สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

คือ เพื่อนผมคนหนึ่ง อยากฝึกสมาธิ ก็เลยไปเรียน สมาธิ เรียนและปฏิบัติตามครู ( ฆราวาส ) ได้ประมาณ เดือนหนึ่ง สุดท้่ายตอนนี้ออกอาการเหมือนคนเสียสติ ครับ บางครั้งอยู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาคนเดียว บางครั้ง ใจลอย เมื่อก่อนไว้ใจให้ขับรถ ตอนนี้ให้ขับไม่ได้ เพราะล่าสุดขับรถชนกำแพงซะ อย่างนั้นครับ ไม่ทราบว่าทำไม ไปฝึกปฏิบัติสมาธิ แล้วมีอาการอย่างนี้ ครับ

  :014: :c017:

เพิ่มข้อมูล อีกครับ ส่วนเมียเขา นั้นก็ออกอาการ เริ่มมีลักษณะเป็นเจ้าแม่ แล้วครับ ( คู่นี้ไปเรียนด้วยกัน ) อันนี้ค่อนข้างจะเปิดตัวแรงด้วยครับ มีการชักกระตุก ตึง ๆ ตัง ๆ แล้วก็บอกว่า เป็นผู้มีความสามารถติดต่อเทพองค์นั้นองค์นี้ ครับ และจะมีลักษณะนิสัย คือ ไปนั่งไปพูด กับใคร ก็ต้องให้เขากราบ เขาไหว้ ถ้าเขาไม่กราบ ไม่ไหว้ ก็จะด่าว่า เป็นพวกมาร พวกเปตร ไมรู้จักที่ต่ำที่สูง ประมาณนี้เลยครับ

  จะแก้อย่างไรดีครับ ?

   :c017:

ปฏิบัติผิดทาง ครับ สุดท้ายก็ตกฝ่าย อกุศล ครับแทนที่จะคลายจากตัวตน กับ หลงตนเองเพิ่มขึ้น

  :coffee2: :67: :67:

น่ากลัว ความตั้งใจ ที่ภาวนาขาดความรู้ในการภาวนา จริง ๆ ครับ

 ถ้าเป็นระดับ สมาธิ แล้วบางทีผมเห็นการสะกดจิต กันเป็นปี มาแล้ว นะครับ ที่ รพ.

  คือสะกดจิต ให้ คนไข้ มีอาการว่าไม่เป็นโรค ครับ เพราะคนไข้ พะวงกับเรื่อง โรค มากจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ถึงขั้นเป็นโรคประสาท กัน การสะกดจิตทำให้ผ่อนคลาย นะครับ


  อาการที่กล่าวมาอาจจะเกิด อุปาทาน ที่มีอยู่ก่อน ผสมกับการสะกดจิต จินตนาการ ทำให้เกิดภาพหลอนเป็นเรื่องเป็นราว ผูกกันได้ จริง ๆ เท็จ ๆ  เท็จ ๆ จริง ๆ  ประมาณนี้ครับ

    :s_hi: :13: :13: :13:

น่าจะเป็นอาการ บ้า ครับ

  ผมเจอหลาย ๆ ท่านครับ มักจะออกอาการชอบอวดแสดง ว่าตนเองมีฤทธิ์ อย่างนั้น อย่างนี้ ครับ

 นอนเูถอะครับ อย่าไปสนใจเขาเลยครับ

   :34: :bedtime2:

ยังอยากได้คำตอบ ที่พึ่งได้ อยู่นะครับ

  :banghead: :banghead: :banghead: :banghead:

