ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณเป็นชนเหล่าใด.? "อันธปุถุชน หรือ กัลยาณปุถุชน"  (อ่าน 1937 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ความหมายของปุถุชน
             
      ก็ในบทว่า อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน นี้ พึงทราบวินิจฉัยดังนี้ :-
      ปุถุชน ชื่อว่าเญยยะ เพราะไม่มีอาคม ชื่อว่าอัสสุตวา เพราะไม่มีอธิคม.
      อธิบายว่า ปุถุชนใด ชื่อว่าไม่มีอาคมที่ขจัดความไม่รู้ เพราะไม่รู้เหตุที่เว้นจากการเรียน การสอบถามและการวินิจฉัยในขันธ์ ธาตุ อายตนะ สัจจะ ปัจจยาการและสติปัฏฐาน เป็นต้น.
      ชื่อว่าไม่มีอธิคม เพราะไม่ได้บรรลุธรรมที่จะพึงบรรลุด้วยการปฏิบัติ.
      ปุถุชนนั้นจึงชื่อว่า เญยยะ เพราะไม่มีอาคม ชื่อว่าอัสสุตวา เพราะไม่มีอธิคม.

      ชนนี้นั้น ชื่อว่า ปุถุชน เพราะเหตุทั้งหลายมีการยังกิเลสหนาให้เกิดเป็นต้น
      อีกอย่างหนึ่ง ชนนี้ชื่อว่า หนา (ปุถุ) เพราะหยั่งลงภายในกิเลสที่หนา.
      จริงอยู่ ชนนั้น ชื่อว่าปุถุชน เพราะเหตุทั้งหลายมีอาทิ คือ ยังกิเลสเป็นต้นที่หนามีประการต่างๆ ให้เกิด.


       ans1 ans1 ans1 ans1

      สมดังพระธรรมสังคาหกาจารย์กล่าวไว้ว่า ชนทั้งหลาย
      ชื่อว่าปุถุชน เพราะอรรถว่า ยังกิเลสหนาให้เกิด,
      ชื่อว่าปุถุชน เพราะอรรถว่า ถูกสักกายทิฏฐิเบียดเบียนมาก,
      ชื่อว่าปุถุชน เพราะอรรถว่า ต้องคอยมองดูศาสดาบ่อยๆ,
      ชื่อว่าปุถุชน เพราะอรรถว่า ยังไม่หลุดพ้นไปจากคติทั้งปวงที่หนาแน่น,
      ชื่อว่าปุถุชน เพราะอรรถว่า ปรุงแต่งเครื่องปรุงแต่งต่างๆ เป็นอันมาก,
      ชื่อว่าปุถุชน เพราะอรรถว่า ถูกโอฆะต่างๆ เป็นอันมากพัดพาไป,
      ชื่อว่าปุถุชน เพราะอรรถว่า เดือดร้อนด้วยความเดือดร้อนต่างๆ เป็นอันมาก,
      ชื่อว่าปุถุชน เพราะอรรถว่า เร่าร้อนด้วยความเร่าร้อนต่างๆ เป็นอันมาก,
      ชื่อว่าปุถุชน เพราะอรรถว่า กำหนัด ติดใจ สยบ ลุ่มหลง ติดขัด ขัดข้อง พัวพันในกามคุณ ๕ เป็นอันมาก.
      ชื่อว่าปุถุชน เพราะอรรถว่า ถูกนิวรณ์ ๕ ร้อยรัดไว้ ปกคลุม ปิดบัง ครอบงำไว้เป็นอันมาก.


       :25: :25: :25: :25:

      อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่าปุถุชน เพราะอยู่ในหมู่ชนผู้มีธรรมจริยาต่ำ ผู้หันหลังให้กับอริยธรรม. จำนวนมาก คือนับไม่ถ้วน ซึ่งหันหลังให้อริยธรรม.
      อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่าปุถุชน เพราะอรรถว่า ชนนี้ถึงการนับว่าแยกอยู่ต่างหาก คือ ไม่เกี่ยวข้องกับพระอริยเจ้าทั้งหลายผู้ประกอบด้วยคุณมีศีลและสุตะ เป็นต้น.

