ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - tcarisa
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10 ... 13
281  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / Re: หลายชีวิต หลวงพ่อเสม เมื่อ: มีนาคม 05, 2011, 08:16:07 am
การันตี เลยคะ เพราะนั่งดูเมื่อวาน น้ำตาหยดเลยคะ

กับหลวงพ่อเสม ที่มีความตั้งใจในการออกบวช และ ภาวนาคะ

อยากให้เพื่อน ๆ ได้ชม คะ

 :88:
282  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทำไมคนทำเลว จึงได้ดีคะ คนทำดี จึงไม่ได้ดีตกต่ำ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2011, 10:08:20 am

ระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ ๖
ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๑๒



            ข้าพเจ้าและพระราชีนี  มีความยินดี ที่ได้มาร่วมพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ ๖ ในโอกาสนี้ และพอใจที่ได้ทราบตามรายงานของผู้บังคับการค่ายชุมนุมว่า งานชุมนุมลูกสือนี้ จะให้ประโยชน์แก่ลูกเสือทั้งโดยทางตรง และโดยทางอ้อม เป็นอย่างมาก
            ข้าพเจ้าได้เคยกล่าวแก่คณะลูกเสือในโอกาสอื่นมาแล้าว่า การลูกเสือนั้นเป็นกิจการที่ผู้ใหญ่จัดขึ้นสำหรับเด็ก เพื่อซักจูงและฝึกฝนให้เติบโตเป็นคนดีมีความซื่อสัตย์ และเป็นผู้สามารถเหมาะสมที่จะอยู่ในสังคม ดังนั้นจึงเป็นที่เข้าใจและเป็นที่หวังว่า ต่อไปข้างหน้าลูกเสือจะเป็นคนสำคัญของชาติ คือจะเป็นผู้บริหารปกครองบ้านเมืองได้ ขอให้ลูกเสือทราบถึงสิ่งสำคัญในการปกครองไว้ว่า  ในบ้านเมืองนั้น  มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด  การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย  จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี  ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ  ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้  ลูกเสือทุกคนจงหมั่นฝึกฝนตนเองให้มาก เพื่อให้พร้อมและให้เหมาะแก่การภาระหน้าที่อันจะมีมาข้างหน้านั้น
            ในการชุมนุมลูกเสือแห่งชาติครั้งนี้ ลูกเสือทั่วราชอาณาจักรได้มาอยู่ด้วยกัน นอกจากนั้นยังมีแขกจากต่างประเทศมาอยู่ร่วมกับเราด้วย เป็นโอกาสอันประเสริฐที่จะผูกไมตรีระหว่างกันและกัน ขอให้แต่ละคนทำความรู้จักคุ้นเคย แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดกัน ผูกพันกันไว้ด้วยน้ำใจ ลูกเสือจะรู้สึกว่า การที่ได้มาอยู่ร่วมกันเพียงชั่วเวลาเล็กน้อยนี้ อาจก่อให้เกิดประโยชน์แก่ชีวิตอนาคตได้มากมาย
            ได้เวลาอันเป็นมงคลแล้ว  ข้าพเจ้าขอเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ ๖ ณ บัดนี้ ขออวยพรให้งานดำเนินลุล่วงไปด้วยดี  สำเร็จประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ทุกประการ และขอให้ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ลูกเสือทุกคน  พร้อมทั้งผู้มีส่วนร่วมในงาน มีความสุขความสวัสดีโดยทั่วกัน


ที่มาเนื้อหาและภาพ
http://www1.tv5.co.th/service/mod/heritage/king/rama9/rama91.htm
283  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2011, 02:16:18 pm
อยากทราบจริง ๆ คะว่า ที่พระปฐมเจดีย์ มีความเกี่ยวข้องกับ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดัีบอย่างไรบ้างคะ
เพราะเห็นทางทีมไป ธรรมสัญจร กันที่นั่นคะ

 :25:
284  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทำบุญแล้วขอโน่น ขอนี่ ได้บุญหรือไม่ คะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2011, 07:07:11 am
ยังเป็นบุญคะ ถึงแม้ว่าจะอาบไปด้วย ความหวัง แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้น ของคนที่ทำบุญเช่นกันคะ

ที่สำคัญ เมื่อทำลงไปแล้ว ผู้ทำก็คงทราบคำตอบอยู่เรียบร้อยแล้ว ว่าน่าจะได้ หรือ ไม่ได้แต่

ก็เป็นความหวังคะ
 :13:

285  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ น่าจะเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2011, 09:42:10 am
เนื่องด้วยวันมาฆะบูชา เป็นวันสำคัญที่พระพุทธเจ้า ทรงประกาศธรรมหลักหัวใจของพระศาสนา

 สำหรับดิฉัน คิดว่า หัวใจสำคัญ อยู่ที่ การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ


   การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ ทำอย่างไร เป็นอย่างไร

   1. ขันติเป็นธรรมเผากิเลส

   2. นิพพานเป็นธรรมอันยิ่ง

   3. ความเป็นบรรพชิต

   4. ความเป็นสมณะ

   5. การไม่พูดร้าย ไม่กล่าวร้าย

   6. การระมัดระวังในปาฏิโมก

   7. ความประมาณในการบริโภค

   8. การนอน การนั่ง ในที่อันสงัด

   9. ความประกอบในการทำจิตให้ยิ่ง

  อันนี้เป็นบทสรุปของ ในส่วนของการทำจิตให้ยิ่ง

 เครดิตพระอาจารย์ จากเมล

 :25:
286  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: วิธีระงับความโกรธที่ได้ผล พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้มีอยู่ 9 วิธี เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2011, 08:54:17 am
287  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เชิญชมภาพบรรยากาศ ในงานสวดมนต์ ต้นปี 2554 วัดหนองบัวหิ่ง เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2011, 09:37:57 am
สังเกต ผู้มาร่วมงานหน้าตาผ่องใสกันทุกคน เลย... สาธุ สาธุ สาธุ

ขอให้ประเทศมีสุข สงบร่มเย็น โดยไวด้วยเถิด..
 :25:
288  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เมื่อลูกศิษย์ ถามผมว่า "ปล่อยปลาลงแม่น้ำได้บุญ หรือบาปครับ" เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 09:09:48 pm
ในเมื่อพูดเรื่องของคู่.....ก็มีความแตกต่างเกิดขึ้น..........แต่ถ้ามองข้ามของที่เป็นคู่เสียแล้ว.......ก็จะเห็นความเป็นธรรมชาติที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันเกิดและก็ ...เป็นเหตุเป็นผลให้ดับไป........
........................................................................................
ส่วนเรื่องที่ได้บุญหรือบาบนั้น ก็มีหลายๆระดับที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัญญาหรือฐานจิตของแต่ละบุคคลว่าเห็นเป็นเช่นไร......ป้าไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วย.....แต่ป้าแนะนำว่า ถ้าเป็นบุญกิริยาแท้จริงแล้ว ใจจะอิ่มผลแห่งบุญทั้งก่อนทำ,ขณะทำและหลังทำแม้นมนานเพียงใด เมื่อเราละลึกถึงผลการกระทำอันนั้นก็เกิดปิติสุขได้เสมอ.......
.......................................................................................
                           :34: :bedtime2: :015:

คุณป้ายัง มีข้อคิด ที่ทันสมัยอยู่ ตลอดเลยนะคะ
 :25:
289  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: "พระสารีบุตรเป็นมิจฉาทิฏฐิ" ใครหนอ??!!กล่าวเช่นนี้ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 08:59:25 pm
สาธุ ในสายสวนโมก ก็ยังไม่เคยเห็น ลูกศิษย์เช็ดเท้าครูอาจารย์ เหมือนอย่างนี้

