm
|
สำหรับเดือน เมษายน 2553 วันธงไชย 1 เม.ย. 2553 เหมาะกับการขอพร รับคนเข้าบ้าน ทำสัญญา เปิดกิจการ สร้างเตา แต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ฝังศพ รับตำแหน่ง ส่งขันหมาก / ไม่เหมาะกับการ ตั้งเสาเอก ขุดดิน เบิกเนตร ออกเรือ 4 เม.ย. 2553 เหมาะำกับการ บวงสรวง แต่งงาน ย้ายบ้าน ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ / ไม่เหมาะกับ เปิดโกดัง ขึ้นบ้านใหม่ 16 เม.ย. 2553 เหมาะำกับการ บวงสรวง แต่งงาน ย้ายบ้าน ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ / ไม่เหมาะกับ เปิดโกดัง ขึ้นบ้านใหม่ รับตำแหน่ง 17 เม.ย. 2553 เหมาะำกับการ บวงสรวง แต่งงาน ย้ายบ้าน ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ / ไม่เหมาะกับ เปิดโกดัง ขึ้นบ้านใหม่ รับตำแหน่ง โกนจุก รับแขก 29 เม.ย. 2553 เหมาะำกับการ บวงสรวง แต่งงาน ย้ายบ้าน ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ / ไม่เหมาะกับ ยกเลิกสัญญา รับแขก ขุดดิน ติดตั้งประตู รับตำแหน่ง เลขนำโชค 1 เมษายน 2553=====6 4 9 , 9 7 6 , 0 5 , 6 3 16 เมษายน 2553=====9 3 9 , 6 9 5 , 2 2 , 5 5 1 พฤษภาค 2553========5 9 7, 6 6 0 ,4 6,2 6
วันสำคัญในเดือน 5 เม.ย. เทศกาลเช้งเม้ง 6 เม.ย. วันมหาจักรี 13 , 14 , 15 เม.ย. วันสงกรานต์ วันธรรมมัสสะวะนะ 7 เม.ย. แรม 8 ค่ำ เดือน 5 13 เม.ย. แรม 14 ค่ำ เดือน 5 21 เม.ย. ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 28 เม.ย. ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6
|
|
|
544
|
ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / รักษาอาการ ด้วยวิธีนี้ ?
|
เมื่อ: มีนาคม 24, 2010, 05:15:47 am
|
ผมได้สนทนา กับพระอาจารย์ เมื่อ วันก่อน ด้วยโทรศัพท์ ====================================== ผมมีโรคประจำตัว อยู่อย่างคืออาการปวดท้องเนื่องจาก เป็นนิ่วในถุงน้ำดี เวลาทานอาหาร ถ้ามัน ๆ มากแล้ว จะปวดท้องเป็นอย่างมาก หรือบางครั้งอาหารก็ไม่ค่อยย่อย ก็ปวดอย่างนี้เป็นประจำ ไปหาหมอมา ทำอัลตราซาวด์ ก็ได้ผลอย่างที่บอกไว้ ให้ยาลดกรด มาบ้าง ยาแก้ปวดท้องมาบ้าง ผมก็อาศัยยาสมุนไพรบ้าง ยาธาตุ บ้าง อาการปวด ก็ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง หลังจากสนทนากับพระอาจารย์ ท่านสอนการกำหนดจิต ที่ฐานที่ 2 คือพระขณิกาปีติ ให้กำหนดเวลาปวดท้อง ซึ่งการกำหนดภาวนาก็ไม่ต่างอะไรกับ ฐานจิตที่ 1 ผมทดสอบทำตอนที่ปวดท้อง แล้วปรากฏว่า ดีขึ้นมาก วันนี้ปฏิบัติมาเป็นเวลา 3 วัน ไม่ต้องกินยาก็ไม่เป็นไร เหมือนที่ผ่านมาต้องกินยา หลักปฏิบัติ ที่ท่านสอนก็ง่าย ๆ ครับ 1.บอกใจลงไปว่า กายนี้ สักว่ากาย ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตนของเรา 2.ในขณะที่ปวด ก็ให้กำหนด พุทโธ พร้อมตั้งฐานจิต เหนือสะดือ 2 นิ้ว ภาวนาไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องผูกกับลมหายใจเข้า และออก ให้มีแต่พุทโธ เท่านั้น 3.ในขณะที่ปวดอยู่นั้น ต้องรักษาใจอย่ายอมแพ้ โดยย้ำใจให้อยู่ในข้อที่ 1 ให้ได้
