พระปัจเจกพุทธเจ้า : พระพุทธเจ้าผู้สอนให้สาวกเข้าสู่พระนิพพานไม่ได้โลกไม่เคยขาดช่วงของผู้บรรลุธรรมด้วยอริยสัจ 4 หากไม่มีการอุบัติขึ้นของพระอนุตรสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าอีกประเภทจะอุบัติขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นว่า การบรรลุธรรมด้วยความจริง 4 ประการมีอยู่จริง นั่นคือ พระปัจเจกพุทธเจ้า
@@@@@@
ลักษณะของพระปัจเจกพุทธเจ้า
พระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นพระพุทธเจ้าประเภทหนึ่งที่ตรัสรู้อริยสัจ 4 ด้วยตนเอง ปรมัตถโชติกา อรรถกถาสุตตนิบาตอธิบายลักษณะพระปัจเจกพุทธเจ้าไว้ว่า การเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้านั้นคล้ายกับ คนใบ้ที่ฝัน คนใบ้สามารถฝันได้แต่ไม่สามารถบอกเล่า หรือพรรณาความฝันของตนได้ พระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นผู้บรรลุอริยสัจ 4 จริงจนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าจริง แต่ไม่สามารถบอกวิธี หรือชี้แนะหนทางการบรรลุพระนิพพานแก่ใครได้ อาจกล่าวได้ว่าพระปัจเจกพุทธเจ้ามีวาสนาและศักยภาพพอที่จะสามารถบรรลุธรรม แต่ไม่มีศักยภาพพอที่จะสั่งสอนให้เวไนยสัตว์มีดวงตาเห็นธรรม หรือไปสู่ความหลุดพ้นได้
การอุบัติขึ้นของพระปัจเจกพุทธเจ้ามีในช่วงที่โลกว่างเว้นจากพระอนุตรสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จริงแล้วผู้สำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ปฏิบัติบำเพ็ญบารมีเหมือนพระอนุตรสัมมาสัมพุทธเจ้า
@@@@@@
องค์ธรรมแห่งการเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
คัมภีร์ปรมัตถโชติกาอธิบายว่า บุคคลผู้ตั้งปณิธานจะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าต้องมีองค์ธรรมดังนี้
1. มีความเป็นมนุษย์
2. เป็นเพศชายเท่านั้น
3. ได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง
4. ยอมมอบชีวิตของตนเองเพื่อความเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
5. มีความมุ่งมั่นที่จะสำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
@@@@@@
คำสอนของพระปัจเจกพุทธเจ้า
มานพ นักการเรียน กล่าวว่า พระปัจเจกพุทธเจ้าส่วนมากทรงสอนเรื่อง อภิสมาจาร คือข้อระเบียบการปฏิบัติ เช่น สุสีมมานพอยากทราบเรื่อง “เบื้องปลายของศิลปะ” จึงไปพบพระปัจเจกพุทธเจ้าในป่าอิสิปตนมฤคทายวัน พระปัจเจกพุทธเจ้าบอกว่าหากอยากทราบเรื่องนี้ต้องสละทางโลกเสียก่อน สุสีมมานพจึงบวชเป็นนักบวชแล้วศึกษาเรื่อง อภิสมาจาร จากพระปัจเจกพุทธเจ้า ได้แก่เรื่อง ข้อระเบียบการนุ่งห่มจีวร และสอนการขจัดราคะ โทสะ โมหะ คติ (การไปเกิดของสัตว์) วัฏฏะ (การเวียนว่ายตายเกิด) และอุปริ หรือครั้งหนึ่งพระปัจเจกพุทธเจ้าเมตตาชี้แนะพระดาบสรูปหนึ่งในข่มมานะ (ความถือตัว) จนสามารถกระทำฌานสมาบัติได้สำเร็จ
