อรรถคาถา
....... เป็นสิ่งที่ครูบาอาจารย์ผู้แตกฉานได้ขยายความ โดยการรวบรวมเอาเนื้อหาต่างๆที่อยู่ในแต่ละส่วนมารวมกันและอธิบายขยายความ หลายคน ต่อต้าน....หากต่อต้านส่วนนี้....สิ่งที่ท่านควรทำคือ เมื่อจะแสดงธรรม ควรยก ข้อความที่ห้ามมีการแสดงความคิดเห็นจากท่านหรือบุคคลอื่นเด็ดขาดเพราะทำให้พระไตรปิฏกเพี้ยนไปได้....ดังนั้นอย่าเพิ่งไปปรามาสตีทิ้งในภูมิของครูบาอาจารย์รุ่นก่อนๆที่ท่านแจกฉานพูดอ่านบาลีได้เหมือนกับคนอินเดีย.....
.....คำพูดที่ครูบาอาจารย์พูดในชั้นหลังๆ ท่านได้อธิบายใช้คำพูดเพื่อให้เป็นที่เข้าใจง่าย....มิได้จะไปเปลี่ยนแปลงอย่างที่หลายคนเข้าใจ....อย่างเช่น อนิจจัง ท่านาก็แปลว่า ไม่เที่ยง ไม่พูด อนิจจัง เพราะคนจะไม่เข้าใจ....คนที่ชอบยกพระไตรปิฏกมาเป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องยอมรับความจริงด้วยว่าที่ท่านรู้และเข้าใจได้เพราะใครเพราะอะไร....ไม่ควรดูหมิ่นธรรมผู้อื่นที่เขาแสดงมาโดย ยกย่องเพียงพระพุทธองค์หรือจริตในผู้ที่เหมือนกัน...การรักษาศาสนาได้ไม่ได้รักษาเฉพาะอักษร และให้รักษา...เนื้อหาที่แท้จริงเข้าไปด้วย....ใบประดู่ในป่ามีมากกว่าในกำพระหัตน์ ซึ่งพระองค์ก็ทรงตรัสบอกแล้ว ท่านตรัสแค่นั้นเพราะอายุและกาละในเวลานั้นๆ....ไม่ทำตนเป็นผู้เกลียดปลาไหลกินน้ำแกงเสียเอง......
........................................
อรรถกถา
....คือคัมภีร์ที่รวบรวมคำอธิบายความในพระไตรปิฎกของโบราณจารย์ที่ได้ไขความในพระไตรปิฎกไว้ เรียกว่า คัมภีร์อรรถกถา บ้าง ปกรณ์อรรถกถา บ้าง อรรถกถา จัดเป็นแหล่งความรู้ทางพระพุทธศาสนาที่มีความสำคัญรองลงมาจากพระไตรปิฎก และใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงอย่างแพร่หลายในวงการศึกษาพระพุทธศาสนา
.....คัมภีร์อรรถกถา แต่งโดย พระอรรถกถาจารย์ ซึ่งมีเป็นจำนวนหลายท่านมาก และอรรถกถาจารย์ได้แต่งหนังสืออรรถกถาอธิบายไว้หมดครบทั้งหมด ซึ่งคัมภีร์อรรถกถาเป็นหนังสือที่แต่งอธิบายความหรือคำที่ยากในพระไตรปิฎกให้เข้าใจง่ายขึ้น โดยยกศัพท์ออกมาอธิบายเป็นศัพท์ๆ บ้าง ยกข้อความหรือประโยคยาวๆ มาขยายความให้ชัดเจนขึ้นบ้าง แสดงทัศนะและวินิจฉัยของผู้แต่งสอดแทรกเข้าไว้บ้าง เป็นหนังสือที่มีอุปการะแก่ผู้ศึกษาพระไตรปิฎกรุ่นหลัง ๆ เป็นอย่างยิ่ง
......ลักษณะการอธิบายความในพระไตรปิฎกของอรรถกถานั้น ไม่ได้นำทุกเรื่องในพระไตรปิฎกมาอธิบาย แต่นำเฉพาะบางศัพท์ วลี ประโยค หรือบางเรื่องที่อรรถกถาจารย์เห็นว่าควรอธิบายเพิ่มเติมเท่านั้น ดังนั้นบางเรื่องในพระไตรปิฎกจึงไม่มีอรรถกถาขยายความ เพราะอรรถกถาจารย์เห็นว่าเนื้อหาในพระไตรปิฎกส่วนนั้นเข้าใจได้ง่ายนั่นเอง
.....http://th.wikipedia.org/wiki/อรรถกถา
- สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
|