แสดงว่าเคารพใน ครูอาจารย์ ในสายวัดป่า นี้มีมากจริง ๆ นะคะ

ส่วนพระสารีบุตร ท่านมีความคิดต่อการแสดงออก ซึ่งการเคารพในธรรม ครูอาจารย์ จึงหันหัว ศรีษะ ไปในทิศ
ที่พระอัสสชิอยู่ และก็เป็นธรรมเนียมที่ท่านสอน พระอริยะราหุลพุทธชิโนรส ด้วย ซึ่งอันที่จริง ต้องกล่าวว่าใน
สายกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มีธรรมเนียมในการให้เคารพ ครูอาจารย์ มาตลอด การขึ้นกรรมฐาน ก็แสดง
ว่ายังรักษาธรรมเนียม นี้อยู่ เพียงแต่ศิษย์ที่ขึ้นกรรมฐาน นั้นไม่ได้เคารพครูอาจารย์ กันจริง ๆ อย่างที่แสดง

เราได้ไปขึ้นกรรมฐาน มาในปีที่แล้ว ยังนึกอยู่ในใจเลย ในชีวิตนี้ได้กราบหลวงปู่ ได้ถวายถาดขัน 5 บูชา
พระรัตนตรัย และกรรมฐาน ครูที่สอนกรรมฐาน รู้สึกซาบซึ้งมากในวันนั้น และในวันนี้ ก็ยังเคารพซาบซึ้งนึก
ถึงคำสอนเรื่องกรรมฐาน ปฏิบัติตามขั้นตอนกรรมฐานอยู่มิได้ขาด
 :08:

290  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: อยากทราบ วิธี ชนะความขี้เกียจ ในการภาวนาต้องทำอย่างไรคะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 07:25:29 am
อยากชนะความขี้เกียจ ในการภาวนา

 ก็ต้องจัดระบบ อธิษฐาน ขึ้นมาในการภาวนาคะ เพราะการภาวนาเป็นการตั้งสัจจะอธิษฐานคะ

ถ้ายังทำไม่ได้ ก็ต้องมาภาวนา ในสำนักครูอาจารย์ ยังไม่พร้อมที่จะบินเดี่ยว คะ
 :25:
291  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 07:24:08 am
อ้างถึง
สักพักรู้สึก Happy ลั้นลา หนักกว่าเดิมอีก มันประมาณว่ามันสุขเยือกเย็น มีแต่ความสบาย ๆ ลมหายใจเบาลงมาก

happy ลั้นลา ที่เป็นสุขเยือกเย็น นี้ กำหนดอย่างไรคะ ในลมหายใจคะ
อ้างถึง
happy พอเราจะพยายามกลับไป Happy อีกมันก็เหมือนเลี่ยน ไม่เอาแล้ว เหมืือนกินของอร่อยมากๆแล้วมันอิ่้มเลี่ยนกินต่อไม่ได้ ตอนนี้ละที่รู้สึกว่า ไม่มีลมหายใจมันไม่มีตั้งแต่ตอนไหน ก็ไม่รู้มารู้อีกทีตอนไม่อยาก happy แล้วละ ทีีนี้ไม่รู้จะรู้อะไรมันก็เลย เฉยๆไม่ใส่ใจกับใดๆ อันนี้เป็นอุเบกขา

ปกติเมื่อจิตเข้าสู่สถานะ ความสุขสมาธิ จิตรวมเป็นหนึ่งเดียว ด้วยเรื่องเดียว
ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำัดับ จัดเป็นสุขสมาธิ ซึ่งมีวิธีการกำหนดเรื่องสุข ๆ ไม่ใช่เรืื่องที่เลี่ยน หรือ เบื่อได้
ง่ายถ้าไม่เจริญธรรมลงไป จะให้อิ่มเหมือนอาหารนั้นไม่ได้ เพราะอาหารหล่อเลี้ยงกาย ๆ มีขอบเขต ส่วนจิตนั้น
ไม่มีขอบเขต ไม่มีความกว้าง หรือ มาตรฐาน เหมือนกายดังนั้นสุข ไม่สามารถที่จะเลี่ยนได้เหมือนอาหาร คือจะ
เกิดความเบื่อหน่ายต่อสุข ได้นั้นไม่ใช่ิวิสัยของบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้กำหนด วิปัสสนา ไปในกาย

แต่น่าสนใจ เล่าต่ออีกสิคะ ว่าหลังจากเข้าอุเบกขา แล้วเป็นยังไงต่อในสามวันนี้ถือว่าไม่ธรรมดาเลยนะคะ

สาธุ
 :25:


292  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: เมื่อคุณยายข้างบ้าน มาขอคำปรึกษาเรื่องลูกชาย เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 08:51:41 am
ดิฉันว่า น่าจะอธิบายกับคุณยาย เรื่องการบวช เถอะคะ แล้ว คุณยายอายุเท่าไหร่คะ

บอกให้ลูกชาย อดทนอีกสักหน่อยเุถอะคะ

 :25:

ยาย 68 ปี ลูกชาย 34 ปี
 ???
293  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / เมื่อคุณยายข้างบ้าน มาขอคำปรึกษาเรื่องลูกชาย เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2011, 10:15:28 am
อาจจะเป็นปัญหาที่จะตอบยากมาก เมื่อคุณยายข้างบ้านมานั่งร้องไห้ปรึกษาเรื่อง

  ลูกชาย จะไปบวชพระ ตลอดชีวิต ทิ้งให้คุณยายต้องอยู่ตัวคนเดียวไม่มีคนดูแล

 เนื่องด้วยลูกชายอายุ 30 กว่าปีแล้ว ตั้งใจจะบวชเณร บวชพระมาตั้งแต่เล็ก ๆ แต่เนื่องด้วยคุณยาย

ท่านนี้เป็นคุณครู ที่สามีเสียชีวิตแล้ว มีลูกชายคนเดียว จึงห้ามไว้ไม่ให้บวช เพราะกลัวควาวเหงา

ตอนนี้คุณยายท่านนี้เกษียณ และ กินบำเหน็จอยู่ ลูกชายก็ได้กล่าวคำเหมือนจะเด็ดขาดว่า อยากจะบวช

และต้องการบวชตลอดชีวิต

  คิดดูสิคะคนอื่นไม่อยากบวชพระ พ่อแม่อยากให้บวช นี่ลูกอยากบวช แต่ไม่ให้บวช

 เรื่องนี้ดิฉันไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่นิ่ง เพราะยังไม่กล้าให้ความเห็น....

 :smiley_confused1:
294  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: เน็ตเข้าไม่ได้ 45 นาที ได้แจ้งพระอาจารย์ไปแล้วทางโทรศัพท์ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2011, 05:25:51 pm
ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว คะ ลองโพสต์ ดูใช่ได้แล้วคะ
 :25:
295  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / Re: หลวงปู่ แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2011, 04:44:58 pm
***หายป่วยด้วยพลังจิต***

คำอธิษฐาน เรื่องใดก็ตามจะเกิดขึ้นตามที่บุคคลนั้นต้องการได้ต้องอาศัยกำลัง ๔ ประการเป็นองค์ประกอบที่เสมอกันคือ กำลังฌาน ๑ กำลังกสิณ ๑ กำลังใจ ๑ กำลังอธิษฐาน ๑ โดยอาศัยสมาธิและอิทธิบาท ๔ เชื่อมประสาน

กล่าว กันว่า บุคคลใดฝึกฝนอบรมอธิษฐานบารมีด้วยดำรงความซื่อสัตย์ไม่กลับกลอก มีความสามารถบังคับจิตใจได้ดี ยอมเสียสละทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างแม้ชีวิต ย่อมจะเกิดพลานุภาพเกินที่จะคาดคิดได้ว่ามีประมาณเพียงใด

เพราะเมื่อพลังจิตมีกำลังเข้มแข็ง การกระทำและคำพูดแต่ละคำที่เปล่งออกมาก็ย่อมศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์เดชเช่นกัน.
มีเรื่องเล่ากันมาว่า...

