ปุจฉา
10.นั่งกรรมฐาน แล้ว ภาวนา พุทโธ กับลมหายใจเข้า ออก กับ ไม่กำหนดลมหายใจ เข้าออก แตกต่างกันอย่างไร
วิสัชชนา
แตกต่างกันที่บริกรรม และ กรรมฐาน
การภาวนา พุทโธ โดยตรงไม่เกี่ยวกับลมหายใจเข้าออก มีการกำหนด ฐานจิต ไปด้วยคู่กัน เป็น พุทธานุสสติ โดยตรง ซึ่งกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ในปัจจุบันก็ใช้วิธีการนี้ ไม่มีการตัดคำเป็นส่วน ใช้ พุทโธ ใส่เข้าไปยังฐานจิต โดยตรงอย่างต่อเนื่องในบริกรรม จดจิตสามารถ สัมผัส พระลักษณะ ที่ปรากฏเป็นธาตุกรรมฐานเบื้องต้น จนจิตสามารถเข้าถึง จิต ที่เรียกว่า พระรัศมี อุคคหนิมิตเริ่มปรากฏ เป็น รูปปรมัตถ์ ใช้ในการบริกรรมประจำตนต่อไป การภาวนาเช่นนี้ มีส่วนสำคัญเพราะทำให้กำลังศรัทธาในจริต อื่น ๆ เสมอกัน
ศรัทธา มากกว่า ปัญญา
ศรัทธา เสมอกับ ปัญญา
ศรัทธา อ่อนกว่า ปัญญา
3 ลักษณะนี้ ที่ดีที่สุด คือ ความเป็นกลาง เรียกว่า ศรัทธา เสมอกับ ปัญญา
ส่วนการภาวนา พุทโธ ควบกับลมหายใจเข้า และ ออกนั้น เรียกว่าการเจริญ อานาปานสติ ซึ่งผู้ที่ไม่เคยผ่าน พุทธานุสสติ นั้นจะลำบากในการภาวนา ยิ่งปัจจุบันไปตัดคำภาวนาเหลือเป็น หายใจเข้า พุท หายใจออก โธ ด้วย อย่างนี้ความสมบูรณ์ ยิ่งน้อยลงไปอีก
พุท คือ อะไร
โธ คือ อะไร
ดังนั้น ถ้าท่านจะภาวนา อานาปานสติ ควบคู่กับ พุทธานุสสติ ก็ควรจะใช้คำเต็ม คือ พุทโธ ไม่ต้องแยก หรือ ตัดคำให้เป็นช่วง จึงทำให้ อุปสรรคบารมี ท่านทั้งหลายทอนลง การภาวนา ที่เป็นปฏิภาคนิมิต จึงไม่ปรากฏกันเสียที
สำหรับ อานาปานสติ เมื่อฝึกแล้วก็อย่าสับสนในการภาวนา ดังนั้นต้องคุยรายละเอียดในการภาวนาด้วยเพราะอานาปานสติ นั้น มีกำลังแห่งญาณ ถึง 200 ญาณด้วยการในการหายใจเข้า และ ออก ผ่านไปตามลำดับเป็นขั้น เป็นตอน ไม่ใช่นึกจะฝึก สโตริกาญาณที่ 16 ก็จะทำได้เลย หากไม่ผ่านมาก็จะเป็นเรืองลำบาก
ย้อนกลับมาที่ พุทธานุสสติกรรมฐาน กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ผลการภาวนาเริ่มเข้าไปตามชัดสำเร็จ ตั้ง แต่ ปีติ ยุคลธรรม สุข ธรรม 3 อย่างนี้ปรากฏใน อานาปานสติ ตั้งแต่ขั้นที่ 5 ขึ้นไป
สรุป ท่านฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ก็จะไปฝึกอานาปานสติได้อย่าง ง่าย ๆ ไม่ลำบากมาก เพราะ นิมิตที่เป็น อุคคหนิมิต ท่านได้มาก่อนแล้วนั่นเอง
เจริญธรรม / เจริญพร