ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: Think Before You Speak…จงมีสติ และคิดก่อนพูด!  (อ่าน 1283 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Think Before You Speak…จงมีสติ และคิดก่อนพูด!
« เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2019, 07:29:32 pm »
0



Think Before You Speak…จงมีสติ และคิดก่อนพูด.!!

ช่วงหลังๆ มานี้ เรามักได้ยินข่าวของคนดังๆ หลายคน ที่มักจะมีกระแสทางด้านลบออกมา เพียงเพราะ “คำพูด” อยู่บ่อยๆ ทำให้นึกไปถึงคำพูดของคนดังผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตอีกท่านหนึ่ง นั่นคือ คุณวิกรม กรมดิษฐ์ นักธุรกิจระดับแถวหน้าของไทย โดยคุณวิกรมได้ เคยพูดเอาไว้ว่า “คนเราควรคิดก่อนพูดจะได้ไม่เสียใจในอนาคต เพราะคำพูดที่ออกจากปากไปไม่สามารถที่จะแก้ไขใหม่ได้ ดังนั้น หากใช้เวลาสักนิดเพื่อคิดก่อนพูด จะได้ไม่ต้องมาเสียใจเพราะคำพูดของตนในภายหลัง”  เราเห็นด้วยกับคำกล่าวนี้อย่างที่สุดเลยค่ะ

วันนี้เราเลยอยากมาพูดในเรื่องของ  “คำพูด” ที่ถือเป็นหนึ่งใน 3 สิ่งที่ถ้าเราปล่อยผ่านไปแล้ว ไม่สามารถเรียกร้องให้กลับคืนมาได้อีก ฉะนั้นจง “จงคิดทุกคำที่พูด แต่อย่าพูดทุกคำที่คิด” เพราะคำพูดบางคำที่ไม่ได้คิด อาจทำร้ายคนหนึ่งคนได้มากมาย คำพูดบางคำที่เกิดจากอารมณ์เป็นหลัก อาจทำให้คนฟังรู้สึกเสียใจ หมดหวัง หมดกำลังใจ ถึงแม้ที่เราพูดไป เราจะคิดว่ามีเจตนาดี  แต่เราก็ต้องเลือกว่าเราจะพูดยังไง ไม่ให้คนฟังรู้สึกเสียใจ และรับรู้ถึงเจตนาที่ดีของเรา อย่าปล่อยให้คำพูดที่ไม่ได้ตั้งใจ ที่เราคิดเอาเองว่าเล็กๆ น้อยๆ กัดกร่อนทำลายจิตใจคนฟังได้นะคะ


@@@@@@

เราทุกคนต่างก็รู้ดีว่าการคิดให้ถี่ถ้วน หรือการต้องมาคอยระวังเวลาที่จะพูดอะไรออกไปนั้นมันทำได้ยาก เพราะอาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา บางทีเราอาจไม่ได้ตั้งใจ ยิ่งตอนนี้มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เราได้แสดงควาคิดเห็นได้เร็วขึ้น บางทีอาจพลั้งเผลอไม่ได้กรั่นกรองสิ่งงที่คิดออกไป อาจเผลอแสดงควาคิดออกมาเลย หลายครั้งทำให้เกิดความเสียหาย ทำให้ต้องกลับมาคิดว่า เพียงเพราะเราพูดคำนั้นได้ ไม่ได้หมายความว่าเราควรพูดมันออกไป

หากใครคิดอยากจะสร้างนิสัยที่ดีเกี่ยวกับคำพูด แต่ยังขาดไอเดียว่าควรต้องเริ่มทำอย่างไร เรามีเทคนิคมาฝากกันค่ะ เป็นเทคนิคง่ายๆ ท่หลายคนอาจรู้แต่ยังทำไม่ได้ เอาเป็นว่าลองมาฝึกดูนะคะ ถ้าเราพยายามและคิดท่ะทำแล้ว เชื่อว่าสักวันเราจะเป็นกูรูเรื่องคำพูดที่ดีแน่นอนค่ะ

