ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - รักหนอ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 9
161  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / โครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน 1 ล้านคน เมื่อ: ธันวาคม 16, 2010, 11:43:49 am


วัตถุประสงค์โครงการ
 
1.   เพื่ออบรมปลูกฝังศีลธรรมและอุดมการณ์พระพุทธศาสนาให้แก่สตรีชาวพุทธ ได้เป็นอุบาสิกาผู้นั่งใกล้พระรัตนตรัยอย่างแท้จริง
2.   เพื่อการฟื้นฟูศีลธรรมและวัฒนธรรมชาวพุทธให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ดังเช่นพุทธกาล
3.   เพื่อการพัฒนาสังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน โดยการพัฒนาศีลธรรมของประชาชน

ระยะเวลาอบรม
 
อบรมระยะเวลา 14 วัน ระหว่างวันที่ 16-29 ธันวาคม 2553
ณ ศูนย์อบรมประจำอำเภอทั่วประเทศ

กำหนดการอบรม

รับสมัครตั้งแต่บัดนี้ ถึง วันที่ 16 ธันวาคม 2553
---------------------------------------------------------------
พฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม
   
- เข้าอบรม ณ ศูนย์อบรมประจำอำเภอทั่วประเทศ
ศุกร์ที่ 17-พุธที่ 29 ธันวาคม
   
- สมาทานรักษาศีล 8
 
   
-เจริญสมาธิภาวนา
 
   
-อบรมวัฒนธรรมชาวพุทธ
เสาร์ที่ 25 ธันวาคม
   
- รับผ้าสไบแก้ว
และประกอบพิธีบวชอุบาสิกาแก้ว
 
   
ณ วัดพระธรรมกาย
อาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม
   
- อบรม (ต่อ) ณ ศูนย์อบรมประจำอำเภอทั่วประเทศ
พุธที่ 29 ธันวาคม 
   
- วันสุดท้ายของการอบรมอุบาสิกาแก้ว

คุณสมบัติผู้เข้าอบรม
 
1. หญิงแท้ อายุระหว่าง 15-65 ปี
2. นับถือพระพุทธศาสนา
3. สุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง โรคจิต โรคประสาท หรืออื่นๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการอบรม
4. สามารถรักษาศีล 8 ได้ตลอดการอบรม
5. เป็นผู้อยู่ง่ายกินง่าย ไม่เป็นภาระต่อผู้อื่น

การรับสมัคร

1. สมัครหรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ Call Center โทร 02-831-1234, 087-707-7771-3
2. สมัครผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่ www.บวช.com ,www.dmycenter.com
3. สมัครด้วยตนเอง ณ ศูนย์อบรมประจำอำเภอทั่วประเทศ
4. สมัครผ่านผู้ประสานงานโครงการในอำเภอของท่าน


ที่มาข่าวสาร
http://www.dmc.tv/pages/scoop/superwoman1m.html
162  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / หนังสือ ที่ลึกลับที่สุดในโลก ( Voynich manuscript ) เมื่อ: ธันวาคม 16, 2010, 11:37:58 am


Voynich manuscript เป็นหนังสือ ที่ลึกลับที่สุดในโลก เนื่องจากภาษาที่ใช้ได้มีการเข้ารหัส ที่ยังไม่สามารถถอดความได้ มันถูกเขียนด้วยปากกาขนนก มีขนาด 6 x 9 นิ้ว หนา 11/2นิ้ว มีอยู่ 240 หน้า แต่บางหน้าขาดหายไป ปกสมุดทำจากหนังลูกวัวสีครีม ไม่มีการระบุชื่อผู้เขียน ชื่อเรื่องหรือปีที่เขียนใด ถูกเก็บรักษาอยู่ที่ห้องสมุดเบนเนคเก้ (Beinecke Rare Bood & Manuscript Library) ภายในเล่มประกอบไปด้วย ทั้งภาพและอักษรในสมุดมีความเฉพาะ เป็นตัวอักษรที่ไม่เคยพบเห็นในที่ใด ๆ ในโลกมาก่อนและ แทบทุกหน้ามีวาดภาพประกอบ มีทั้ง พืชพันธุ์ แปลก ๆ ภาพผู้หญิงเปลือย เชื่อมด้วยท่อที่ดูคล้ายเส้นโลหิต มีภาพคล้ายแผนผังเกี่ยวกับดาราศาสตร์ ที่มองจากกล้องโทรทัศน์ และภาพคล้ายเซลล์ สิ่งมีชีวิตที่มองผ่านกล้องจุลทรรศน์
163  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ทารุณสัตว์ ก็โดนกฏหมายลงโทษเหมือนกันนะจ๊ะ เมื่อ: ธันวาคม 12, 2010, 07:28:19 am
ภาพจากกล้องวงจรปิดได้เผยให้เห็นภาพของนายมูฮัมเหม็ด อาบู ซาบาร์ อายุ21ปี ชายหนุ่มลูกเจ้าหน้าที่ทูตตูนีเชีย ประจำกรุงลอนดอน อังกฤษ ที่กำลังทุบตีสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ อายุเพียง 5ปี อยู่ที่หน้าอพาตเม้นท์แห่งหนึ่ง

โดยในภาพชายหนุ่มคนดังกล่าว ได้กระหน่ำเตะและต่อยลงไปที่สุนัขตัวนั้นไม่ต่ำกว่า 20ครั้ง อีกทั้งยังได้จับสนุขทุ่มอัดใส่ประตูหน้าอพาตเม้นต์อีกด้วย

ซึ่ง รายงานข่าวได้อ้างว่า เหตุที่นายมูฮัมเหม็ดได้ลงมือกระทำทารุณกรรมสัตว์ในครั้งนี้นั้น เนื่องจากนายมูฮัมเหม็ด มีอารมณ์โกรธอย่างหนักหลังเขาไปสมัครงานแห่งหนึ่งแล้วไม่ได้ เขาเลยเก็บอารมณ์โมโหมาลงที่สุนัขตัวดังกล่าวแทน

อย่าง ไรก็ดีเมื่อคลิปดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป นายมูฮัมเหม็ด ก็ถูกสั่งดำเนินคดี โดยศาลได้สั่งห้ามเขาเลี้ยงสัตว์เป็นระยะเวลา 4 ปี แทนการติดคุกเนื่องจากผู้ก่อเหตุยังเป็นนักศึกษาอยู่




ดูคลิปที่นี่

http://www.talkystory.com/?p=5187
164  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พระธาตุกลางน้ำโผล่? เมื่อ: ธันวาคม 12, 2010, 07:23:55 am


พระธาตุกลางน้ำโผล่?

Dec 9th, 2010


ปริมาณน้ำโขงวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ อยู่ที่ 2.70 เมตร ขยับขึ้นจากเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาเพียง 3 ซ.ม. แต่โดยภาพรวมยังเป็นภาวการณ์แปรปรวนขึ้นลงของแม่น้ำโขง หลังจากนี้จะทรงตัวและลดลงต่อเนื่องไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมปีหน้า

จากสภาพน้ำโขงที่ลดลงเช่นนี้ทำให้พระธาตุหล้าหนองหรือที่ชาวหนองคายเรียก ว่า พระธาตุกลางน้ำ เป็น พระธาตุเก่าแก่ที่เคยตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงแต่ถูกกระแซน้ำโขงกัดเซาะจนทำ ให้องค์พระธาตุล้มตะแคงอยู่กลางแม่น้ำโขง เมื่อถึงช่วงหน้าแล้ง ปริมาณน้ำโขงลดลงก็จะมองเห็นฐานพระธาตุ

ซึ่งปีนี้น้ำโขงลดระดับลงอย่างรวดเร็วทำให้มองเห็นฐานพระธาตุโผล่ขึ้น เหนือผืนน้ำชัดเจน ประมาณ 2 เมตร เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาที่สามารถมองเห็นฐานพระธาตุชัดเจนเช่นกัน

แต่ก็ล่วงเข้าเมษายน–พฤษภาคม ไปแล้ว จึงเห็นได้ชัดว่าปีนี้น้ำโขงลดปริมาณลงอย่างรวดเร็ว เพียงเดือนธันวาคมก็สามารถมองเห็นฐานองค์พระธาตุได้แล้ว
165  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ฮือฮา น้ำตกใหม่ โผล่กลางป่าปิด ภูกระดึง เมื่อ: ธันวาคม 12, 2010, 07:20:44 am
ฮือฮา น้ำตกใหม่ โผล่กลางป่าปิด ภูกระดึง