สิทธา เชตะวัน และ นิโรธ เกสรศิริ ได้เล่าเรื่องหลวงปู่แหวน ในนิตยสารโลกทิพย์ ฉบับเดือนมกราคม ๒๕๒๖ ไว้ดังนี้

ครั้ง หนึ่งหลวงปู่แหวนเดินทางมาจากเชียงรายเพื่อจะไปลำปาง เดินทางมาถึงพะเยา ได้อาศัยรถลากไม้จากพะเยาถึงอำเภองาว รถเกิดติดหล่มก็เลยเดินไปก่อน กะจะไปพักหมู่บ้านข้างหน้า ขณะที่เดินทางมานั้นฝนก็ตกพรำตลอดเวลา พอตกเย็นถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เข้าไปอาศัยพักศาลาใกล้หมู่บ้าน

วัน รุ่งขึ้นฉันเสร็จแล้วเดินทางต่อไป สมัยนั้นการเดินทางลำบากเพราะต้องฝ่าซอกหินธารเขาป่าก็เป็นป่าดงดิบพวกทากมี อยู่ทั่วไป เดินทางมาถึงศาลเจ้าพ่อประตูผาก็พอดีพลบค่ำ จะไปหาที่พักที่อื่นก็ไม่ทันเพราะเป็นเวลาพลบค่ำแล้ว จึงอาศัยนอนบนศาลเจ้าพ่อประตูผานั้นเอง

เมื่อ หยุดพักหายเหนื่อยดีแล้วก็ไหว้พระสวดมนต์ แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์แล้ว ลงไปเดินจงกรมบ้าง นั่งบ้างสลับกันไป เวลากลางคืนพวกเสือมันมาร้องแถวใกล้ๆ ที่พัก แต่ละตัวสามารถล้มวัวทั้งตัวได้อย่างสบาย มันร้องรับกันเป็นทอดๆ ตกดึกอากาศเย็นจัดนอนไม่ค่อยหลับ

พอ สว่างก็ออกเดินทาง ตกบ่ายรู้สึกอ่อนเพลียมาก หนักศีรษะคล้ายจะเป็นไข้ พยายามเดินเพราะอยู่กลางป่าเขาไม่มีหมู่บ้าน เดินไปได้ประมาณสองชั่วโมง รู้สึกว่าอาการไข้เริ่มปรากฏชัด ขารู้สึกว่าจะก้าวต่อไปไม่ไหวอ่อนไปหมด จึงแวะเข้าใต้ร่มไม้ข้างทาง วางกลด วางบาตรแล้วล้มตัวลงนอนหลับไปโดยไม่รู้สึกตัวเพราะพิษไข้ ช่วงเวลาที่หลับไปนั้นนานเท่าไรไม่อาจรู้ได้

มา รู้สึกตัวก็ได้ยินเสียงซู่ๆ ของลมพัดยอดไม้ เสียงฟ้าคะนอง ฟ้าแลบแปลบปลาบอยู่ทั่วไป มองไปบนท้องฟ้ามีเมฆดำทะมึนเต็มท้องฟ้า ลมก็พัดกระโชกแรงขึ้น อาการไข้ก็ยังไม่สร่าง ฝนก็เริ่มลงเม็ดห่างๆ จะกางกลดก็สู้ลมพัดไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะไปหลบลมหลบฝนอยู่ที่ไหน ดูเหมือนจะหมดหนทางแก้ไข

เมื่อ ไม่มีทางหลบลมและฝนได้แล้ว จึงรวบรวมกำลังกายลุกขึ้นนั่งสมาธิ ตั้งสัจจาธิษฐานอ้างเอาคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ อ้างถึงบุญบารมีของตนที่ได้บำเพ็ญมาตั้งแต่บวชมาด้วยดีว่า “ข้าพเจ้าบวชอุทิศต่อพระพุทธ ต่อพระธรรม ต่อพระสงฆ์ วันนี้ข้าพเจ้าเดินทางมาจะไปลำปาง เกิดอาการไข้หมดกำลังที่จะไปข้างหน้า ถ้าบุญบารมีของข้าพเจ้ามีอยู่จะได้บำเพ็ญพรหมจรรย์เพื่อทำหน้าที่ดับทุกข์ แล้ว ขอฝนอย่าได้ตกลงมาตรงที่ข้าพเจ้านอนอยู่นี้เลยแล้วแผ่เมตตาต่อเทพารักษ์ผู้ ศักดิ์สิทธิ์ตลอดจนนาคครุฑผู้มีอำนาจ อธิษฐานบอกกล่าวแก่เขาว่า

“ขอ ได้โปรดบันดาลด้วยอำนาจฤทธิ์ของตนๆ ให้ฝนซึ่งกำลังจะตกลงมานี้ เว้นตรงที่ข้าพเจ้านอนอยู่นี้ ขอให้เปลี่ยนทิศทางไปเสียทางอื่น การที่จะห้ามฝนไม่ให้ตกนั้นมิใช่ฐานะ แต่ขออย่าได้ตกลงมาตรงที่ข้าพเจ้านอน ขอให้ผ่านไปทางอื่น”

เมื่อ อธิษฐานเสร็จแล้วทำจิตให้แน่วแน่แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ทั่วจักรวาลไม่มี ประมาณ เป็นที่น่าอัศจรรย์ ขณะที่ฝนกำลังลงเม็ดถี่โดยลำดับนั้น ได้เกิดมีลมพัดมาอย่างแรง จนทำให้ต้นไม้ลู่เอนไปตามทิศทางของลม และด้วยความแรงของลมสามารถทำให้ฝนเปลี่ยนทิศทางไปโดยฉับพลัน ฝนตกห่างจากที่อยู่ไปประมาณ ๑ เส้น วันนั้นฝนตกอยู่นานพอสมควร

พอ ฝนหายแล้ว อาการไข้ก็ยังไม่สร่าง จึงล้มตัวลงนอนต่อไปโดยไม่ได้กางกลด มารู้สึกตัวอีกทีก็เป็นเวลากลางคืนแล้วเนื้อตัวเปียกชุ่มหมดอาจเป็นเพราะ เหงื่อออก หลังจากสร่างไข้ รู้สึกว่าตัวเบา กระหายน้ำ เมื่อดื่มน้ำแล้วร่างกายสดชื่นขึ้นมีกำลัง จึงออกเดินทางต่อไปในเวลากลางคืนนั้น

ที่มาเนื้อหา สามารถตามอ่านเกี่ยวกับหลวงปู่แหวนได้หลายเรื่องที่นี่
http://www.zone-it.com/123545
296  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ตักบาตรหนังสือ ที่ราชประสงค์ วันที่ 17 ก.พ.2554 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2011, 08:18:40 am
ถึงเป้าหมายหนังสือ จะไปเพียง 2 จังหวัด ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ควรสนับสนุนคะ

ร่วมอนุโมทนากับข่าวนี้ด้วยคะ
 :25:
297  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทำไม พระสงฆ์ปัจจุบัน ถึงได้ พยายามสร้าง เทวรูป ต่าง ๆ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 08:08:15 am
เพราะว่าขาดหลัก พุทธศาสน์ มุ่งไปในทางให้ที่พึ่ง ที่ผิดทางคะ