|
|
|
546
|
ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ทางเตียน วกลงไปนรก ทางรก วกขึ้นไปสวรรค์
|
เมื่อ: มีนาคม 24, 2010, 05:00:40 am
|
เริ่ม สนทนากันด้วย คำที่ผมได้ยินมาจากพระที่วัดบวรนิเวศ ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่า อ้อแท้จริงอย่างนี้เอง ทางเตียน คือทางที่เขาปรับดีแล้ว เราเดินกันสบาย ๆ แต่การเดินสบาย ๆ นั้นกับมองว่า ไปเมื่อไรก็ได้ จึงเหมือนคนนิ่งแช่ รอความหวังในชีวิต รอวาสนา รอพึ่งพา คนนั้นคนนี้ โทษนั้น โทษนี้ ขาดไปเสียซึ่งความเพียร สุดท้ายบั้นปลายชีวิต มาถึง ก็ไม่ทันทำอะไร ? เป็นเหยื่อแก่ ปลา เต่า ส่วนทางรก นั้น คือทางที่เขาไม่ได้ปรับ ต้องถาก ต้องถาง ต้องปรับ ต้องแต่ง ต้องอาศัยความสามารถ ต้องอาศัยความขยัน มีความเพียรติดต่อ จึงจะเอาดี ได้ ดังนั้นถ้ามาพิจารณา ตามคำที่ผมยกไว้ แล้ว ก็เหมือน ผมได้รับคำเตือน จากพระที่วัด ว่า ทางเตียน แล้วก็ประมาท ไม่ทำความเพียร ไม่เห็นคุณค่า ในสิ่งที่มี ทางรก ก็ทำเป็นขยัน ขันแข็ง ทั้งที่ทางดีก็มี ของดีมีคุณค่า ก็ต้องให้ความสำคัญ ในยุคนี้ ผมว่าการเรียนพระพุทธศาสนา ค่อนข้างจะดีมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสื่อ ของวัตถุ ตำราหนังสือ ผมว่าสมบูรณ์ แต่อัตตรา ของพระอริยะบุคคล กับระบุได้ยาก กว่าครั้งกรุงศรีอยุธยา อีก ---------------------------------------------------------------- เก็บตกมาตอนย่ำรุ่งนี้ ที่วัดบวรนิเวศ ครับ
|
|
|
547
|
ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ฝึกสมาธิ จะช่วยอำนวยชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร ?
|
เมื่อ: มีนาคม 24, 2010, 04:49:31 am
|
คงมีเพื่อนสมาชิก หลายคน คงสงสัยว่า การฝึกสมาธิ จะช่วยชีวิตประจำวัน ของเราให้ดีขึ้นอย่างไร ? บางท่านก็อยากฝึก ก็มักจะตอบว่า ไม่มีเวลาที่ฝึก ไม่ว่างบ้าง ไม่มีช่วงภาวนา แท้ที่จริงการภาวนาจริง ๆ นั้น ไม่สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน เลยใช่ไหมครับ ถ้าการภาวนา ไม่สามารถ เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันได้ อย่างนั้นจะชื่อว่า อกาลิโก ( ภาวนาได้โดยไม่จำกัดกาลเวลา ) ได้อย่างไร ? ดังนั้น ผมอยากให้เพื่อนสมาชิก จำแนก การภาวนาให้ได้สักหน่อยตามลำดับ ดังนี้ 1. การภาวนาเบื้องต้น ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นทำอย่างไร 2. การภาวนาในท่ามกลาง ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นทำอย่างไร 3. การภาวนาในที่สุด ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นทำอย่างไร
|
|
|
549
|
ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / อัตตา คืออะไร ? และ อนัตตา คืออะไร ?
