แสดงกระทู้
|
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to. |
11841
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เครือข่ายชาวพุทธ ยัน พร้อมต้านธรรมกาย เดินธุดงค์
|
เมื่อ: มกราคม 07, 2016, 08:37:14 am
|
เครือข่ายชาวพุทธ ยัน พร้อมต้านธรรมกาย เดินธุดงค์ แกนนำ เครือข่ายพุทธศาสนิกชนคนปทุมธานี ยัน พร้อมต้านกิจกรรมธรรมกายเดินธุดงค์-ตั้งพระสังฆราชองค์ใหม่
วันที่ 6 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าในกรณีของวัดพระธรรมกาย ที่ปรับเปลี่ยนแผนการเดินธุดงค์นอกสถานที่ เป็นการเดินภายในวัดนั้น วันเดียวกัน นายคิว อรุโณรส ผู้ประสานงานพุทธศาสนิกชนคนปทุมธานี เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐ ว่า ทางเครือข่ายยังคงจับตาดูกิจกรรมบุญของทางวัดพระธรรมกาย อยู่ตลอดเวลา หากเดินธุดงค์ออกวัดเมื่อไหร่ เราก็จะเริ่มทำตามแผนที่วางไว้ทันที ส่วนเรื่องการตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ ที่มีกระแสข่าวออกมาว่า จะมีการนำวาระนี้ เข้าที่ประชุมมหาเถรสมาคม ในวันที่ 11 ม.ค. นั้น ทางเครือข่ายก็จับตาดูความเคลื่อนไหวเช่นกัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็ถือเป็นการผิดขั้นตอน ซึ่งทางเครือข่ายชาวพุทธ ได้มีการประชุมกันเพื่อเตรียมเคลื่อนไหวคัดค้านแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีกระแสข่าวการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ออกมา "ทีมข่าวไทยรัฐ" ได้เข้าสำรวจบรรยากาศภายในวัดพระธรรมกาย พบว่าเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีเพียงญาติโยมและพระสงฆ์ส่วนหนึ่ง ขึ้นรถบัส 4-5 คัน เดินทางไปสมทบกับญาติโยมที่ จ.สุพรรณบุรี เนื่องจากในวันนี้จะมีการจัดกิจกรรมบุญธุดงค์ ที่บริเวณอนุสรณ์สถานมหาวิหารพระมงคลเทพมุนี อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งจะมีการทำบุญและลอยพระประทีปในงานบุญครั้งนี้อีกด้วย.ขอบคุณภาพข่าวจาก https://www.thairath.co.th/content/558971
|
|
|
11842
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พศ.ชี้ ประชุม มส.11 ม.ค.นี้ ไม่มีวาระสังฆราช
|
เมื่อ: มกราคม 07, 2016, 08:35:20 am
|
พศ.ชี้ ประชุมมส.11 ม.ค.นี้ ไม่มีวาระสังฆราช วันนี้(6 ม.ค.)นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)กล่าวว่า ตนได้รับรายงานว่าในการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) ในวันที่ 11 ม.ค. 2558ที่พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม จะมีกลุ่มเครือปกป้องพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช และเครือข่ายสตรีปกป้องพระพุทธศาสนา มายื่นหนังสือคัดการการเสนอชื่อตั้งสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 นั้นทางพศ.พร้อมที่จะรับเรื่องดังกล่าว แต่เท่าที่ทราบ ในประชุมมส.ในวันและเวลาดังกล่าวไม่มีวาระเกี่ยวกับเรื่องสมเด็จพระสังฆราชแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม2535 หมวดสมเด็จพระสังฆราชในมาตรา 7 กำหนดไว้ว่า พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์หนึ่งในกรณีที่ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชว่างลง ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ขึ้น ทูลเกล้า เพื่อทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ในกรณีที่สมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะรูปอื่นผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ตามลำดับและสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/371472
|
|
|
11845
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ศูนย์พิทักษ์ฯ-องค์กรพุทธขู่ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
|
เมื่อ: มกราคม 06, 2016, 08:18:26 am
|
ศูนย์พิทักษ์ฯ-องค์กรพุทธขู่ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ประธานศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนา เรียกร้องบัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญ เตรียมยื่นถึงมือ'บิ๊กตู่'ขู่รัฐไม่เห็นความสำคัญ เครือข่ายชาวพุทธไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
วันนี้( 4 ม.ค.) พระเทพวิสุทธิกวี (เกษม สญฺญโต) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส ในฐานะประธานศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยกล่าวว่า จากการหารือกับสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) มีความเห็นร่วมกันว่า การรณรงค์ให้มีการบัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญนั้น นอกจากจำเป็นจะต้องให้ความรู้ต่อพุทธศาสนิกชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจถึงเหตุผล และความจำเป็นอย่างต่อเนื่องแล้ว
สิ่งสำคัญที่สุดอีกประการ คือ จะต้องหาทางนำเรื่องดังกล่าวส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้รับรู้ข้อเท็จจริงจากองค์กรชาวพุทธโดยตรง เพราะก่อนหน้านี้องค์กรชาวพุทธได้เข้ายื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องให้มีการบัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติต่อ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และศ.ดร.ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ(สปท.)ไปแล้ว ประธานศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาฯ กล่าวต่อไปว่า
อย่างไรก็ตามหากพบว่า สุดท้ายแล้วในรัฐธรรมนูญฉบับที่กำลังจะมีการทำประชามตินี้ ไม่มีการบัญญัติให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ทางศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ และเครือข่ายองค์กรชาวพุทธต่างๆจะร่วมกันรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะเรื่องศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และที่สำคัญคือไม่มีผลประโยชน์ทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง.ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/371018
|
|
|
11847
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สระบุรี พระชราภาพ วัย 90 พลัดตกหน้าต่างกุฏิวัด หัวกระแทกพื้นดับ
|
เมื่อ: มกราคม 06, 2016, 08:06:36 am
|
พระชราภาพ วัย 90 พลัดตกหน้าต่างกุฏิวัด หัวกระแทกพื้นดับ สุดสลด! พระชราภาพ อายุ 90 ปี วัดหนองปลาหมอ จ.สระบุรี ตกหน้าต่างหัวกระแทกพื้นดับ เจ้าหน้าที่สันนิษฐาน ระหว่างเปิดหน้าต่าง เกิดอาการหน้ามืดพลัดตก ศีรษะทิ่มลงพื้น มรณภาพ...
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 5 ม.ค. พ.ต.ท. สมจิตต์ ศิริแสวง พนักงานสอบสวน สภ.หนองแค จ.สระบุรี รับแจ้งจากพลเมืองดีมีพระตกจากกุฏิลงมาหัวกระแทกพื้นดับ จึงรุดมาที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ. ยุทธนา จอนขุน ผกก.และเจ้าหน้าที่มูลนิธิ
ที่เกิดเหตุเป็นวัดหนองปลาหมอ หมู่ที่ 5 ต.หนองแค เจ้าหน้าที่พบร่างพระ อนันต์ หาญตระกูล อายุ 90 ปี นอนมรณภาพอยู่กับพื้นดิน ส่วนหัวกระแทกกับฝาปูนห้องน้ำเลือดไหลกระจาย จึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน พระโชคชัย อายุ 20 ปี เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุหลังบินฑบาตเสร็จได้กลับขึ้นบนกุฏิชั้นสอง สูงจากพื้นดินประมาณ 10 เมตร จนกระทั่งตนเดินมาพบว่า พระอนันต์ตกลงมาจากหน้าต่างหัวกระแทกพื้นปูนดับ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนในเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานพระอนันต์อาจมาเปิดหน้าต่าง เกิดหน้ามืดหัวทิ่มลงมาเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนสาเหตุอีกครั้งขอบคุณภาพข่าวจาก https://www.thairath.co.th/content/558315
|
|
|
11848
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ขยายสวดมนต์ข้ามปี ไปยังวัดต่างประเทศ ทั่วโลก
