ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ตอบคำถามจากเมล "มีอะไรเป็นพยากรณ์ ตัวเราเองได้ ว่าจะไม่ตกต่ำเพราะการมาเกิดอีก"  (อ่าน 4393 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ตอบคำถามจากเมล
 ปุจฉา

"มีอะไรเป็นพยากรณ์ ตัวเราเองได้ ว่าจะไม่ตกต่ำเพราะการมาเกิดอีก ?"
"รู้ได้อย่างไร ว่า เราจะไม่ตกต่ำเพราะการเกิดอีก"
"ธรรมอะไรเป็นเครื่อง พยากรณ์ ความเป็นพระอริยะบุคคล"
"พระพุทธเจ้า ตรัสแสดงวิธี พยากรณ์ มรรค และผลหรือไม่"
"ครั้งพุทธกาล มีการถามว่าใครเป็น พระอริยชั้นนั้น ชันนี้หรือ"
"ไม่อยากตนเองตกต่ำจากธรรม ถ้าพลาดพลั้งต้องเกิดอีกควรทำอย่างไร"

ก็ขอตอบจดหมายรวม ๆ ที่ทั้งหลาย ถามมาประมาณนี้กัน เพื่อเป็นการประหยัดเวลาในการตอบคำถาม ทางเมล นะจ๊ะ

  วิสัชชนา


  ในครั้งพุทธกาล ความสงสัยของผู้ภาวนา มีอยู่กันเสมอโดยเฉพาะระดับ ของผู้ภาวนานั้นแตกต่างกันและมีการรับรองจาก พระพุทธเจัา เมื่อพระพุทธเจ้ารับรอง ทุกคนจึงยอมรับ สมัยนั้นพระอานนท์ ก็ชอบถามเรื่องเหล่านี้บ่อยกับพระพุทธเจ้า ดังมีในพระสูตร  พระสุตตันตปิฏก  ทีฆนิกาย  มหาวรรค  [๓.  มหาปรินิพพานสูตร เล่มที่  หน้าที่ 101 ความว่า

            พระอานนท์ ทูลถาม “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
            ภิกษุสาฬหะที่มรณภาพในนาทิกคาม    มีคติเป็นอย่างไร    มีภพหน้าเป็นอย่างไร
            ภิกษุณีนันทาที่มรณภาพในนาทิกคาม    มีคติเป็นอย่างไร    มีภพหน้าเป็นอย่างไร
            อุบาสกสุทัตตะที่ดับชีพในนาทิกคาม    มีคติเป็นอย่างไร    มีภพหน้าเป็นอย่างไร
            อุบาสิกาสุชาดาที่ดับชีพในนาทิกคาม    มีคติเป็นอย่างไร    มีภพหน้าเป็นอย่างไร
            อุบาสกกกุธะที่ดับชีพในนาทิกคาม    มีคติเป็นอย่างไร    มีภพหน้าเป็นอย่างไร
            อุบาสกการฬิมภะ    ฯลฯ    อุบาสกนิกฏะ    ฯลฯ    อุบาสกกฏิสสหะ    ฯลฯ
            อุบาสกตุฏฐะ    ฯลฯ    อุบาสกสันตุฏฐะ    ฯลฯ    อุบาสกภฏะ    ฯลฯ
            อุบาสกสุภฏะที่ดับชีพในนาทิกคาม    มีคติเป็นอย่างไร    มีภพหน้าเป็นอย่างไร

   ดังนั้นในสมัยนั้น พระพุทธเจ้าก็มักจะพยากรณ์ ตรัสบอกที่ไปตามที่พระอานนท์ถาม แต่ครั้นเมื่อถูกถามมาก ๆ คือจำนวนเยอะมาก ถ้าจะมัวแต่จะมาตอบคำถามนี้ ก็เห็นไม่สมควร พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสว่    ( หลักธรรมที่ชื่อว่าแว่นธรรม )
            [๑๕๘]    อานนท์    ข้อที่บุคคลเกิดเป็นมนุษย์แล้วดับชีพนั้น    ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่เมื่อผู้นั้น  ๆ    ดับชีพแล้ว    พวกเธอเข้ามาหาตถาคตถามเรื่องนั้น    นั่นเป็นการรบกวนตถาคต    ฉะนั้น    เราจะแสดงหลักธรรมที่ชื่อว่าแว่นธรรม (๑) เป็นเครื่องมือให้อริยสาวกมีไว้  เมื่อประสงค์ก็จะพึงพยากรณ์ตนได้ด้วยตนเองว่า  ‘เราหมดสิ้นเหตุที่ให้ไปเกิดในนรก    หมดสิ้นเหตุที่ให้ไปเกิดในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน    หมดสิ้นเหตุที่ให้ไปเกิดในแดนเปรต    หมดสิ้นเหตุที่ให้ไปเกิดในอบาย    ทุคติ    และวินิบาตแล้ว    เราเป็นพระ
โสดาบัน    ไม่มีทางตกต่ำ    มีความแน่นอนที่จะสำเร็จสัมโพธิในวันข้างหน้า’