เมื่อ ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ นักท่องเที่ยวชาวไทยหลายคนที่เดินทางไปท่องเที่ยวยังภูกระดึง จังหวัดเลย อยู่ในตอนนี้ก็คงได้รับคำยืนยันจากทาง อุทยานแห่งชาติภูกระดึง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม แน่นอนแล้วว่า ได้มีการพบน้ำตกแห่งใหม่ใน อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย ซึ่งมีความสวยสดงดงามและมีความสง่างามเป็นอย่างมาก ซึ่งได้มีการตั้งชื่อให้ว่า “น้ำตกผาน้ำผ่า”

ซึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าสัมผัส สำหรับน้ำตกดังกล่าว ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือในเขตป่าปิด ซึ่งเป็นป่าธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์ มีสัตว์ป่าชุกชุม และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวตามลำพังด้วยตนเองได้ และหากดูจากแผนที่ภูกระดึงจะเห็นว่าตัวน้ำตกอยู่บริเวณรอยหยักรูปหัวใจ ตามสภาพภูมิประเทศของภูกระดึงที่เป็นเหมือนรูปใบบอนหรือรูปหัวใจ

แต่นั่นการเกิดขึ้นตามธรรมชาติของน้ำตก “น้ำตกผาน้ำผ่า” เกิดขึ้นได้อย่างไรก็คงเป็นคำถามหลาย ๆ คน ซึ่งก็เชื่อได้ว่า เกิด จากลำธารน้ำผ่า มีความยาวประมาณ 3.1 กิโลเมตร ซึ่งไหลมาจากทิศตะวันออก บริเวณที่ราบส่วนเหนือของภูกระดึง ลักษณะน้ำตกไหลเป็นสายพลิ้ว คล้ายสายฝนตกลงมาจากหน้าผา ไหลลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ความสูงประมาณ 80 เมตร เป็นสายเดียวดิ่งลงถึงพื้นล่าง

แต่กระนั้น ความชันของน้ำตกนั้นเป็นแบบตั้งฉากจากด้านบนสู่ด้านล่าง 90 องศา หากอากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส เมื่อมีแสงอาทิตย์กระทบน้ำตกจะเกิดประกายรุ้งดูสวยงามมาก จนได้ชื่อว่า เป็นราชาแห่งป่าดิบชื้น ขณะที่บริเวณใกล้เคียงมีต้นเมเปิ้ลสีแดงสวยงามล้อมรอบ และจากการตรวจสอบพบว่าน้ำตกผาน้ำผ่า มีความสูงกว่า “น้ำตกเหวนรก” ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่อยู่ในจังหวัดนครราชสีมา

แต่อันที่จริง แล้วนั้น “น้ำตกผาน้ำผ่า” ทางเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ได้ค้นพบมาระยะหนึ่ง แต่เป็นที่รับรู้กันในกลุ่มชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวและนักท่องเที่ยวกลุ่ม เล็ก ๆ เท่านั้น ยังไม่แพร่หลายและเป็นที่รู้จักมากนัก เพราะการเดินทางเข้าไปชมความงามค่อนข้างลำบาก การเดินทางเข้าไปชมน้ำตกต้องใช้เวลาเดินเท้าไปกลับประมาณ 15 ชั่วโมง ซึ่งต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่พอสมควร ซ้ำเส้นทางเป็นป่ารกชัฏมาก ประกอบกับเป็นป่าปิดไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมกว่า 20 ปีแล้ว จึงทำให้น้ำตกผาน้ำผ่าและป่าบริเวณดังกล่าวมีความดิบตามธรรมชาติโดยขณะนี้ อุทยานฯ

ซึ่งขณะนี้ทางอุทยานฯ ก็กำลังพิจารณาว่าจะเปิดอย่างเป็นทางการ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมความงามของน้ำตกดังกล่าวได้ทันฤดูกาลท่อง เที่ยวของปีนี้หรือไม่ แหล่ะหากเป็นจริงขึ้นมาเชื่อได้ว่าความสวยสดของธรรมชาติที่เราจะได้ยลโฉม นั้น คงสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่พบเห็นไม่น้อย

ขอบคุณ mthai

 :smiley_confused1:
166  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: "น้องโภคิน" เหยื่อมือปืนทมิฬยิงถล่มเก๋งยาริส เมื่อ: ธันวาคม 12, 2010, 07:18:48 am


10 ธ.ค. 53 รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางสำรวย ดีผิว มารดาของ ด.ช.โภคิน ดีผิว หรือ น้องโตมี่ เหยื่อกระสุนปืนริศนาที่อยุธยา เปิดเผยถึงอาการบาดเจ็บของน้องโตมี่ ว่า อาการองน้องโตมี่ดีขึ้น สัญญาณชีพจรหัวใจเต้นแรงขึ้นจากเดิม

ซึ่งสร้างความ ดีใจให้กับญาติพี่น้องและแพทย์อย่างมาก แม้แพทย์เจ้าของไข้จะระบุว่า สมองของน้องโตมี่จะตายแล้ว แต่ทุกคนในครอบครัวยังมีความหวังว่า น้องโตมี่ จะปลอดภัยและได้ขอร้องแพทย์ ไม่ให้ถอดเครื่องช่วยหายใจ

ซึ่งขณะนี้ทุก คนในครอบครัว ต่างเดินทางขอบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เพื่อขอปาฏิหาริย์ ให้น้องโตมี่ ปลอดภัยและเป็นปกติ แม้รู้ว่าจะเป็นไปได้ยากแต่คุณแม่ก็มีความหวัง และในเช้านี้ เห็นอาการตอบสนองของลูกดีขึ้น ก็เป็นการส่งสัญญาณที่ดี

“ในวันที่ 30 ม.ค.2554 นี้ จะเป็นวันเกิดของ น้องโตมี่ อายุครบ 13 ปี ซึ่งทุกคนในครอบครัวก็หวังว่าน้องโตมี่จะอาการดีขึ้นและถือเป็นของขวัญที่ดี ที่สุดในชีวิต ทั้งนี้ ในส่วนของคดีความเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำพี่ชายน้องโตมี่และญาติที่ร่วม เดินทางมาด้วยกัน และจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีความหวังว่าจะจับตัวคนร้ายมาดำเนิน คดีได้ แม้เวลาจะผ่านไป ร่วม 1 สัปดาห์แล้ว” แม่น้องโตมี่ กล่าว

อย่าง ไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร ภาค 1 ยังเกาะติดล่าตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำนเนินคดี หลังจากมีการจำลองเหตุการณ์ไปเมื่อคืนที่ผ่านมา และจากการประชาสัมพันธ์รูปพรรณและพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุตามสื่อต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่พบวี่แววของคนร้าย

ืที่มา

http://news.mthai.com/general-news/97042.html
167  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / อุปสรรคของวิปัสสนา ที่ควรทราบมีอะไรบ้างคะ เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 09:10:42 am
คือได้ทราบว่า ต้องปฏิบัิติวิปัสสนา แต่อุปสรรคของวิปัสสนา นั้นมีอะไรบ้างคะ

ขอพระอาจารย์ช่วยอธิบายด้วยคะ

 :25:
168  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การฝึกมโนมยิทธิ เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 09:05:34 am
เคยไปร่วมฝึกคะ ใน กทม . ก็บ้านสายลม ใกล้ ๆ ซอยอารีย์ คะ