 หลวงพ่อปัญญา ( วัดชลประทาน ) ท่านมักจะกล่าวว่า พระสงฆ์ปัจจุบัน นั้นมุ่งเน้นแต่ปลุกเสกวัตถุ ไม่มุ่งเน้น
ฝึกภาวนา หรือ ปลุกตน ปลุกคนให้เป็นพระอริยะ มองตามความเป็นจริง ก็มีชาวพุทธกลุ่มหนึ่ง เป็นกลุ่มใหญ่ยัง
คงอาศัยพระพุทธศาสนา เป็นเครื่องหาเงิน ที่เรียกว่า พุทธพานิชย์ อยู่อีกคะ

 ดังนั้นเราควรช่วยกันส่งเสริม พระภาวนา พระปฏิบัติ ให้มีมากขึ้นคะ ต้องช่วยส่งเสริมกระจาย คุณงามความดี
ของพระัเหล่านี้ เนื่องด้วยท่านเป็นพระภาวนา พระปฏิบัติ ไม่มีสื่อไปโปรโมทท่าน เพราะภาวนาท่าน ไม่โปรโมท
คะ ท่านอยู่อย่างของท่านอย่างนั้น พวกเราชาวภาวนา ถึงแม้จะเห็นว่าการโปรโมทเป็นเรื่องของการจมอยู่กับ
โลกธรรม แต่เืพื่อธรรม ก็ควรจะต้องช่วยกันพูด ทำ คิด ในทางกุศลให้มากคะ
 :s_hi:
298  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ยามใดที่เรารู้สึก ท้อแท้ ต่อชีวิต ควรใช้หลักธรรมพยุงใจคร้า.. เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2011, 04:02:23 pm
สำหรับ ส่วนตัวคิด ว่า ธรรมะที่ควรนำใส่ใจในเบื้องต้นก็คื สติ คะ

  สติ เป็นสิ่งที่พึงปรารถนา ในที่ทั้งปวง

  คุณธรรม ทั้งปวง เริ่มจากสติ เพราะถ้าขาดสติ แล้ว น่าจะแย่ นะคะ แต่ถ้ามีสติ อยู่ก็จะค่อยคิดแก้ปัญหาต่าง ๆ ไปได้ ในยามที่รู้สึก ท้อแท้ต่อชีวิต อาจจะคิดสั้นได้ เมื่อมีสติ ก็ย่อมทำให้โลกทรรศน์กว้างขึ้นตามลำดับ

 :25:
299  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / Re: ด.ญ. 11 ขวบรับรางวัลเด็กดี ดูแลยายป่วย เมื่อ: มกราคม 27, 2011, 08:22:39 am
น่าชื่นชมกับเยาวชน คนไทยที่มีความกตัญญู คะเพราะเด็กอย่างนี้ น่าส่งเสริมและให้ความช่วยเหลือเนื่องด้วยเธอ
มีคุณสมบัติของความเป็นมนุษย์ ขอยกย่องอีกคนว่า น่าส่งเสริมคะ

อนุโทนาในความดีของเธอคะ
 :25:
300  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: "เอาพัดตีหัวอุปัชฌาย์" แล้วบรรลุโสดาบัน เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 12:51:44 pm
อ้างถึง
               พระเถระถูกพระหลานชายตี               
               พระหลานชายนั้น คิดอยู่อย่างนั้น พลางยืนพัดอยู่เทียว เอาพัดก้านตาลตีศีรษะพระเถระแล้ว.
               พระเถระใคร่ครวญอยู่ว่า “เพราะเหตุไรหนอแล? เราจึงถูกสังฆรักขิตตีศีรษะ”, ทราบเรื่องที่พระหลานชายนั้นคิดแล้วๆ ทั้งหมด, จึงพูดว่า “สังฆรักขิต เธอไม่ได้อาจจะให้ประหารมาตุคาม, ในเรื่องนี้พระเถระผู้แก่มีโทษอะไรเล่า?”


เรื่องนี้เป็นตัวอย่าง ของเรื่องจิตนำไป จนทำให้ใจตกอยู่ภายใต้ความไม่รู้ จึงต้องสร้างกรรมออกมาในรูปแบบต่าง ๆ เพราะอำนาจจิตที่ส่งออกขาด สติเป็นเครื่องรั้ง มีใครเคยเผลอตามใจกิเลสของตน จนนำมาซึ่งความทุกข์หลากเรื่องหรือป่าวคะ

อนุโมทนากับเรื่องนี้คะ
 :25:
301  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: พระใบลานเปล่า กับเหี้ย ๖ รู บทสรุปของ "ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด" เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 12:49:15 pm
อ้างถึง
พระโปฐิละหมดมานะ               
               พระโปฐิละนั้นมีมานะอันพระเถระทั้งหลายนำออกแล้ว จึงประคองอัญชลีในสำนักของสามเณรแล้วกล่าวว่า "ท่านสัตบุรุษ ขอท่านจงเป็นที่พึ่งของผม."

               สามเณร. ตายจริง ท่านอาจารย์ ท่านพูดอะไรนั่น ท่านเป็นคนแก่ เป็นพหูสูต เหตุอะไรๆ พึงเป็นกิจอันผมควรรู้ในสำนักของท่าน

               พระโปฐิละ. ท่านสัตบุรุษ ท่านอย่าทำอย่างนี้ ขอท่านจงเป็นที่พึ่งของผมให้ได้.
               สามเณร. ท่านขอรับ หากท่านจักเป็นผู้อดทนต่อโอวาทได้ไซร้ ผมจักเป็นที่พึ่งของท่าน.
               พระโปฐิละ. ผมเป็นได้ ท่านสัตบุรุษ, เมื่อท่านกล่าวว่า "จงเข้าไปสู่ไฟ" ผมจักเข้าไปแม้สู่ไฟได้ทีเดียว.

ด้วยความปรารถนา ของท่านโปฐิละ เพื่อการบรรลุธรรม ผู้มีความถือตนในความรู้ ยอมประคอง อัญชลีกับสามเณรน้อย อย่างนี้นับว่าน่านับถือ มากจริง ๆ แสดงว่าคุณธรรม ในศาสนานี้เลิศกว่า ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ อ่านแล้วรู้สึกซึ้งในการปฏิบัติของพระเถระ ผู้ที่ถูกเรียกว่า คัมภีร์ใบลานเปล่า จริง ๆ


ขอกิจในพรหมจรรย์ อันควรจงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเถิด สาธุ

 :25: :25: :25:
302  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: นิโรธกรรม กับ นิโรธ สมาบัติ เหมือนกันหรือไม่ เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 02:23:50 pm
เรื่องนิโรธกรรม ไม่มีคำอธิบาย มีแต่ภาพ

http://www.watkadesri.net/index.php?mo=12&catid=128960

เพราะดูบางที่ บางแห่ง ทั้งประโคมข่าว และ ทำสื่อออกไปมากมาย อยู่มิดชิดในกระท่อมบ้าง

แต่ที่เราเคยเห็น ไม่มีประกาศ ไม่มีบอก นั่งกรรมฐานในกลด มองเห็นได้อย่างเปิดเผย

ไม่มีคนไปอัญเชิญ หรือ ทำบุญกับท่าน.... ก็แปลกดีนะ ที่เห็นจริง กับ ไม่มีใครศรัทธา...