       ในทีนี้พระพุทธเจ้า ทรงตรัสวิธี พยากรณ์ ให้แต่ท่านไปพยากรณ์ตนเอง และผู้อื่นได้ ( แต่เน้นว่าตนเอง ) จะเป็นผู้พยากรณ์ตนเองได้ ด้วยหลักธรรม ที่ชื่อว่า แว่นธรรม  มีข้อความสำคัญอยู่ 4 ประการ


            [๑๕๙]    หลักธรรมที่ชื่อว่าแว่นธรรม  เป็นเครื่องมือให้อริยสาวกมีไว้    เมื่อประสงค์  ก็จะพึงพยากรณ์ตนได้ด้วยตนเองว่า  ‘เราหมดสิ้นเหตุที่ให้ไปเกิดในนรกหมดสิ้นเหตุที่ให้ไปเกิดในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน    หมดสิ้นเหตุที่ให้ไปเกิดในแดนเปรต  หมดสิ้นเหตุที่ให้ไปเกิดในอบาย  ทุคติ  และวินิบาตแล้ว    เราเป็นพระโสดาบัน  ไม่มีทางตกต่ำ  มีความแน่นอนที่จะสำเร็จสัมโพธิในวันข้างหน้า‘    คืออะไร
            คือ    พระอริยสาวกในธรรมวินัยนี้
            ๑.    ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้าว่า    “แม้ เพราะเหตุนี้    พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นเป็นพระอรหันต์    ตรัสรู้ ด้วยพระองค์เองโดยชอบ    เพียบพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ    เสด็จ ไปดี    รู้แจ้งโลก    เป็นสารถีฝึกผู้ที่ควรฝึกได้อย่างยอดเยี่ยม    เป็น ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย    เป็นพระพุทธเจ้า    เป็นพระ ผู้มีพระภาค”
            ๒.    ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรมว่า    “พระธรรม เป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ดีแล้ว    ผู้ปฏิบัติจะพึงเห็นชัดด้วยตนเอง    ไม่ประกอบด้วยกาล(๒)    ควรเรียกให้มาดู    ควรน้อมเข้า  มาในตน    อันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน”
            ๓.    ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ว่า    “พระสงฆ์  สาวกของพระผู้มีพระภาค    เป็นผู้ปฏิบัติดี    ปฏิบัติตรง    ปฏิบัติ  ถูกต้อง    ปฏิบัติสมควร    ได้แก่   อริยบุคคล    ๔    คู่    คือ    ๘    บุคคล พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคนี้    เป็นผู้ควรแก่ของที่เขานำมาถวาย    ควรแก่ของต้อนรับ    ควรแก่ทักษิณา    ควรแก่การทำอัญชลี เป็นนาบุญอันยอดเยี่ยมของโลก”
            ๔.    ประกอบด้วยศีลที่พระอริยะชอบใจ(๓)    ที่ไม่ขาด    ไม่ทะลุ    ไม่ด่างไม่พร้อย    เป็นไท    ท่านผู้รู้สรรเสริญ    ไม่ถูกตัณหาและทิฏฐิ ครอบงำ    เป็นไปเพื่อสมาธิ

            อานนท์    นี้แล    คือหลักธรรมที่ชื่อว่าแว่นธรรมเป็นเครื่องมือให้อริยสาวกมีไว้เมื่อประสงค์ก็จะพึงพยากรณ์ตนได้ด้วยตนเองว่า    ‘เราหมดสิ้นเหตุที่ให้ไปเกิดในนรกหมดสิ้นเหตุที่ให้ไปเกิดในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน    หมดสิ้นเหตุที่ให้ไปเกิดในแดนเปรตหมดสิ้นเหตุที่ให้ไปเกิดในอบาย    ทุคติ    และวินิบาตแล้ว    เราเป็นพระโสดาบัน    ไม่มีทางตกต่ำ    มีความแน่นอนที่จะสำเร็จสัมโพธิในวันข้างหน้า’
[/b][/size][/color]



