เรื่องทั่วไป > สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน

ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร

(1/8) > >>

รักหนอ:
ในชีวิต เกิดมาไม่เคยรักใคร และไม่อยากรักใคร ผ่านอายุมา 27 ปี ปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่อายุ 16

จนตอนนี้มาพบชายคนหนึ่ง ที่สบตาแค่ครั้งเดียว ทำให้ใจหวั่นไหว แอบมอง แอบเป็นห่วง แอบ......
ที่ใดมีรัก ที่นั่นก็มีทุกข์

อาการกระสับ กระส่าย ไม่เห็นหน้าชายคนนั้นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ
อยากพบ อยากเจอ อยากคุย อยากสนทนา
เวลาเห็นหญิงอื่น คุยสนทนากับชายคนนั้น แล้วรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกเลือดขึ้นหน้า

ถึงแม้รู้ อย่างนี้ ใจมันก็สับสน นั่งนึกภาวนา พุทโธ ๆๆๆๆๆ
แต่อารมณ์ ก็ไม่สงบ สักที

บางคืน ก็หงุดหงิด พาลให้งาน เสียด้วย
คุยคนเดียว เหมือนคนบ้า
รู้สึกตัว อยู่เหมือนกัน แต่ไม่ก็หักห้ามใจ ไม่ได้

นึกถึง เว็บนี้ได้อยากได้คำปรึกษา วิธีปฏิบัติธรรม ต่อความรัก นี้ด้วย

ช่วยด้วย คะ :'( :-[ :'( :-[

หลวงพี่เฉย:
สาธุๆ ที่คิดถึงเว็บเรา ปัญหาของคุณโยมอ่านแล้ว  ก็สาธุ ที่คุณโยมได้ดวงตาเห็นธรรม "ที่ใดมีรัก ที่นั่นก็มีทุกข์" แต่เรื่องนี้ต้องคุยกันยาวม๊ากๆ ขอติดไว้ก่อนจ๊ะ  แต่อาตมานั้นมีคำถามสำหรับโยมก่อนว่า
๑.แท้จริงแล้วชีวิตนี้คุณโยมปรารถนาสิ่งใด (นิพพาน โพธิสัตว์ พรหม สวรรค์ หรือมนนุษย์)?
ขอความสุขความเจริญจงมีแด่โยมสิ้นกาลนาน...เทอญ...เจริญพร

NP2706:
สวัสดี...เลยวันวาเลนไทม์ มา2-3 วันแล้ว

            :88:แหมขอคุยเรื่องความรักเสียหน่อยนะ ถึงแม้จะอ่อนประสบการณ์แต่ก็ขอออกความคิดเห็นบ้างก็ยังดี ความรักเป็นความรู้สึกที่ดีที่ทำให้ใจรู้สึกตื่นเต้นระทึกเรียกว่า อยู่ในภาวะที่มองดูโลกเป็นสิ่งที่สวยงาม และคาดหวัง คิดแบบเข้าข้างตนเอง โอ้ย..เรียกว่าทุกลมหายใจเป็นเธอก็ว่าได้ อันนี้ถ้าห้ามความรู้สึกให้วางเฉยก็จะผิดปกตินะ แต่ถ้าปล่อยจิตให้ไปตามความคิดที่เรียกว่า เพ้อเจ้อไปเรื่อยๆ ก็ฟุ้งซ่านได้ทีเดียว ก็เอาแต่พอกลางๆ แค่เพียงว่ารู้สึกที่ดี ถ้าคิดในเชิงบวก (Positive  thinking) ขอฝรั่งจ๊าหน่อยนะ....ในช่วงชีวิตที่ผ่านมาตั้ง 27 ปี ไม่เคยประสบ เมื่อพบกับสิ่งที่ดีก็ขอให้รักษาสิ่งนั้นให้อยู่กับเรานานๆ เรียกว่า  ได้พบประสบการณ์ที่ใหม่ๆ ก็ค่อยๆ ศีกษานั้นอย่างชาญฉลาด ให้ใช้การมองแบบที่เรียกว่า มองตาให้ทะลุถึงใจ มีเวลาให้เป็นประโยชน์ ใช้ให้มันถูกต้อง อย่าให้ผ่านไปเพียงเหมือนกับลมผ่านพัดเย็นเพียงชั่วคราว เพราะเวลานั้นเราเพียงแค่รู้สึกว่าพอใจ และเมื่อผ่านพ้นไปแล้วก็จะกลับมาอยู่ตัวเองเหมือนเดิม คงเหลือแต่ความรู้สึกที่ได้รับในช่วงเวลาที่ลมพัดผ่านมา :58: :58:
           จริงแล้ว...สิ่งที่กล่าวมาก็ล้วนแล้วแต่เป็นความรู้สึกทั้งสิ้น มีทั้งสุข ทุกข์ สมหวัง ไม่สมหวัง เปลี่ยนไปตามสภาวะ จะยึดติดไปทำไม เราไม่สามารถให้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นคงอยู่ได้ตลอดไป เสียเวลาเปล่าประโยชน์ที่จะรอให้เกิดสภาวะสุขบ้าง ทุกข์บ้าง สมหวังบ้าง และไม่สมหวังบ้าง  เอาเวลาที่เสียไปมาศึกษาธรรมชาติที่แท้จริงของสภาวะจิตใจจะดีกว่า  เพราะทุกๆ คนมีเวลาที่เท่ากัน 24 ชม./วัน แต่มีใครบ้างจะใช้เวลาดังกล่าวที่ได้ใช้ไปเพื่อประโยชน์ของเราอย่างแท้จริง นะ......

