สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: vijitchai ที่ มกราคม 10, 2010, 07:30:43 am



หัวข้อ: ปรึกษาเรื่องการขายสิ่งมึนเมา
เริ่มหัวข้อโดย: vijitchai ที่ มกราคม 10, 2010, 07:30:43 am
ตอนนี้ผมเปิดร้าน ขายโชว์ห่วย ของที่ขายดีในร้านก็มี 1.เหล้า 2.บุหรี่ 3.ทัมใจ ผมขายอยู่ในย่านชุมชมแออัดครับ วันหนึ่งผมก็ได้ไปฟังพระเทศน์เรื่องโทษของการขายสิ่งของเหล่านี้

ผมกลับมาที่บ้าน ใจหนึ่งก็อยากเลิกขาย สิ่งเหล่านี้  แต่อีกใจหนึ่ง ก็มาคิดว่าถึงเราเลิกขายร้านที่ติดกันไปก็ไม่เลิกขายผมก็เลยยังขายอยู่ แต่เพิ่มตรงที่ว่า ไม่ขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 แต่การทำของผมก็ไปเพิ่มรายได้ให้กับร้านข้างเคียงทันที ผมก็มานั่งนึกอยู่ว่า ถ้าเราไม่ขายเราก็เดือดร้อนในเรื่องการเลี้ยงปากท้องคนในบ้าน แต่ถ้าเราก็เป็นบาป เราไม่ขายก็ไม่ใช่ว่าร้านข้างเคียงจะไม่ขาย

ผมโดน ลูก เมีย ว่า โง่

ชมรมธรรมที่นี่ มีคำแนะนำทางออกให้ผม บ้างไหมครับ


หัวข้อ: Re: ปรึกษาเรื่องการขายสิ่งมึนเมา
เริ่มหัวข้อโดย: ทินกร ที่ มกราคม 10, 2010, 02:40:40 pm
เกมส์วัดใจ ครับ ของเหล่านี้
เพราะขึ้นชื่อว่าของไม่ดี ยังงัยก็ผิดจริงไหมครับ
แต่เหตุของการขายของคุณก็มีอยู่ อย่างว่าถ้าไม่ทำเหตุให้แจ้งไปเลย ก็ยากจะตัดใจเิลิกขายได้
ขึ้นชื่อว่ากิเลสมันมาทุกทางแหละครับ ยากจะรับมือ ทั้งจากคนใกล้ตัว คนไกลตัว สิ่งแวดล้อมจริงไหมครับ
ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฏ ไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นธรรมดา(ความคิดของเค้าและเรา)
ค่อยๆ ละ ค่อยๆ เลิก ก็ได้ อย่างการขายให้เด็กก็งดไป เป็นสิ่งดีครับ เพราะภาวะการมีเหตุผลมันต่ำไป
แต่ผู้ใหญ่แล้ว ก็คิดซะว่าเจอกันคนละครึ่งทาง คืออยากซื้อ อยากขาย (แต่ก็เป็นบาปทั้งคู่)
จนคุณคิดได้ว่า พอแล้วสำหรับคุณ เดียวคุณก็ทำได้เอง


หัวข้อ: Re: ปรึกษาเรื่องการขายสิ่งมึนเมา
เริ่มหัวข้อโดย: Pra Srikanet ที่ มกราคม 10, 2010, 05:52:18 pm
ต้องทำสัมมาอาชีโว  ให้เกิดขึ้น แบบนี้โยมก็ยังมีปวงกรรมอยู่เพราะได้มีส่วนร่วมด้วย ใช้พระบรมราโชวาทของในหลวงนะจ๊ะโยม   องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระบรมราโชวาท ตอนหนึ่งว่า ในบ้านเมืองมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ พระบรมราโชวาทนี้พระองค์ท่านทรงพระราชทานตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2512 พระองค์ท่านตรัสพระราชทานแก่พสกนิกรของท่านว่า ในบ้านเมืองทุกแห่งทุกที่ทุกประเทศนั้น จักมีทั้งคนดีและคนไม่ดีอยู่ร่วมกัน เราไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด เพราะคนแต่ละคนมีความคิด การพูด การกระทำ ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น ลูกจึงอย่าหวังเลยว่าทุกคนที่ลูกคบหาด้วยนั้นจะต้องเป็นคนดีทุกคน    อยู่ที่ว่า.....ลูกจักเลือกคบคนชนิดใด ถ้าลูกคบคนดี ลูกก็เป็นคนดี ถ้าลูกคบคนชั่วลูกก็จักเป็นคนชั่ว           ดังภาษิตที่ว่า" คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล คบคนชั่วจะพาตัวให้อับจน จะคบคนควรคิดไว้ให้จงดี"   พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำรัสว่า การทำให้บ้านเมืองมีความสุขเรียบร้อยนั้นอยู่ที่ประชาชนทั้งหลายร่วมกันส่ง เสริมคนดีให้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้   พระบรมราโฃวาทข้อนี้ พระองค์ท่านทรงมุ่งหมายให้ประชาชนชาวไทยสนับสนุนคนดี ยกย่องคนดี และส่งเสริมคนดี คือ บุคคลที่คิดดี พูดี ทำดี มีความซื่อสัตย์สุจริตเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัวโดยสนับ สนุนให้คนดีมาทำหน้าที่ปกครองประเทศชาติ เพื่อให้ควบคุมคนไม่ดีไม่ให้ก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนได้

           ลูกของพ่อก็เช่นกัน...ถ้าลูกต้องการประสบความสำเร็จในการศึกษา ในหน้าที่การงาน เพื่อความสุขของลูกและครอบครัว รวมทั้งบริวาร ลูกจักต้องเป็นคนดี คบคนดี และสมควรจักต้องได้รับการส่งเสริมจากคนดีด้วยกัน ลูกอย่าคบคนชั่ว เพราะคนชั่วนั้นเมื่อสนับสนุนใครแล้วจักนำความฉิบหายมาให้แก่คนนั้นอย่างไม่ มีทางหลีกเลี่ยงได้เลย

          พระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรมศาสดาตรัสว่า ขึ้นชื่อว่าความชั่วแล้ว แม้น้อยนิดก็ไม่ควรทำ เพราะความชั่วทั้งหลาย เมื่อกระทำแล้วย่อมส่งผลเป็นความทุกข์ ความเดือดร้อน นี่คือคำสอนของพ่อข้อแรกที่มอบให้แก่ลูก      อันความดีนั้น แม้เพียงเล็กน้อยก็ควรทำ เปรียบเสมือนตักน้ำใส่ตุ่ม ขยันหมั่นเพียรน้ำก็จักเต็มฉันใด บุญก็เช่นกัน เมื่อขยันบำเพ็ญบุญ บุญก็จักเพิ่มพูน และเต็มบริบูรณ์ ฉันนั้น
รู้ แต่ไม่ได้ทำ จักมีประโยชน์อันใด อาตมาเป็นกำลังใจให้โยมนะ ในความต้องการเลี้ยงชีวิตชอบของคุณโยม(สัมมาอาชีโว) สาธุ สาธุ