|
เมื่อ: มกราคม 06, 2016, 08:03:49 am
|
ขยายสวดมนต์ข้ามปี ไปยังวัดต่างประเทศ ทั่วโลก “วีระ” ตรวจเยี่ยม ศน. ชมโครงการสวดมนต์ข้ามปี แนะปี 2559 ขยายไปยังวัดต่างประเทศกว่า 500 แห่งทั่วโลก กำชับให้รณรงค์ชวนเข้าวัดในวันสำคัญๆ พุทธศาสนา วันนี้ (5 ม.ค.) นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของกรมการศาสนา(ศน.)พร้อมประชุมหารือและให้นโยบายการทำงานในมิติศาสนาปี 2559 ร่วมกับนายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา ผู้บริหาร และข้าราชการว่า ศน.รายงานว่าได้ทำการประเมินการทำงานในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2559 (เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2558) ว่ามีการเบิกจ่ายงบฯตามเป้าหมายที่กำหนด พร้อมดำเนินงานตามแนวนโยบายของรัฐบาล และมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์เพิ่มสูงขึ้นจากปี 2257 กว่า 1.2ล้านคน ที่สำคัญมีเด็กและเยาวชน ตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก นายวีระ กล่าวว่า ในปี 2559 ตนมอบแนวนโยบายว่า ให้ขยายผลการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีไปยังวัดไทยที่มีอยู่ทั่วโลกกว่า 500 แห่ง เพื่อให้ชาวพุทธทั่วโลกได้เข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี โดยจะขอความร่วมมือจากพระธรรมทูต เรื่องนี้ในการประชุมพระธรรมทูตประจำปีนี้ นอกจากนี้ ให้ศน.เตรียมรณรงค์เชิญชวนให้เข้าวัดปฏิบัติธรรมในวันมาฆบูชา วิสาขบูชา รวมถึงวันสำคัญทางพุทธศาสนาด้วยขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9590000001359
|
|
|
11849
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / สักการะ “พระธาตุพนม” เสริมบุญปีลิง เอิบอิ่มกาย-ใจ
|
เมื่อ: มกราคม 04, 2016, 09:09:18 pm
|
“พระธาตุพนม” เก่าแก่มากที่สุดแว่นแคว้นอีสาน สักการะ “พระธาตุพนม” เสริมบุญปีลิง เอิบอิ่มกาย-ใจ เทศกาลปีใหม่ ช่วงเวลาแห่งความสุข ในช่วงนี้วัดวาอารามต่างๆ คงจะคึกคักไม่แพ้ช่วงไหนๆ โดยเฉพาะที่ “วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร” อันเป็นที่ตั้งของ “พระธาตุพนม” อันศักดิ์สิทธิ์ บรรยากาศการท่องเที่ยวก็คงจะคึกคักมากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะในปี 2559 นี้ ได้ตรงกับปีนักษัตร “วอก” (ปีลิง) ซึ่งพระธาตุพนมแห่งนี้เป็นพระธาตุประจำปีวอก นักษัตรที่มีสัญลักษณ์เป็นลิง ที่มีอุปนิสัยฉลาด ร่าเริง คล่องแคล่วบรรยากาศภายใน “วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร” พระธาตุพนม ตั้งอยู่ภายใน วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม โดยเป็นพระธาตุที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน จนได้รับการยกย่องว่าเป็นพระธาตุที่เก่าแก่มากที่สุดในแว่นแคว้นอีสาน ซึ่งได้ถูกจารึกไว้ในภาพจิตรฝาหนังภายในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหารลวดลายงดงามของ “พระธาตุพนม” สำหรับประวัติการก่อสร้างพระธาตุพนมนั้น ได้ถูกกล่าวไว้ว่า พระธาตุพนมเป็นที่ประดิษฐาน พระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้า ที่พระมหากัสสปะเถระได้นำมาประดิษฐานไว้ โดยองค์พระธาตุถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ประมาณปี พ.ศ. 8 โดยกษัตริย์ห้าองค์คือ พระยาจุฬณีพรหมทัต พระยานันทเสน พระยาอินทปัต พระยาคำแดง และพระยาสุวรรณภิงคาร พร้อมไพร่พล ในส่วนลวดลายที่เรือนธาตุนั้นตำนานเล่าว่าตกแต่งโดยพระอินทร์และเหล่าเทวดา มีแผ่นอิฐที่จำหลักลวดลายเป็นภาพกษัตริย์โบราณ ฝีมือช่างพื้นบ้าน ศิลปะสมัยทวารวดี หรือพุทธศตวรรษที่ 13-15 นับว่าเป็นพระบรมธาตุเจดีย์ที่เก่าแก่ของภาคอีสาน“พระธาตุพนม” งดงามเกินคำบรรยาย หลังจากนั้นพระธาตุพนมได้รับการบูรณะและอุปถัมภ์เรื่อยมา จนกระทั่งปี พ.ศ. 2485 วัดพระธาตุพนมฯ ได้รับการยกฐานะเป็น พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร และต่อมาในวันที่ 11 สิงหาคม ปีพ.ศ. 2518 เกิดฝนตกหนักบวกกับความเก่าแก่ขององค์พระธาตุพระธาตุพนมจึงได้ทรุดพังทลายลง นำความเศร้าเสียใจมาสู่พุทธศาสนิกชน แต่ด้วยความศรัทธา องค์พระธาตุพนมจึงได้รับการบูรณะใหม่ซึ่งได้แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2522 โดยในปัจจุบันนั้น องค์พระธาตุมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสก่อด้วยอิฐ กว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.6 เมตร มียอดเป็นฉัตรทองคำ และมีกำแพงล้อมองค์พระธาตุ 4 ชั้นภาพจิตรฝาหนังพระธาตุพนม ภายในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรฯ พระธาตุพนมนอกจากจะเป็นพระธาตุประจำปีวอกแล้ว ก็ยังเป็นพระธาตุประจำวันเกิด ของผู้เกิดวันอาทิตย์ อีกทั้งยังเป็นที่เคารพของพุทธศาสนิกชนมากมายทั่วทั้งสารทิศ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะชาวไทยแต่เพียงเท่านั้น พระธาตุพนมก็ยังได้รับการเคารพจากพุทธศาสนิกชนชาวลาวอีกด้วย โดยจะมีการจัดงานประเพณีนมัสการพระธาตุพนม ในช่วงวันขึ้น 12 ค่ำ ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ในงาประเพณีนี้จะมีการรำบวงสรวงองค์พระธาตุพนม โดยกลุ่มชาวพื้นเมืองของจังหวัดนครพนม ที่จะมาแสดงลีลาการร่ายรำอันงดงามอ่อนช้อยให้ได้ชมผอบสำริดเก่าที่เคยบรรจุพระอุรังคธาตุ ปัจจุบันนอกจากจะเป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของภาคอีสานแล้ว พระธาตุพนมก็ยังถือเป็นสถานที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วทั้งสารทิศ จนกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์ ที่ไม่ควรพลาดเมื่อได้มาเยี่ยมเยือนจังหวัดนครพนม ในการเดินทางมาชมความงดงามขององค์พระธาตุและสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และภายในวัดพระธาตุพนมฯ ก็ยังมี “พิพิธภัณฑ์วัดพระธาตุพนม” ที่ได้จัดโบราณวัตถุอันเก่าแก่ที่เคยบรรจุอยู่ในพระธาตุพนมองค์เดิม รวมถึงผอบสำริดเก่าที่เคยบรรจุพระอุรังคธาตุไว้ให้ได้ชม ไปพร้อมกับกับการศึกษาประวัติศาสตร์ของพระธาตุพนมอีกด้วยบรรยากาศภายใน “พิพิธภัณฑ์วัดพระธาตุพนม” ในวารดิถีขึ้นปีใหม่นี้ การได้มาสักการระองค์พระธาตุพนม คงจะเป็นบุญไม่น้อย เพราะมีความเชื่อว่าหากได้นมัสการแล้วจะได้รับอานิสงส์ให้มีบุญบารมีและมีคนให้ความเคารพนับถือ ตามตำนานโหราศาสตร์ ที่กล่าวไว้ว่า พระอาทิตย์นั้นเป็นเทพที่ไว้ยศไว้ศักดิ์และเป็นที่เคารพนับถือ และผู้ที่เกิดปีวอกหากได้มาสักการะสักครั้งหนึ่งในชีวิตแล้วก็จะช่วยเสริมบุญบารมี และด้วยความเลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่ไม่เคยเสื่อมคลายมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน พระธาตุพนมก็คงจะตั้งสูงเด่นเป็นสง่าให้เหล่าชาวพุทธได้สักการะไปอีกนานเท่านาน พระธาตุพนม ตั้งอยู่ภายใน วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม โทร. 0-4251-3490-1ขอบคุณภาพและบทความจาก http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000143120
|
|
|
11851
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ยึด พ.ร.บ.คณะสงฆ์ เสนอ “สังฆราช” องค์ที่ 20
|
เมื่อ: มกราคม 04, 2016, 08:27:20 pm
|
