อธิบายผู้มีฤทธิ์แสดงฤทธิ์
(ยกมาแสดงบางส่วน)
คำว่า ด้วยตาทิพย์ คือ ภิกษุผู้มีฤทธิ์ยืนอยู่ ณ ที่นี้เอง ทำแสงสว่างให้ขยายออกแล้วมองเห็นรูปของพรหมนั้น และยืนอยู่ ณ ที่นี้เอง เมื่อพรหมนั้นกล่าวก็ได้ยินเสียง และรู้วาระจิตของเขาได้
คำว่า น้อมจิตไปด้วยอำนาจแห่งกาย คือ น้อมจิตไปด้วยอำนาจแห่งกรัชกาย คือ ยึดจิตซึ่งมีฌานเป็นบาทวางลงในกาย คือ ทำให้คล้อยตามร่างกายให้ไปช้า ๆ เพราะว่าการไปด้วยกายเป็นของช้ากว่าใจ
คำว่า หยั่งลงสู่สุขสัญญาและลหุสัญญา คือ หยั่งลง, เข้าไป, ถูกต้อง, ถึงพร้อม ด้วยสุขสัญญาและลหุสัญญา อันเกิดพร้อมกับจิตที่มีฤทธิ์ซึ่งมีฌานเป็นบาทเป็นอารมณ์
ที่ชื่อว่าสุขสัญญา ได้แก่สัญญาอันสัมปยุตด้วยอุเบกขา จริงอยู่ อุเบกขาท่านกล่าวว่า เป็นสุขอันสงบ ก็สัญญานั้นนั่นแหละ
พึงทราบ ชื่อว่าลหุสัญญาก็ได้ เพราะพ้นจากนิวรณ์และข้าศึกมีวิตก เป็นต้น
ก็เมื่อภิกษุผู้มีฤทธิ์นั้นหยั่งลงสู่สัญญานั้น แม้กรัชกายก็เบาปานปุยนุ่น เธอย่อมไปได้ถึงพรหมโลกพร้อมทั้งร่างกายที่เบาและมองเห็นกันอยู่นี้แหละ ดุจปุยนุ่นซึ่งถูกลมพัดลอยขึ้นไปได้แล้วฉะนั้น ก็เมื่อไปอย่างนี้
ถ้าต้องการก็จะนิรมิตหนทางในอากาศด้วยอำนาจปฐวีกสิณไปได้ด้วยเท้า
หรือถ้าต้องการจะอธิษฐานเป็นลมด้วยอำนาจวาโยกสิณไปตามลมดุจปุยนุ่นก็ได้
อีกอย่างหนึ่ง ความเป็นผู้ต้องการจะไปนั่นแหละเป็นสำคัญในปาฏิหาริย์นี้ เพราะเมื่อมีความพอใจจะไปอยู่ เธอทำการอธิษฐานจิตอย่างนี้แล้ว อันกำลังแห่งการอธิษฐานส่งขึ้นไปแล้ว ย่อมลอยไปอย่างเห็น ๆ อยู่ ดุจลูกศรที่นายขมังธนูยิงขึ้นไปฉะนั้น
คำว่า น้อมกายไปด้วยอำนาจของใจ คือ ยึดเอากายไปวางไว้ที่จิต (ทำกายให้เบาเหมือนจิต) คือเอาเยี่ยงอย่างใจ ได้แก่ไปได้เร็วเหมือนใจ จริงอยู่ การไปของใจเป็นอาการที่รวดเร็ว
คำว่า หยั่งลงสู่สุขสัญญาและลหุสัญญา คือ หยั่งลงสู่สุขสัญญาและลหุสัญญา อันเกิดพร้อมกับจิตซึ่งมีฤทธิ์มีรูปกายเป็นอารมณ์
.....ฯลฯ.....อ้างอิง
วิสุทธิมรรค เล่ม ๒ ภาคสมาธิ ปริเฉทที่ ๑๒ อิทธิวิธนิเทศ หน้าที่ ๒๗๑ - ๒๗๕
th.wikisource.org/wiki/วิสุทธิมรรค_เล่ม_๒_ภาคสมาธิ_ปริเฉทที่_๑๒_อิทธิวิธนิเทศ_หน้าที่_๒๗๑_-_๒๗๕
วิสุทธิมรรค เล่ม ๒ ภาคสมาธิ ปริเฉทที่ ๑๒ อิทธิวิธนิเทศ หน้าที่ ๒๗๖ - ๒๗๙
th.wikisource.org/wiki/วิสุทธิมรรค_เล่ม_๒_ภาคสมาธิ_ปริเฉทที่_๑๒_อิทธิวิธนิเทศ_หน้าที่_๒๗๖_-_๒๗๙
ขอบคุณภาพจาก
http://www.mahamodo.com/