 :25:
169  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ทิ้งลูก1ขวบป้ายรถเมล์หน้าวัดท่าตำหนักนครปฐม เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 09:00:17 am
    พ.ต.ท.ไชยศ มุกดาหาญ รอง ผกก.ป.สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุมีผู้พบเด็กชายวัยประมาณ 1 ขวบถูกนำมาทิ้งบริเวณศาลาที่พักโดยสารหน้าวัดท่าตำหนัก ม.4 ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ที่เกิดเหตุบริเวณท่ารถจยย.รับจ้างปากทางเข้าวัดท่าตำหนัก ริมถนนเพชรเกษมฝั่งขาเข้าจ.นครปฐม เจ้าหน้าที่หนูน้อยเพศชายวัย 1 ขวบ ถูกห่อด้วยผ้าห่มกำมะหยี่สีน้ำตาลลายดอก ใส่อยู่ในตระกร้าพลาสติกสีเขียว ภายในตระกร้าพบขวดนม,ผ้าอ้อมและเสื้อผ้า 3 ชุด นอกนั้นไม่พบหลักฐานอื่นแต่อย่างใด
    นายสุจินต์ คำนวณสิงห์ อายุ 41 ปี อาชีพขับรถจยย.รับจ้าง ซึ่งเป็นผู้พบเด็กเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนขับรถจยย.มาที่ท่ารถจยย.รับจ้างดังกล่าวก็สังเกตเห็น ตระกร้าผ้าวางอยู่บนที่นั่งรอรถผู้โดยสาร จึงเดินเข้าไปดูเพราะคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งของที่มีคนมาลืมทิ้งไว้ แต่เมื่อไปถึงก็พบว่าเป็นเด็กนอนอยู่ในตระกร้า เมื่อเอามือจับดูก็พบว่ายังมีชีวิตอยู่ จึงได้หิ้วตระกร้าดังกล่าวมาที่ท่ารถจยย.รับจ้างเพรคาะเกรงว่าจะถูกยุงกัด ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่
    พ.ต.ท.ไชยศ กล่าวว่า จากการสังเกตพบว่าเด็กมีฟันยื่นออกมา 2 ซี่และนอนนิ่งเฉยไม่กระดุกกระดิกและร้องแต่อย่างใด แม้แต่เอามือไปจับก็ยังไม่ร้องและไม่กระดุกกระดิกเลย เพียงแต่ลืมตาเฉย ๆ เบื้องต้น คาดว่าเด็กจะมีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่ก็น่าจะมีพัฒนาการที่ช้า แม่ใจร้ายจึงได้นำมาทิ้งทั้ง ๆ ที่ก็เลี้ยงมาจนถึง 1 ขวบแล้ว หรือไม่ก็อาจจะเลี้ยงไม่ไหวจึงได้นำมาทิ้งไว้ เพื่อให้คนที่พบเจอนำไปเลี้ยง ซึ่งตนได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเพื่อสืบสวนหาพ่อแม่ใจร้ายที่นำ เด็กมาทิ้งแล้ว ก่อนที่จะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ที่มาข่าว
http://www.komchadluek.net/column ( ข่าวด่วน )




วันนี้รักหนอ ได้นำข่าวมาให้ อ่านกัน เพื่อให้เพื่อนสมาชิก ช่วยกัน ธรรมวิจยะ ทั้งหมดนี้เกิดจากอะไร

กรรม ใช่หรือไม่ แล้วเรายังประมาท ดำเนินตามรอยกรรม เพลิดเพลินกับโลกนี้อีกอยู่อีกหรือ ?

170  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / นิสิตสาวม.เกษตรฯโดดตึกสถาปัตย์ดับ เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 08:50:15 am
เหตุนิสิตสาวโดดตึกรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 ธันวาคม ร.ต.อ.สมพร สะตะ พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุ นิสิตหญิงกระโดดตึกภาย ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถ.งามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมฝ่ายสืบสวน หน่วยกู้ชีพ

 ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณอาคารคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ บนพื้นสนามหญ้าด้านข้างอาคารติดลานจอดรถ พบร่างหญิงสาวไม่ทราบชื่อ นอนหายใจรวยรินจมกองเลือดอยู่ในชุดนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เจ้าหน้าที่จึงรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลวิภาวดี แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 ขณะเดียวกัน ตำรวจได้ขึ้นไปตรวจสอบบนชั้น 4 ของอาคารคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ พบรองเท้าคัตชูสีดำ วางอยู่บนพื้น 1 คู่ ที่ขอบหน้าต่างมีรอยเท้าในลักษณะปีนขึ้นไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะกระโดดลงมาจากชั้น 4 โดยขณะเกิดเหตุ มีเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยได้ยินเสียงคล้ายวัตถุ หนักตกลงมาบนพื้น เมื่อวิ่งไปดูก็พบร่างผู้ตายนอนจมกองเลือดในที่เกิดเหตุ

 อย่างไรก็ตาม ช่วงก่อนเกิดเหตุมีผู้พบเห็นผู้ตายนั่งร้องไห้อยู่บริเวณตึก สาเหตุน่าจะมาจากทะเลาะกับแฟนหนุ่ม ซึ่งคาดว่าเรียนอยู่คณะสถาปัตย์ ทั้งนี้ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงข่าวลือที่ว่า เหตุที่เกิดขึ้นนี้มาจากความอาถรรพณ์ เนื่องจากในช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ก็เกิดเหตุนิสิตคณะสถาปัตย์ พลัดตกจากอาคารนี้เช่นกัน

 ต่อมาเมื่อเวลา 18.30 น. ญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งระบุว่า เป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้ตาย เดินทางไปดูศพที่โรงพยาบาล เปิดเผยเพียงสั้นๆ ด้วยอาการเศร้าโศกว่า ผู้ตายชื่อ น.ส.พัชญา แซ่เกา อายุ 20 ปี เป็นนิสิตชั้นปีที่ 2 คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ (บริหารรัฐกิจ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบสาเหตุของการกระโดดตึกครั้งนี้มาจากอะไร

ที่มา
http://www.komchadluek.net/detail/20101209/82216/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A1.%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%AF%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A.html


ตึกสถาปัตย์ เหมือนตึกอาถรรพ์ เลยนะนี่

171  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ผู้เชี่ยวชาญ จัดอันดับให้ ความเกียจคร้าน เป็นโรคชนิดหนึ่ง เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 08:47:42 am


ผู้เชี่ยวชาญพากันให้ความเห็นว่า ความเกียจคร้านโดยตัวเอง ก็น่าจะจัดชั้นให้เป็นโรคอย่างหนึ่งได้

สอง แพทย์ผู้มีชื่อเสียงของอังกฤษ หมอริชาร์ด เวลเลอร์ และหมอเอมมานวลล์ สตามาตาคิส กล่าวว่า โดยพิจารณาจากอัตราภาวะการตายและภาวะการเจ็บป่วย เราเห็นว่าบางทีการไม่ออกกำลัง โดยตัวของมันเองควรจะถือได้ว่าเท่ากับเป็นโรค"

หมอเวลเลอร์ ผู้เป็นนายทะเบียนผู้เชี่ยวชาญในการกีฬา และการออกกำลังของบริการดูแลสุขภาพอิมพีเรียลคอลเลจชี้ว่า องค์การอนามัยโลกยังถือว่าความอ้วนเป็นโรคอย่างหนึ่งไปแล้ว ทั้งๆที่ความจริงความอ้วนเกินอย่างน้อยอาจมีสาเหตุที่ลึกซึ้งกว่านั้น ไม่ใช่แต่ขาดการออกกำลังอย่างเพียงพออย่างเดียว "เราได้ทุ่มเทเงินทองในการรักษาโรคภัยอันเนื่องมาจากการไม่ออกกำลัง ตั้งแต่โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิต โรคหัวใจ โดยไม่ได้แตะต้องสาเหตุ"

เขาสรุปว่า "จากหลักฐานได้แสดงว่าการขาดความสมบูรณ์แข็งแรง เป็นรากเหง้าของโรคต่างๆยิ่งเสียกว่าความอ้วน".

ที่มา

http://www.thairath.co.th/


 :25:

ความเกียจคร้าน เกิดจากการขาดเป้าหมายในความพยายาม
172  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ฟังเพลง ไม่อยากให้พ่อเหนื่อย กันหน่อยนะคะ เืทิดพระเกียรติ เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 08:21:09 pm


ล้นเกล้าเผ่าไทย
173  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ฟังเพลง ไม่อยากให้พ่อเหนื่อย กันหน่อยนะคะ เืทิดพระเกียรติ เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 08:14:32 pm


ภูมิพล กำลังของแผ่นดิน เวอร์ชั่นแท้
174  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ฟังเพลง ไม่อยากให้พ่อเหนื่อย กันหน่อยนะคะ เืทิดพระเกียรติ เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 08:13:12 pm


ภูมิพล กำลังของแผ่นดิน
175  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ฟังเพลง ไม่อยากให้พ่อเหนื่อย กันหน่อยนะคะ เืทิดพระเกียรติ เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 08:11:49 pm


เดินตามรอยเท้าพ่อ
176  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ฟังเพลง ไม่อยากให้พ่อเหนื่อย กันหน่อยนะคะ เืทิดพระเกียรติ เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 08:10:34 pm

รูปที่มีทุกบ้าน
177  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ฟังเพลง ไม่อยากให้พ่อเหนื่อย กันหน่อยนะคะ เืทิดพระเกียรติ เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 08:08:44 pm
อยากให้ฟังเพลงนี้ กันหน่อยเพื่อรำลึกถึง ภาระกิจของ ในหลวง