@@@@@@
ทำบุญกับพระปัจเจกพุทธเจ้า
พระปัจเจกพุทธเจ้ามักสังเคราะห์หรือโปรดสัตว์ เพื่อให้สัตว์ได้อานิสงส์จากการถวายทานแด่อริยบุคคล โดยจะเดินบิณฑบาตไปในที่ต่าง ๆ เช่น หมู่บ้าน ในอรรถกถากุลาณชาดกเล่าว่า พระปัจเจกพุทธเจ้าเหาะจากป่าหิมพานต์มายังหมู่บ้าน เพื่อขอดินเหนียวไปใช้อุดรอยรั้วของกุฎิ ผู้หญิงนางหนึ่งถวายดินเหนียวให้แต่ด้วยขณะถวายมีอารมณ์โมโห จึงทำให้ในชาติต่อมานางเกิดเป็นหญิงที่มีหน้าตาอัปลักษ์ แต่หากใครได้สัมผัสกายนางแล้ว จะรู้สึกมีความสุขเหมือนได้อยู่ใกล้หญิงงาม และ พระราชวัง
อรรถกถาชาลิยสูตรเล่าว่า สุนัขตัวหนึ่งตายไปเกิดเป็นเทวดา เพราะก่อนตายมีจิตอ่อนน้อมต่อพระปัจเจกพุทธเจ้า ตอนมีชีวิตอยู่คอยเห่าเตือนให้ผู้อื่นรู้ว่าพระปัจเจกพุทธเจ้าเข้ามาบิณฑบาตในหมู่บ้านแล้ว เมื่อสุนัขสิ้นใจก็เกิดเป็นเทพบุตร หลังจากนั้นก็มาเกิดเป็นเศรษฐีในเมืองโกสัมพีเกิดร่วมสมัยกับพระสมณโคดมพุทธเจ้ามีชื่อว่า “โฆสกเศรษฐี” สร้างวัดถวายพระพุทธเจ้าคือ “โฆสิตาราม”
@@@@@@
พระพุทธเจ้าของเราเกือบได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
หลังจากพระพุทธเจ้าของเรา (พระสมณโคดมพุทธเจ้า) ตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงพิจารณาเห็นว่าสัจธรรมที่พระองค์ทรงค้นพบนั้นมีความยากและลึกซึ้งเกินไป เกรงว่ามนุษย์ เทวดา และสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ยังหลงอยู่ในกามคุณจะไม่เข้าใจในคำสอน จึงทรงตัดสินพระทัยไม่เสด็จโปรดสรรพสัตว์
เมื่อท้าวมหาพรหมพระองค์หนึ่งมีนามว่า “สหัมบดีพรหม” ซึ่งในอดีตชาติครั้งสมัยพระกัสสปพุทธเจ้าทรงเป็นพระเถระมีชื่อว่า “สหกะ” ได้บำเพ็ญฌานแล้วทำลายขันธ์จากภพมนุษย์ อุบัติเป็นพรหมยังพรหมโลก ทราบว่าพระพุทธเจ้าไม่เสด็จออกโปรดสัตว์ จึงเสด็จลงมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าทันที แล้วขอร้องให้พระพุทธเจ้าเสด็จโปรดเวไนยสัตว์ เพราะสัตว์โลกที่มีกิเลสน้อยยังพอมีอยู่ สามารถฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าได้อย่างเข้าใจ
พระพุทธเจ้าทรงพิจารณาเวไนยสัตว์ด้วยทิพยจักษุแล้วทรงพบเป็นจริงตามที่ท้าวมหาพรหมพระองค์นี้กล่าว สัตว์บางพวกมีกิเลสหนา บางพวกมีกิเลสบาง บางพวกสอนง่าย บางพวกสอนยาก ไม่ยากต่อการมุ่งมั่นสั่งสอนของพระองค์ จากนั้นพระพุทธเจ้าเสด็จโปรดสัตว์
ท้าวมหาพรหมพระองค์นี้ ครั้งสมัยพระกัสสปพุทธเจ้าทรงเป็นพระเถระมีชื่อว่า “สหกะ” ได้บำเพ็ญฌานแล้วทำลายขันธ์จากภพมนุษย์ อุบัติเป็นพรหมยังพรหมโลก
@@@@@@
พระพุทธเจ้าพยากรณ์ผู้จะสำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในอนาคต
1. นกฮูกแห่งเวทิสสกบรรพต