ยึด พ.ร.บ.คณะสงฆ์ เสนอ “สังฆราช” องค์ที่ 20 พศ. ย้ำยึด พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ฉบับปัจจุบัน เสนอสังฆราชองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงความคืบหน้าขั้นตอนการเสนอสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางผู้แทนคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต โดยพระพรหมมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการกรรมการบริหารคณะธรรมยุต หารือกับผู้แทนคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย โดยพระพรหมโมลี ประธานคณะเลขานุการผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เกี่ยวกับข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ. คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2535 รวมถึงวันเวลาที่เหมาะสมที่จะหารือเกี่ยวกับการเสนอรายชื่อสมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสสูงสุดตามกฎหมายต่อที่ประชุม มส. ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ พศ. นั้น จะยึดแนวทางปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2535 ดังนั้น อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจคณะสงฆ์ และ พศ. ที่ต้องยึดแนวทางปฏิบัติตามการปกครองคณะสงฆ์ และกฎหมายที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9590000000882
|
|
|
11852
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พระเมืองสุพรรณทำ ริสแบนด์ ไอเลิฟศีล 5 แจก
|
เมื่อ: มกราคม 04, 2016, 08:22:56 pm
|
พระเมืองสุพรรณทำ ริสแบนด์ ไอเลิฟศีล 5 แจก พระเมืองสุพรรณทำริสแบนด์สีชมพูไอเลิฟศีล5แจกจนถึงเทศกาลวันวาเลนไทน์ กระตุ้นให้เกิดความรักความสามัคคี
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 มกราคม 2559 พระครูพิสุทธิ์รัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเถรพลาย ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ทางวัดได้จัดพิธีพุทธาภิเษกหลวงพ่อวัดไร่ขิงจำลอง เพื่อประดิษฐานภายในอุโบสถของวัดเถรพลาย เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวพุทธได้กราบไหว้ขอพรและปิดทองในช่วงเทศกาลปีใหม่และเทศกาลต่างๆ โดยได้ประกอบพิธีในการปลุกเสกสายรัดข้อมือริสแบนด์สีชมพู ซึ่งสลักคำว่าหลวงพ่อสีชมพู และ ไอเลิฟศีล 5 แจกให้กับญาติโยมไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรักเจ้าอาวาสวัดเถรพลาย กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นและสนับสนุนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในการที่อยากให้คนไทยทั้งประเทศได้เกิดความรัก ความสมัคร สมาน สามัคคี และปรองดองกัน ทางวัดจึงได้ประกอบพิธีดังกล่าวขึ้น เพื่อแจกจ่ายให้กับญาติโยมที่เดินทางมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดเถรพลาย ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปหลวงพ่อโต ซึ่งเป็นประธานประจำอุโบสถที่ศักดิ์สิทธิ์ สมัยกรุงศรีอยุธยา อายุกว่า 300 ปีรวมทั้งยังมีพระพุทธรูปหลวงพ่อพุทธโสธร หลวงพ่อบ้านแหลม และหลวงพ่อวัดไร่ขิง เพื่อให้ชาวพุทธได้ขอพร รวมทั้งมีดตัดหวายลูกนิมิตที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งญาติโยมมีความเชื่อว่า ในการที่มาปิดทองและลอดมีดตัดหวายลูกนิมิตแล้ว จะเกิดความเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง โดยเฉพาะพระพุทธรูปหลวงพ่อสีชมพู ซึ่งเป็นประพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดอีกองค์หนึ่ง ที่ปัจจุบันเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาพุทธศาสนิกชนได้เดินทางมากราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมาก โดยเชื่อว่า ท่ากางร่มสีชมพูถวายหลวงพ่อสีชมพูแล้ว ชีวิตของตนเองจะได้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข นอกจากนี้ ยังได้แจกปฎิทินรูปหลวงพ่อสีชมพู เพื่อเป็นข้อคิดเตือนใจว่าการดำเนินชีวิตของคนเราทุกคนที่เกิดมา จะต้องดำเนินชีวิตด้วยความมีสติและไม่ประมาท โดยการใช้ศิลห้าเป็นหลักในการดำเนินชีวิต เพื่อให้เกิดความผาสุกเกิดความร่มเย็นแก่ตนเองและครอบครัวขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.komchadluek.net/detail/20160104/219893.html
|
|
|
11853
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พระมอบผ้าห่มกันหนาวผู้สูงวัยบังกลาเทศ
|
เมื่อ: มกราคม 04, 2016, 08:18:53 pm
|
พระมอบผ้าห่มกันหนาวผู้สูงวัยบังกลาเทศ พระมอบผ้าห่มกันหนาวผู้สูงวัยบังกลาเทศไม่เลือกเชื้อชาติและศาสนา เป็นการมอบความร้ก และความสุขเนื่องเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๙
เนื่องจากฤดูหนาวในแต่ละปีส่งผลให้ประชาชนในประเทศบังกลาเทศเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก พระอาจารย์วิบูลย์ บีปุลานันทภิกขุ จึงได้จัดโครงการมอบผ้าห่มกันหนาวแก่ผู้สูงอายุที่ยากจนโดยไม่จำกัดเชื้อชาติและศาสนา ถือว่าเป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายเหมือนกัน เป็นการมอบความร้ก และความสุขเนื่องในเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๙
ผ้าห่มกันหนาวที่ได้นำนำไปมอบให้แก่ผู้สูงอายุที่ยากจนครั้งนี้มีทั้งชาวพุทธ ชาวฮินดูและชาวมุสลิมถึงประตูบ้านดังนี้ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ มอบผ้าห่ม ๘๐ ผืน แก่ผู้สูงอายุ ๘๐ คน ที่วัด Kotherpar Buddha Triratanakur Vihar ของหมู่บ้าน Kotherpar, อำเภอฟาติกจรี เมืองจิตตะกอง ประเทศบังกลาเทศ
วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๙ มอบผ้าห่มจำนวน ๑๓๕ ผืน แก่ผู้สูงอายุ ๑๓๕ ครอบครัว ที่วัด ฮารุอัลชรี พุทธเชตวันวิหาร (Harualchari Buddha Jetaban Vihar) หมู่บ้านฮารูอัลจารี อำเภอฟาติกจรี เมืองจิตตะกอง ประเทศบังกลาเทศ
วันที่ ๒ มกราคม ๒๕๕๙ มอบผ้าห่ม จำนวน ๙๐ ผืน แก่ผู้สูงอายุ ๙๐ ครอบครัว จาก ๖ หมู่บ้าน ที่วัด Harina Amritadam Vihar อำเภอ Bujpur เมืองจิตตะกอง บังคลาเทศ
วันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๙ เป็นวันปิดโครงการ มอบผ้าห่ม จำนวน ๖๐ ผืน แก่ผู้สูงอายุ ๖๐ ครอบครัว ที่วัด Gahira Ankurgona Jhatoban Ram Vihar เชตวันวิหาร อำเภอ ราวแซน (Raozan) เมือง จิตตะกอง บังคลาเทศโครงการนี้จึงถือเป็นการสงเคราะห์เกื้อกูลผู้ยากไร้ ซึ่งบางคนเพิ่งจะมีโอกาสได้รับผ้าห่มอุ่นๆ หนา ๆ เป็นครั้งแรกในชีวิต ถือเป็นความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ ในการนี้ได้แจกผ้าห่มกันหนาวแก่ผู้สูงอายุที่ยากไร้ โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ใน ๙ หมู่บ้าน ของ ๓ อำเภอ ที่ขึ้นกับจังหวัดจิตตกอง ประเทศบังคลาเทศ เป็นจำนวน ๓๖๕ ผืน พระอาจารย์วิบูลย์ขออนุโมทนาบุญกับสาธุชนทั้งหลายที่ร่วมบริจาคเงินซื้อผ้าห่มในครั้งนี้ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.komchadluek.net/detail/20160104/219900.html
|
|
|
11854
|
เรื่องทั่วไป / IT สาระประโยชน์ชาวธรรม / 7 วิธีคืนความจำให้มือถือ Android ที่คุณมองข้ามไป
|
เมื่อ: มกราคม 04, 2016, 08:44:53 am
|
7 วิธีคืนความจำให้มือถือ Android ที่คุณมองข้ามไปหลังจาก Tips เรื่องการเคลียร์พื้นที่ของ iPhone ได้รับความนิยม และเป็นประโยชน์อย่างมาก ไหน ๆ แล้วมาดูกันในฝั่งของ Android ว่าจะมีวิธีใดบ้างที่สามารถคืนความจำในเครื่องที่คุณก็ทำได้ มาดูกันตรวจสอบข้อมูลของ Apps การตรวจสอบข้อมูลการลง Apps ถือว่าเป็นอีกวิธีที่สามารถรู้ได้ว่ามีความจำเหลือเท่าไหร่ และสามารถจัดการอะไรได้บ้างเพื่อให้พื้นที่เครื่องมีความจำเหลือก็เริ่มจากตรงนี้คุณสามารถเข้าไปได้ใน Setting (ตั้งค่า) > Application, Apps (แอปพลิเคชั่น) สำหรับ Samsung ให้กดเพิ่มเข้าไปที่ Application Manager หรือ การจัดการ แอปส์ นั่นเองลบ Catch Memory ที่ไม่จำเป็น เนื่องจาก Android เป็นระบบปฏิบัติการที่สามารถจัดการข้อมูลได้ลึก ฉะนั้นแล้วเมื่ออยู่ในหน้า Application คุณสามารถเข้าไปยังหน้าจอภายในแล้วสามารถกดปุ่ม Clear Catch หรือ ล้างแคช ออกเพิ่มความจำให้กลับคืนมาได้
แต่ถ้าไม่พอและต้องการทำให้เหมือนใหม่ แนะนำให้กดปุ่ม Clear Data หรือ ล้างข้อมูล ซึ่งความเสี่ยงคือ Apps ที่ต้อง Login นั้นอาจจะหลุดออกไปนั่นเอง
อีกคำแนะนำถ้าต้องเขา Setting บ่อย ๆ ก็อาจจะไม่ดี ลองหาโปรแกรมทำความสะอาดเครื่องที่ไว้ใจได้สักตัวหนึ่งมาติดตั้งรับรองก็ช่วยได้อีกวิธีหนึ่งครับ