178  เรื่องทั่วไป / IT สาระประโยชน์ชาวธรรม / เด็กไอที ม.รังสิต สร้างเกม เณรสิขา นิวรณ์ 5 ฝึกสมาธิ ผ่านเกมคอมพิวเตอร์ เมื่อ: ธันวาคม 02, 2010, 06:01:12 pm
เด็กไอที ม.รังสิต สร้างเกม เณรสิขา นิวรณ์ 5 ฝึกสมาธิ ผ่านเกมคอมพิวเตอร์

สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ร่วมกับ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต จัดทำสื่อประเภทเกมเนื้อหาส่งเสริมพระพุทธศาสนา โดยการนำเอาเนื้อหาหลักคำสอนพระพุทธศาสนามาประยุกต์ในเรื่องหลักการนั่ง สมาธิ ในรูปแบบคอมพิวเตอร์เกมในชื่อ "เณรสิขา ฝึกนั่งสมาธิกำจัดนิวรณ์ 5" เน้นให้เด็กไทยซึมซับคำสอนทางพระพุทธศาสนา ไม่มั่วสุมเล่นเกมที่มีเนื้อหารุนแรงและแสดงพฤติกรรมที่เป็นปัญหาสังคม

เณรสิขา, มหาวิทยาลัยรังสิต, พระพุทธศาสนา, เกมคอมพิวเตอร์
อาจารย์ภณสุทธิ์ สุทธิประการ อาจารย์ประจำสาขาวิชาคอมพิวเตอร์เกมมัลติมีเดีย คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงความเป็นมาของการสร้างเกม เณรสิขา ฝึกนั่งสมาธิกำจัดนิวรณ์ 5" ว่า จากที่เราทำ เกมเณรสิขา พิชิต 5 มาร ภาคแรก ถวายสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ทางสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช มีความประสงค์ให้เราทำตัวเกมต่อเนื่อง คือ เกมเณรสิขา ภาค 2 โดยหยิบยกเรื่อง อิทธิบาท 4 มาเป็นธีมในการทำเกม เนื่องจากเราต้องการให้เกมเณรสิขาเป็นสัญลักษณ์ในการสื่อสารในรูปแบบของเกม ที่นำข้อมูลทางศาสนามาเผยแพร่ เนื้อหาเกมทั้งหมดได้นำมาจาก พระดำรัสสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริ-นายก และยังได้ถวายในวโรกาสเทิดพระเกียรติฉลองพระชันษา 96 ปี ทั้งนี้ เนื้อหาของเกมจะเป็นกาัยฝ่าด่านต่างๆ เพื่อพิสูจน์ความสามารถ ความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำภาระกิจให้สำเร็จลุล่วงผ่านตัวละคร คือ เณรสิขา ที่จะเป็นผู้รับหน้าที่ในการบอกให้เด็กรู้ว่าการฝ่าฟันงานต้องเป็นไปตาม ลำดับขั้นตอน ตามคำสอนของพระพุทธศาสนา ในเรื่องอิทธิบาท 4 คือ อิทธิ บาท 4 เป็นแนวทางการทำงานที่พระพุทธองค์ได้ทรงสดับไว้อย่างแยบคลาย ซึ่งเป็นบาทฐานแห่งความสำเร็จ หมายถึง สิ่งซึ่งมีคุณธรรม เครื่องให้บรรลุถึงความสำเร็จตามที่ตนประสงค์ ประกอบด้วย ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ก็เหมือนกับการเล่นเกมที่ผู้เล่นมีใจจดจ่อกับการเล่นเกมให้ชนะอุปสรรคต่างๆ ดังนั้น ผู้เล่นจะได้เรียนรู้ว่าการทำงานหรือการทำงานที่ตนรักให้สำเร็จลุล่วง ต้องมีความอุตสาหะอดทน เพื่อฝึกฝนพัฒนาความสามารถของตนเอง ปัจจุบันเกมเณรสิขา ภาค 2 อยู่ในขั้นตอนของการเตรียมงาน แต่มีมินิเกมที่ออกมาก่อน ซึ่งเกมนี้จะเป็นตัวดึง ผู้เล่นเข้ามา เพื่อรวบรวมฐานข้อมูลคนที่สนใจจะรับเกม สำหรับเกมสิขานิวรณ์ทั้ง 5 เป็นเกมฝึกนั่งสมาธิ จะฝึกให้รู้จักวิธีการนั่งสมาธิ รู้จักสิ่งที่เป็นอุปสรรคในการนั่งสมาธิ หรือ นิวรณ์ทั้ง 5 คือ สิ่งที่ขวางกั้นจิตทำให้สมาธิไม่อาจเกิดขึ้นได้ โดย ผู้สร้างเกมสิขานิวรณ์ 5 ประกอบไปด้วย นายสุริยา ทวีศรี นายกฤติน ดลภักนิยมกุล นายธวัช อิทำจร นายวรรณนะ เจริญโชคทวี นายภูวิศ ทิพย์อาภากุล นายอนุชิต เจริญสิทธิ์ นักศึกษาสาขาวิชาคอมพิวเตอร์เกมมัลติมีเดีย คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต สำหรับการเล่นจะเป็นการกดคีย์บอร์ดเพื่อควบคุมดอกบัวให้อยู่ตรงกลาง เพื่อให้เกิดสมาธิ ระหว่างที่ควบคุมจะมีการสุ่มสถานการณ์เกิดขึ้น เสมือนตอนที่เรากำลังนั่งสมาธิอยู่ต้องมีสิ่งมารบกวน แล้วลักษณะการควบคุมก็จะเปลี่ยนไป ผู้เล่นต้องควบคุมเอง เป็นลักษณะของการฝึกสมาธิ เพราะผู้เล่นต้องเพ่งที่จุดๆ หนึ่ง ซึ่งเราอยากให้ผู้เล่นฝึกการนั่งสมาธิตนเองผ่านตัวเกมนี้ ผู้เล่นจะได้รู้จักข้อขัดขวางการทำสมาธิทั้ง 5 ข้อ และจะสามารถตัดใจการสิ่งที่เป็นอุปสรรคได้ อาจารย์ภณสุทธิ์ กล่าวเพิ่มเติม ทั้งนี้ ผู้ที่สนในเล่นเกม เณรสิขา ฝึกนั่งสมาธิกำจัดนิวรณ์ 5" สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์มหาวิทยาลัยรังสิต

www.rsu.ac.th และวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

www.watbowon.com ในเร็วๆ นี้





ที่มา
http://campus.sanook.com/%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B5-%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%95-%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%93%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%82%E0%B8%B2-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C-5-%E0%B8%9D%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4-%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4-911476.html
179  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / การปฏิบัติธรรมที่ศาลากรรมฐาน วัดแก่งขนุน ในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2553 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 07:59:51 am
สาธุ สาธุ พระอาจารย์ ไปหรือป่าวคะ

 :25:
180  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ขอคำแนะนำ กับกับการปฏิบัติ กรรมฐาน ที่ควรทำทุกวันด้วยคะ เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 07:56:50 am
ในรูปแบบ ของกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำัดับ

มีธรรมเนียมอย่างไร ในการปฏิบัติทุกวันคะ

  คือทุกครั้งโยม จะนั่งกรรมฐาน เลย คะ ( ผิดหรือป่าวคะ )

  :25:
181  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / สอบถามเรื่อง นิวรณ์ ขอให้พระอาจารย์ อธิบายคำว่า นิวรณ์ ด้วยคะ เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 07:53:19 am
คำว่า นิวรณ์ ยังจำไม่ได้ และ บางนิวรณ์ ก็ไม่เข้าใจ ต้องการให้พระอาจารย์ แนะนำ เรื่อง นิวรณ์ ด้วยคะ

 :25:
182  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: พระภิกษุผู้มีคุณสมบัติ ในการ จาริก ธุดงค์ แบบกรรมฐาน มัชฌิมา เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 07:48:52 am
ทำไมจึง ให้ผู้ที่มีความตั้งใจ ออกจาริกไม่ได้ คะ

ทำไมต้อง ปฏิบัติได้ ขั้นหนึ่งก่อน ไปปฏิบัติระหว่างจาริก ไม่ได้หรือคะ

 :25:
183  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / สมถะ และ วิปัสสนา ถ้าปฏิบัติคู่ักันไปทำอย่างไร คะ เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 07:47:06 am
ถ้าเราจะปฏิบัติ ทั้งสมถะ และ วิปัสสนา คู่กันไป มีหลักปฏิบัติอย่างไร จึงจะทราบว่าไม่ผิด