@@@@@@

>> สร้างนิสัยคิดก่อนพูดให้ติดตัวเสมอ <<

การคิดก่อนพูดเป็นนิสัยที่ดีที่ควรสร้างให้ติดอยู่กับตัวเสมอนะคะ เราลองตั้งสติและคิดก่อนพูดทุกครั้ง ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อะไร ไม่ว่าจะรู้สึกยังไงก็ตาม ให้นึกเอาไว้ตลอดเวลาว่าหากเราคิดก่อนพูดจะทำให้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง ก่อนจะพูดอะไรออกไป ก็ควรจะคิดให้ถี่ถ้วนเสียก่อนว่าพูดออกไปแล้วดีหรือไม่ดี ยิ่งถ้าต้องพูดกับคนอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือจากเราด้วยแล้วก็ขอให้คิดก่อน ว่าสิ่งที่เราจะพูดออกไปนั้น มันแสดงออกถึงความมีน้ำใจหรือเปล่า


>> นึกเสมอว่า “คำพูด” สามารถทำร้ายเราได้เช่นกัน << 

การพูดกับคนจำนวนมากกว่า 1 คน นั้น มีเหตุผลหลายอย่างที่เราควรหยุดแล้วคิดก่อนที่จะเผลอพูดออกไป ยกตัวอย่างเช่น คนมักจะพูดนินทาคนอื่นโดยไม่ระมัดระวัง คำพูดบ่งบอกถึงตัวตนของคนพูด คำพูดทำให้เกิดเรื่องดีๆ และคำพูดก็ทำร้ายเราได้เช่นกัน หลังจากพูดออกไป เราไม่สามารถหลบซ่อนจากผลที่ตามมาหรือธาตุแท้ที่เผยออกมาได้ คนที่พูดในที่สาธารณะบางคนไม่หยุดแล้วคิดก่อนพูด เผลอไม่ระมัดระวังคำพูด พูดขัดแย้งกันบ่อยๆ นึกไม่ถึง ไม่รู้ว่าคำพูดที่หลุดออกจากปากนั้น ไม่ว่าจะขอโทษกี่ครั้งก็ไม่อาจกลับคำพูดนั้นได้ ทางที่ดีควรมีสติคิดก่อนว่าพูดออกไปแล้วมีผลดีอะไรกับคนอื่นหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ลองไม่พูดดูจะดีกว่าค่ะ แบบที่เค้าเรียกว่า “นิ่งสงบ สยบเคลื่อนไหว” ยังไงล่ะคะ

>> ต้องไม่ลืมว่า “คำพูด” มีพลัง <<

เราต้องห้ามลืมนะคะว่า “คำพูดมีพลัง” ทั้งพลังที่จะช่วย พลังที่จะรักษา พลังที่จะทำร้าย พลังที่จะล้อเลียน เราเลือกที่จะใช้มันสร้างแรงกระตุ้นหรือทำลายความหวังของคนได้ ดังนั้น ก่อนจะพูดออกไป จะต้องใช้เวลาคิดก่อนว่าจะพูดยังไง นึกถึงคนฟัง นึกถึงผลกระทบที่จะตามมา ใช้คำพูดที่รักษาน้ำใจ คำพูดที่ให้แรงบันดาลใจ คำพูดไพเราะน่าฟังเป็นสิ่งที่ต้องการของคนทั่วไปเวลาที่พูด ก็ควรพูดอย่างมีสติ พูดในแบบที่จะสร้างสันติและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น คำพูดและน้ำเสียงต่างก็สร้างผลกระทบได้ พูดความจริง

ไม่พูดเกินจริง พูดให้สอดคล้องกัน ไม่ใช้สองมาตรฐาน ไม่ใช้คำพูดเพียงเพราะต้องการชี้นำผู้อื่น และที่สำคัญไม่ใช้คำพูดที่สื่อถึงการคุกคามหรือพูดทำร้ายผู้อื่น หรือพูดด้วยความตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ ในการเจรจา ไม่ว่ากับใครก็ตาม การพูดความจริงเป็นสิ่งจำเป็น และถึงแม้จะต่างความคิด ถึงแม้จะไม่เห็นด้วย แต่เราก็ยังต้องพูดกันด้วยความมีน้ำใจ เคารพผู้อื่น แสดงออกถึงความเป็นสุภาพชนเสมอ