      ด้วย ๒ บทว่า อสฺสุตวา ปุถุชฺชโน นี้ ดังกล่าวมานี้.
      ในบรรดาปุถุชน ๒ จำพวกที่พระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์พระอาทิตย์ได้ตรัสไว้ คือ
             - อันธปุถุชนพวกหนึ่ง
             - กัลยาณปุถุชนพวกหนึ่ง
      พึงทราบว่า ท่านกล่าวหมายถึงอันธปุถุชน.

___________________________________________________________________________
ที่มา อรรถกถา มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ มูลปริยายวรรค มูลปริยายสูตร ว่าด้วยมูลเหตุแห่งธรรมทั้งปวง
www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=12&i=1&p=2#ความหมายของปุถุชน





อธิบายคำว่า ปุถุชน
   
           
     ในคำว่า เยน ปุถุชโน นี้ มีคำอธิบาย ดังต่อไปนี้
     พระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์พระอาทิตย์ ตรัสว่า
     ปุถุชนมี ๒ พวก คือ
            - อันธปุถุชน ๑
            - กัลยาณปุถุชน ๑ ดังนี้.
     ในปุถุชนมี ๒ พวกนั้น
      บุคคลผู้ไม่มีการเรียน การสอบสวน การฟัง การทรงจำและการพิจารณาในขันธ์ ธาตุและอายตนะเป็นต้น นี้ชื่อว่า อันธปุถุชน.
     บุคคลผู้มีกิจเหล่านั้น ชื่อว่า กัลยาณปุถุชน.


     อนึ่ง ปุถุชนทั้ง ๒ พวกนี้ ชื่อว่าปุถุชน ด้วยเหตุทั้งหลาย มีการยังกิเลสมากมายให้เกิด เป็นต้น ชนนี้เป็นพวกหนึ่ง เพราะหยั่งลงภายในของปุถุชน ดังนี้.
     จริงอยู่ ปุถุชนนั้น ชื่อว่าปุถุชน ด้วยเหตุเป็นต้นว่า ยังกิเลส เป็นต้น มีประการต่างๆ มากมายให้เกิด.

 
      ans1 ans1 ans1 ans1

     อย่างที่พระธรรมเสนาบดีสารีบุตรเถระกล่าวไว้ว่า
     ชื่อว่าปุถุชน เพราะยังกิเลสมากมายให้เกิด.
     เพราะยังกำจัดสักกายทิฏฐิมากมายไม่ได้.
     เพราะส่วนมากคอยแต่แหงนมองหน้าครูทั้งหลาย.
     เพราะส่วนมากออกไปจากคติทั้งปวงไม่ได้.
     เพราะส่วนมากสร้างบุญบาปต่างๆ.
     เพราะส่วนมากถูกโอฆะต่างๆ พัดไป ถูกความเดือดร้อนให้เดือดร้อน ถูกความเร่าร้อนให้เร่าร้อน กำหนัด ยินดี รักใคร่ สยบ หมกมุ่น ข้อง ติด พัวพัน อยู่ในเบญจกามคุณ.
     เพราะถูกนิวรณ์ ๕ กางกั้น กำบัง เคลือบ ปกปิด ครอบงำ.
     เพราะหยั่งลงภายในชนจำนวนมากซึ่งนับไม่ถ้วน ล้วนแต่เบือนหน้าหนีอริยธรรม มีแต่ประพฤติธรรมที่เลวทราม ดังนี้ก็มี.
     เพราะชนนี้เป็นพวกหนึ่ง คือ ถึงการนับว่าเป็นต่างหากทีเดียว ไม่เกี่ยวข้องกับอริยชนทั้งหลายผู้ประกอบด้วยคุณมีศีลและสุตะ เป็นต้น ดังนี้ก็มี.

________________________________________
ที่มา อรรถกถา ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค พรหมชาลสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=9&i=1&p=3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 30, 2015, 10:50:20 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: คุณเป็นชนเหล่าใด.? "อันธปุถุชน หรือ กัลยาณปุถุชน"
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2015, 11:07:57 pm »
0

     ขออนุโมทนาสาธุ ครับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

บุญเอก

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 516
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: คุณเป็นชนเหล่าใด.? "อันธปุถุชน หรือ กัลยาณปุถุชน"
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2015, 12:31:52 am »
0
 st11 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
ทำงานอาสา หวังช่วยคนตกยาก แม้จะลำบาก แต่ก็จะทำโดยความไม่หนักใจ
อาสากตัญญู พัทยา ยินดีรับใช้