๑ แว่นธรรม หมายถึงธรรมเป็นเครื่องส่องดูตนเองจนสามารถพยากรณ์ตนได้ ในที่นี้ ได้แก่ อริยมรรคญาณ(ที.ม.ฏีกา  ๑๕๘/๑๗๕)  ดูเทียบ  ม.มู.  (แปล)  ๑๒/๗๔/๖๖,  องฺ.จตุกฺก. (แปล) ๒๑/๕๒/๘๖
๒ ไม่ประกอบด้วยกาล หมายถึงให้ผลไม่จำกัดกาล คือไม่ขึ้นกับกาลเวลา ให้ผลแก่ผู้ปฏิบัติทุกเวลา ทุกโอกาสบรรลุเมื่อใด  ก็ได้รับผลเมื่อนั้น  (องฺ.ติก.อ.  ๒/๕๔/๑๕๘)
๓ ศีลที่พระอริยะชอบใจ  หมายถึงศีลที่ประกอบด้วยมรรคและผล  ในที่นี้หมายถึงความสำรวมทุกชนิด
(ที.ม.อ.  ๑๕๙/๑๔๖,  องฺ.จตุกฺก.อ.  ๒/๕๒/๓๔๙)




  ก็น่าจะพอ ตอบคำถามของท่านทั้งหลายที่ถาม กันมาทำนองนี้ได้พอสมควร นะจ๊ะ ดังนั้นขอให้ทุกท่านตั้งมั่นในแว่นธรรม เพื่อสอดส่องตนเอง พยากรณ์ตนเองตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสแนะนำท่านทั้งหลายกันเถิด แต่อย่าเสียเวลาไปพยากรณ์ ผู้อื่นเลย ในวัฏฏะสงสารนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องสนุก มีความทุกข์รอท่านทั้งหลายที่เวียนว่ายตายเกิด กันมาหลายภพ หลายชาติ มี แดนเกิดอยู่ 4 ที่ลำบาก คือ มนุษย์ สัตว์ดิรัจฉาน เปตร อสุรกาย แดนเกิดที่เป็น ทุกข์ เหล่านี้จะหลีกแลี่ยงได้ ด้วยแว่นธรรม ที่ส่องใจของท่าน (ตนเอง)

  เจริญพร / เจริญธรรม


   ;)





   

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 27, 2012, 01:00:16 pm โดย arlogo »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา กับคำตอบ ครับผมเองก็เป็นหนึ่งในผู้ถามครับ ขอบคุณมากครับ นึกว่าจะไม่ได้ตอบแล้วครับรอมาร่วม เดือนแล้วนะครับ ในที่สุดก็มาตอบในกระทู้ และได้ความรู้จากเพื่อน ๆ ถามกันอีก

 ขอบคุณมากครับ

  :c017: :25:
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ

แพนด้า

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อ่านแล้วมีกำลังใจ ในการภาวนาได้บ้าง อย่างน้อยก็ตรวจสอบตัวเราเองให้พ้นจากอบายภูมิก่อนก้เป็นการดีนะครับ

  :25: :c017:
บันทึกการเข้า

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
แว่นธรรม มีไว้เพื่อเป็นเครื่องสอดส่องคุณธรรมของตนเอง เพื่อจะได้เกิดความมั่นใจว่า จะไม่ตกต่ำ คือ ลงอบาย ดังนั้นใครที่บกพร่องอยู่ ก็พึงรีบขวนขวายในขณะที่มีโอกาส อยู่ เพราะโอกาส มิได้มีมากอย่างที่ท่านทั้งหลายคิดกันนะจ๊ะ

  เจริญพร / เจริญธรรม

   ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

วิชชุดา

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 275
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขอบคุณพระอาจารย์เรื่อง นี้อ่านแล้วไม่ลำบากใจ คะ เข้าใจง่าย คะ

  :25: :25: :25: :58:
บันทึกการเข้า
ขอให้ทุกท่าน จงเป็นผู้มีความสุข กันทุกคนนะจ๊ะ

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาธุ มีประโยชน์มากครับ กับเรื่องนี้

  แว่นธรรมส่องใจ วัดใจตน พ้นอบายหรือยัง ?

  น่าคิดครับ ขอบคุณมากครับ

  :c017: :c017: :25: :25:
บันทึกการเข้า