|
เมื่อ: มีนาคม 24, 2010, 04:40:48 am
|
ช่วงนี้ เหมือนผมอยากให้ทุกคน เห็นหลักธรรมพื้นฐานก่อนนะครับ เพราะเกรงว่า ผู้ภาวนา เมื่อ ภาวนา ด้วยความไม่รู้ ก็ จะไม่เห็นตามความเป็นจริงได้ ดังนั้น เพื่อปู พื้นฐาน ให้ มีความเห็นถูกต้อง ขอให้เพื่อนสมาชิก ช่วยกันพิจารณาหลักธรรมพื้นฐาน เบื้องต้นก่อน คือ เรื่อง อัตตา ที่ว่าตัว ว่าตน นั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร ? ตั้งขึ้นได้อย่างไร ? และ จะดับไปได้อย่างไร ? ==========================================================
|
|
|
551
|
ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / มิจฉาสมาธิ และ สัมมาสมาธิ ต่างกันอย่างไร ?
|
เมื่อ: มีนาคม 24, 2010, 04:33:07 am
|
พูดถึง สมาธิ แล้ว คงต้องทำความเข้าใจ กับสมาธิ คือเข้าใจ กับ มิจฉาสมาธิ ว่าสมาธิที่ผิดเป็นอย่างไร ? สัมมาสมาธิ ว่าสมาธิ ที่ถูกเป็นอย่างไร ? อย่างไร ชื่อว่า เห็นตามความเป็นจริง ? ================================== สำหรับผม เข้าใจง่าย ๆ ว่า มิจฉาสมาธิ คือ ความตั้งใจมั่นที่ไม่เป็นเพื่อการละกิเลส ส่วน สัมมาสมาธิ คือ ความตั้งใจมั่นที่เป็นไปเพื่อละกิเลส ดังนั้น ความเข้าใจผม การภาวนาสมาธินั้น ไม่เพียงต้องมีรูปแบบ มากมาย เพียงเมื่อใจตั้งมั่น เพื่อการละจากกิเลส ก็เห็นตามความเป็นจริงว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน เท่านี้เพียงพอหรือไม่ ในการภาวนา หรือจำเป็น ต้องภาวนาให้ถึงระดับ อัปปนาสมาธิ ที่ทรงจิตลึกที่ตามเห็นได้ยากขึ้น ------------------------------------------------------- ิจิต เป็นเพียงธาตุ รู้ รู้ เห็น ตามความเป็นจริง ว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ดังนี้่เป็นต้น ---------------------------------------------------------------------------
|
|
|
554
|
ธรรมะสาระ / กระดานข่าวทางวัดแก่งขนุน / Re: โปรดแสดงความเห็นกับการฝึกอบรมครั้งต่อไป
|
เมื่อ: มีนาคม 04, 2010, 02:00:36 am
|
อนุโมทนา ด้วยครับ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย นั้นต้องมีแน่นอนครับ
พวกผมเองก็จัด ภาวนาเช่นนี้ ก็ต้องหาทุนก่อน ลงขันทำบุญกันเองบ้างครับ ผมว่าถ้าเป็นไปได้ ที่วัดแก่งขนุน นั้นก็มีการปฏิบัติ ทุกวันอยู่แล้ว ก็นัดกันเป็นบางครั้งก็ได้ครับ คือสักสองเดือน นัดมาปฏิบัติภาวนาพร้อม ๆ กัน จะได้รู้จักกันบ้าง
เผื่อจะได้มีอะไร มาช่วยเหลือกันได้ครับ
|
|
|
557
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ทำไมพระสงฆ์ในปัจจุบันไม่รู้จัก
|
เมื่อ: มีนาคม 04, 2010, 01:53:53 am