ลบ Apps ที่ไม่ได้ใช้งาน สำหรับ Apps ที่ไม่ได้ใช้งาน แนะนำให้คุณลบออก ซึ่งวิธีการนั้นให้กดปุ่ม Uninstall หรือ ถอดการติดตั้ง เท่านี้ Apps ก็จะหายไป
แต่บางเครื่องสามารถลบ Apps จากหน้าจอหลักได้เลย ก็ลองปรับใช้ดูนะครับย้ายรูปไปเก็บใน USB OTG, SD Card หรือ Cloud Service การเก็บรูปบนเครื่องยิ่งมีปริมาณที่เยอะ ก็จะส่งผลให้เครื่องนั้นช้าลง, ความจำเต็ม และทำให้เราลำบากในการค้นหาเช่นกัน ดังนั้นการที่ได้แหล่งเก็บข้อมูล
แน่นอนว่า Android สามารถเชื่อมต่อกับ USB OTG (เป็น Flash Drive ที่มีช่องเสียบแบบ Micro SD ) หรือจะเป็น Micro SD Card แต่ที่อยากแนะนำว่ามันใช้ได้ผลจริง ๆ คือระบบ Cloud Service อย่าง Google Photos ซึ่งหลายคนกังวลว่ารูปของเราจะขึ้นในสถานะหรือไม่ คำตอบคือ ไม่ขึ้นครับ มันก็อยู่ในเฉพาะ Account ของเราก่อนจนกว่าจะได้รับการยินยอมจากเราเองว่าต้องการเผยแพร่ถึงจะขึ้นไปนะครับลบรูปที่เกินออกจากเครื่อง ส่วนมากรูปที่เกินความจำเป็นเช่นการถ่ายด้วย Instagram ที่สามารถเก็บรูปเพิ่มเข้าในในเรื่อง หรือจะเป็นรูปจาก Messenger และ Social Network ต่าง ๆ ถ้าไม่จำเป็นและไม่ได้ใช้งาน ควรจะลบรูปออกเพื่อขยายพื้นที่ให้มากขึ้นได้
ลบไฟล์ Download ที่ไม่ได้ใช้ การโหลด File เอกสารหรืออื่น ๆบน Android นั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติ การที่โหลดมาเยอะเสืยพื้นที่โดยไม่จำเป็น วิธีจัดการที่ง่ายที่สุดคือ การลบ File ออก ก็จะทำให้พื้นที่ ๆ เสียไปกลับคืนมานั่นเองฟังเพลงบน Music Streaming แทนการเก็บในเครื่อง การฟังเพลงบนออนไลน์เป็นอีกวิธีที่ทำให้คุณสามารถประหยัดพื้นที่ของเครื่องและสามารถเลือกเพลงได้มากกว่าใน File คอมพิวเตอร์ของคุณซะอีก เลยเป็นอีกทางเลือกที่ยอม แต่ถ้าคิดว่ามันเปลืองเน็ตแล้วล่ะก็ ลองใช้งานผ่าน WiFi มันก็ดีกว่าแน่นอนครับ
แม้ว่าวิธีเหล่านี้อาจจะยังไม่สามารถได้พื้นที่ทั้งหมด นอกจากการ Reset เครื่อง แต่แน่นอนว่าถ้าปฏิบัติตามบางข้อก็ดี พื้นที่ของคุณก็จะกลับขึ้นมาให้ทำอะไรได้เยอะกว่านี้อย่างแน่นอนครับขอบคุณภาพข่าวจาก http://hitech.sanook.com/1402129/
|
|
|
11858
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / วัดไทย 16 ประเทศผ่านฉลุยชุมชนศีล 5
|
เมื่อ: มกราคม 04, 2016, 08:02:05 am
|
วัดไทย 16 ประเทศผ่านฉลุยชุมชนศีล 5 สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีว่าปัจจุบันโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ได้ขยายผลไปยังวัดไทยในต่างประเทศเกือบจะครบทั่วโลกแล้ว โดยขณะนี้โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 เข้าสู่การดำเนินงานในระยะที่ 3 ซึ่งตามกำหนดโครงการนี้จะสิ้นสุดโครงการในปี 2560 แต่ก็ขอให้คณะสงฆ์ทั่วประเทศดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพราะการที่ส่งเสริมให้คนรักษาศีล 5 เป็นเรื่องที่ดี จะเป็นส่วนสำคัญให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์ และเกิดสันติสุขขึ้นในประเทศชาติ
พระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา เจ้าคณะภาค 7 ในฐานะประธาน ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หมู่บ้านรักษาศีล 5 กล่าวว่า ขณะนี้มีชุมชนรักษาศีล 5 ของวัดไทยในต่างประเทศที่ผ่านเกณฑ์การประเมินโครงการ ร้อยละ 50 และได้รับป้ายชุมชนรักษาศีล 5 จากสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ไปแล้ว 16 ประเทศ ประกอบด้วยวัดไทยในประเทศเนเธอร์แลนด์ อินเดีย สหรัฐอเมริกา เนปาล นิวซีแลนด์ สาธารณรัฐประชาชนจีน เบลเยียม สวีเดน สหราชอาณาจักร อาร์เจนตินา อิตาลี เยอรมนี ไอซ์แลนด์ แคนาดา สเปน และไอร์แลนด์เหนือ.ขอบคุณภาพข่าวจาก https://www.thairath.co.th/content/557685
|
|
|
11859
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เปิดห้องเรียกไปฉัน ผงะ! 'พระลูกวัดนาจอมเทียน' มรณภาพคากุฏิ
|
เมื่อ: มกราคม 04, 2016, 08:00:16 am
|
เปิดห้องเรียกไปฉัน ผงะ! 'พระลูกวัดนาจอมเทียน' มรณภาพคากุฏิ
พระลูกวัด อายุ 63 ปี นอนเสียชีวิตภายในกุฏิ วัดนาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ตรวจสอบตามร่างกาย ไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุการเสียชีวิตมาจากโรคประจำตัว
เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 3 ม.ค.59 ร.ต.ท.อุดม ศรีมาตร พงส.สภ.นาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้ง พบพระสงฆ์มรณภาพอยู่ในกุฏิ วัดนาจอมเทียน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุด้านในกุฏิของพระสงฆ์ พบศพ พระธนัท แตงแตกมล ฉายาชวโน อายุ 63 ปี พระลูกวัด นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นข้างเตียงนอน เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง สวมเพียงสบงแค่ผืนเดียวตรวจสอบตามร่างกายไม่มีร่องรอยการถูกทำลายหรือรื้อค้นสิ่งของแต่อย่างใด
พระลูกวัด ที่อยู่กุฏิติดกัน ได้กล่าวว่า พระธนัทได้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ต้องเดินทางไปพบแพทย์อยู่เป็นประจำ ก่อนรุ่งเช้าได้มาเรียกฉันอาหาร แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้เปิดห้องเข้าไปก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุการเสียชีวิตมาจากโรคประจำตัว จึงนำศพส่งชันสูตรยังโรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งขอบคุณภาพข่าวจาก https://www.thairath.co.th/content/557505
|
|
|
11860
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ปีใหม่ไหว้สา “8 พระธาตุ” สิริมงคลคู่ 8 จังหวัดล้านนา
|
เมื่อ: มกราคม 02, 2016, 08:48:16 pm
|
ปีใหม่ไหว้สา “8 พระธาตุ” สิริมงคลคู่ 8 จังหวัดล้านนา วันเวลาเดินทางผ่านไปเร็วไม่น้อย ในที่สุดก็ถึงเวลาส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ส่งอดีตและความผิดพลาดที่ผ่านมาทิ้งไป เตรียมรอรับสิ่งดีๆ เรื่องดีๆ ในปีหน้าให้เข้ามาในชีวิต เพื่อเป็นการเริ่มต้นปีอย่างเป็นสิริมงคล พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่เลือกที่จะไปไหว้พระทำบุญกันในช่วงเวลานี้ ดังนั้นในวันนี้เราจึงนำเอา “8 พระธาตุใน 8 จังหวัดล้านนา” อันได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ พะเยา มาฝากกัน เผื่อว่าในช่วงต้นปีนี้ใครจะเดินทางไปเที่ยวในจังหวัดเหล่านี้จะได้เดินทางไปกราบไหว้เป็นสิริมงคลกันพระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ “พระธาตุดอยสุเทพ” ประดิษฐานอยู่ภายในวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตามคติความเชื่อล้านนาถือเป็นพระธาตุประจำปีนักษัตรปีมะแม (แพะ) องค์พระธาตุสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1929 ในสมัยพญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระมหาสุมนเถระนำมาจากเมืองศรีสัชนาลัย โดยเชื่อว่าหากมาสักการะและอธิษฐานขอพรพระธาตุดอยสุเทพ จะมีแต่ความสำเร็จสมปรารถนา แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวงไปได้พระบรมธาตุดอยตุง พระบรมธาตุดอยตุง จ.เชียงราย “พระบรมธาตุดอยตุง” เป็นปูชนียสถานสำคัญของเชียงราย ประดิษฐานอยู่บนยอดดอยตุง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ตำนานเล่าว่าในสมัยพระเจ้าอุชุตะราช รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์สิงหนวัต ผู้ครองนครโยนกนาคนคร เมื่อพ.ศ.1452 พระมหากัสสป ได้นำพระบรมสารีริกธาตุในส่วนของพระรากขวัญเบื้องซ้าย (ไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้ามาถวาย พระองค์จึงทรงสร้างพระสถูปขึ้น และต่อมาสมัยพระเจ้าเม็งรายมหาราช พระมหาวชิระโพธิเถระได้นำพระบรมสารีริกธาตุมาถวายพระองค์จึงทรงสร้างพระสถูปขึ้นอีกองค์หนึ่งให้เหมือนกับพระสถูปองค์เดิมทุกประการ ปัจจุบันจึงมีพระธาตุสององค์ตั้งคู่กันดังปรากฏอยู่ทุกวันนี้พระธาตุหริภุญไชย พระธาตุหริภุญไชย จ.