ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ผู้ตรวจการแผ่นดินลงพื้นที่ทวงคืนผืนป่าวัดภูงาม  (อ่าน 536 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ผู้ตรวจการแผ่นดินลงพื้นที่ทวงคืนผืนป่าวัดภูงาม

จากกรณีที่พระอธิการโกวิญ กันตธัมโม หรือหลวงตาน้อย เจ้าอาวาสวัดภูงาม ต.ชัยพร อ.เมือง จ.บึงกาฬ ได้ร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตัดโค่นต้นยางพาราที่มีการปลูกต้นไม้ป่าอื่นๆแซมเอาไว้ ซึ่งปลูกมาได้ 30 ปีจนเป็นป่าทึบ และต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังกว่า 200 นายจะเข้าไปตัดต้นยางพาราเพื่อยึดคืนผืนป่าตามนโยบายรัฐบาล หลวงตาน้อยพร้อมญาติโยมไม่ยอม โดยได้นำรถไถนาและรถยนต์เข้าปิดล้อมเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ตัดโค่นต้นยางจนต้องยกเลิกแผนการล่าถอยออกจากป่าไปตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ศาสตราจารย์ศรีราชา เจริญพานิช ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะ ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องร้องเรียน กรณีวัดภูงามใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเพื่อประกอบธุรกิจแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้อง จากนั้นได้นำข้อมูลมาหารือในที่ประชุมร่วมกับฝ่ายความมั่นคง หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โดยมีพระอธิการโกวิญ กันตธัมโม หรือหลวงตาน้อย เจ้าอาวาสวัดภูงาม พร้อมลูกศิษย์และประชาชนในพื้นที่ราว 30 คน ร่วมหารือด้วยที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ โดยได้ขอร้องให้เชื่อมั่นในฐานะคนกลางที่อยากเห็นภาพความปรองดอง อยากให้เรื่องนี้ยุติและมีทางออก

ดังนั้น จึงควรมีข้อสรุปและหลักเกณฑ์ที่ทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับกันได้ในที่ประชุมมีข้อตกลงร่วมกันว่าที่ดินที่เป็นที่ตั้งวัดภูงามและสภาพโดยรอบเนื้อที่ประมาณ 107 ไร่ อยู่ในโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ร่วมกับพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ


 :91: :91: :91: :91:

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.36 นั้น ได้ขอเป็นพุทธอุทยานทางราชการจะไม่เข้าไปดำเนินการใดๆ ปล่อยให้เป็นความรับผิดชอบในการบริหารจัดการของวัดภูงาม แต่แปลงที่ 2 และแปลงที่ 3 เป็นบริเวณพื้นที่ปลูกยางพารา ซึ่งไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้และไม่ได้อยู่ในพื้นที่โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ร่วมกับพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ รวมเนื้อที่ 294 ไร่ ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดดำเนินคดีโดยไม่พบตัวผู้กระทำความผิด และแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ เมื่อวันที่ 7 พ.ค.58

โดยพระอธิการโกวิญ กันตธัมโม หรือหลวงตาน้อย เจ้าอาวาสวัดภูงาม ได้ขอในที่ประชุมว่า “เป็นไปได้ไหมที่ทางจังหวัดจะให้ทางวัดเข้าไปดำเนินการดูแลป่า เพราะทั้ง 3 แปลง ชาวบ้านปลูกยางสลับกับไม้ป่าอยู่แล้ว”

 :25: :25: :25: :25:

ขณะที่นายชัยธวัช เนียมศิริ รอง ผวจ.บึงกาฬ กล่าวว่า ต้องดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและ คสช.เพื่อทวงคืนผืนป่าให้ประชาชน และจะเข้าไปดำเนินการตัดโค่นไม้ยางพาราในป่าแปลงที่ 2 และแปลงที่ 3 ซึ่งเป็นป่าอนุรักษ์โซน C โดยยินดีที่จะให้ทางวัดและชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมหลังจากที่มีการโค่นยางพาราในป่าทั้ง 2 แปลงไปแล้ว และจะจัดหาพันธุ์ไม้ให้ทางวัดและชาวบ้านปลูกป่าทดแทน การดำเนินการใดๆจะแจ้งให้ทางวัดทราบก่อนล่วงหน้า ขอให้ทางวัดเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และฝ่ายความมั่นคง เนื่องจากการปฏิบัติงานของทุกฝ่ายเป็นการบูรณาการโดยยึดหลักการและนโยบายของรัฐบาลเป็นสำคัญ หากจังหวัดได้รับความร่วมมือจากวัดภูงามและชาวบ้านก็จะทำให้เรื่องนี้มีทางออกอย่างเหมาะสมที่สุด.

ขอบคุณภาพข่าวจาก
https://www.thairath.co.th/content/549697
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