จากหลักการของพระพุทธศาสนา หรือ วิชา กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ คะ


 :25:
184  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ฌายี 4 ของพระโยคาวจร ( ความสำคัญผิดหรือถูก ในฌาน ) ควรปรับปรุงด้วยสติ เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 07:42:28 am
สติมา  ปัญญาเกิด

สติเตลิด ก็จะเกิดปัญหา


 :25:
185  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ความสำคัญและคุณค่าของครอบครัว เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2010, 08:39:35 am
   



ความสำคัญและคุณค่าของครอบครัว

พลัง แห่งครอบครัวนั้นสามารถสร้างสรรค์ให้มีสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้มากมายใน สังคม ทั้งในสิ่งที่เราเห็นเป็นรูปธรรมต่างๆก็ล้วนแปรรูปมาจากพลังงานแห่ง ครอบครัว ที่สำคัญคือสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นนั้น แม้สัมผัสไม่ได้แต่เราก็สามารถ สัมผัสได้ด้วยความรู้สึกว่าพลังจากครอบครัวนั้นเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้

“จงแผ่ขยายความรักสู่ทุกหนแห่ง
โดยเริ่มต้นแบ่งปันไปภายในบ้าน
จงรักลูก-ภรรยา-สามีให้แสนนาน
แล้วเจือจานสู่เพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง”

ขั้น แรกต้องสร้างความสำเร็จของการอยู่ร่วมกันให้มีความสุข การมาอยู่อาศัยร่วม กันเป็นการเริ่มต้นของชีวิตครอบครัวที่ต่างคนต่างต้องศึกษา หนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยที่เกี่ยวข้องมาก มาย ปัจจุบันบางอย่างเป็นตัวเสริมชีวิตครอบครัวให้มีความราบรื่น แต่ปัจจัย บางอย่างเป็นตัวทำลายชีวิตครอบครัว  ซึ่งแน่นอนว่าการอยู่ร่วมกันของคนสองคนที่มาจากต่างบิดามารดา ต่างครอบครัว  ต่างการเลี้ยงดู และต่างสิ่งแวดล้อม ย่อมต้องมีปัญหาไม่มากก็น้อย

ใน ครอบครัวที่มีลูก ความสำเร็จของครอบครัวส่วนหนึ่งสามารถประเมินได้จากตัวลูก ซึ่งมิได้หมาย ความว่าครอบครัวที่มีสุขจะต้องมีลูกที่เรียนดี เรียนสูง เรียนเก่งเช่น ต้อง เรียนวิศวะหรือแพทย์ตามสมัยนิยม ซึ่งโอกาสเช่นนี้เป็นไปไม่ได้กับเด็กทุก คน และไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นกับเด็กทุกคน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสนใจและ ความพอใจในการเลือกเรียนของเด็ก หากประสบความสำเร็จได้ก็นับได้ว่าเป็น อภิชาตบุตรเช่นกัน เป็นเรื่องที่ควรแก่การภูมิใจ แต่หากเด็กจะเรียนด้อยหรือ ไม่ได้เรียนด้วยข้อจำกัดหลายประการเช่น พิการ เจ็บป่วย ก็มิใช่ความผิดของครอบครัว

การดูแลลูกให้เรียนได้สูงสุดตามความ สามารถและศักยภาพของลูกเป็นคนดี มีมนุษยสัมพันธ์ ไม่ติดเหล้าและยาเสพ ติด ไม่ติดการพนัน ไม่เป็นนักเลงหัวไม้ ถ้าครอบครัวใดทำได้เช่นนี้นับว่า เป็นความสำเร็จของลูกนั้นเป็นที่สุดของครอบครัวแล้ว การเลี้ยงลูกให้สามารถ ช่วยแบ่งเบาภารกิจของครอบครัว ตั้งใจเรียนเขียนอ่าน ดูแลพ่อแม่ ไม่สร้าง สิ่งทุกข์ใจแก่ครอบครัว และเป็นผู้ที่มีความภาคภูมิใจในครอบครัวแห่งตนได้ นั้น จะต้องมาจากความรักใคร่ปรองดองกันในครอบครัว ลูกที่มีความสุขสมบูรณ์ และสุขภาพจิตดีเท่านั้นจึงจะไปสู่ความสำเร็จดังกล่าวนี้ได้

ครอบครัว ดีมีสุขเท่านั้นจึงจะประสบความสำเร็จของครอบครัว การสร้างชีวิตครอบครัวให้ เป็นไปอย่างราบรื่นเป็นสิ่งไม่ยากหากบุคคลในครอบครัวให้การยอมรับกันและ กัน มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมกันอย่างใจจริง ใช้ความรู้ของการอยู่อย่างเอื้อ อาทรเป็นฐานของการสร้างความสำเร็จให้กับชีวิตครอบครัว

(ข้อมูล จาก : นายแพทย์เกษม  ตันติผลาชีวะ ดร. กุลยา ตันติผลาชีวะ  จากหนังสือการพัฒนาครอบครัวโดยคณะอนุกรรมการด้านครอบครัว  สำนักงานคณะกรรมส่งเสริมและประสานงานสตรีแห่งชาติสำนักงานปลัดสำนักนายก รัฐมนตรี)
186  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ขุดพบพุทธรูปปางไสยยาสน์บามิยัน ในอัฟกานิสถาน เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2010, 08:31:41 am
ขุดพบพุทธรูปปางไสยยาสน์บามิยัน ในอัฟกานิสถาน

ระทึก!ขุดพบพระพุทธรูปถูกฝังใต้ซากบริเวณกลุ่มตาลิบันทำลายพระพุทธรูปยืนในจังหวัดบามิยัน พร้อมโบราณวัตถุอื่น ๆ อีกเพียบ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ว่า คณะนักโบราณคดีได้ขุดพบพระพุทธรูปปางไสยยาสน์ยาวขนนาด 19 เมตร ในจังหวัดบามิยัน ในบริเวณที่กลุ่มตาลิบันได้ทำลายพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ เมื่อ 7 ปีก่อน พร้อมทั้งโบราณวัตถุอื่น ๆ เช่น เหรียญ และเซรามิก อีก 89 ชิ้น โดยพระพุทธรูปดังกล่าวอยู่ในสภาพเสียหายอย่างมาก โดยการค้นพบนี้มีขึ้นหลังจากที่กลุ่มนักโบราณคดี กำลังขุดค้นหาพระพุทธรูปปางไสยยาสน์ขนาดใหญ่ ที่เชิ่อว่าจะเคยถูกพบเห็นโดยนักแสวงบุญชาวจีนเมื่อหลายศตวรรษก่อน ขณะที่โบราณวัตถุอื่นๆ เชื่อว่ามีอายุในช่วงยุคบัคเตรียน และช่วงยุคอารยธรรมอิสลามและอารยธรรมพุทธ


ทั้งนี้ สำหรับเมืองบามิยัน เคยอยู่บนเส้นทางสายไหม เชื่อมระหว่างตะวันตกและตะวันออก ครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งพุทธเฟื่องฟูที่พระสงฆ์เคยอาศัยอยู่ในถ้ำ และในปี 2001 กลุ่มตาลิบันได้ระเบิดทำลายพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ในเมืองบามิยัน อ้างว่าขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม ท่ามกลางเสียงวิงวอนจากทั่วโลก

http://www.matichon.co.th/news_detai...id=03&catid=06
187  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: บริจาคสร้างหุ่นขี้ผึ้งพระสังวรานุวงศ์เถร(เอี่ยม) เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2010, 08:26:46 am
อนุโมทนา คะ วันนั้นก็ไปด้วยคะ คนเยอะคะ

 :25:
188  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ลือ จระเข้ ประหลาดแสนรู้ กินเพียงข้าวก้นบาตรประทังชีวิต ไม่แตะเนื้อสัตว์ เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2010, 08:29:32 am
จระเข้ แสนรู้ กินข้าวก้นบาตร ไม่กินเนื้อสัตว์

ลือ !! จระเข้ แสนรู้ กินข้าวก้นบาตร ไม่กินเนื้อสัตว์

ลือ จระเข้ ประหลาดแสนรู้ กินเพียงข้าวก้นบาตรประทังชีวิต ไม่แตะเนื้อสัตว์ พบที่ วัดเต่าใหญ่ บ้านหลวงศิริ อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ

พระครูสังฆรักษ์ รักจิตธัมโม เจ้าอาวาสวัดเต่าใหญ่ กล่าวว่า จระเข้ ประหลาดตัวนี้ ชื่อว่า เจ้าค้ำคูณ อายุประมาณ 2 ปี สิ่งที่ผิดแปลกจากจระเข้สายพันธุ์เดียวกันคือ มันไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ประเภทใดก็ตาม อาหารที่โปรดปรานของเจ้าค้ำคูณ คือข้าวก้นบาตร ซึ่งเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน มีคนนำจระเข้มาถวายให้พระช่วยรับเลี้ยงไว้ แต่ก็บอกกับมันว่ามาอยู่วัดจะให้หาเนื้อ หาไก่มาให้กินคงไม่ไหว อยู่ที่นี่เลือกไม่ได้ จากนั้นก็ปล่อยให้มันอยู่ในสระโดยไม่ได้กักขัง และให้พระลูกวัด ช่วยนำข้าวก้นบาตรไปให้กินทุกวัน แม้บางครั้งจะมีญาติโยมนำเนื้อไก่มาโยนให้ แต่เจ้าค้ำคูณก็ไม่ยอมขึ้นมากิน


189  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / พระบารมี มากล้น มิ่งขวัญชาวไทย เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2010, 08:27:06 am
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน สำนักพระราชวัง แจ้งหมายกำหนดการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ และทรงเปิดสะพานภูมิพล 1 ภูมิพล 2 ที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ในวันที่ 24 พฤศจิกายน เวลา 16.30 น. ถือเป็นการเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคเพื่อทรงทอดผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2549 ทั้งนี้ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจจะมีการถ่ายทอดสดการเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดประตู ระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ ตั้งแต่เวลา 17.30 น.


สำนักพระราชวังแจ้งหมายกำหนดการ ความว่า ในวันที่ 24 พฤศจิกายน เวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน โดยรถยนต์พระที่นั่งพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังท่าเทียบเรือสมาคมศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ศิริราช โรงพยาบาลศิริราช พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถวายรายงานตัว และถวายเรืออังสนาเป็นเรือพระที่นั่งแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์เสด็จพระราชดำเนินประทับเรือพระที่นั่งอังสนาออกจากท่าเทียบเรือโรง พยาบาลศิริราช เสด็จพระราชดำเนินยังคลองลัดโพธิ์ ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ


จนกระทั่งเวลา 18.00 น. เรือพระที่นั่งอังสนาถึงบริเวณปากคลองประตูระบายน้ำ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กราบบังคมทูลเกล้าถวายรายงาน ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรวีดิทัศน์ความเป็นมาของโครงการบนเรือพระที่นั่ง จากนั้นพระองค์ทรงวางพระหัตถ์บนแท่นที่ฉายภาพแผนที่ เพื่อทรงเปิดประตูระบายน้ำและสะพานภูมิพล 1 สะพานภูมิพล 2


หลังจากนั้นพระองค์ทอดพระเนตรวีดิทัศน์เทคนิคพิเศษ เล่าเรื่องประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ โดยการแสดง PYRO TECHNIC บริเวณด้านหลังประตูระบายน้ำ ทอดพระเนตรเทคนิคพิเศษสะพานภูมิพล 1 ภูมิพล 2 โดยการแสดง PYRO TECHNIC ที่จัดแสดงบนสะพานภูมิพล


จนกระทั่งเวลา 18.35 น. เรือพระที่นั่งอังสนา จะออกจากปากคลองประตูระบายน้ำ และในเวลา 19.35 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินถึงท่าเทียบเรือสมาคมศิษย์เก่า คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช โดยเรือพระที่นั่งอังสนา ก่อนจะเสด็จพระราชดำเนินยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช

 
190  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / “ยูเนสโก” แก้เกณฑ์ขึ้นทะเบียนมรดกโลก เน้นต้องเป็นสากล เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2010, 08:23:45 am
อธิบดีกรมศิลปากร เผย “ยูเนสโก” แก้เกณฑ์ขึ้นทะเบียนมรดกโลก เน้นต้องเป็นสากล

วันนี้ (24 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะคณะกรรมการมรดกโลก เปิดเผยว่า จากการเข้าร่วมประชุมคณะทำงานการปรับปรุงแก้ไขแนวทางปฏิบัติการขึ้นทะเบียน แหล่งมรดกตามอนุสัญญามรดกโลก ที่สำนักงานใหญ่ยูเนสโก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งการประชุมเป็นการแก้ไขแนวปฏิบัติฯต่อจากการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก 21 ประเทศ ที่ประเทศบราซิล เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยแก้ไขในส่วนภาคผนวก 5 ข้อ 3 ว่าด้วยเรื่องรูปแบบและความสำคัญของการนำเสนอข้อมูลของแหล่งมรดกทางธรรมชาติ และวัฒนธรรม เพื่อขึ้นทะเบียนในบัญชีมรดกโลก รวมทั้งยังมีการแก้ไขข้อบัญญัติอื่นๆด้วย เช่น ข้อ 119 เรื่องการใช้แหล่งมรดกอย่างยั่งยืน ข้อ 137 เรื่องการเสนอแหล่งมรดกต่อเนื่องกัน และข้อ 163, 164, 165, 166 และ 167 เป็นต้น

“ที่ประชุมยังได้หารือเรื่องแหล่งมรดกที่ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว ว่า ควรต้องปรับปรุงเส้นเขตแดนให้ชัดเจนมากขึ้น และการปรับปรุงคุณสมบัติของแหล่งมรดกนั้น ๆ รวมทั้งชื่อของแหล่งมรดกโลกด้วย ส่วน ภาคผนวก 5 ข้อ 3 ที่แก้ไข ได้เน้นถึงความสำคัญของแหล่งมรดกที่ควรจะได้รับการขึ้นทะเบียน โดยเนื้อหาจะคล้ายของเดิม แต่ปรับข้อความให้กระชับขึ้น ซึ่งที่ประชุมย้ำให้ประเทศที่จะเสนอขึ้นทะเบียนต้องเขียนรายละเอียดให้ ชัดเจน และแสดงให้เห็นว่าทำไมแหล่งมรดกแห่งนี้จึงมีความสำคัญโดดเด่นเป็นสากล และต้องเขียนอย่างระมัดระวังให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติของการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก” นางโสมสุดา กล่าว

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมได้หารือเรื่องความสำคัญของการปกป้องรักษาและการบริหาร จัดการแหล่งมรดก ซึ่งประเทศสมาชิกจะต้องระบุให้ชัดเจนถึงแผนดังกล่าวว่าจะมีการบริหารจัดการ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว รวมถึงวิเคราะห์เปรียบเทียบแหล่งที่จะขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกว่า มีแหล่งมรดกอื่นที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกันหรือไม่ โดยให้เน้นความสำคัญของแหล่งมรดกว่ามีความสำคัญในระดับชาติและระดับนานาชาติ อย่างไร เพื่อแสดงให้เห็นว่าจะไม่มีการเสนอแหล่งมรดกโลกในลักษณะเดียวกันในอนาคต อย่างไรก็ตามผลสรุปจากการประชุมครั้งนี้ประธานคณะทำงานจะเสนอให้คณะกรรมการ มรดกโลกทั้ง 21 ประเทศ ลงมติเห็นชอบในประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 35 เดือนมิถุนายน 2554 ที่ประเทศบาห์เรน
191  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / “หลวงพ่อโต” วัดสี่ร้อย มีเลือดไหลออกเป็นสายทั่วองค์ เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2010, 08:20:49 am
ชาวบ้านสี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ ผวาลางร้าย “หลวงพ่อโต” วัดสี่ร้อย มีเลือดไหลออกเป็นสายทั่วองค์
[/img]
วันนี้ (24 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบยังบริเวณวัดสี่ร้อย หมู่ 4 ต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งว่า มีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปดูหลวงพ่อโต วัดสี่ร้อย พระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ สูง 21 เมตร หน้าตักกว้าง 6 เมตรเศษ ซึ่งเกิดปรากฏการณ์ประหลาด มีเลือดไหลออกตามร่างกาย พบประชาชนจำนวนมากต่างจับกุมยื่นวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้น บางกลุ่มต่างนำกล้องมาถ่ายภาพ บางกลุ่มได้เข้าไปกราบไหว้