|
ผมลองวิเคราะห์ดูเหมือนกัน กับกลุ่มเพื่อน ๆ พอจะสรุปได้คร่าว ๆก่อน แต่ไม่รู้จะตรงใจเพื่อน ๆ กันหรือไม่
1.ในยุคนี้ เป็นยุคที่คนมุ่งการปฏิบัติไปตามความเข้าใจเป็นหลัก เพราะเป็นช่วงวัตถุนิยม ประกอบด้วยเครื่องล่อใจมากมาย ทำให้พื้นฐานคนปัจจุบัน มุ่งที่ความเข้าใจเป็นหลัก 2.การภาวนา ต้องมีความสงบ ในยุคนี้นั้น สื่อ ต่าง ๆ ไม่ได้ส่งเสริมเรื่องความสงบ 3.การทำงาน ประกอบอาชีพเป็นหลักนั้น ทำให้คนไม่มีเวลาภาวนา 4.ขั้นตอนกรรมฐาน มีการภาวนาที่ดูมากมาย ซึี่งคนทั่วไปยากที่จะจำหรือนำไปปฏิบัติ เช่น บอกให้ นำพุทโธ รวมที่จุด ฐานจิต นั้น คนทั่วไปเห็นว่ายาก แต่ถ้าผนวกกับลมหายใจ เห็นว่าทำมากกว่า 5.บางกลุ่ม มีการแอนตี้เรื่องสมาธิ เพียงกล่าวว่า ความสำคัญอยู่ที่ วิปัสสนา แค่ ขณิกะสมาธิ ก็เหลือเฟือ ในการวิปัสสนา 6.ผู้ปฏิบัติ ภาวนา มีจำนวนน้อยมาก 7.ผู้สืบกรรมฐาน ก็มีน้อยมากๆๆๆ
และอีกหลายสาเหตุ โดยรวมแล้ว เพื่อน ๆ ผมเห็นว่า ภาวนายาก กว่าการฝึกสติปัฏฐาน 4 หรือตามดูิจิต เป็นต้น
|
|
|
558
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ สอดคล้องกับพระไตรปิฏก หรือไม่
|
เมื่อ: มีนาคม 04, 2010, 01:46:18 am
|
จากหนังสือ การปฏิบัติพระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นซึ่งผมอ่านอยู่นั้นก็มีการอ้างอิง พระไตรปิฏก เป็นบางส่วน เช่นการอธิษฐาน โอภาส หรือ โทษการปรามาส
แต่ขั้นตอนการภาวนา ซึ่งมีการยก วิธีการภาวนเรียก ปีติ ว่าพระธรรมปีติ หรือ จัดธาตุ ลงพระปิีติ นั้นไม่มีข้อความพระไตรปิฏก รับรองว่า พระขุททกาปีติ นั้นเป็น ธาตุดิน พระขณิกาปีติ เป็น ธาตุไฟ เป็นต้น
การเดินจิต อนุโลม ปฏิโลม ก็ไม่ปรากฏ ข้อความเกี่ยวกับการเดิน พระธรรมปีติ เป็นอนุโลม หรือ ปฏิโลม ซึ่งคล้ายกับการเดิน ตจปัญจกะกรรมฐาน ซึ่งมีการสอนเดิน อนุโลม หรือ ปฏิโลม
ในการแบ่ง องค์แห่ง ปฐมฌาน นั้น มีข้อความปรากฏใน พระไตรปิฏก ทุกครั้งก็มีกล่าวเพียง 5 องค์ คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา
ไม่มีข้อความที่ กล่าวถึง ปีติ 5 ยุคล 6 สุขสมาธิ 2 เป็น อุปจาระสมาธิ
หรือผมอาจจะยังไม่เข้าใจ ก็พยายามถามหลวงพ่อ อยู่เหมือนกัน แต่ท่านไม่ค่อยตอบส่วนนี้ บอกแต่ให้ภาวนาไปเรื่อย ๆ
|
|
|
559
|
ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ทำไม ผู้ฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ จึงไม่ประสพความสำเร็จในการภาวนา
|
เมื่อ: มีนาคม 04, 2010, 01:37:40 am
|