 :smiley_confused1:

303  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ชาวบ้านแห่มาดู เรียก “บ่อน้ำทิพย์” เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 02:13:32 pm


อัศจรรย์ น้ำไหลออกจากบ่อน้ำโบราณ ภายในวัดร้าง ทั้งที่แห้งมานาน หลังเกจิเข้านิโรธกรรมได้ 2 คืน ชาวบ้านแห่มาดู เรียก “บ่อน้ำทิพย์” และช่วยกันบริจาคอิฐก่อสร้างเจดีย์…

เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 4 ก.พ 2553 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีบ่อน้ำโบราณมีชาวบ้านแตกตื่น ไปกันที่วัดพระบาทน้ำทิพย์ (วัดร้าง) บ้านห้วยไซ ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ซึ่งเป็นเขตติดต่ออำเภอสันกำแพงเชียงใหม่ ทางขึ้นเป็นอำเภอสันกำแพง ยอดเขาวัดพระบาทน้ำทิพย์ หมู่ 9 ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ตั้งอยู่บนเนินเขาจากการสังเกตการณ์ ซึ่งเป็นวัดร้างมากว่าพันปี โดยมีชาวบ้านไปมุงดูจำนวนมาก ถึงความอัศจรรย์ ในครั้งนี้ เพราะบ่อน้ำแห่งนี้ อยู่ภายในวัด มีความลึกประมาณ 2 เมตรกว้างประมาณ 1 เมตร อยู่บนเนินเขา ไม่มีน้ำมาหลายสิบปีกลับไหลอีกครั้งหลังจากพระเกจิล้านนาเข้านิโรธกรรม

จาก การเปิดเผยของ หลวงพ่อวีระ อคฺคจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดกู่ม่านมงคลชัย หมู่ 13 ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ ประธานบูรณวัดพระบาทน้ำทิพย์ พร้อมทั้งผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 และชาวบ้านห้วยไซ ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ได้กราบอาราธนานิมนต์ ครูบาภาราดร ธีรวโส เกจิล้านนาแห่ง วัดพระธาตุทุ่งตูม อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ มาเข้านิโรธกรรม ไม่ฉันอาหาร 7 วัน 7 คืน ฉันแต่น้ำในบาตร เท่านั้น โดยมีกำหนดเข้านิโรธกรรม ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมาออกนิโรธกรรม วันที่ 8 ก.พ. 2553 ที่จะถึงนี้ หลังจากออกนิโรธกรรมแล้ว จะมีพิธีวางศิลาฤกษ์ สร้างพระธาตุเจดีย์ ในวันที่ 8 ก.พ 2553 เวลา 09.00 น. โดยมีหลวงพ่อพระเทพมหาเจติยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดลำพูน มาเป็นประธาน วางศิลาฤกษ์ ในครั้งนี้ สิ่งที่แปลกประหลาดมาก หลังจากได้เข้านิโรธได้ 2 วัน บ่อน้ำที่อยู่ห่างจากจุดปฏิบัติธรรมของ ครูบาภาราดร ธีรวํโส ประมาณ 9 เมตร กลับมีน้ำไหลออกมา สูงจากก้นบ่อประมาณ ครึ่งเมตร ทั้งที่บ่อตั้งอยู่ยอดเขาวัด

หลวงพ่อวีระ อคฺคจิตฺโต ประธานบูรณวัดพระบาทน้ำทิพย์ กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว ชาวบ้านที่มาเห็นต่างไปพูดกันปากต่อปาก ทำให้มีคนขึ้นมาวัดจำนวนมาก และ ช่วยกันบริจาคเป็นเจ้าภาพอิฐที่จะใช้ก่อเจดีย์ โดยแต่ละคนจะเขียนชื่อตัวเองที่อิฐกันทุกคน จนอิฐไม่พอต่อความต้องการ ต้องสั่งอิฐเพิ่มอีกหลายคันรถ จนโรงงานผลิตแทบไม่ทัน

นอกจากนั้น นายสมคิด ใจน้อย ผู้ใหญ่บ้านห้วยไซ หมู่ 9 ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ได้นำชาวบ้านมาพัฒนาวัดกว่าร้อยคน กล่าวว่า รู้สึกแปลกมากที่จู่ๆ บ่อน้ำที่แห้งมานาน จะมีน้ำไหลออกมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนับว่าเป็นครั้งที่สอง ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ครั้งแรกจำได้ว่าเกิดขึ้น เมื่อค้นพบวัด ประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว จัดพิธีบวงสรวง สร้างวัดตามประเพณีทางเหนือ ปรากฏว่ามีน้ำไหลออกจากบ่อเหมือนกัน แต่อยู่ได้ประมาณ 7 วันก็แห้งไป ชาวบ้านแถวนี้เลยเรียกวัดนี้ว่า “วัดพระบาทน้ำทิพย์ “ เช้าทุกวันจะมีพระสงฆ์มาบิณฑบาต 9 รูปตั้งแต่เข้านิโรธกรรมมา
304  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / นิโรธกรรม กับ นิโรธ สมาบัติ เหมือนกันหรือไม่ เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 02:09:28 pm
คือ ทางเหนือ มักจะเห็นประกาศ การเข้า นิโรธกรรม ทั้ง พระ และ แม่ชี หลายป้ายด้วยกัน

ทำให้อดสงสัย ไม่ได้ ว่าทั้งพระ และ แม่ชี อวดอุตรมนุสธรรม หรือไม่ หรือเป็นความเข้าใจผิดของดิฉัน เรื่องความ

ไม่เข้าใจเรื่อง นิโรธกรรม กับ นิโรธสมาบัติ เหมือนกันหรือไม่

 ท่านผู้รู้ทั้งหลาย ช่วยแนะนำให้ ดิฉันเกิดความเข้าใจหน่อย ได้หรือไม่คะ

  :c017: ขอบคุณเจ๊า
305  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: พระสงฆ์ที่ปฏิบัติสำเร็จ ฌาน และ วิปัสสนา ยังมีอยู่หรือป่าว เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 12:48:59 pm
ภาษิตวันนี้

         ของดีตกและแท้ไม่แตก ของที่แหลกมักเป็นของไม่ดี
        ....ทนต่อการพิสูจน์   ส่วน......ที่บูด เป็นเพราะพูดกันเป็นส่วนใหญ่

       
เกี่ยวกันหรือไม่ .....

 :25:
306  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ฟังธรรม งาน ๑๐๐ ปี ชาตกาล หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ “ฟ้าสางที่กลางอุโมงค์” เมื่อ: มกราคม 20, 2011, 09:22:31 pm
วัดอุโมงค์ อยู่เชียงใหม่ นะเจ๊า ครูอริสา อย่าบ่นเน้อ ขอลงตัดหน้าก่อน เนาะ
 :hee20hee20hee:

 เชิญเลยคร้า อนุโมทนา บุญด้วยเจ๊า :58:
307  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นั่งกรรมฐานไปแล้ว เห็นกายตัวเองนั่งอยู่ แล้วหายไป เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 03:38:03 pm
เห็นกายตนเองเป็นยังไงครับ ผมก็สนใจครับ อยากทำได้บ้าง
เล่าให้ฟังเพิ่มอีกสักนิดได้ไหมครับ

 :13:

อันที่จริงเข้าใจ ดีว่าพระอาจารย์ตอบอาจจะไม่ตรงกับใจคุณ เพราะว่าคุณไม่ได้ปฏิบัติในแนว กรรมฐาน
มัชฌิมา แบบลำดับ ซึ่งโดยธรรมเนียมพระอาจารย์จะยังไม่ตอบให้คุณเข้าใจได้ง่าย ๆ เหมือนดิฉันถาม
ในปีที่แล้วเลยคะ เพราะดิฉันก็เคยปฏิบัติตามแนววิชชาธรรมกาย เดินดวงแก้วได้ที่ศูนย์กลางกายแล้ว
ก็ยิงคำถามว่า เป็นส่วนไหนของพระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ คำตอบก็แบบเดียวกันเลยคะ