ผู้สื่อข่าวจึงตรวจสอบบริเวณองค์หลวงพ่อโต พบบริเวณจมูกด้านซ้าย มีรอยลักษณะคล้ายเลือดไหลออกมาเป็นทางยาวถึงริมฝีปาก เช่นเดียวกับบริเวณหน้าอก ส่วนบริเวณหัวไหล่ด้านหลังพบรอยคล้ายเลือดไหลลงมาจนเกือบถึงบริเวณเอว

จากการสอบถาม นายจำนง ถนอมศิลป์ อายุ 63 ปี ผู้ดูแลองค์หลวงพ่อโต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา

ขณะตนเองได้ขึ้นไปเปลี่ยนผ้าให้กับหลวงพ่อโต ยังไม่ได้พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด กระทั่งวานนี้ มีคนเห็นเลือดไหลออกมาทางจมูกของหลวงพ่อ แต่วันนี้ปรากฏว่าพบรอยเลือดออกมาจากหน้าอก และด้านหลังอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าว เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2530

สำหรับวัดสี่ร้อย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน้อย หมู่ 4 ต.สี่ร้อย สันนิษฐานว่า ตั้งขึ้นเป็นอนุสรณ์แก่ ขุนรองปลัดชู และชาวบ้านวิเศษชัยชาญ 400 คน ที่เสียชีวิตในสงคราม ระหว่างไทยกับพม่า ที่เมืองกุย ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ แห่งกรุงศรีอยุธยา พ.ศ.2302 ส่วนองค์หลวงพ่อโตนั้น ได้สร้างขึ้นมาพร้อมกับวัด และอยู่คู่กับชาววิเศษชัยชาญมาจนถึงปัจจุบัน.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
192  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / รางวัลเสาเสมาธรรมจักร คืออะไร เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2010, 08:04:24 am
   

รางวัลเสาเสมาธรรมจักร เป็นรางวัลเกียรติยศที่มอบให้แก่บุคคล หรือหน่วยงานที่ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา และมีสิทธิ์ได้รับเพียงครั้งเดียวเพราะถือว่าสูงสุดในชีวิต



ทั้งนี้ มีแนวคิดว่าพระธรรมจักรเป็นเครื่องหมายแห่งการประกาศพระพุทธศาสนา และผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการ ช่วยจรรโลงพระพุทธศาสนา ช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้ไพศาลยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วย

รางวัลเสาเสมาธรรมจักร สร้างจากวัสดุธรรมดาทั่วไป เช่น หล่อด้วยเรซินแล้วปิดทอง โดยจะมีพิธีมอบรางวัลแด่ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ในงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวิสาขะบูชา ของทุก ๆ ปี

ความเป็นมาของการมอบรางวัลเสาเสมาธรรมจักร

การคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เริ่มในปี ๒๕๒๕ ซึ่งเป็นปีแรกของการคัดเลือก และได้เว้นว่างไป ๑ ปี จนถึงปี ๒๕๒๗ ซึ่งเป็นปีที่มีการก่อตั้งศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กรมการศาสนาร่วมกับศูนย์ส่งเสริม ฯ จึงได้นำโครงการคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาขึ้นมาพิจารณาอีก ครั้งหนึ่ง จากการคัดเลือกผู้ทำคุณต่อพระพุทธศาสนา ตั้งแต่ปี ๒๕๒๕ – ปัจจุบัน มีผู้ได้ผ่านการคัดเลือกทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ จำนวน ๒,๗๕๘ รูป/คน


การพิจารณามอบรางวัลเสาเสมาธรรมจักร

รางวัลเสาเสมาธรรมจักร จึงเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดที่คณะกรรมการฝ่ายคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อ พระพุทธศาสนา พิจารณามอบให้แก่ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เพื่อส่งเสริมยกย่องคุณความดีและประกาศเกียรติคุณแด่บุคคล องค์กร และหน่วยงาน ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาให้ปรากฏแก่พุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป เป็นแบบอย่างแก่สังคมและเยาวชนของชาติ เป็นเกียรติ เป็นกำลังใจในการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา ซึ่งได้ผ่านการเสนอชื่อการพิจารณาคัดเลือกกลั่นกรองจากคณะอนุกรรมการ และการอนุมัติจากคณะกรรมการฝ่ายคัดเลือกในโครงการสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธ ศาสนา เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา

ผู้ควรแก่รางวัลจะได้รับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักร พร้อมด้วยประกาศเกียรติคุณจากสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเสด็จ ฯ เป็นองค์ประธานเปิดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาล วิสาขบูชา ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงเป็นประจำทุกปี

หน่อยงานที่รับผิดชอบการพิจารณามอบรางวัลเสาเสมาธรรมจักร ปัจจุบันอยู่ที่กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม โดยจะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิเศษเพื่อพิจารณาผู้สมควรได้รับรางวัลขึ้น ใหม่ทุกปี โดยแบ่งพิจารณาเป็น ๑๐ สาขา เช่น สาขาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศ  สาขาการแต่งหนังสือทางพระพุทธศาสนา เป็นต้น การคัดเลือกผู้สมควรได้รับรางวัลมีสองวิธีการคือ พิจารณาจากผู้ทำประโยชน์ผู้ที่มีชื่อเสียง และคัดเลือกจากเอกสารที่ผู้เสนอขอตามลำดับชั้นจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ขึ้นมา โดยแบ่งเป็นจังหวัดละ ๑ หรือ ๒ รางวัล ตามแต่ขนาดของประชากรในจังหวัด โดยไม่มีการแยกฆราวาสหรือพระภิกษุ ทำให้บางครั้งการได้รับรางวัลของฆราวาสหรือพระภิกษุในบางปี ในบางจังหวัด จะตกอยู่ที่ผู้ใกล้ชิดกับการ

ประเภทส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
สาขาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศ
ปกครอง คณะสงฆ์หรือข้าราชการฝ่ายปกครองระดับจังหวัด เพราะการพิจารณาจากคณะกรรมการที่จังหวัดแต่งตั้ง สามารถเสนอได้เพียง ๑ หรือ ๒ รางวัล ตามแต่เกณฑ์ที่กำหนดไว้ จึงทำให้พระสงฆ์หรือฆราวาสที่ส่งเอกสารหรือไม่ทราบความเคลื่อนไหวการเสนอขอ หรือพระสงฆ์หรือฆราวาสที่ตั้งใจทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาที่ไม่สนใจทำเรื่อง เสนอขอรางวัล ไม่ได้รับเลือกให้ได้รับรางวัลเสาเสมาธรรมจักร อย่างที่ควรจะเป็น


 ประเภทของการคัดเลือกผู้สมควรได้รับรางวัลเสาเสมาธรรมจักร

สืบเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๕ – ปัจจุบัน มีการปรับเพิ่มประเภทตามที่คณะกรรมการ ฯ กำหนด ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะกรรมการฝ่ายคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ได้แบ่งประเภทการคัดเลือกออกเป็น ๑๐ ประเภท คือ

ประเภทส่งเสริมการศึกษาพระพุทธศาสนา
ประเภทการศึกษาสงเคราะห์
ประเภทส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ประเภทส่งเสริมการปฏิบัติธรรม
ประเภทส่งเสริมกิจการคณะสงฆ์
ประเภทสงเคราะห์ประชาชนและส่งเสริมการพัฒนาชุมชนโดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
ประเภทส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมมรดกไทยทางพระพุทธศาสนา
ประเภทสื่อมวลชนที่ส่งเสริมพระพุทธศาสนา
ประเภทสมาคม องค์กร มูลนิธิ สถาบัน และหน่วยงานที่มีกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา
ประเภทผู้ประกอบอาชีพที่มีคุณธรรมและส่งเสริมพระพุทธศาสนา


ที่มา
ข้อมูลจาก มจร. วัดมหาธาตุ
193  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ชีวิตของ นายทองดี หรรษคุณารมณ์ ประธานมูลนิธิพระบรมธาตุ ( เรื่องราวของพระธาตุ) เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2010, 10:00:48 am
ทำไมลุง จึงมีพระบรมสารีริกธาตุ อัฏฐิธาตุ  มากมาย อย่างนั้น คะ

รักหนอ แค่มีชิ้นเดียว ก็ปลื้มปีติ แล้ว ( ยังไม่มีสักชิ้นเลย ใครมีแบ่งมาให้บูชาบ้าง นะคะ )

 :25: :25: :25:
194  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ที่มา ของ ขนมจีน ( ปล. ไม่ใช่ดารานักร้อง....นะจ๊ะ ) เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2010, 09:57:09 am

ขนมจีน เป็นอาหารคาวอย่างหนึ่งของไทย ประกอบด้วยเส้นเรียกว่า เส้นขนมจีน และน้ำยา หรือน้ำยาขนมจีน เป็นที่นิยมทุกท้องถิ่นของไทย แต่มีการปรุงน้ำยาแตกต่างกัน.....