ลำพูน “พระธาตุหริภุญชัย” ประดิษฐานอยู่ในวัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.ลำพูน ตามคติความเชื่อล้านนาถือเป็นพระธาตุประจำปีนักษัตรปีระกา (ไก่) ถือเป็นปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือที่อยู่คู่เมืองหริภุญไชยลำพูนมาอย่างยาวนาน สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอาทิตยราช เป็นเจดีย์ทรงล้านนา หุ้มแผ่นทองจังโกทั้งองค์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุคือธาตุกระหม่อม ธาตุกระดูกอก ธาตุกระดูกนิ้วมือ และธาตุย่อยอีกเต็มบาตร ก่อนจะเข้าสู่วัด หน้าวัดจะต้องผ่านซุ้มประตูโขงก่ออิฐถือปูน ประดับลายปูนปั้นที่อ่อนช้อยสวยงาม เป็นศิลปะทวารวดี เบื้องหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่สูง 3 เมตร คู่หนึ่งยืนสง่าบนแท่นสูง สวยงามเป็นอย่างมากพระธาตุลำปางหลวง พระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง “พระธาตุลำปางหลวง” ประดิษฐานอยู่ในวัดพระธาตุลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง ตามคติความเชื่อล้านนาถือเป็นพระธาตุประจำปีนักษัตรปีฉลู (วัว) วัดแห่งนี้เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปางมาแต่โบราณ ตามตำนานกล่าวว่ามีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 20 องค์พระธาตุเป็นเจดีย์กลมทรงระฆังคว่ำ ภายนอกบุด้วยทองจังโก ที่บริเวณยอดฉัตรทำด้วยทองคำ ภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระเกศาและพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า เป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทยพระธาตุดอยกองมู พระธาตุดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน “พระธาตุดอยกองมู” ประดิษฐานอยู่ในวัดพระธาตุดอยกองมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน อยู่บนยอดเขากลางเมืองแม่ฮ่องสอน และเป็นดังศูนย์รวมศรัทธาของคนเมืองแม่ฮ่องสอน องค์พระธาตุมี 2 องค์ด้วยกัน พระธาตุองค์ใหญ่ (องค์แรก) สร้างในปี 2403 โดยจองต่องสู่ ใช้เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระที่นำมาจากพม่า ส่วนพระธาตุองค์เล็ก (องค์หลัง) สร้างใน พ.ศ.2417 โดยพระยาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก ตรงมุมทั้งสี่ของฐานพระธาตุประดับด้วยสิงห์ปูนปั้น ส่วนที่ฐานประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวันเกิดพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน “พระธาตุแช่แห้ง” พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองน่าน ตั้งอยู่ที่วัดพระธาตุแช่แห้ง อ.ภูเพียง จ.น่าน ตามคติความเชื่อล้านนาถือเป็นพระธาตุประจำปีนักษัตรปีเถาะ (กระต่าย) องค์พระธาตุเป็นแบบล้านนาสีทองสุกปลั่ง พญาการเมืองโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1891 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มาจากกรุงสุโขทัย และบริเวณด้านข้างองค์พระธาตุยังเป็นที่ตั้งของวิหารหลวงที่ภายในประดิษฐาน “พระเจ้าล้านทอง” พระประธานที่มีพุทธลักษณะงดงามให้ได้สักการะเป็นสิริมงคลกันพระธาตุช่อแฮ พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่ “พระธาตุช่อแฮ” ประดิษฐานอยู่ในวัดพระธาตุช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่ ตามคติความเชื่อล้านนาถือเป็นพระธาตุประจำปีนักษัตรปีขาล(เสือ) ลักษณะองค์พระธาตุเป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองบุด้วยทองดอกบวบ สูง 33 เมตร ฐานสี่เหลี่ยม ศิลปะแบบเชียงแสน ภายในเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระศอกซ้ายและพระเกศาธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และประดับบูชาด้วยผ้าแพรอย่างดี โดยการมาสักการะบูชาองค์พระธาตุนั้นมักนิยมนำผ้าแพรเนื้อดีไปถวาย เชื่อว่าจะทำให้มีชีวิตผาสุก มีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน และมีพลังคุ้มครองป้องกันศัตรูได้พระธาตุจอมทอง พระธาตุจอมทอง จ.พะเยา “พระธาตุจอมทอง” ประดิษฐานอยู่ในวัดพระธาตุจอมทอง อ.เมือง จ.พะเยา เป็นปูชนียสถานโบราณคู่เมืองพะเยา องค์พระธาตุไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าสร้างขึ้นในสมัยใด องค์พระธาตุมีลักษณะเป็นศิลปะแบบล้านนา ลักษณะคล้ายพระธาตุหริภุญชัยของลำพูน ฐานย่อมี 8 เหลี่ยม ด้านบนเป็นมาลัยเถา 3 ชั้น ต่อชั้นขึ้นไปเป็นหอระฆังและมีปล้องไฉนจนถึงฉัตรทองคำ ได้รับการบูรณะหลายครั้งจนอยู่ในสภาพดี และในวัดยังมีพระพุทธรูปศิลา ซึ่งเป็นพระเจ้าทันใจ พระอุโบสถและพระวิหาร ซึ่งมีความเก่าแก่เช่นเดียวกัน ขอบคุณภาพและบทความจาก http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000141605
|
|
|
11864
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ลดกระแสต้าน 'ธรรมกาย' ปรับแผนเดินธุดงค์ จัดในวัดแทน
|
เมื่อ: มกราคม 02, 2016, 08:21:11 pm
|
ลดกระแสต้าน 'ธรรมกาย' ปรับแผนเดินธุดงค์ จัดในวัดแทน วัดพระธรรมกาย จัดเดินธุดงค์ธรรมยาตรา ปีที่ 5 เป็นเวลา 30 วัน ภายในบริเวณวัด หลังมีกลุ่มและเครือข่ายไม่เห็นด้วย ที่มีการเดินธุดงค์บนท้องถนน ทั้งนี้ยังมีกิจกรรมพัฒนาชุมชนในละแวกวัด เพื่อทำนุบำรุงศาสนา...
เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 59 ที่วัดพระธรรมกาย อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จัดโครงการ “ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน 7 แห่ง” ปีที่ 5 โดยมี พระสงฆ์จำนวน 1,131 รูป เดินธุดงค์เป็นขบวนภายในบริเวณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ พร้อมกับมีประชาชน นักเรียน นักศึกษา โปรยดอกดาวเรือง ตามเส้นทางที่พระสงฆ์เดิน และมีกิจกรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ ฟังธรรม ตักบาตร
พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย กล่าวว่า โครงการนี้ก็คือโครงการธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน 7 แห่ง” ปีที่ 5 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2559 รวมระยะเวลา 30 วัน ซึ่งทั้งจังหวัดสุพรรณบุรี นนทบุรี นครปฐม กิจกรรมในปีนี้ ปรับรูปแบบจะไม่เดินตามท้องถนน แต่จัดในพื้นที่อนุสรณ์สถานแห่งของหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี ก็จะมีพระเดินธรรมยาตรา ในพื้นที่ของแต่ละแห่ง สวดมนต์บทธัมมจักกัปปวัตตนสูตร และเจริญชัยมงคลคาถา เพื่อความเป็นสิริมงคลต้อนรับปีใหม่ 2559นอกจากนี้ก็พัฒนาวัดในชุมชนในละแวกบ้านแถวนั้น เพราะที่ผ่านมา เราก็เดินในพื้นที่ต่างๆ แล้วก็ไปพักตามจุดต่างๆ ว่ายังไม่ค่อยมีเวลาพัฒนาวัด พัฒนาชุมชนให้ความสะอาด แล้วก็ให้ญาติโยมมาปฏิบัติธรรม โดยแต่ละจุดก็จะใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน เพื่อให้ได้มาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาวัดในชุมชน และจากนั้นก็จะเดินไปตามจุดต่างๆ ครบ 30 วัน หนึ่งเดือนในปี 2559 ทั้งเดือนมกราคม การเดินธรรมยาตราในพื้นที่อนุสรณ์สถานแห่งความว่างเปล่า สมควรที่ญาติโยมสามารถมาต้อนรับได้
ทางด้าน นายคิว อรุโณรส ผู้ประสานงานพุทธศาสนิกชนคนปทุมธานี ได้กล่าวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทางกลุ่มพุทธศาสนิกชนคนปทุมธานี และเครือข่ายสตรีปกป้องพระพุทธศาสนา ยังคงมีการติดตามกิจกรรมของวัดพระธรรมกาย ที่เดิมจะมีการเดินธุดงค์ธรรมชัยตามท้องถนน มาปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นโครงการ “ธรรมยาตรา กตัญญูบูชา มหาปูชนียาจารย์ พระผู้ปราบมาร อนุสรณ์สถาน 7 แห่ง” ปีที่ 5 ก็ไม่เป็นอะไรและไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร แต่ถ้ามีการเดินธุดงค์มาตามท้องถนน กลุ่มพวกเราก็จะออกมานั่งสวดมนต์เช่นกันขอบคุณภาพข่าวจาก https://www.thairath.co.th/content/557169
|
|
|
11866
