ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: หมดเวลาของ ”บุญ” ก็คือ เวลาของ ”กรรม“  (อ่าน 825 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


หมดเวลาของ ”บุญ” ก็คือ เวลาของ ”กรรม“

เวลาของ บุญ บาป ไม่มีใครสามารถห้ามปรามได้ เมื่อเวลาของมันมาถึง

เมื่อ 50 กว่าปีก่อน ในย่านพักอาศัยใจกลางเมืองของกรุงเทพฯ ณ ซอยเล็กๆแห่งหนึ่ง มีตึกแถวปลูกติดกันประมาณ 15 ห้อง ห้องแรกสุดหัวซอยและห้องสุดท้ายซึ่งตั้งอยู่ท้ายซอยเป็นตึกแถวแบบพิเศษ คือเป็นห้องใหญ่แบบ 2 ห้องติดกัน

ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นคนจีน อยู่กันมานานเป็นสิบๆปี รู้จักกันหมด แค่เห็นหน้าก็รู้ว่าใครอยู่บ้านไหน ชาวบ้านอยู่กันอย่างเรียบง่าย จนกระทั่งตึกแถว 2 ห้องที่หัวซอยมีผู้ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่เป็นครอบครัวเศรษฐีพ่อค้า ความเดือดร้อนจึงได้เริ่มต้นขึ้นเรื่องมีอยู่ว่า


@@@@@@

เมื่อ 50 ปีก่อนเป็นเรื่องธรรมดาของบ้านตึกแถวที่จะใช้ท่อระบายน้ำร่วมกัน ในซอยนี้ก็เช่นกัน น้ำทิ้งจะไหลจากท้ายซอยไปหัวซอยแล้วไหลลงสู่ท่อระบายน้ำใหญ่ แต่เถ้าแก่เนี้ยผู้มาอยู่ใหม่กลับกั้นท่อระบายน้ำไม่ให้น้ำไหลผ่านบ้านแก ทำให้บ้านทุกหลังมีน้ำทะลักเข้ามาในบ้านเพราะทางน้ำถูกปิด ชาวบ้านจึงรวมตัวกันไปต่อว่า แต่เถ้าแก่เนี้ยกลับเฉยเมยและบอกหน้าตาเฉยว่า ท่อระบายน้ำอยู่ในบริเวณบ้านของแก แกจะทำอะไรก็ได้ เถ้าแก่ซึ่งเป็นคนดีพยายามขอร้องภรรยาแต่ก็ไม่เป็นผล

ท้ายที่สุดอาแปะซึ่งเป็นช่างรับเหมาก่อสร้างตึกแถวทั้งหมดในย่านนี้ และอาศัยอยู่ในตึกแถวห้องสุดท้ายที่ท้ายซอยจึงไปเจรจา แต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายปัญหาต่างๆ ก็คลี่คลายจากการแก้ปัญหาของอาแปะ โดยแกได้ทำทางระบายน้ำใหม่ให้ไหลจากหัวซอยไปท้ายซอยผ่านบ้านของแกเอง

ตั้งแต่นั้นแทบจะไม่มีใครอยากจะคบค้าสมาคมกับเถ้าแก่เนี้ยอีกเลย พอเวลาผ่านไปหลายปี เรื่องนี้ก็ถูกลืมกันไปและมีเรื่องใหม่มาแทน คือเรื่องที่ชาวบ้านแถวนั้นโดนเถ้าแก่เนี้ยขโมยของ เพราะเวลาแกไปนั่งบ้านไหน แกก็จะแอบหยิบฉวยข้าวของของบ้านนั้นไป คนแรกที่โดนขโมย พอไปเล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเชื่อว่าเศรษฐีจะขโมยของคนอื่น ต่อเมื่อต่างคนต่างเห็นข้าวของของตัวเองไปอยู่ที่บ้านของเถ้าแก่เนี้ย จึงเป็นอันรู้กันทั่วว่า ถ้าต้องคุยธุระ อย่าให้แกเข้าบ้านเป็นอันขาด

@@@@@@

นอกจากนี้แกยังเป็นคนใจร้าย หมาแมวจรจัดอย่าได้เดินเฉียดไปใกล้บ้านแกแกจะไล่ตีจนกระเจิง ตัวไหนที่แกเกลียดมากๆ ก็จะสั่งให้ลูกน้องจับไปปล่อยที่อื่น เคยมีแมวที่มีเจ้าของโดนลูกน้องแกจับไปปล่อย โชคดีว่าแมวน้อยฉลาดจึงกลับมาบ้านถูก

เป็นเวลากว่าสิบปีที่เถ้าแก่เนี้ยใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย เป็นคุณนายมาตลอด ที่แกโชคดีเช่นนี้เพราะเถ้าแก่เป็นคนขยันและซื่อสัตย์ ทำการค้าก็เจริญรุ่งเรือง พอถึงวัยเกษียณก็ให้ลูกชายมาบริหารงานแทน แต่แล้ววันหนึ่งเถ้าแก่ก็นอนหลับไปและไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย แกจากไปอย่างคนมีบุญสมกับความดีที่แกทำ

@@@@@@

สำหรับเถ้าแก่เนี้ย หลังสามีตายก็เป็นเวลาของการเผชิญเวรกรรม เพราะไม่นานนักลูกชายของเถ้าแก่ก็ถูกโกง เป็นหนี้สินมากมาย จึงพาครอบครัวหนีหนี้ไปอยู่ต่างประเทศแต่กลับไม่ยอมพาเถ้าแก่เนี้ยไปด้วยแถมบ้านที่อยู่ก็เซ้งไป ทำให้แกไม่มีบ้านจะอยู่ ต้องไปอาศัยอยู่กับลูกสาว ทำให้สิ้นสุดชีวิตคุณนายเพียงเท่านั้น จากนั้นไม่ถึงปีเถ้าแก่เนี้ยก็ตายตามสามีไป ชาวบ้านต่างโจษจันกันว่า แกรับสภาพที่เปลี่ยนไปไม่ได้จนตรอมใจตาย

จากคนที่เคยมีความสุขสบายมาค่อนชีวิต กลับต้องมาเผชิญกับวิบากกรรมในยามชรา ทำให้เห็นว่า เวลาของบุญบาปไม่มีใครสามารถห้ามปรามได้ เมื่อเวลาของมันมาถึง



เรื่อง : ก เอ๋ย ก ไก่
ที่มา : http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/49072.html
By Therranuch , 20 March 2018
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 18, 2018, 06:08:38 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: หมดเวลาของ ”บุญ” ก็คือ เวลาของ ”กรรม“
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 18, 2018, 10:48:36 am »
0
 :25: st11 st12
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