ขั้นตอนการนั่งกรรมฐาน ๑. สมาทานศีล ๒. กล่าวคำขอขมาต่อพระรัตนตรัย ๓ .กล่าวคำอธิษฐานอาราธนากรรมฐาน ๔. การวางฐานจิต ๔.๑ การสัมปยุตธรรมลงศูนย์นาภี ๔.๒ การเลื่อนฐานจิตไปยังฐานจิตต่างๆ(ปัคคาหะนิมิต) ๕. การบริกรรม “พุทโธ” โดยใช้วิธีทีเรียกว่า “สมาธินิมิต”หรือ”บริกรรมนิมิต” หากมีนิวรณ์เข้าแทรก ให้แก้ไขโดยใช้วิธีที่เรียกว่า “อุเบกขานิมิต” ๖. การสัมปยุตธาตุ ตามองค์ธาตุของฐานจิตต่างๆ ๗. เมื่อใกล้จะออกจากกรรมฐาน ให้อธิษฐานขอดูกาย ๘. อธิษฐานขอออกจากกรรมฐาน ๙. สวดคาถาพญาไก่เถื่อน อธิษฐานขอพรตามปรารถนา ๑๐. แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทุกตัวตน ที่ผมปฏิบัติ กันอยู่ประจำ ก็มีเพียง ขอขมา และ อธิษฐาน กรรมฐานครับ ส่วนการสัมปยุตจิตลงศูนย์นาภี นั้นยังไม่รู้จักครับ นัยว่าขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนของ อนุโลม และ ปฏิโลม ถ้าจำไม่ผิด การสัมปยุตธาตุ ยิ่งไม่เข้าใจ มีแต่พิจารณาลักษณะใน ธาตุดิน 21 ธาตุ ( ก็ยังไม่เข้าใจเท่าไหร่ครับ ) ขอดูกายนั้น หลวงพ่อจิ๋ว ท่านให้อธิษฐาน อาโลกกสิณ ดูครับ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าดูกายอะไร ? คาถาพญาไก่เถื่อน ไม่เคยสวดหลังนั่งกรรมฐาน เลยครับ สวดแต่ตอนที่ต้องการสวด
|
|
|
560
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ผู้ฝึกปฏิบัติภาวนา ไม่ผ่าน ควรทำอย่างไร
|
เมื่อ: มีนาคม 04, 2010, 01:32:15 am
|
การภาวนาไม่ผ่าน ก็หมายความว่า ไม่สามารถรวมจิต เข้าถึงพระลักษณะ ได้โดยเฉพาะอย่างพวกผม เพื่อนผม นี่ยังคงอยู่แค่พระลักษณะ พระขุททกาปีติ องค์แห่งปีติไม่เข้าถึงพระลักษณะตามที่เขียนบอกไว้หนังสือ ส่วนสมาธิ นั้นเวลาภาวนา ก็ยังติดการภาวนากับลมหายใจ บ้าง กำหนดอยู่กับการพิจารณธรรม ตามนิสัยเก่า
สรุปแล้วที่ว่าไม่ได้ มีประการดังนี้ 1.ไม่สามารถเข้าถึงพระลักษณะตามฐานจิต ได้ 2.องค์แห่งสมาธิ ไม่ก้าวหน้าเลย แม้ภาวนาก็ไม่สามารถทรงตัว 3.จิตก็ยังพยายามจะผูก กับลมหายใจเข้าออก 4.เมื่อนั่งสมาธิ แล้วไม่ทรงสมาธิ แต่จะออกไปแนว พิจารณาธรรม สติมากกว่า
ส่วนที่ว่าได้ ก็มีเพื่อนผม และผม เป็นบางคนจาก 30 กว่าคน 1.สามารถเข้าถึงพระลักษณะ มีอาการปีติเกิดขึ้น ตามลักษณะจริง ๆ บางคนถึงกับมีอาการมาก ๆ เช่น สั่นทั้งตัว น้ำตาไหลเป็นทางเลย ขนลุกตลอดเวลา เมื่อโทรถามไปที่ หลวงพ่อจิ๋ว แล้วท่านก็บอกให้เปลี่ยนเป็น ขณิกาปีติ ซึ่งจากลองภาวนาดูแล้ว ก็ยังไม่มีความก้าวหน้า มีเพื่อนบางคนสามารถไปที่พระ โอกกันติกาปีติ ได้ 2.เมื่ออยู่ใน พระขุททกาปีติ นั้นสามารถทรงสมาธิ ได้นานมากถ้าไม่เปลี่ยนฐาน ก็สามารถนั่งสมาธิได้มากกว่า 1 ชั่วโมง ครึ่ง
|
|
|
|