การเข้าขณิกา ทั้งปีติยุคคล โดยไม่มีครูบาอาจารย์ และยังไม่รู้จักรูปนาม อาจวิปลาสติดผีติดเทวดาได้
     ครูนวหรคุณผู้รู้วิชชา ทั้งหลายสามารถปรับดึงธาตุไฟเอาไว้ยังไม่ให้ระเบิด และให้ศึกษา ธาตุรูปนาม ไต่ระดับ เพื่อให้ปล่อยทั้งความอยากและความยึดถือ การเข้าสะกดจึงมีอยู่ตอนท้ายๆๆ เพราะนั่นคือการเข้าขณิกา อาจมีครูตามประกบดูอยู่                                                                                                                                                       ตัวอย่างคืนที่อาจารย์ฝั้นบรรลุ ก็เห็นอาจารย์มั่นนั่งดูอยู่ อาจารย์มั่งสั่งว่าคืนนี้นั่งที่นี่ห้ามไปราวป่า ที่นี่เท่านั้น อยู่กับท่าน เมื่อกายทิพย์ท่านหลุดตกไต้ถุน และลอยขึ้นมาเห็นตัวเองนั่งอยู่ ก็รู้ว่าจิตหลุด หันไปอีกทางก็พบอาจารย์มั่นนั่งมองอยู่
    ในเรื่องการปรับธาตุ บางองค์ก็เรียกปรับกรรมฐาน ต้องเหนื่อยมาก เพราะต้องใช้ฌาน สมาบัติ และมีการเดินจิต นวหรคุณ เท่าที่พอได้ยินมา คล้ายๆแบบนี้ จะใส่ไปมากเดี๋ยวจะออกแนวฤทธิ์ พวกครูกรรมฐานท่านบังฤทธิ์ไว้ไม่ชอบคุยเรื่องฤทธิ์ เพราะท่านต้องเหนื่อยที่ต้องเสียเวลามากกว่าเดิม  หากลูกศิษย์ติดฤทธิ์ มันก็ไม่ยอมละความมีต้วมีตน ท่านจึงไม่อวด                                                                                                                  สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นเรื่องความสามารถทางฤทธิ์ของผู้เป็นสาวกของพระพุทธะ ท่านเอามาอวดไม่ได้ มันต้องอาบัดจ้า
        ตาดีได้ ตาร้ายเสีย แล้วแต่จริต และศรัทธาวาสนา ตามบารมีนะจ๊ะ
  ส่วนกรรมฐาน มัชฌิมา มีมั๊ย ไม่รู้ต้องดูเอาเอง เคยได้ยินบ้างมั๊ยล่ะ

ฟังดูแล้วน่าจะเป็นร่างทรง
ถ้าเกิดจากการทำสมาธิ น่าจะเป็นลักษณะจิตส่งออก แล้วเห็นนิมิตร
แล้วดันไปรับเข้าตัว ตรงนี้ต้องระวัง เพราะผีทั้งหลายเขาจำแลงกายให้เป็นใครก็ได้
ทีนี้ร่างก็คิดไปเองว่าเป็นคนนั้นคนนี้ เดี๋ยวนี้มีเยอะ หมอดูทั้งหลายนั่นแหละ ใช้ญาณจิต
ใช้ตาทิพย์ ทายอดีตแม่น อนาคตก็สุดแท้แต่

เป็นเพราะเป้าหมายการฝึก นั้นหลุดจาก พุทธศาสน์ นะจีะ

 ผู้ฝึกกรรมฐาน ถ้าฝึกกรรมฐาน เพียงเพื่อให้มี ฤทธิ์ มีเดช นั้นสวนกับการภาวนาทาง พุทธศาสนา จึงทำให้ อวิชชาเพิ่มขึ้น เมื่อ อวิชชา เพิ่มขึ้นจิตจึงตกข้างฝ่ายกิเลส มีความสำคัญว่าตนเองเป็นเลิศ ..... เป็นต้น

 การแก้ไข นั้นเป็นเรื่องยาก สำหรับผู้มีทิฏฐิผิด เพราะการมอบสัมมาทิฏฐิ นั้นไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะกระทำได้ ง่าย ๆ เพราะพวกที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ ส่วนใหญ่ก็จะเป็น ผู้ที่ไม่ต้องการพ้นจากสังสารวัฏ คือเป็น พุทธภูมิ จัดได้ว่าแนะนำยาก เพราะมีความตั้งใจที่จะอยู่ในสังสารวัฏ

  คิดว่า ต้องรอบารมีธรรม ของผู้นั้นสะัสมไปเรื่อย ๆ ก่อนนะจ๊ะ
  ไม่ควรเข้าไปยุ่งกับ พวกเขา เพราะจะทำให้เราเดือดร้อนได้ นะจ๊ะ

 เจริญธรรม

  ;)