ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สักการะพระบรมสารีริกธาตุ สร้างพระมหาเจดีย์มงคล วัดป่าศรีคุณาราม อุดรธานี  (อ่าน 3511 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


อิ่มบุญใหญ่..สักการะพระบรมสารีริกธาตุ สร้างพระมหาเจดีย์มงคล วัดป่าศรีคุณาราม
คอลัมภ์ เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน

    หากเอ่ยถึง “พระบรมสารีริกธาตุ” หรือ “พระธาตุ” หลายคนคงคุ้นเคยกันดี โดยเฉพาะพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย เชื่อว่าหากได้มีโอกาสสักการบูชาสักครั้งในชีวิต ความศักดิ์สิทธิ์ย่อมดลบันดาลให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองและอุดมสมบูรณ์ พระบรมสารีริกธาตุ เป็นชื่อเรียกขานนามพระธาตุอันบังเกิดแต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้า แยกย่อยได้เป็นหลายส่วน เช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง โลหิต และอื่น ๆ

    แต่ละประเภทก็แตกต่างกันออกไป ลักษณะจะคล้าย กรวด หิน แก้ว เพชร และอัญมณี มีหลายสี ตั้งแต่ใสดุจแก้ว ขาวขุ่น สีทอง สีดำ สีชมพู สีแดง ขนาดจะเท่าเมล็ดข้าวสาร เมล็ดผักกาด เมล็ดถั่ว หรือเมล็ดงา

    พระบรมสารีริกธาตุ หรือ พระธาตุ สามารถพบเห็นและแวะไปสักการะได้หลายแห่ง ในประเทศไทยมีการก่อสร้างสถานที่ประดิษฐานเอาไว้มากมาย อาทิ พระบรมธาตุไชยา พระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุพนม พระธาตุแช่แห้ง พระธาตุลำปางหลวง เป็นต้น

อรรถกถาสุมังคลวิลาสินี ที่เรียบเรียงโดยพระภิกษุอินเดียประมาณ พ.ศ. ๑๐๐๐ ซึ่งเป็นคัมภีร์อธิบายข้อความของพระสูตรฑีฆนิกายในพระสุตันตปิฎก ได้จำแนกพระบรมสารีริกธาตุออกเป็น ๒ แบบ กล่าวคือ

    ๑. พระบรมสารีริกธาตุที่ยังคงรูปร่างเดิมเป็นชิ้น ๆ เท่าที่ปรากฏมี ๗ พระองค์ ได้แก่ พระนลาฏ (หน้าผาก) ๑ พระเขี้ยวแก้ว ๔ พระรากขวัญ (กระดูกไหปลาร้า) ๒

     ๒. พระบรมสารีริกธาตุส่วนต่าง ๆ ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ไม่เป็นชิ้น แต่แยกสลายเป็นเม็ดเล็ก ๆ กระจัดกระจายประดิษฐานตามสถานที่ต่าง ๆ ส่วนใหญ่มักสร้างเป็นพระเจดีย์ประดิษฐานเพื่อให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต



    นอกจากพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็ยังมีพระธาตุพุทธสาวกหรือพระอรหันต์ที่น่าสักการบูชาด้วยเช่นกัน ในสมัยพุทธกาลมีตำราพระธาตุกล่าวถึงลักษณะพระธาตุพุทธสาวกเอาไว้ ๔๘ พระองค์ ได้แก่
       พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระสีวลี พระองคุลิมาล พระอัญญาโกณฑัญญะ พระอนุรุทธะ
       พระกัจจายะนะ พระพิมพาเถรี พระสันตติมหาอำมาตย์ พระภัททิยะ พระอานนท์ พระอุปคุต
       พระอุทายี พระอุตตะรายีเถรี พระกาฬุทายีเถระ พระปุณณะเถระ พระอุปะนันทะ พระสัมปะฑัญญะ
       พระจุลลินะเถระ พระกังขาเรวัตตะ พระโมฬียะวาทะ พระอุตระ พระคิริมานันทะ พระสปากะ
       พระวิมะละ พระเวณุหาสะ พระอุคคาเรวะ พระอุบลวรรณาเถรี พระโลหะนามะเถระ พระคันธะทายี
       พระโคธิกะ พระปัณฑะปาติยะ พระกุมาระกัสสะปะ พระภัทธะคู พระโคทะฑัตตะ
       พระอนาคาระกัสสะปะ พระคะวัมปะติ พระเมาลียะเทวะ พระกิมิละเถระ พระวังคิสะเถระ
       พระโชติยะเถระ พระเวยยากัปปะ พระกุณฑะละติสสะ พระพักกุละ

    ยุคปัจจุบันก็มีพระธาตุอดีตพระคณาจารย์ต่าง ๆ ให้เห็นกันอีกหลายรูป เช่น พระธาตุหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม หลวงปู่สิม พุทธาจาโร เป็นต้น

     วัดป่าศรีคุณาราม หมู่บ้านจีต ต.บ้านจีต อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี เดิมชื่อ วัดป่าศรีคุณรัตนาราม อยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านจีต มีเนื้อที่ทั้งหมด ๕๕ ไร่ สมัยโบราณชาวบ้านจะเรียกบริเวณนั้นว่า “เหล่าปลาฝา” เพราะมีหินรูปปลาฝาครอบสี่เหลี่ยม เจาะเป็นโพรงไว้ สันนิษฐานว่าเอาไว้เก็บสิ่งของมีค่า ไม่มีใครทราบประวัติชัดเจนว่าสร้างเมื่อใดกันแน่