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / คนเกิด 4 ปีชง นับหมื่นแห่เข้าวัดห้วยใหญ่ เข้าพิธีสะเดาะเคราะห์บังสุกุลเป็น-ตาย
|
เมื่อ: มกราคม 01, 2016, 10:51:34 pm
|
คนเกิด 4 ปีชง นับหมื่นแห่เข้าวัดห้วยใหญ่ เข้าพิธีสะเดาะเคราะห์บังสุกุลเป็น-ตาย เสริมดวงชะตา วันนี้ (1 ม.ค.59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันขึ้นปีใหม่ได้มีประชาชนทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่เกิดในปีชงนับหมื่นคน หลั่งไหลเดินทางเข้ามากราบสักการะอาจารย์ก้าน เกจิชื่อดังแห่งภาคตะวันออก อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยใหญ่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมนำเครื่องสังฆทาน ผ้าไตรจีวร และพระพุทธรูปมาถวายแด่พระสงฆ์ และเข้าร่วมพิธีสวดสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตาบังสุกุลเป็น-บังสุกุลตาย และรับน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อเสริมดวงชะตา และความเป็นสิริมงคล ในช่วงปีใหม่ที่หลุดพ้นจากปีมะแม ก้าวเข้าสู่ปีวอก
พระอธิการสราวุธ จิตปัญโญ เจ้าอาวาสวัดห้วยใหญ่ เปิดเผยว่า พิธีสวดสะเดาะเคราะห์ เสริมดวง ต่อดวงชะตา บังสุกุลเป็น-ตาย ทางวัดได้กระทำพิธีดังกล่าว สืบทอดมาเป็นเวลาช้านาน ตั้งแต่สมัยหลวงพ่อก้าน หรือพระครูภัทรกิจวิบูล อดีตเจ้าอาวาส ที่ได้มรณภาพไปแล้ว แต่สังขารไม่เน่าไม่เปื่อยบรรจุอยู่ในโรงแก้วบนศาลาไม้หลังเก่าที่ท่านเคยจำวัด จึงได้สานเจตนารมณ์ของท่าน ประกอบพิธีสวดสะเดาะเคราะห์บังสุกุลเป็น-ตาย เสริมดวงชะตาตามความเชื่อ ให้กับญาติโยมที่มาร่วมทำบุญทุกวัน ซึ่งตั้งแต่ช่วงท้ายปี 2558 เป็นต้นมา จนก้าวขึ้นสู่ปีใหม่ มีญาติโยมนับหมื่นเดินทางเข้ามาร่วมพิธีสวดสะเดาะเคราะห์บังสกุลเป็น-ตาย ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนเกิด 4 ปีชง ที่ต้องการเสริมดวงชะตา ผ่อนเคราะห์จากหนักให้เป็นเบา ตามความเชื่อโบราณ
สำหรับ ปีชง 2559 การเริ่มต้นเข้าสู่ ปีชงปีวอก นับตั้งแต่วันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน หรือ วันตรุษจีน 2559 (ตรงกับวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2559) มันเริ่มที่จะส่งผลกระทบต่อดวงปี 2559 ของคนที่มีปีเกิดตรงกับ ปีชง 2559 และคนที่ถือว่ามีดวงเป็นคน "ปีชง" ได้แก่ คนที่เกิดใน ปีขาล ซึ่งถือว่า "ชง 100%" เรียกได้ว่า โดนหนักสุด ๆ ได้แก่คนที่เกิดปี พ.ศ. 2469, 2481, 2493, 2505, 2517, 2529, 2541, 2553 ส่วนคนที่เกิด ปีวอก, ปีมะเส็ง, ปีกุน ถือว่าเป็นปีร่วมชง ได้แก่ คนที่เกิด พ.ศ. 2460, 2463, 2466, 2472, 2475, 2478, 2484, 2487, 2490, 2496, 2499, 2502, 2508, 2511, 2514, 2520, 2523, 2526, 2532, 2535, 2538, 2544, 2547, 2550, 2556ตามตำราจีนบอกถึงวิธีแก้ชงได้ ด้วยการทำบุญกุศล ด้วยการบริจาค เครื่องเวชภัณฑ์ ยารักษาโรค บริจาคเงินสร้างโรงพยาบาล เพื่อให้เกิดมงคลทางด้านสุขภาพ และทำการสะเดาะเคราะห์ เมื่อไปทำบุญที่วัด ปล่อยปลาหมอ 9 ตัว เต่า 1 คู่ เพื่อเป็นการถ่ายเทพลังร้ายออกจากตัวเอง และครอบครัว หรือให้ถวายสังฆทานยา ก็จะสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.banmuang.co.th/news/region/36053http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000000170
|
|
|
11867
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / นักท่องเที่ยวนับหมื่นแห่ชมพระธาตุผาซ่อนแก้วเขาค้อ ขอพรพระเจ้าห้าพระองค์รับปีใหม่
|
เมื่อ: มกราคม 01, 2016, 10:44:59 pm
|
นักท่องเที่ยวนับหมื่นแห่ชมพระธาตุผาซ่อนแก้วเขาค้อ ขอพรพระเจ้าห้าพระองค์รับปีใหม่
เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศหลั่งไหล ไปชมพระธาตุผาซ่อนแก้วเขาค้อ ที่ตั้งอยู่ หมู่ 7 บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ท่ามกลางอากาศที่กำลังเย็นสบาย ประกอบกับเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำให้หลายคนมากราบสักการะขอพรพระเจ้าห้าพระองค์เพื่อให้มีความโชคดีในปี 2559
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เขาค้อ ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 60 ปี โดยวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว จ.เพชรบูรณ์ เป็นพระเจดีย์มีรูปทรงวิจิตรงดงาม เป็นดอกบัวที่ซ้อนกัน 7 ชั้น ประดับด้วยกระเบื้องสีสันสดใส ถ้วยชามเบญจรงค์ มุก ลูกปัด แก้ว แหวน เงินทอง สิ่งมีค่าและเซรามิคหลากสีสัน เป็นสถานที่อันสวยงามและศักดิ์สิทธิ์ควรค่าแก่การไปเยือน
นอกจากนี้ ยังเป็นที่ประดิษฐานของ “พระพุทธเจ้า 5 พระองค์” พระพุทธรูปสีขาวซ้อนกัน 5 องค์ มีความใหญ่โตโอ่อ่า ทำให้เกิดภาพอันงดงามแบบหาที่ไหนไม่ได้ ด้วยทัศนียภาพรอบด้านเต็มไปด้วยขุนเขาและเมฆหมอกขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1451659663
|
|
|
11868
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / “เจ้าคุณวีรยุทธ” นำสวดมนต์ข้ามปี 2 แผ่นดิน ณ วัดไทยพุทธคยา
|
เมื่อ: มกราคม 01, 2016, 10:41:42 pm
|
“เจ้าคุณวีรยุทธ” นำสวดมนต์ข้ามปี 2 แผ่นดิน ณ วัดไทยพุทธคยา พระเทพโพธิวิเทศ (วีรยุทฺโธ) หัวหน้าพระธรรมทูตไทย สายอินเดีย-เนปาล เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย ในฐานะประธานนำสวดมนต์ข้ามปี ณ อุโบสถวัดไทยพุทธคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย เปิดเผยว่า การสวดเจริญพระพุทธมนต์และสวดมนต์ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร หรือสวดมนต์ข้ามปีสองแผ่นดิน จากพุทธภูมิสู่สุวรรณภูมิ มีพระธุดงค์ตามโครงการเดินตามรอยบาทพระศาสดา รุ่นที่ 3 จำนวน 120 รูป และพระสงฆ์จากวัดต่างๆ อีก 40 รูป ร่วมกันสวดมนต์ข้ามปี ตามเวลาท้องถิ่น 22.00-24.00 น. โดยเมื่อสิ้นเสียงสวดมนต์แล้ว หลวงพ่อไพโรจน์ ยานพลโพธิ ได้ประพรมน้ำพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลใก้แก่พุทธศาสนิกชนที่ร่วมพิธี จากนั้นได้ร่วมกันจุดเทียนเพื่อเพิ่มแสงสว่างนำพาชีวิตและครอบครัวให้ได้รับความสุขความเจริญรุ่งเรืองตลอดปีใหม่
"เพื่อเป็นเครื่องช่วยเตือนสติแก่พุทธศาสนิกชนที่ได้เดินทางมาร่วมสวดมนต์ข้ามปีถึงดินแดนพุทธภูมิ จึงขอให้เป็นผู้มีชีวิตใหม่ เป็นคนใหม่ ให้ได้รับแต่สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต" พระเทพโพธิวิเทศกล่าวขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1451641465
|
|
|
11875
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / วธ.-ขสมก. จัด "ไหว้พระ 9 วัด" สืบสิริสวัสดิ์ 9 รัชกาล พร้อมจัดรถปรับอากาศ 16 คัน
|
เมื่อ: มกราคม 01, 2016, 09:47:49 am
|
วธ.-ขสมก. จัด "ไหว้พระ 9 วัด" สืบสิริสวัสดิ์ 9 รัชกาล พร้อมจัดรถปรับอากาศ 16 คัน รับส่งฟรี ไหว้พระปีใหม่ 31 ธ.ค. – 3 ม.ค. เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวเป็นประธานเปิดกิจกรรมไหว้พระ 9 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 9 รัชกาล สืบสาน วิถีถิ่น วิถีไทย ของขวัญปีใหม่จากรัฐบาลไทย นำความเป็นไทยสู่ใจประชาชน พ.ศ. 2559 ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางแสวงบุญในมิติทางศาสนาว่า วธ. โดยกรมการศาสนา (ศน.) ได้ร่วมกับองค์กรเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความกตัญญูกตเวทิตาธรรมต่อบุรพมหากษัตริย์แห่งบรมราชจักรีวงศ์ที่ทรงเลื่อมใสและอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา เกิดความภาคภูมิใจในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม–3 มกราคม 2559 ณ วัดประจำรัชกาล 9 วัด ได้แก่