>> “คำพูด” ที่ดี ช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดี <<

เชื่อหรือไม่คะว่าหากเราใช้คำพูดในทางที่ดี มันจะกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ดีที่ทำให้คนฟังรู้สึกดี ช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดี ทำให้เกิดขึ้นได้ในทุกที่ ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการพูดดีทำให้ความร่วมมือกันในกลุ่มดีขึ้น แต่หากเราใช้คำพูดในทางไม่ดี พูดข่มเหง พูดดูถูก พูดให้ร้ายผู้อื่น มันก็จะเป็นกระสุนทำร้ายจิตใจคน ทำลายความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ พูดง่ายๆ คือ ถ้าพูดไม่ดีก็ทำลายความสัมพันธ์ได้เช่นกัน สิ่งสำคัญในการพูดคือการตั้งใจฟังและอดทน พูดอย่างมีสติ มีวิธีการพูดที่ดี และพูดความจริงที่เราเข้าใจ ระมัดระวังการใช้คำพูด น้ำเสียงและภาษากายร่วมด้วยค่ะ

>> ควรคิดพิจารณาให้ดีก่อนที่เราจะพูดสิ่งนั้นๆ <<

การพิจารณาสิ่งที่จะพูดออกไปต้องนึกถึงว่า สิ่งที่พูดนั้นเป็นจริงหรือเปล่า, มันเกิดประโยชน์หรือเปล่า, มันให้แรงบันดาลใจหรือเปล่า, มันจำเป็นหรือเปล่า หรือมันรักษาน้ำใจหรือเปล่า ยิ่งพูดถึงบุคคลอื่นด้วยแล้วยิ่งต้องระวัง เพราะเราไม่รู้จักเขาดีพอ ไม่รู้ถึงความรู้สึกนึกคิดของเขาดีเท่ากับตัวเขาหรอก เราจะไปคาดเอาเองว่าเขาเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ แล้วไปพูดทำให้เขาเสียหายดูจะไม่ยุติธรรมนัก ดีที่สุดคือไม่พูดถึงคนอื่นโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงดีพอ แม้จะรู้จริงก็ไม่ควรพูด ถ้าจำเป็นต้องพูดก็ควรพูดอย่างมีสติ พูดด้วยความระมัดระวัง เพราะการพูดถึงคนอื่นนั้นเสี่ยงต่อการเป็นศัตรูกันและจะเป็นบาปกรรมด้วย ระวังไว้เป็นดีที่สุดค่ะ



>> ประโยคที่เราควรคิดก่อนพูดกับคนอื่น <<

เรื่องของคำพูดนั้นแน่นอนว่ามันมี่สูตรตายตัวหรอกค่ะ ว่าควรใช้คำพูดแบบไหน เพรพาะมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ เวลานั้น แต่วันนี้เราได้รวบรวม ประโยคหลักๆ ที่คิดว่าไม่ควรพูดออกไป เพราะอาจเป็นการทำร้ายจิตใจผู้ที่ได้ยิน ใครเคยพูดประโยคเหล่านี้ก็ลองหยุดทำ เชื่อว่าสถานการณ์และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าของคุณต้องดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ ไปดูกันว่ามีประโยคไหนบ้างที่ควรเบรกไว้

    - ก็มักจะเป็นซะอย่างนี้
อย่าลืมวิคะว่าในโลกนี้ไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาด ดังนั้นคำพูดประมาณนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเวลาที่คนฟังกำลังทำผิดพลาดอะไรสักอย่าง พูดแบบนี้ไม่ดีเลย เหมือนเป็นการประชดประชันและตอกย้ำความผิดของคนฟังไปอีก ลองปรับคำพูดดูสักนิด พูดให้เบาลงหน่อย อธิบายให้คนฟังได้เข้าใจว่าอะไรคือปัญหาที่เค้ากำลังเจอ แสดงความจริงใจ และห่วงใย ดีกว่าการซ้ำเติมนะคะ เชื่อแน่ว่าถ้าเราพูดด้วยควาจริงใจ ด้วยถ้อยคำที่ไม่บั่นทอน คนฟังย่อมรู้สึกดีกว่า และอยากฟังมากกว่าแน่นอนค่ะ

