ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ที่บรรดาหมอดู รายการทีวี นั้นตัดกรรมได้จริง หรือ ครับ  (อ่าน 2279 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

สายฟ้า

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 100
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมเอง ก็สงสัยมากเวลา ดูรายการทีวี ซึ่งบรรดา แม่ พี่สาว ญาติ อีกหลายคน

ชอบดู รายการตัดกรรม สแกนกรรม ที่มีบรรดาหมอดูทั้งหลาย มาโชว์ฝีปากในการ

ตัดกรรม ซึ่งจะดูได้ ช่อง miracle และ อีก หลาย ๆ ช่อง

การตัดกรรม ของบรรดาหมอดู พวกนี้ ทำได้จริงหรือครับ

เพราะดูลักษณะ คำพูด การแต่งกาย ( ตามความคิดผม ) แล้วผมว่าเป็นพวกหลอกลวง ซะมากกว่า

แต่คนก็นิยม การโทรเข้าไปคุย ดูดวง และ การตัดกรรม ด้วยสิ่งที่เรียกว่า วัตถุมงคลของ คนเหล่านี้ มาตัดกรรม

ที่จริงแล้ว หลักการตัดกรรม ในศาสนาพุึทธ นี้แท้จริงเป็นอย่างไร

บางทีผมก็เห็น พระก็นั่งดูดวง ดูหมอ ทำนองนี้ ซึ่งมีคนไปเข้าคิว ดูกันเป็นอันมาก ที่วัดใกล้ ๆ บ้าน


 :25: :25:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันว่า กรรมเป็นเรื่องอจินไตย เป็นเรื่องของผู้มีญาณทัสสนะเท่านั้น

ที่จะทราบได้ ถึงแม้จะมีญาณทัสสนะแล้ว เงื่อนไขต่อไปก็คือ ระดับของญาณจะไม่เท่ากัน

ขึ้นอยู่ว่า จะสั่งสมบารมีมามากแค่ไหน คนที่พยากรณ์เรื่องกรรมต่างๆได้อย่างถูกต้องที่สุด

เห็นอดีตและอนาคตอย่างไม่จำกัดชาติ ต้องเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น

ขอขยายคำว่า อจินไตย ว่าหมายถึง เป็นเรื่องที่ปุถุชนคิดไม่ได ไม่สามารถเข้าใจไม่ได้



สิ่งที่ผมจะอธิบายได้เป็นเพียง การจำคำพูดคนอื่นมาเล่าให้ฟัง ตามความเข้าใจของผม

คำว่า "ตัดกรรม" เป็นเพียงสำนวนโวหารที่มีคนแต่งขึ้นมา เพื่อสร้างเอกลักษณ์หรือจุดขาย

ของตัวเอง แต่ไม่สะท้อนคติทางพุทธศาสนา



คติทางพุทธศาสนา กรรมที่มีสองฝ่าย คือ กุศลและอกุศล หรือพูดง่ายๆก็คือ บุญกับบาป

ไม่สามารถตัด หรือทำลายได้

บุญกับบาป หักล้างกันไม่ได้ ต่างฝ่ายต่างให้ผล โดยไม่ขึ้นต่อกัน

การตัดกรรมนั้น เข้าใจว่าเป็นฝ่ายอกุศลกรรม หรือบาป

ตัดกรรม น่าจะหมายถึง ตัดบาปกรรม ไม่ให้ตามทัน



ผมขอยกตัวอย่าง อกุศลกรรม เปรียบเสมือน เสือวิ่งไล่เนื้อกวาง

ระหว่างเสือกับกวาง มีระยะห่างกันอยู่ ตราบใดที่กวางยังสามารถรักษา

ระยะนั้นไว้ได้ ตราบนั้นเสือก็ทำอะไรกวางไม่ได้

ในทางตรงข้าม หากเสือตามทัน กวางจะถูกจับกินเมื่อนั้น

เสือก็คือ บาปกรรม กวางก็คือคน



ถ้าจะใช้สำนวนให้ใกล้เคียง ต้องใช้คำว่า "หนีกรรม"

การจะหนีบาปกรรมได้ ต้องทำบุญที่มีอานิสงส์มากๆ เช่น สังฆทาน

 ทำสมาธิ ปฏิบัติวิปัสสนา


การที่จะรักษาระยะห่าง หรือยืดระยะออกไป ระหว่างตัวเรากับบาปนั้น

ก็คือ การทำบุญที่มีอานิสงส์มากๆนั่นเอง

ขอให้ดูองคุลีมาลเป็นตัวอย่าง ที่สามารถหนีบาปได้อย่างถาวร ไม่ต้องตกนรก

เนื่องจากองคุลีมาลปฏิบัติวิปัสสนาจนเป็นอรหันต์


แต่การสำเร็จอรหันต์ไม่ใช้การล้างกรรมที่มีได้ทั้งหมด

ตราบใดที่อรหันต์ยังดำรงรูปขันธ์อยู่ กรรมจะแสดงผลได้ตลอดเวลา

ดั่งเช่น พระพุทธเจ้าที่ถูกพระเทวฑัตทำร้าย พระโมคัลลานะที่ถูกโจรทุบตี

การดับของรูปขันธ์ และการเข้าสู่พระนิพพาน จะเป็นการหนีกรรมได้อย่างถาวร


ขอให้ธรรมคุ้มครอง
 :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