แนะนำอ่าน เอกสารการภาวนา กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับเพิ่มเติมก่อนนะคะ

http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=55.0
308  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: 9 วิธีเจริญสติในออฟฟิศ เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 09:52:31 am
อาจจะต้องเตรียมตัวเปลี่ยนวิถีไปเป็นเซน มหายานตามเนื้อเรื่องซะแล้ว

ถึงแม้จะเป็นแนวคิดที่ดี ในการปฏิบัติแต่หลักดำเนินชีวิตในวิถีคนไทยพุทธเถรวาท ก็น่าจะใช้ได้อยู่นะจ๊ะ


 :smiley_confused1:
309  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ต่อไปนี้คุณผู้ชายที่ชอบ "ไข่แล้วทิ้ง" ผิดกฏหมาย คร้า..... เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 09:22:59 am
เห็นชอบกับกฏหมายอันนี้เลย ผู้ชายจะได้ไม่เอาเปรียบผู้หญิงต่อไป
 :34:
310  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / กระทิง หนุนตักพระ เชียงใหม่เจ๊า.... เมื่อ: มกราคม 14, 2011, 01:37:07 pm

บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
ฮือฮา "ไอ้เศร้า" กระทิงเชื่องศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าดอยสุเทพ เชียงใหม่ เดินมาหาพระที่วัดอุโมงค์ นอนหนุนตักขอกล้วยกินแทบทุกวัน จนเป็นที่ฮือฮาของชาวบ้านที่พบเห็น พระเผยอยู่ด้วยกันมานานจนคุ้นเคย ยังมีสัตว์ที่เชื่องอีกเพียบ กระทิง 4 ตัว วัวแดง 10 ตัว เก้งกวางอีกนับร้อย ตอนแรกพระให้ข้าวก้นบาตร ตอนหลังต้องขอรับบริจาคผักหญ้ามาเลี้ยงดูแล วอนชาวบ้านหยุดล่าเอาชีวิตเพื่อนร่วมโลก เพราะเมื่อก่อนมีหมูป่าก็ถูกล่าจนหมด

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 เม.ย. ที่วัดอุโมงค์สวนพุทธธรรม ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีพิธีบรรพชา-อุปสมบทพระภิกษุฤดูร้อนรุ่น 2 ประจำเดือนเม.ย. โดยมีประชาชนไปร่วมพิธีอย่างคับคั่ง โดยพิธีกรรมใช้เวลาตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย ก่อนที่จะนำพระนวกะไปอยู่ตามกุฏิต่างๆ ระหว่างนั้นชาวบ้านได้ไปให้อาหารปลาและนกบริเวณเกาะกลางสระน้ำภายในวัด พร้อมเดินชมโบราณสถานต่างๆ กระทั่งทราบว่าด้านหลังของวัดอุโมงค์ติดกับศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือสวนสัตว์เปิดอุโมงค์ มี "หลวงตากวาง" เลี้ยงสัตว์ป่าหลายชนิดที่มากินอาหารจากข้าวก้นบาตร จึงพากันเข้าไปชม โดยเดินขึ้นไปข้างอุโมงค์ลงไปไหล่เขาด้านตะวันตกประมาณ 500 เมตร ก็พบกุฏิพระอยู่ 3 หลังห่างกันประมาณ 200-300 เมตร

กุฏิหลังสุดท้ายเป็นของ "หลวงตากวาง" หรือพระมัณฑนา มันตชาโต ซึ่งเป็นพระสอนกรรมฐาน พบกระทิงตัวใหญ่เขาโง้ง และแหลมคม กำลังนอนหนุนตักหลวงตากวาง เหมือนกับอ้อนขออาหาร หลวงตากวางจึงปอกกล้วยน้ำว้าป้อนให้กินไปหลายลูก ก่อนที่จะไล่ให้ลุกขึ้น เพราะคนมามุงดูมาก เกรงกระทิงจะตื่นกลัว

หลวงตากวางเปิดเผยว่า กระทิงตัวนี้ตั้งชื่อให้ว่า "ไอ้เศร้า" เพราะตามันเศร้าๆ และบริเวณนี้เป็นเขตธรณีสงฆ์วัดอุโมงค์สวนพุทธธรรม และกุฏิหลังที่หลวงตาอยู่สร้างมาก่อนแล้วราวปี 2528 ต่อมาปี 2538 จึงเข้ามาอยู่ปฏิบัติธรรม สอนกรรมฐานแก่ญาติโยม พอดีเขตธรณีสงฆ์อยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อยู่ห่างตัวเมืองราว 5-6 ก.ม. มีศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าอุโมงค์ตั้งอยู่ ทำให้มีสัตว์ป่าหายากหลายชนิดเข้ามาหาที่กุฏิเป็นประจำ จึงได้นำอาหารจากก้นบาตรให้ ต่อมามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นก็ได้ศรัทธามาช่วยซื้อผัก ผลไม้มาให้กินทุกวัน

"ทำไปทำมากลายเป็นความคุ้นเคยและต้องช่วยเหลือเขาไปโดยปริยาย ทุกวันจะมีเก้งกวางประมาณร้อยกว่าตัว กระทิง 4 ตัว วัวแดง 10 ตัว มากินอาหารที่นี่ อาตมาก็เลยไปขอรับเศษผักต่างๆ และซื้อมาบ้างจากตลาดเมืองใหม่มาเลี้ยงดู มันเหมือนลูกหลาน ยิ่งในฤดูแล้งนี้อาหาร

ธรรมชาติหายาก เขาก็มาพึ่งเรา ส่วนน้ำนั้นไม่มีปัญหาเพราะมีลำห้วยอยู่ด้านบน คนกับสัตว์อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข พึ่งพาอาศัยกันได้ พอเรามีเมตตาให้เขาๆ ก็รู้สึกว่าปลอดภัย และเขาก็มีความกตัญญู แม้จะน่ากลัวอย่างกระทิงป่า แต่เขาก็ไม่ทำร้ายคน สามเณรและเด็กวัดยังขึ้นขี่หลังได้ อย่างภาพที่เห็นมาหนุนตักพระอีกด้วย อย่างไรก็ตามอยากขอเมตตาจิตจากทุกคนให้รักสัตว์ ไม่ทำลายสัตว์ป่าจนสูญพันธุ์ เฉพาะที่ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าอุโมงค์แห่งนี้เคยมีหมูป่า แต่ถูกล่าไปหมด เก้ง กวางก็ถูกลอบยิง จึงขอบิณฑบาตไว้ชีวิตพวกเขาด้วย" หลวงตากวางกล่าว
ที่มา
http://atcloud.com/stories/21370
311  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / น่านอากาศหนาวจัด กระทบพระสงฆ์-เณรเลื่อนบิณฑบาต แถมอาพาธเข้า รพ.หลายรูป เมื่อ: มกราคม 14, 2011, 01:20:24 pm
น่านอากาศหนาวจัด กระทบพระสงฆ์-เณรเลื่อนบิณฑบาต แถมอาพาธเข้า รพ.หลายรูป

วันนี้(12 ม.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยเฉพาะในช่วงเช้ามืด จะมีหมอกลงหนาและสว่างช้า ส่งผลกระทบกับพระภิกษุสงฆ์ ต้องทนกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นขณะออกเดินบิณฑบาต   อีกทั้งชาวบ้านส่วนใหญ่จะตื่นสาย จึงตระเตรียมข้าวของมาใส่บาตรไม่ทันพระสงฆ์  และใส่บาตรน้อยลงกว่าปกติ  ซึ่งขณะนี้ทางพระสงฆ์แต่ละวัดได้เลื่อนเวลาในการออกบิณฑบาตรในช่วงเช้า   ช้าออกไปจากเดิมประมาณ 15-20 นาที  เพื่อรอฟ้าสว่าง  นอกจากนี้สภาพอากาศที่หนาวเย็นยังส่งผลให้พระภิกษุและสามเณร ในหลายอำเภอบนพื้นที่สูง ที่มีอุณหภูมิลดต่ำกว่า 10  องศาเซลเซียส  เริ่มประสบภัยหนาว และขาดแคลนเครื่องนุ่งห่ม กันหนาว ทำให้อาพาธเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้วหลายรูป