     - ทำแบบนี้ก็เหนื่อยแย่เลยสิ
บางครั้งเราอาจพูดประโยคนี้ออกไปด้วยความห่วงใยคนฟัง และอยากให้คนคนนั้นรู้ว่าเราสามารถช่วยเหลือเขาได้ แต่ด้วยน้ำหนักและโทนเสียงที่พูดออกไป หากคนฟังกำลังเหนื่อยและท้ออยู่พอดี อาจตีความไปว่าเรากำลังเยาะเย้ยเขาเสียมากกว่า เพราะเขาก็เหนื่อยอยู่แล้วซึ่งเราก็เห็นๆ อยู่ ในขณะที่ตัวเรากำลังมีความสุข ไม่มีอะไรต้องเหนื่อยในชีว้ต เรารู้สึกชิลมาก แต่เขากำลังเหนื่อย ก็ไม่คววรถามหรือพูดประโยคนี้ออกไปนะคะ ถ้าจะให้ดี ควรเลี่ยงไปใช้คำที่ดูดี น่าฟังกว่า เช่น พักนี้ดูเหนื่อยนะ เป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า เชื่อเถอะว่าคนฟังจะเปิดใจอยากเล่าหรือระบายให้เราฟังมากกว่าประโยคแรกชัวร์ค่ะ ไม่เชื่อลองทำดู!

     - ขอให้โชคดีแล้วกันนะ
ที่จริงแล้วประโยคแบบนี้ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิด แต่เชื่อเถอะค่ะว่าถ้าสถานการร์ของคนฟังกำลังแย่ กำลังรับงานหนัก รับภาระที่มากมายจนเกินจะแบกไว้ แล้วคุณพูดแบบนั้นออกไป วัตถุประสงค์รับรองเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดีแน่นอน เพราะจากความปรารถนาดี เขาจะคิดว่ากำลังถูกเยาะเย้ยว่าไม่แน่จริง ทำงานพวกนี้ไม่ได้หรอก แทนที่เขาจะรู้สึกมั่นใจ มันจะดีกว่ามากหากเราเปลี่ยนมาใช้คำว่า เราเชื่อว่าคุณทำได้ หรือขอให้คุณทำงานที่ได้รับให้เต็มที่เราเชื่อว่ามันจะต้องออกมาดี พูดแบบนี้คดีพลิกค่ะ จากเรื่องร้าย กลายเป็นดีแน่ๆ เลย

     - ก็อย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้นั่นไง
ในหลายๆ สถานการณ์และหลายโอกาส เราคิดว่าเราอธิบายสิ่งต่างๆ ไปหมดทุกอย่างแล้ว แต่อย่าลืมว่าคนฟังหลาคนไม่ใช่ว่าจะเข้าใจสิ่งที่เราอธิบายไปแล้วทุกคน บางทีอาจมีเพียง 1 คน หรือ 2 คน ที่เข้าใจ แต่จะดีกว่า ถ้าหากมีคนไม่เข้าใจสิ่งที่คุณอธิบายไป แล้วยอมที่จะอธิบายอีกรอบ อย่าคิดว่าเป็นการเสียเวลา อย่าโทษว่าคนฟังเข้าใจอะไรยาก หากโทษตัวเองว่าอาจจะอธิบายไม่ละเอียด หรือพูดอะไรไม่ค่อยเคลีย แล้วเต็มใจที่จะอธิบายใหม่ รับรองว่า win win ทั้งสองฝ่าย ทั้งคนฟังและตัวคุณเองค่ะ

@@@@@@

เอาเป็นว่าเราขอปิดท้ายด้วยประโยคที่ว่า “คิดก่อนพูดศรัตรูกลายเป็นมิตร พูดก่อนคิดมตรจะกลายเป็นศรัตรู” นะคะ ทั้งหมดที่เอามาฝากกันในวันนี้เป็นเรื่องที่เน้นให้คุณจงเป็นคนที่คดก่อนพูด รวมถึงคิดก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไปทุกอย่างด้วยค่ะ โยเฉพาะในสังคมสมัยนี้ด้วยยิ่งต้องเอาหลักการพวกนี้ไปใช้ให้กลายเป็นนิสัย เพราะหากเราพลาดไป พูดผิดเพียงนิดเดียว อาจส่งผลเสียในระยะยาวได้เลย ต้องไม่ลืมว่าโลกโซเชียลนั้นไวมาก ทางที่ดี คิดเยอะๆ พูดน้อยๆ จะดีที่สุดจ้า



ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/lifestyle/knowledge-work-inspiration/147894.html
By pant ,31 March 2019
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