รัชกาลที่ 1 วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร รัชกาลที่ 2 วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร รัชกาลที่ 3 วัดราชโอรสาราม รัชกาลที่ 4 วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม รัชกาลที่ 5 วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม รัชกาลที่ 6 วัดบวรนิเวศวิหาร รัชกาลที่ 7 วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม รัชกาลที่ 8 วัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหาร และรัชกาลที่ 9 วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก นายวีระกล่าวต่อว่า การไหว้พระ 9 วัด เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงธรรมะให้กับพุทธศาสนิกชนชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่ถือว่าเป็นมงคลที่ต้องกระทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อสร้างบุญบารมี ให้ชีวิตและครอบครัว ให้ประสบความสุข ความเจริญรุ่งเรืองในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ซึ่ง วธ. มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความเลื่อมใสศรัทธานี้โดยให้ประชาชนได้เข้าวัดใกล้ชิดพระพุทธศาสนา ได้ไปสักการะขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำบุญตักบาตร ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ ฟังพระธรรมเทศนา สืบสานวิถีพุทธ เรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตชุมชน กระตุ้นให้เกิดความรัก ความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาโดยให้รู้จักใช้หลักธรรมมาเป็นรากฐานสำคัญของชีวิต นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้ชมทัศนียภาพสถาปัตยกรรม ศิลปกรรมที่ช่างศิลป์บรรจงสร้างอย่างประณีต สวยงามมีคุณค่า เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา"วธ. ได้ขอความร่วมมือกับ ขสมก. ให้บริการรถโดยสาร รับ- ส่งบริการพุทธศาสนิกชนที่ไปไหว้พระตามวัดเป้าหมาย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งวิ่งรับ-ส่ง ผ่านหน้าวัดทุกๆ 30 นาที ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. จำนวน 16 คัน พร้อมกันนี้จะมีจิตอาสาทำหน้าที่ต้อนรับ ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่พุทธศาสนิกชนที่ไปไหว้พระในแต่ละวัดและแนะนำสถานที่สำคัญของวัด
สอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์ประสานงานกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี 2559 ณ ห้องประชุมกรมการศาสนา ชั้น 16 โทร.0-2446-8182 และ 09-2446-8739, 09-2446-8038 ตลอด 24 ชั่วโมง" นายวีระกล่าว ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1451546666
|
|
|
11876
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ตะลึง.! พบพุทธรูปสำริดอายุ 500 ปี ซ่อนอยู่ในพุทธรูปปูนเก่าแก่ เมืองสุโขทัย
|
เมื่อ: มกราคม 01, 2016, 09:14:32 am
|
ตะลึง.! พบพุทธรูปสำริดอายุ 500 ปี ซ่อนอยู่ในพุทธรูปปูนเก่าแก่ เมืองสุโขทัย เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.วัดตระพังทอง ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย มีการพบพระพุทธรูปสำริดเก่าแก่กว่า 500 ปี ซ่อนอยู่ในองค์พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 30 นิ้ว สูง 38 นิ้ว ลักษณะอ่อนช้อยงดงามตามแบบสุโขทัย สร้างความตื่นเต้นดีใจแก่ชาวบ้านที่ทราบข่าวอย่างมาก
พระมหาดำรงค์ สนฺตจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดตระพังทอง เปิดเผยว่า พระพุทธรูปสำริดองค์ดังกล่าวทางคณะกรรมการวัดเจอโดยบังเอิญ ขณะกำลังช่วยกันเตรียมงานสวดมนต์ข้ามปี แล้วสังเกตเห็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ที่ประดิษฐานอยู่ในหอสวดมนต์ 700 ปี มีรอยแตกร้าวหลายแห่ง และที่ด้านหลังมีรอยแตกกะเทาะจนเห็นเนื้อในเป็นสำริด เมื่อแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้องมาตรวจสอบ ก็พบว่าภายในองค์พระพุทธรูปปูนปั้นนี้ เป็นพระพุทธรูปสำริดโบราณช่วงพุทธศตวรรษที่ 19 อายุเก่าแก่กว่า 500 ปี จึงเตรียมที่จะบูรณะซ่อมแซม เพื่อนำไปประดิษฐานที่โบสถ์เก่า บริเวณเกาะกลางน้ำวัดตระพังทอง ให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชาต่อไป
ทั้งนี้ วัดตระพังทองเป็นวัดที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าลิไท เมื่อปี พ.ศ. 1903 และเป็นสถานที่เก็บรวบรวมพระพุทธรูป และศิลปวัตถุโบราณ มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ต่อมาพระราชประสิทธิคุณ (ทิม ยสทินฺโน) อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัยได้บูรณะวัดตระพังทองเมื่อปี พ.ศ. 2470 เพื่อใช้เป็นสถานที่รวบรวมวัตถุโบราณ ก่อนจะส่งไปซ่อมแซม หรือเก็บรักษายังที่ปลอดภัยต่อไปขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1451570928
|
|
|
11877
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ประชาชนแห่กราบพระขอพร"พระพุทธชินราช" เป็นสิริมงคลวันส่งท้ายปีเก่า
|
เมื่อ: มกราคม 01, 2016, 09:10:37 am
|
ประชาชนแห่กราบพระขอพร"พระพุทธชินราช" เป็นสิริมงคลวันส่งท้ายปีเก่า เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่เมืองพิษณุโลก มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ากราบขอพรพระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย โดยตลอดทั้งวันประชาชนจะเดินทางนำดอกไม้ธูปเทียน และแผ่นทองคำเปลว มากราบไหว้พระพุทธชินราชองค์จำลองที่อยู่ด้านหน้าวิหาร ก่อนจะเข้าไปกราบนมัสการองค์จริงที่อยู่ภายในวิหาร โดยพระพุทธชินราช ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิษณุโลก เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันส่งท้ายปีเก่า รับปีใหม่ นอกจากนี้ประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมทำบุญตักบาตรพระประจำวัน ถวายสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งวันนี้มีประชาชนเริ่มทยอยเดินทางมาเป็นจำนวนมาก และคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นอีกโดยเฉพาะในช่วงวันส่งท้ายปีเก่า และต้อนรับปีใหม่ โดยจะร่วมสวดพระพุทธมนต์ข้ามปี ตั้งแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 31 ธันวาคม 2558 จนข้ามไปสู่วันใหม่ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1451547835
|
|
|
11878
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / วัดอรุณฯ แจง ′ภาพเลเซอร์องค์พระปรางค์′ แค่การซ้อม หลังโดนวิจารณ์ยับไม่เหมาะสม
|
เมื่อ: มกราคม 01, 2016, 09:05:25 am
|
วัดอรุณฯ แจง ′ภาพเลเซอร์องค์พระปรางค์′ แค่การซ้อม หลังโดนวิจารณ์ยับไม่เหมาะสม เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พระศากยปุติยวงศ์(ต่อศักดิ์ สุนฺทรวาที) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การจัดงานเคาต์ดาวน์วัดอรุณฯ โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ยิงแสงไฟและแสงเลเซอร์ไปที่พระปรางค์วัดอรุณฯ โดยมีบางภาพดูแล้วไม่เหมาะสม อาทิ ภาพตัวเลขอาราบิก ภาพสีฉูดฉาด เป็นต้น ซึ่งไม่เหมาะกับโบราณสถานที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมา ว่า
ภาพที่ปรากฏเป็นเพียงการทดสอบโฟกัสระบบแสงสีซึ่งยังไม่ผ่านการพิจารณาจากทางวัดอรุณฯ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงาน อย่างไรก็ตามในการซ้อมยิงแสงไฟและแสงเลเซอร์ 3 ครั้งที่ผ่านมา ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานได้หารือกัน เพื่อตัดบางภาพที่ไม่เหมาะสมออกไปแล้ว รวมถึงภาพที่ได้รับการวิจารณ์ด้วย
อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์ เพราะเหมือนเป็นกระจก 6 ด้าน ที่นำมาแก้ไขในส่วนที่ไม่เหมาะไม่ควร แต่การจัดงานครั้งนี้ได้เน้นส่งเสริมวิถีไทยและวิถีพุทธ เพื่อนำไปสู่สังคมโลก แม้จะมีการกระทบกระทั่งทางด้านความคิดกันบ้าง แต่เป็นเพียงส่วนน้อย อยากให้มองสิ่งที่ได้กลับมาสู่ประเทศไทยมากกว่า ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1451550204
|
|
|
11879