นายภาณุวัฒน์  ทรัพย์ผดุงโชค  เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.น่าน  เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเณรและพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 846 รูป   ใน 7 อำเภอ  ประสบภัยหนาว เครื่องกันหนาวไม่เพียงพอ  ซึ่งทางพระธรรมนันทโสภณ เจ้าคณะจังหวัดน่าน  ฝากเจริญพรให้พุทธศาสนิกชนผู้ใจบุญ  ถวายเครื่องกันหนาว ผ้าอังสะสงฆ์  เพื่อนำไปถวายพระภิกษุสามเณรที่จำวัดอยู่ตามพื้นที่ห่างไกลตามชนบท พื้นที่สูงตามแนวชายแดน  ที่กำลังประสบความเดือดร้อนจากอากาศหนาวในขณะนี้   เนื่องจากวัดดังกล่าวประชาชนในหมู่บ้านมีฐานะยากจนไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะทำ บุญหรือบริจาค  โดยขอให้บริจาคได้ที่สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดน่าน วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร อ.เมือง จ.น่าน

ด้านนายสมมาตร  ฟุ้งวิทยา  หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.น่าน  แจ้งเตือนประชาชนหลังคลื่นกระแสลมตะวันตกยังคงพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้จังหวัดน่านมีเมฆหมอกและฝนตกเป็นบางแห่งอีกประมาณ 2 วัน  และจะทำให้อุณหภูมิลดลงอีก 2-3 องศา จากปัจจุบันในเขตเมือง 16 องศา และบนเทือกเขาสูง  6-10 องศา และสภาพอากาศเช่นนี้จะทำให้มีหมอกในตอนเช้า โดยเฉพาะบนเทือกเขา ยอดดอยจะมีหมอกหนามาก  ซึ่งส่งผลให้ทัศนวิสัยในการขับขี่รถทุกชนิดลดลง  โดยเฉพาะเส้นทางเนินเขาต่างๆ ทัศนวิสัยแย่เหลือเพียง 10-30 เมตรเท่านั้น  ประชาชนต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ นอกจากนี้เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง ซึ่งอาจเกิดความเสียหายจากฝนตกได้.
312  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ร่วมสมทบทุนก่อสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ ถวาย หลวงปู่สุภา ภูเก็ต เมื่อ: มกราคม 14, 2011, 12:49:12 pm
พระเกจิ อาจารย์ชื่อดัง "หลวงปู่สุภา" วัดสิริสีลสุภาราม ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต

ซึ่งเป็นศิษย์สายหลวงปู่ทัตต์ ประเทศลาว และหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท

ในอดีตท่านได้ธุดงค์แสวงหาวิชาอาคมจากครูบาอาจารย์ต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศมากมาย และได้สร้างวัดเพื่อสืบสานพุทธศาสนาถึง 30 กว่าวัด ปัจจุบันอายุ 115 ปี ท่านได้ดำริสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ 5 ชั้น โดยยอดเจดีย์ใช้ทองคำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม

พื้นที่ภายในพระมหาธาตุเจดีย์แบ่งเป็น
ชั้นที่ 1 เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมสมาธิ เจริญวิปัสสนา กรรมฐาน
ชั้นที่ 2 เป็นสถานที่จำวัดของหลวงปู่
ชั้นที่ 3 เป็นสถานที่บรรจุอัฐิของหลวงปู่ในกาลข้างหน้า เมื่อท่านละสังขาร
ชั้นที่ 4 เป็นพิพิธภัณฑ์พระพุทธรูปต่างๆ ที่ญาติโยมศรัทธาถวายให้
ชั้นที่ 5 เป็นที่บรรจุพระธาตุของล้ำค่าที่ท่านได้เก็บรักษาไว้

ใน การนี้คณะศิษย์ผู้ใกล้ชิดซึ่งมี นายวิชาญ-นางปิยวรรณ หวังวรวาณิชย์ ได้รับมอบหมายจากหลวงปู่สุภาให้สร้างวัตถุมงคล เพื่อนำมอบให้กับผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนสร้างเจดีย์ในครั้งนี้ ลักษณะเป็นพระผงรูปเหมือน ชื่อรุ่นสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ รุ่นนี้ได้นำมวลสารของบรรดาพระเกจิอาจารย์ที่ได้สะสมไว้ อาทิ ผงพุทธคุณแก้วตาสามดวง หลวงปู่พรหม วัดช่องแค จ.นครสวรรค์ ผงพุทธคุณแก้วตาสามดวง หลวงปู่สุภา วัดสีลสุภาราม จ.ภูเก็ต ผงพุทธคุณแก้วตาสามดวงครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน เป็นต้น...."พระผงรูปเหมือนหลวงปู่สุภา กันตสีโล รุ่นสร้างพระมหาธาตุเจดีย์" ....ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงปู่เต็มองค์นั่งสมาธิ ด้านหลังเป็นยันต์

สนใจร่วมบุญบูชาได้ที่ วัดสีลสุภาราม ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต โทร. 0-7652-1342, 08-1477-2164 ผู้ที่มีจิตศรัทธาสามารถร่วมสมทบทุนก่อสร้างพระมหาธาตุเจดีย์โดยบริจาคได้ดังนี้

ชื่อบัญชี "พระมหาธาตุเจดีย์ วัดสีลสุภาราม
ธนาคารกรุงไทยสาขาภูเก็ต บัญชีออมทรัพย์
เลขที่ 805-3-31143-0
313  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: วิปัสสนา ในระหว่างที่เจริญสมาธิ ควรทำอย่างไรคะ เมื่อ: มกราคม 10, 2011, 08:27:40 pm
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=78.msg4161#msg4161

อ่านเล่มนี้ก่อนดีกว่านะคะ ปรับฐานก่อนนะคะ

เพราะอ่านมาแล้ว กลุ่มคุณไม่ได้ขึ้นกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดัีบ

ก็จะเหมือนกับดิฉันที่ไม่ได้ขึ้นกรรมฐาน ในปีที่แล้ว มาก็จะถามไปตรง ๆ แต่ในกรรมฐาน

มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นถ้าไม่ขึ้นกรรมฐาน พระอาจารย์มักจะไม่ตอบในแนวกรรมฐาน จะตอบ

เป็นวงกว้างคะ
 :08:
314  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถ้าจิตกระสับกระส่าย หงุดหงิด ทำอย่างไรดีคะ เมื่อ: มกราคม 10, 2011, 08:25:45 pm
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=78.msg4161#msg4161

ดาวน์โหลดไฟล์ไปอ่านดีกว่านะคะ พระอาจารย์เขียนไว้เป็นเล่มเลยคะ

ดิฉันอ่านแล้ว เข้าใจได้ดีขึ้นมากเลยคะ
 :08:
315  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: มีคนที่เรานับถือ มาตลอดเป็นเวลาหลายปี แต่แล้วเขาก็ทำให้เราหมดนับถือคะ เมื่อ: มกราคม 10, 2011, 08:22:50 pm
ิยิ่งเรานับถือมาก ก็ยิ่งต้องใช้ปัญญาให้มากด้วยคะ เพราะความนับถือ กับ ความหลงโดยเฉพาะ การนับถือเคารพ

