ขอนอบน้อมแด่ พระพุทธเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ขอนอบน้อมแด่พระธรรม ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว
ขอนอบน้อมแด่พระสงฆ์ ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ พระเถระ พระอริยะเจ้าทั้งหลาย ผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ผู้ที่ควรแก่การเคารพนพน้อม
ผมขออนุญาตตอบกระทู้นี้ด้วยปัญญาอันน้อยนิด หากเมื่อผิดพลาดบิดเบือนคำสอนประการใดขอความกรุณาท่านผู้รู้ชี้แนะตักเตือนด้วยครับ
ศีล คือ ความปกติ แปลได้หลายความหมาย เช่น ความปกติของคนย่อมไม่พยาบทเบียดเบียนใครทางกาย วาจา ใจ หรือ อีกส่วนหนึ่ง ความปกติ คือ ความมีกาย วาจา ใจปกติ สงบผ่องใส ไม่ร้อนรุ่มร้อนรนใจ
ศีล คือ พื้นฐานแห่งกุศลทาง กาย และ วาจา เป็นหลัก โดยเป็นการสำรวมในอินทรยีย์ ๕ คือ หู ตา จมูก ลิ้น กาย เป็นเหตุส่วนหนึ่งให้ สติปัฏฐานบริบูรณ์ เมื่อสติปัฏฐานสมบูรณ์ โพชฌงค์ย่อมสมบูรณ์ เมื่อโพชฌงค์สมบูรณ์ วิชชาและวิมุตติย่อมเกิดขึ้นสมบูรณ์
ศีล เป็นส่วนหนึ่งใน กุศลกรรมบท ๑๐
เมื่อมีศีล ความร้อนรุ่ม ร้อนรนใจย่อมดับไปด้วยเดชแห่งกุศลอันนั้น
เมื่อความร้อนรุ่ม ร้อนรนใจไม่มี เราย่อมมีความแจ่มใสเบิกบานใจ
เมื่อมีจิตใจแจ่มใสเบิกบาน เราย่อมมีความอิ่มเอมใจ
เมื่อมีความอิ่มเอมใจ จิตเราย่อมยังความสงบในกายและใจ
เมื่อมีความสงบกายและใจ จิตเราย่อมเป็นสุขแช่มชื่น
เมื่อมีจิตเป็นสุขแช่มชื่น จิตเราย่อมตั้งมั่นจดจ่อควรแก่งาน
เมื่อมีจิตตั้งมั่นจดจ่อควรแก่งาน ความรู้เห็นตามจริงย่อมเกิดขึ้น