     หลายสิบปีก่อนย่านนั้นเป็นป่าดงดิบ เป็นที่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ใครไปทำร้ายหรือถางป่าจะต้องพบกับความวิบัติหรือมีอันเป็นไปต่าง ๆ นานา เป็นที่หวาดกลัวของผู้คนใกล้เคียงมาก ภายหลังมีหมอผีอาคมขลังทำพิธีบวงสรวงและนำสิ่งของมีค่าในโพรงไป

     จากนั้นมาความเฮี้ยนก็หายสิ้น ผืนป่าถูกบุกรุกแผ้วถางทำกินและตั้งชุมชนขึ้นมาปี พ.ศ. ๒๔๙๔ คณะสงฆ์แบ่งแยกการปกครองออกเป็น ธรรมยุติกนิกาย และมหานิกาย พระอาจารย์มหาวันดี สุวัณโณ คราวเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี (วัดนอก) ต.บ้านจีต อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี ได้หารือญาติโยมหาสถานที่แห่งใหม่สร้างวัดขึ้นที่เหล่าปลาฝา เรียกว่า วัดป่าศรีคุณรัตนาราม และเปลี่ยนชื่อเป็น วัดป่าศรีคุณาราม เป็นศูนย์รวมใจญาติโยมและอบรมปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานมายาวนานหลายปี



     ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ชาวบ้านได้นิมนต์ พระอาจารย์บุญเกิด ยุตฺตธมฺโม มาช่วยพัฒนาวัดป่าศรีคุณารามจนรุ่งเรืองและ พ.ศ. ๒๕๑๘ พระอาจารย์บุญเกิด ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่ พระครูวิสุทธิธรรมสุนทร ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าศรีคุณารามและเป็นเจ้าคณะตำบลบ้านจีต วัดป่าศรีคุณาราม

    ได้มีโครงการก่อสร้างพระมหาเจดีย์มงคล พระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระจักษุธาตุ เพื่ออัญเชิญพระจักษุธาตุ พระอรหันตธาตุของพระสาวกไปประดิษฐานให้สาธุชนกราบไหว้บูชาและสืบทอดบวรพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองสืบไป โดยโครงการนี้ดำเนินการมาตั้งแต่งานบุญกฐินประจำปี ๒๕๕๔ แต่ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์
    จึงขอเชิญผู้ศรัทธาทำบุญใหญ่ในครั้งนี้พร้อมเพรียงกันและรับมอบวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกด้วย


    สำหรับ พระบรมสารีริกธาตุส่วนจักษุธาตุ และพระธาตุพระอรหันตสาวก ที่จะก่อสร้างพระมหาเจดีย์มงคลเพื่อประดิษฐานนั้น มีการเล่าขานว่า เดิมที พระอาจารย์ประจักษ์ ภูริปัญโญ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสัณฐานเมล็ดข้าวสารหักมาบูชาอย่างเดียว

    กระทั่งวันศุกร์ที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๒ ปรากฏพระบรมสารีริกธาตุลักษณะประดุจเพชรเม็ดงาม เสด็จมาอยู่ในกลางผอบสุดอัศจรรย์ และหลังจากนั้นพระธาตุพระอรหันตสาวกก็เสด็จมาเพิ่มมากขึ้น จนไม่มีสถานที่เก็บรักษาได้เพียงพอ จึงเป็นที่มาของโครงการสร้างพระมหาเจดีย์มงคลแห่งนี้ในที่สุด



    เรื่องนี้ได้รับการกล่าวขานกันไปต่าง ๆ นานา มีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ยาก เนื่องจากเป็นความเชื่อและศรัทธา โปรดใช้วิจารณญาณอย่างไรก็ตามการสร้างสถูปหรือมหาเจดีย์ไว้กราบไหว้บูชานั้น สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสถึงบุคคลที่ควรค่าแก่การสักการบูชามี ๔ จำพวก คือ
       ๑. พระพุทธเจ้า
       ๒. พระปัจเจกพุทธเจ้า
       ๓. พระอรหันต์ และ
       ๔. พระเจ้าจักรพรรดิ


    พระบรมสารีริกธาตุ จัดเป็นปูชนียวัตถุที่ทรงคุณค่าอย่างหาที่สุดมิได้ ทั้งด้านประวัติศาสตร์และศาสนา เป็นสิ่งสูงค่าควรแก่การเคารพบูชาอย่างสูงสุด ผู้ใดมีบุญวาสนาได้ครอบครองหรือได้สักการบูชาแล้ว ย่อมเป็นสิริมงคลยิ่งแก่ชีวิต เพราะเป็นสิ่งประเสริฐสุดในไตรภพ (๓ โลก) หมายถึง สวรรค์ มนุษย์ นรก

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วัดป่าศรีคุณาราม ต.บ้านจีต อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี หรือ สถานปฏิบัติธรรมบ้านบุญ พุทธมณฑลสาย ๒ แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ โทร. ๐๘-๔๐๑๗-๐๘๐๔.

    บทความโดย อาราธนานัง


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.dailynews.co.th/article/1291/121023
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

bangsan

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 109
  • ( รูปพระอาจารย์ กิตติวุฑโท )
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ก็อนุโมทนา ด้วยครับ

แต่ที่เกิดเป้นข่าว เรื่อง พระจักบุธาตุ นั้นไม่ใช่ของจริง ที่วัดนี้ใช่หรือไม่ครับ ที่เกิดกระแสวิพาก์วิจารณ์กัน ถึงกับต้องมีการส่งพิสูจน์ การก่อสร้างจึงได้ยุติ ลง

  ตอนนี้ ช่วยกันสานต่อเรื่องการสร้างใช่หรือไม่ครับ

  :25:
บันทึกการเข้า
ธรรม ธรรม ทำ ทำ ธรรม แล้ว ก็ ทำด้วย