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ไหม้กุฏิวัดกัลยาณ์ ′ชาวบ้าน-ชายฉกรรจ์′หวิดวางมวย ฮือล้อมกุฏิเจ้าอาวาส
|
เมื่อ: มกราคม 01, 2016, 09:01:26 am
|
ไหม้กุฏิวัดกัลยาณ์ ′ชาวบ้าน-ชายฉกรรจ์′หวิดวางมวย ฮือล้อมกุฏิเจ้าอาวาส เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 ธันวาคม ร.ต.ท.วริทธิ์ธร อ่อนคล้าย พนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้กุฏิพระ ในวัดกัลยาวรมหาวิหาร แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี รุดไป พร้อม พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.น.8 พ.ต.อ.ณัฐพัฒน์ ผดุงจันทน์ ผกก.สน.บุปผาราม พ.ต.ท.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว สว.สส. ชุดประสานงานประจำพื้นที่ ป.พัน.19 พล.ร.9 และรถดับเพลิง 4 คัน
ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้กุฏิปูนชั้นเดียวหลังคากระเบื้องอายุ 100 กว่าปี อยู่ในคณะ 2 ถูกปล่อยรกร้าง เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพลิงจึงสงบ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอยู่นั้นมีชาวบ้านชุมชนวัดกัลยาณ์กว่า 200 คน เข้ามาช่วยดับเพลิง แต่กลับถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ขัดขวางพร้อมกับชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่และทำร้ายชาวบ้าน จากนั้นชาวบ้านจึงพากันมาปิดล้อมกุฏิเจ้าอาวาส รวมทั้งมีการต่อว่าสาปแช่งกลุ่มชายฉกรรจ์สอบสวน จ.ส.อ.สมเกียรติ ศุภกิจ อายุ 47 ปี นายสิบการข่าว สังกัดกองทัพบก กล่าวว่า อาศัยอยู่ในชุมชนวัดกัลยาณ์ ช่วงเช้าได้ยินเสียงรถดับเพลิงเปิดไซเรนเข้ามาในวัดหลายคันตนพร้อมกับชาวบ้านจึงพากันออกมาดู ระหว่างนั้นเห็นเพลิงกำลังลุกไหม้กุฏิดังกล่าว พวกตนจึงพยายามเข้าไปช่วยดับเพลิง เป็นช่วงที่ชุลมุนมาก จากนั้นชายศีรษะโล้นเป็นการ์ดของเจ้าอาวาสเดินเข้ามาหาตนและชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่และกระชากคอเสื้อ บอกว่าตนวิ่งไปชน ก่อนถูกชายอีกคนเป็นการ์ดของเจ้าอาวาสวิ่งมาชกใบหน้าอย่างจัง ก่อนที่ทั้ง 2 คน วิ่งหลบหนีเข้าไปในรั้วกุฏิเจ้าอาวาส ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์จึงเกิดความไม่พอใจเข้าล้อมกุฏิเจ้าอาวาส
“ผมจำหน้า 1 ใน 2 คนที่เป็นการ์ดของเจ้าอาวาสได้อย่างแม่นยำ ชายศีรษะโล้นที่เข้ามาทำร้ายเป็นตำรวจ แต่ผมไม่ทราบว่าอยู่สังกัดไหน” จ.ส.อ.สมเกียรติกล่าวพ.ต.อ.ณัฐพัฒน์กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้เชิญผู้เห็นเหตุการณ์และถูกทำร้ายร่างกายมาสอบปากคำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้ใด ต้องรอสอบปากคำอย่างละเอียด ส่วนสาเหตุต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบส่วนเรื่องผู้เสียหายกล่าวหาว่าการ์ดของเจ้าอาวาสเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นจะตรวจสอบอีกครั้ง
ข่าวแจ้งว่าจากการสอบถามชาวบ้านหลายคนสงสัยว่าสาเหตุเพลิงไหม้มาจากวางเพลิงขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1451543341
|
|
|
11880
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / นครพนม-อุดรฯ ปชช.พี่น้องไทย-ลาว แห่ร่วมสวดมนต์ข้ามปีกว่าแสนคน
|
เมื่อ: มกราคม 01, 2016, 08:55:21 am
|
นครพนม-อุดรฯ ปชช.พี่น้องไทย-ลาว แห่ร่วมสวดมนต์ข้ามปีกว่าแสนคน ไทย-ลาว แห่สวดมนต์ข้ามปี วัดพระธาตุพนม สร้างสิริมงคล ท่ามกลางลมหนาว ด้าน จ.อุดรธานี ปชช.ร่วมสวดมนต์ข้ามปี 283 วัด กว่า 1 แสนคนร่วมงาน จนรุ่งเช้าเข้าวันใหม่ 1 ม.ค. 2559 เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 31 ธันวาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ จ.นครพนม วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ที่ตั้งองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ภายในบรรจุพระอุรังคะธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า ได้มีประชาชน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย ชาวลาว และชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาร่วมพิธีสวดมนต์ข้ามปี โดยมีพระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เป็นประธานสงฆ์ นำประกอบพิธีสวดมนต์เจริญภาวนา เพื่อเป็นสิริมงคลในคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์สำคัญ ที่มีประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางมาร่วมพิธีจำนวนมากกว่า 1,000 คน
อีกทั้งร่วมกันตั้งจิตอธิษฐานขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รวมถึงการสร้างจิตสำนึกให้พุทธศาสนิกชน ตั้งมั่นในการทำความดี รวมถึงน้อมนำเอาแนวคิดตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ที่จะส่งผลให้เกิดความสงบร่มเย็น ความเจริญก้าวหน้าของชีวิต และความร่มเย็นเป็นสุขทั้งต่อตนเอง ต่อสังคม และประเทศชาติ โดยจะมีการสวดมนต์เจริญภาวนาไปถึงรุ่งเช้า และร่วมกันทำบุญตักบาตร ต้อนรับปีพุทธศักราชใหม่ ซึ่งสภาพอากาศวันนี้ค่อนข้างหนาวเย็น แต่ยังมีประชาชน นักท่องเที่ยว มีจิตศรัทธา ตั้งใจมาร่วมพิธีจำนวนมากอุดรธานี ขณะที่ ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ที่ลานรอบพระบรมธาตุธรรมเจดีย์ วัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวง เขตเทศบาลนครอุดรธานี นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ประธานฝ่ายสงฆ์ พระราชวราลังการ เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี (ธ) ประธานฝ่ายสงฆ์ มีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชนชาวจังหวัดอุดรธานี ร่วมสวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2559 โดยวัดได้แจกหนังสือ “สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดีตลอดไป” ที่ระลึกครบรอบอายุวัฒนะมงคล 104 ปี พระอุดมญาณโมลี หรือหลวงปู่จันศรี จันททีโป (ธ) เจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์คณะสงฆ์ร่วมจัดกิจกรรม สวดมนต์ข้ามปี 2559 เพื่อความเป็นสิริมงคลของเหล่าพุทธศาสนิกชน บรรยากาศภายในวัด เป็นไปด้วยความสงบ ประชาชนชาวอุดรธานีทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ คนชรา ที่มาร่วมงานได้พร้อมใจสวมชุดสีขาวทยอยเดินทางมาจับจองที่นั่ง ตั้งแต่เวลา 18.00 น. โดยรอบบรมธาตุธรรมเจดีย์ ที่เก็บพระบรมสารีริกธาตุพระธรรมคำสอน พระธาตุอรหันตสาวก รูปเหมือนและอัฐิธาตุพระบูรพาจารย์สายหลวงปู่มั่นภูริทัตโต มีการประดับด้วยแสงไฟอย่างสวยงาม และได้โยงสายสิญจน์จากพระประธาน ในบรมธาจุธรรมเจดีย์ไปที่ประธานฝ่ายสงฆ์ ประธานฝ่ายฆารวาส และแผ่ขยายไปถึงประชาชนทุกคนที่มาร่วมงาน ซึ่งมีประมาณ 5,000 คนประชาชน จำนวนมาก นุ่งขาวห่มขาว สวดมนต์ข้ามปี ณ ลานรอบพระบรมธาตุธรรมเจดีย์ วัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวง เขตเทศบาลนครอุดรธานี นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า เนื่องในวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2559 จ.อุดรธานี ได้ประสานไปยังทุกอำเภอ ให้วัดที่มีความพร้อมในการจัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี ในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 - 1 มกราคม 2559 เพื่อเป็นสิริมงคล ปรากฏว่ามีวัดใน จ.อุดรธานี จัดงานสวดมนต์ข้ามปี 283 วัด จะมีประชาชนเข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปี ประมาณ 1 แสนคน ทั้งนี้ วัดโพธิสมภรณ์ และวัดมัฌชิมาวาส เขตเทศบาลนครอุดรธานี จัดสวดมนต์ข้ามปี ตั้งแต่เวลา 08.00 น. วันที่ 31 ธันวาคม 2558 – เวลา 06.00 น. วันที่ 1 มกราคม 2559 เสร็จแล้ว ร่วมกันตักบาตรในวันขึ้นปีใหม่ เพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตและครอบครัวประชาชนคับคั่ง ร่วมสวดมนต์ข้ามปีเพื่อความเป็นสิริมงคล ขอบคุณภาพข่าวจาก https://www.thairath.co.th/content/556737
|
|
|
|