ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อภัยทาน ..การให้ที่ยากยิ่ง โดยท่านพุทธทาส☻  (อ่าน 2054 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

konsrilom

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 69
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

อภัยทาน ..การให้ที่ยากยิ่ง โดยท่านพุทธทาส

เราจะให้วัตถุสิ่งของ ให้ทรัพย์สิน นี่ให้ได้
ให้คำแนะนำสั่งสอนนี่ให้ได้ แม้จะยากขึ้นมาหน่อย
…แต่การ “ให้อภัย” นี่ ให้ได้ยากเหลือเกิน

หลวงพุทธทาสภิกขุ ท่านอยากให้ผู้คน “ให้อภัยทาน” กันให้มากที่สุด ท่านกล่าวถึงธรรมมะข้อไว้ดังนี้

อภัยทาน หมายถึง ให้อภัย คำว่า อภัย นี้ แปลว่า ไม่ต้องกลัว ให้อภัยคือเราให้ความไม่ต้องกลัวแก่บุคคลนั้น แปลว่า บุคคลนั้นไม่ต้องกลัวเรา นี่คือให้อภัย

ทีนี้บางคนอาจจะคิดว่า นี้มันไม่ใช่ให้ทาน…นี่มันไม่รู้ เขาพูดไป ทั้งที่ไม่รู้การให้อย่างนี้ เรียกว่า ให้ทาน แต่เขาเรียกว่า อภัยทาน เป็นสิ่งที่ให้กันได้ ให้ได้ทั้งทางกาย ให้ได้ทั้งทางวาจา ให้ได้ทั้งทางจิตใจ ทางร่างกาย…เขามาขอขมา ขออภัยเราก็รับ ทางวาจา…บอกอโหสิกรรม , ทางจิตใจ…เราสลัดความโกรธ ความอาฆาตจองเวร อย่างนี้ก็เรียกว่า “อภัยทาน” ทั้งนั้นมีได้ทั้งทางกาย ทางวาจา ทางใจ

อภัยทานอย่างแรก คือ การให้อภัยโทษ ให้ขมาโทษ คือยอมรับการขมาโทษ เรียกว่า ให้อภัยโทษ รับการขอขมานี่เข้าใจกันดีแล้วไม่ต้องอธิบายก็ได้

อย่างที่สอง เราไม่เบียดเบียน ไม่ประทุษร้ายใครนั้นแหละ คือให้อภัยทานเหมือนกัน เราจงเป็นอยู่อย่างไม่เบียดเบียน อย่างไม่ประทุษร้ายใคร ที่เขาเรียกว่า “ศีล” ศีลนั้นแหละคืออภัยทาน เราไม่ประทุษร้าย ไม่เบียดเบียนแก่ชีวิตแก่ร่างกาย หรือแก่น้ำใจ ไม่เบียดเบียนเนื้อตัวของเขา ไม่เบียดเบียนจิตใจของเขา ไม่ทำลายชีวิตของเขาทุกระดับ นับตั้งแต่สัตว์เดรัจฉานขึ้นมาจนถึงมนุษย์ จนกระทั่งเทวดา หรือพรหมอะไร ถ้ามันจะมี แปลว่าสิ่งมีชีวิต มีความรู้สึกนึกคิดแล้ว เราไม่เบียดเบียนให้เขารู้สึกกระทบกระทั่งเป็นทุกข์ เรียกว่า ให้ความไม่เบียดเบียน ความไม่ประทุษร้าย

อย่างที่สาม แผ่เมตตาจิตเป็นปกติ ทุกวัน ทุกคืน ทุกลมหายใจเข้าออก นี้ก็คือ อภัยทาน นึกดูแล้วก็น่ารวย ในข้อที่ว่า อภัยทานนี้ไม่ต้องลงทุนสักสตางค์หนึ่งก็ได้ ไม่ต้องเสียหลายแสนน่ะ ได้ผลสูงกว่าเสียอีก

ขอให้รู้ไว้ว่า อภัยทานนี่มันทำยากกว่าการให้วัตถุ เพราะมันเป็นเรื่องจิตใจมากขึ้นไปอีก คนถือตัว ใครมาขอขมาก็ไม่ยอมให้ แถมทำผู้อื่นเดือดร้อนอยู่เรื่อย ไม่รักผู้อื่น ไม่เห็นใจผู้อื่น นี่เรียกว่า ไม่มีอภัยทาน

ฉะนั้น ขอให้ตัดสินใจแน่ไปว่า…ตั้งแต่วันนี้ไปจะสะสาง เรื่องอภัยทานนี้ให้เป็นชิ้นเป็นอัน สำหรับวัตถุทานก็ทำมามากแล้ว แต่เรื่องอภัยทานนี้ยังโหรงเหรง นี่ขอให้ไปชำระสะสาง คือให้มันมีขึ้น ให้มันครบถ้วน ให้มันถูกต้อง

1. ให้อภัยโทษ ยอมรับขมา
2. ไม่เบียดเบียน ไม่กระทบกระทั่ง ไม่ประทุษร้ายใครหมด
3. อยู่ด้วยจิตที่แผ่เมตตา ทั้งกลางวันกลางคืน
บันทึกการเข้า