นกฮูกตัวหนึ่งในขณะที่พระองค์ประทับอยู่ในถ้ำอินทศาล ณ เวทิสสกบรรพต ซึ่งลงมาสักการะพระองค์ด้วยถ่วงท่าป้องปีกประคองอัญชลี ทำศีรษะให้ต่ำลง พระองค์ทอดพระเนตรแล้วทรงยิ้ม พระอานนท์เห็นดังนั้นก็ทูลถามพระพุทธเจ้าถึงสาเหตุที่พระองค์ทรงยิ้ม พระองค์ตรัสตอบว่า นกฮูกตัวนี้เลื่อมใสในเราและภิกษุทั้งหลาย หลังจากนี้ไปมันจะท่องเที่ยวไปในเทวโลกแล้วจะตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในนามว่า “โสมนัส”
2. นายสุมนมาลาการ
นายสุมนมาลากามีหน้าที่เก็บดอกไม้ไปถวายพระเจ้าพิมพิสาร แต่เมื่อนายสุมนมาลาการพบพระพุทธเจ้า จึงตัดสินใจถวายดอกไม้หนึ่งกำแด่พระพุทธเจ้า ปรากฏว่าดอกไม้กำหนึ่งนี้กลายเป็นเพดานดอกไม้อยู่เหนือพระเศียรอย่างน่าอัศจรรย์ จึงถวายดอกไม้ไปอีกหนึ่งกำ ดอกไม้นั้นก็กลายเป็นเกราะดอกไม้ จากนั้นก็ถวายดอกไม้ไปอีก 8 กำ ดอกไม้กลายเป็นเรือนยอดดอกไม้ ภาพที่เห็นคือพระพุทธเจ้าประทับท่ามกลางช่อดอกไม้ที่กลายเป็นปราสาท พระพุทธเจ้าทอดพระเนตรนายสุมนมาลาการแล้วทรงยิ้ม พระอานนท์ทูลถามว่าพระองค์ทรงยิ้มด้วยสาเหตุใด พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า นายสุมนมาลาการหลังจากนี้ไปจะเกิดเฉพาะในเทวโลกและมนุษยโลกถึงแสนกัป และด้วยอานิสงส์แห่งการบูชาเราด้วยดอกไม้จะส่งผลให้เขาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้ามีนามว่า “สุมนิสสระ”
3. พระเทวทัต
หลังจากพระเทวทัตทรงทำให้เกิดสังฆเภทแล้ว ทรงสำนึกผิดได้จึงวานให้พระภิกษุที่เป็นบริวารพาไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อขอขมากรรม แต่แล้วพระเทวทัตยังไม่ทันถึงพระเชตวัน ถูกธรณีสูบเสียก่อน แล้วได้ถวายกระดูกคางเป็นพุทธบูชา อานิสงส์นี้ส่งผลให้พระเทวทัตได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้ามีนามว่า “อัฏฐิสสระ”
4. พระเจ้าอชาตศัตรู
พระราชโอรสที่ปิตุฆาตพระเจ้าพิมพิสาร หากพระเจ้าอชาตศัตรูไม่ทรงปลงพระชนม์พระบิดา พระองค์จะได้ทรงบรรลุโสดาปัตติผล แต่เพราะทรงคบมิตรชั่ว (พระเทวทัต) ต้องบังเกิดในโลหกุมภี ด้วยอานิสงส์แห่งผู้ที่ประกอบด้วยศรัทธา ก็ในอนาคตจะสำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้ามีนามว่า “ชีวิตวิเสส”
ที่มา : อรรถกถาชาลิยสูตร ,อรรถกถาจุลลสีหนาทสูตร
อรรถกถา ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ มงคลสูตรในขุททกปาฐะ ,อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เรื่อง พระเทวทัต
อรรถกถาสามัญญผลสูตร, อรรถกถา กุณาลชาดก
พระปัจเจกพุทธเจ้า : พุทธะที่ถูกลืม โดย มานพ นักการเรียน
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ โดยสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต)
พรหมสี่หน้า สำนักพิมพ์อมรินทร์ ,
www.winnews.tvขอบคุณเว็บไซต์ :
https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/132846.htmlBy nintara1991 ,4 January 2019