ปุถุชน ผิดหวังแน่นอนคะ

   เหรียญสองด้าน คะ

  1
316  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / วันเด็ก@ เจ้าจงเป็นเด็กดีของครอบครัว เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 01:18:37 pm
วันเด็ก@ เจ้าจงเป็นเด็กดีของครอบครัว



อรุณเริ่มฉายแสงส่องแจ้งฟ้า
ท้องนภาจำรัสรัศมี
เส้นสายใยโค้งรัดปฐพี
ถึงวันดีวันเด็กเอกอนันต์

อันเด็กดีมีวิชาหาความรู้
เชื่อฟังครูพ่อแม่ไม่แปรผัน
มีศิลธรรมงามเด่นเป็นสำคัญ
อีกขยันประกอบกิจคิดสร้างตน

ไม่คบเพื่อนอันธพาลสันดานชั่ว
ไม่เมามั่วเหลวไหลไร้เหตุผล
อบายมุขชั่วช้าพาอับจน
หมั่นฝึกฝนตั้งแต่เล็กเป็นเด็กดี

ไม่ดื่มเหล้าเมายาสารพัด
ไม่ริหัดเที่ยวเตร่เท่ทุกที่
ไม่ริเล่นการพนันนั่นไม่ดี
ไม่ต่อยตีก่อเหตุเกิดเภทภัย

จงทำดีมีศีลธรรมถือคำสัตย์
จงประหยัดสัตย์ซื่อคือนิสัย
จงเชื่อฟังพ่อแม่แน่กว่าใคร
ศึกษาใฝ่ความรู้ปูทางตน

อรุญเริ่มฉายแสงสำแดงวาด
งามวิลาสทอรุ้งผดุงผล
ขอเด็กไทยใฝ่คิดผลิตตน
เป็นหลักค้นบ่มสติผลิปัญญา

7 ม ค. 2554
วนารี

ที่มา
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=0518&month=07-01-2011&group=1&gblog=100
317  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ความเชื่อ กับ ลักษณะของท้องแม่ เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 12:20:37 pm
ความเชื่อเป็นสิ่งที่คู่มากับมนุษย์อยู่แล้ว

  อาจจะจริง และอาจจะไม่จริง

  แต่ก็เป็นเรื่องที่ให้กำลังใจกับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ได้
 :58:
318  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / "ผู้ถูกนินทาพึงมีเหตุผล" เมื่อ: มกราคม 07, 2011, 05:22:18 pm
    "ผู้ถูกนินทาพึงมีเหตุผล"

    คำนินทาใดๆ ไม่อาจทำคนดีให้เป็นคนไม่ดีไปได้
    คนจะดีก็เพราะกรรม คนจะเลวก็เพราะกรรม
    หาใช่จะดีเพราะสรรเสริญ หรือจะเลวเพราะนินทาก็หาไม่
    ควรถือความจริงนี้เป็นสำคัญ และ
    อย่าทำหรือไม่ทำอะไรเพราะกลัวนินทา
    หรือเพราะปรารถนาสรรเสริญ
    อย่าทำอะไรก็ตามทุกอย่างที่แม้เพียงสงสัยว่าเป็นกรรมไม่ดี
    แต่จงทำอะไรก็ตามทุกอย่างที่พิจารณาแล้วตระหนักแน่ชัด
    ว่าเป็นกรรมดีเท่ากัน แม้ว่าการทำกรรมดีจะมีผู้นินทา

    นินทานั้นไม่มีโทษแก่ผู้ถูกนินทาเลย
    ถ้าผู้ถูกนินทาไม่รับ คือไม่ตอบ เช่นเดียวกับผู้ถูกด่าไม่ด่าตอบ
    ผู้ถูกขู่ไม่ขู่ตอบ ผู้ถูกชวนวิวาทไม่วิวาทตอบ
    แต่คำนินทาว่าร้ายทั้งจะตกเป็นของผู้นินทาทั้งหมด
    ผู้นินทาคือผู้ทำกรรม ซึ่งเป็นกรรมไม่ดี
    ไม่ว่าผู้ถูกนินทาจะรับหรือไม่รับก็ตาม
    ผู้นินทาย่อมได้รับผลไม่ดีแห่งกรรมไม่ดีของเขาอย่างแน่นอน

    ดังนั้นแม้เมื่อถูกนินทาแล้ว ก็ให้คิดว่าผู้นินทาเรา
    ได้รับการตอบแทนแล้ว คือได้รับผลของกรรมไม่ดี

    ซึ่งจะส่งผลให้ปรากฏช้าหรือเร็วเท่านั้น
    ผลของกรรมไม่ดีนั้นแหละได้ตอบแทนเขาผู้นินทาแล้ว

    เราไม่มีความจำเป็นต้องตอบแทนแต่อย่างใด
    ความเชื่อในเรื่องกรรม และผลของกรรมมีคุณอย่างที่สุด
    ผู้ใดทำกรรมไว้จักได้รับผลของกรรมนั้น

    ความเชื่อเช่นนี้จักทำให้ไม่คิดร้ายตอบผู้คิดร้าย
    เป็นการระงับเวรภัยไม่ให้เกิดแก่ตน
    เป็นการป้องกันตนมิให้ทำกรรมไม่ดี
    ทั้งทางกายวาจาและใจ
    โดยมุ่งให้เป็นการแก้แค้นตอบแทน
    ผลจักเป็นความสงบสุขแก่ตนและแก่ผู้อื่นด้วย

    ที่มา fwdmail

319  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: อัยการเตรียมสั่งฟ้อง 2 สัปเหร่อ วัดไผ่เงิน ทำลาย 2002 ซากทารก 6 ม.ค. เมื่อ: มกราคม 06, 2011, 12:10:22 pm
เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่สะเทือนใจมากคะ เพราะทำให้เราเห็นว่า ผู้หญิง ชาย สมัยนี้ยังนิยมกามตัณหา กันมาก

และทำลายชีวิตอีกชีวิต ถ้าเป็นสมัยก่อน การที่ผู้หญิงเสี่ยงมีบุตรถือว่า แขวนชีวิตอยู่บนเส้นด้าย เพราะไม่มี

แพทย์ทำคลอดอย่างปัจจุบัน มีแต่หมอตำแย ที่คอยช่วยทำคลอด


 อ่านแล้วก็อนาถใจ ว่าการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ก็เป็นเรื่องยาก พอเป็นแล้ว ก็ยังมาฆ่้าตัวตายอีก แท้ที่จริง

มนุษย์เรามองเห็นอะไร ในสังสารวัฏฏ์ นี้หรือไม่ ว่าการเวียนว่าย เวียนเกิด มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่รอเราอยู่
 :25: :25: :25:
320  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ชีวิตต้องสู้ ( เว้ยเฮ๊ย ) เมื่อ: มกราคม 05, 2011, 02:06:25 pm
อนุโมทนากับนักสู้ ทั้งหมด ด้วยไม่มีคำว่า ย่อท้อ เมียจะเสียเปรียบ ขนาดนี้ชีวิตยังมีอยู่

ก็ต้องเร่งปฏิบัติ จะได้ไม่ได้ต้อง มาเกิด เป็นคนที่ไม่สมบูรณ์ อย่างนี้

ว่าแต่ อะไรเป็นเหตุ ให้ทุกคนต้องมีชีวิตพิกล พิการอย่างนี้

รู้แล้วว่าจะตอบว่า กรรมไม่ดี ใช่ไหม ละ

 แต่ว่ากรรมอะไร ถึงปรุงแต่งให้เป็นอย่างนี้

  :25: :03:
หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10 ... 13