พิมพ์หน้านี้ - ธรรมะสัญจร ไปกราบพระบรมสารีริกธาตุ ที่ พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล ภาพโดยธรรมธวัช

(http://sphotos-h.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/735060_438745816206878_606005273_n.jpg)
27 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ได้เริ่มก่อสร้างพระเจดีย์มหารัชมงคล ขนาดความสูง 80 เมตร กว้าง 50 เมตร ยาว 50 เมตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ณ วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร งบประมาณ 300,000,000 บาท (สามร้อยล้านบาทถ้วน)

(http://sphotos-d.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/578918_438745836206876_1361321034_n.jpg)
เกี่ยวกับผู้สร้าง พระมหาเจดีย์
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) (นามเดิม: ช่วง สุดประเสริฐ) เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม, รองแม่กองงานพระธรรมทูต, ประธานคณะพระธรรมจาริก, และเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ (พระอารามหลวง) ปัจจุบันได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนเหนือและแม่กองบาลีสนามหลวง และเป็นคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดฯ สถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระราชาคณะ ชั้นสุพรรณบัฏ เมื่อปี พ.ศ. 2538 มีนามตามจารึกในสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ไพศาลหิตานุหิตวิธาน ปฏิภาณสุธรรมภาณี ศรีสังฆโสภณ วิมลศีลาจารย์นิวิฐ ตรีปิฏกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี

(http://sphotos-f.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/526850_438745829540210_2039975494_n.jpg)

หลังจากใช้เวลาก่อสร้างถึง 9 ปี และใช้งบไปกว่า 500 ล้านบาท พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล วัดปากน้ำภาษีเจริญ ก็ก่อสร้างเสร็จสิ้น และเตรียมจัดงานสมโภชอย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ 22-31 ธันวาคม นี้

สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ได้เปิดเผยถึงพระมหาเจดีย์หลังใหม่ “พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล” ที่ใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 500 ล้านบาท ว่า ทางวัดปากน้ำฯ ได้เริ่มสร้างเจดีย์หลังดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2547 และใช้เวลาก่อสร้างเป็นเวลา 9 ปี จนกระทั่งแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 โดยมีลักษณะเป็นเจดีย์ที่ประยุกต์ศิลปะรัตนโกสินทร์และศิลปะล้านนาเข้าด้วยกัน

(http://sphotos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/429620_438745896206870_1800365983_n.jpg)

เจดีย์ดังกล่าวมีความสูง 80 เมตร กว้าง 52 เมตร ภายในเจดีย์มีพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์ได้ถึง 5 ชั้น ประกอบด้วย

ชั้นที่ 1 พิพิธภัณฑ์ชาวบ้าน ของสะสม ของเก่าแก่ จากชาวบ้าน ที่รวบรวมมาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา

ชั้นที่ 2 สำหรับปฏิบัติธรรม โดยรองรับผู้ปฏิบัติธรรมได้ 1,000 คน

ชั้นที่ 3 พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เพื่อจัดแสดงของใช้ส่วนตัวของท่าน เช่น ไม้เท้า พระพุทธรูป เป็นต้น

ชั้นที่ 4 ประดิษฐานหลวงพ่อทองคำที่สร้างจากทองคำแท้ 1 ตัน (1,000 กิโลกรัม) และห้องปรมาจารย์ในอดีต

ชั้นที่ 5 ชั้นบนสุดที่ทำเป็นทรงโดม โดยมีเจดีย์แก้วบรรจุพระบรมสารีริกธาตุตั้งอยู่ตรงกลาง

(http://sphotos-c.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/429620_438745896206870_1800365983_n.jpg)
สำหรับวันสมโภชน์ พระมหาเจดีย์ ที่ผ่านไป
นอกจากนี้ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ยังกล่าวอีกว่า งบประมาณในการสร้างเจดีย์หลังนี้ ใช้ไปกว่า 500 ล้านบาท และจะจัดพิธีสมโภชอย่างยิ่งใหญ่ขึ้นเป็นเวลา 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 22-31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 โดยมีกิจกรรมหลัก 2 กิจกรรม คือ เวลา 10.30 น. อาราธนานิมนต์พระสงฆ์ 200 รูป เพื่อถวายอาหารเพลและเจริญพระพุทธมนต์ และในเวลา 19.00 น. จะมีการแสดงธรรมเทศนาจากสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์และพระเถระวัดปากน้ำฯ คืนละ 1 กัณฑ์

(http://sphotos-e.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-prn1/527707_438745906206869_2053604844_n.jpg)

สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับบานประตูดังกล่าวมีขนาดกว้าง 1.87 เมตร สูง 2.20 เมตร รวม 4 บาน สร้างจากไม้สักทองและมีการแกะสลักเป็นรูปท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ประกอบด้วย ท้าวธตรัฐ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักษ์ และท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งตามความเชื่อในพระพุทธศาสนา เพื่อคอยให้ความคุ้มครอง และคอยดูแลรักษา โดยมีการลงรักปิดทองอย่างสวยงามจากทองคำเปลว 1 แสนแผ่น พร้อมทั้งประดับด้วยคริสตัล คิดเป็นมูลค่าบานประตูละ 2 ล้านบาท ขณะเดียวกันในส่วนของชั้นอื่นๆของพระมหาเจดีย์ฯ คือชั้นที่ 4 จะเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อสดองค์ใหญ่ชั้นที่ 3 เป็นพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ชั้นที่ 2. เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และชั้นที่ 1 เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ซึ่งขณะนี้ประชาชนสามารถเข้าชมความงดงามของพระมหาเจดีย์ฯ เจดีย์แก้ว และบานประตูแกะสลักท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ได้แล้ว

(http://sphotos-b.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/577078_438745912873535_255539908_n.jpg)

สำหรับเรื่องราวของพระมหาเจดีย์ นี้ มีหนังสือ ที่ทางวัดได้จัดทำจำหน่าย เสริมความรู้ เป็นชุด 8 เล่ม ราคาอยู่ที่ 3500 บาท
(http://lovesiamoldbook.tarad.com/img-lib/spd_20130113231030_b.jpg)
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://lovesiamoldbook.tarad.com/ (http://lovesiamoldbook.tarad.com/)

(http://sphotos-h.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/526820_438745939540199_398871388_n.jpg)

สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => ธรรมะสัญจร => ข้อความที่เริ่มโดย: RDNpromote ที่ มีนาคม 19, 2013, 09:12:21 am