แม้ว่า ขนมจีน จะมีคำว่า "ขนม" แต่ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับขนมใดๆ ขณะเดียวกัน แม้จะมีคำว่า "จีน" แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาหารของจีน ภาษาเหนือเรียก ขนมเส้น ภาษาอิสาน เรียก ข้าวปุ้น จะมีขนมจีนชนิดหนึ่งซึ่งใกล้เคียงกับขนม คือ ขนมจีนซาวน้ำ เพราะมีรสหวาน
ประวัติ
คำว่า "ขนมจีน" ไม่ใช่อาหารจีน แต่คำว่า "จีน" ที่ต่อท้ายขนมนี้สันนิษฐานกันว่าน่าจะมาจากมอญซึ่งเรียกขนมจีนว่า "คนอมจิน" หมายถึง "สุก 2 ครั้ง" พิศาล บุญปลูก ชาวไทยเชื้อสายรามัญผู้สนใจศึกษาอาหารและวัฒนธรรมมอญกล่าวว่า " จริง ๆ แล้ว ขนมจีนเป็นอาหารของคนมอญหรือรามัญ คนมอญเรียกขนมจีนว่า คนอมจิน คนอม หมายความว่าจับกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน จินแปลว่าทำให้สุก
 
" นอกจากนี้ "คนอม" นั้นสันนิษฐานว่าน่าจะใกล้เคียงกับคำไทย "เข้าหนม" แปลว่าข้าวที่นำมานวดให้เป็นแป้งเสียก่อน ซึ่งภายหลังกร่อนเป็น "ขนม" จริง ๆ แล้ว ขนม ในความหมายดั้งเดิมจึงมิใช่ของหวานอย่างที่เข้าใจในปัจจุบัน ขนม หรือ หนม ในภาษาเขมร หรือ คนอม ในภาษามอญหมายถึงอาหารที่ทำจากแป้ง ดังนั้นขนมจีน จึงน่าจะเพี้ยนมาจาก คนอมจิน ซึ่งทำให้เกิดสมมุติฐานตามมาอีกว่า ดั้งเดิมทีเดียวขนมจีนเป็นอาหารมอญ แล้วจึงแพร่หลายไปสู่ชนชาติอื่น ๆ ในสุวรรณภูมิตั้งแต่โบราณกาล จนเป็นอาหารที่ทำงานและมีความนิยมสูง สามารถหาทานได้ทั่วไป

ที่มา wikipedia
195  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / วันแรกของวันที่เหลือ เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2010, 09:53:04 am

วันแรกของวันที่เหลือ
ปรัชญาเต๋า; บอกว่า "คนเราไม่เคยนึกถึงตีนเมื่อรองเท้าไม่กัด"

คนเรามักมองไม่เห็นของดีที่ตนมีอยู่จนเมื่อสูญเสียมันไปแล้ว

ไม่เห็นคุณค่าของสองแขน จนกระทั่งมันอยู่ในเฝือก

ไม่เห็นคุณค่าของงาน (ที่เราว่าแย่ๆ) จนกระทั่งตกงาน

ไม่เห็นคุณค่าคนรัก (ที่เราว่าไม่เพอร์เฟ็กท์)

จนกระทั่งเธอหรือเขาไปแต่งงานกับคนอื่น

ไม่เห็นคุณค่าของพ่อแม่ (ที่เราว่าขี้บ่น) จนกระทั่งไปงานศพของท่าน

สิ่งที่คนจำนวนมากเลือกทำคือ บ่นว่าตนเองไม่มีความสุข ไม่ประสบความสำเร็จ

ไม่รวย ไม่ได้เป็นเจ้าของสิ่งนั้นสิ่งนี้ และเอ่ยประโยคยอดฮิตว่า

"มันไม่แฟร์เลย"

บางที ทุกครั้งที่เรารู้สึกว่าโลกไม่มีความยุติธรรม ก่อนที่เราจะบ่น

ลองมองตัวเราเองดูดีๆ เราจะพบว่า เรามีอะไรดีๆ หลายอย่างที่คนอื่นไม่มี

เราสามารถทำ "หนึ่งวันเดียวกัน" ของเราให้มีความหมายได้

ก็ต่อเมื่อเราเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามี และใช้วันนี้

วันแรกของวันที่เหลืออย่างคุ้มค่าที่สุด

เพราะวันแรกของชีวิตที่เหลือนี้ช่างสั้นเหลือเกิน

และเพราะเราไม่มีทางรู้ว่าเรามี "วันแรกของวันที่เหลือ" อยู่อีกสักกี่วัน
196  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ปฏิบัติธรรมแบบนับหนึ่ง คะ เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2010, 09:52:22 am
***หัดคิดแต่ด้านบวก ***
แล้วจะรู้ว่ามีแต่สิ่งที่เป็นไปได้

*** หัดฝัน ***
แล้วจะรู้ว่าโลกนี้น่าอยู่

*** หัดพูดแต่ด้านบวก ***
แล้วจะรู้ว่ามีคนอีกมากมายที่รักเรา

*** หัดยิ้ม ***
แล้วจะรู้ว่าเราคือคนที่น่ารัก

*** หัดฟาดฟันกับอุปสรรค ***
แล้วจะรู้ว่าเราคือคนที่เข้มแข็ง

***ลองทน ***
แล้วจะรู้ว่าเรามีความอดทนยิ่งกว่าใคร

*** ลองออกกำลังกายทุกวัน***
แล้วจะรู้ว่าเราคือมนุษย์เจ้าพลังคนหนึ่ง

*** ลองคิดเอาชนะ ***
แล้วจะรู้ว่าเราสามารถเอาชนะ ตัวเองได้ไม่ยาก

*** ลองคิดให้ใหญ่ ***
แล้วจะรู้ว่าเรามีความสามารถอย่างน่าแปลกใจ
197  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ทำไมจึงมีปีอธิกสุรทิน เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2010, 09:50:34 am

ทำไมจึงมีปีอธิกสุรทิน
โดยปกติแล้วในหนึ่งปีนั้นโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 365 วัน ซึ่งเป็นการคำนวณอย่างคร่าวๆ

แต่ความจริงแล้ว ในแต่ละวันโลกเราจะใช้เวลาหมุนรอบตัวเอง เป็นเวลามากกว่า 24 ชั่วโมง คือเพิ่มขึ้นวันละ 15 นาที ดังนั้นในเวลา 1 ปี

เมื่อเราคำนวณจริงๆ แล้ว จะเป็นเวลา 365 วันกับเศษหนึ่งส่วนสี่วัน เวลาหนึ่งส่วนสี่วันนี้ในทุกๆ สี่ปี มันจะรวมกันเป็น 1 วันพอดี

ดังนั้นถ้าปีไหนก็ตามซึ่งเป็นปีที่เวลาเศษหนึ่งส่วนสี่วันรวมกันครบ 1 วัน พอดี เราเรียกปีนั้นว่า ปีอธิกสุรทิน ซึ่งเป็นปีที่มี 366 วัน

วันที่เพิ่มขึ้น จะเอาไปไว้ในเดือนกุมภาพันธ์จึงทำให้เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน (ปกติจะมี 28 วัน)
198  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: กี่ครั้งที่ต้องทะเลาะกัน...เพราะคนอื่น เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2010, 09:33:13 am
เป็นบทความ ที่ดี คะ สำหรับ ชาวโลก ถือว่าเป็นความปรองดอง คะ

สำหรับ ชาวธรรม ก็ คงเช่นนั้นเอง


 :25:
199  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / การปฏิบัติธรรมที่ศาลากรรมฐาน วัดแก่งขนุน ในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2553 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2010, 09:32:08 am
อนุโมทนา ด้วยคะ ถ้าไม่ติดธุระใด  ๆ จะมาร่วมด้วย คะ อยู่ กทม. คะ

 :25:
200  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: 7 นางฟ้า ใครอยากเป็น...ต้องอ่านนะคะ เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2010, 09:30:09 am
เนื้อเรื่องโดนใจ คะ

คุณ Nathponson เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นมาโพสต์ เลยนะคะ

 :25:
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 9