           

           

fasai:
 :67:
ความรัก เป็นเรื่องที่ปกติ ของมนุษย์ปุถุชชน ที่เวียนว่ายตายเกิด
การมีความรักนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดปกติ

ความรัก เมื่อมีแล้ว ย่อมทำให้ใจ กระวนกระวาย และ มีความสุข
ความรัก เมื่อประสพแล้ว จะมีคำหนึ่งที่เกิดขึ้นในใจ คือความหวง
ความรัก เมื่อพัฒนาตัวจนถึงขั้นที่สุด ก็จะเป็นความเีสียสละ

มีชายหนุ่ม หญิงสาว ที่เกิดขึ้นมาแล้วไม่รู้จักความรักนั้นไม่มี
แต่ ชายหนุ่ม หญิงสาว ทั้งหลายเหล่านั้นจะพบกับความสมหวังหรือป่าว นี่สิ.....

พระพุทธองค์ พระองค์ทรงตรัสไว้

ที่ใดมีรัก ที่นั่นก็มีทุกข์
ความประสพกับสิ่งไม่เป็นที่รัก ที่พอใจก็เป็นทุกข์
ความพลัดพราก จากสิ่งที่เป็นที่รัก ที่พอใจ ก็เป็นทุกข์
มีความปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์

พูดง่าย ๆ ในเมื่อคุณรักหนอ ได้ปฏิบัติธรรมมานาน และยังพอมีสติอยู่
ก็ถือโอกาส นี้เรียนธรรม ดูนะคะ

ส่วนกรรมฐาน ที่จะแนะนำ มีเพียงอนุสสติ ทั้งหมดคะที่สามารถฝึกได้ในช่วงนี้
โดยเฉพาะ พุทธานุสสติ และั เมตตานุสสติ คะ

แต่ถ้าให้ดีแล้ว เจริญ กายคตาสติ ด้วยก็ดีนะคะ

ยินดีที่รู้จักคะ
 :08:

saithong:
ความรัก ที่จริงแล้วเป็นเรื่องธรรมชาติ
แต่ ความรัก ก็มากับคู่ กับความหลง
ลูกศิษย์ ของฉันเวลามีความรักแล้ว 80% กา่รเรียนจะตกต่ำทันที
เพราะต้องอุทิศเ้วลาให้กับการเที่ยว และเอาใจคนรัก และยอมเสียตัวให้กับคนรัก

ซึ่งทั้งหมดจะนำมาซึ่งปัญหา มากมาย สุดท้ายก็จะเรียนไม่จบ

ดังนั้น ความรัก ถ้าพัฒนาเป็นความหลงแล้ว ก็จะอันตราย

พระพุทธองค์ ทรงตรัสเกี่ยวกับเรื่องความรัก มีสาเหตุ 2 ประการ

1.เกิดจากบุพเพสันนิวาส เคยทำบุญร่วมกันมาในการก่อน
2.เกิดจากการอยู่ร่วมกัน ทำอะไรร่วมกันบ่อย ๆ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป