ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ตำนานพระกรรมฐาน กับ พระปฐมเจดีย์  (อ่าน 3758 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ตำนานพระกรรมฐาน กับ พระปฐมเจดีย์
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2011, 02:56:19 am »
0



คณะพระโสณเถร พระอุตรเถร มานครศรีธรรมราช
คณะของพระโสณเถรเจ้า พระอุตระเถรเจ้า พักเผยแผ่พระศาสนาอยู่ในเกาะลังกา เป็นเวลาระยะหนึ่ง  จึงเดินทางออกจากเกาะลังกา มานครตามพรลิงค์ หรือสิริธรรมราช หรือนครศรีธรรมราช 
เมื่อมาจากเกาะลังกานั้น มีพระสงฆ์สัทธิวิหาริก ติดตามมาอีก ๕ รูป คือ ๑.พระโสตถิยะเถร ๒.  พระชิตตะเถร ๓. พระเสวกะเถร ๔.  พระชินโสเถร ๕.  พระปาละเถร   รวมเป็น ๑๗ รูป
คณะพระโสณเถร พระอุตรเถร พักเผยแผ่พระศาสนาที่นครศรีธรรมราช เป็นเวลาประมาณ ๓ ปี จึงเดินทางออกจากนครศรีธรรมราช มาสุวรรณภูมิ มีสัทธิวิหริก จากนครศรีธรรมราช ติดตามจาริกมาด้วยอีก ๓ องค์ คือ ๑.พระโกลันยาเถร ๒.พระปิตะเถร ๓.พระเชตุเถร  รวมเป็น ๒๐ องค์
คณะพระโสณเถร พระอุตระเถร เดินทางมาถึงสุวรรณภูมิ
    คณะของ พระโสณเถรเจ้า พระอุตระเถระเจ้า พระชาลตะเถรเจ้า พระกิตตระเถระเจ้า และ พระภูริยะเถรเจ้า พร้อมคณะสงฆ์อีก ๑๕  รูปคือ ๑.พระญาณเถรเจ้า ๒. พระณิชาเถรเจ้า ๓. พระปถวีเถรเจ้า ๔. พระชาติเถรเจ้า ๕. พระติสสเถรเจ้า ๖. พระปาโสเถรเจ้า ๗. พระเตชิตะเถรเจ้า ๘. พระโสตถิยะเถรเจ้า ๙. พระชิตตะเถรเจ้า ๑๐. พระเสวกะเถรเจ้า ๑๑. พระชินโสเถรเจ้า ๑๒. พระปาละเถรเจ้า ๑๓.  พระโกลันยาเถร ๑๔. พระปิตะเถร ๑๕.  พระเชตุเถร    รวมเป็นคณะพระสงฆ์ ๒๐ รูป  ออกเดินทางมายังดินแดนสุวรรณภูมิ
คณะของพระโสณเถร พระอุตรเถร ออกจากนครศรีธรรมราช (นครตาพรลิงค์) เข้าอ่าวจินหลิน (อ่าวไทย) มาขึ้นที่เมืองศรีสุวรรณ (เมืองนครปฐม) อันเป็นเมืองน้อย เป็นเมืองท่าชายทะเล เมื่อประมาณพุทธกาลล่วงแล้วได้ ๒๗๔ ปี   สมัยพระเจ้าศรีสุวรรณวงศาที่ ๑   
แถบนี้มีเมืองพระรถ (ชลบุรี) เมืองพลิบพลี (เพชรบุรี) เมืองตักศิลามหานคร เมืองโกสัมพี เมืองสาวัตถี  เมืองสุวรรณสังข์ (อู่ทอง-สุพรรณบุรี)  เมืองนครไชยศรี เมืองคูบัว (ราชบุรี) เมืองคูเมือง (สิงห์บุรี) เมืองอู่ตะเภา(ชัยนาท) เมืองจันเสน เมืองบน (นครสวรรค์) ดงละคร(ปราจีนบุรี) เมืองศรีเทพ(เพรชบูรณ์)
ปีพระพุทธศักราช ๒๗๔ นั้น อาณาจักรฟูนัน กำลังรุ่งเรื่อง แต่ไม่ได้แผ่ขยายอำนาจมาถึงเมืองเหล่านี้ เมืองเหล่านี้จึงตั้งตัวเป็นอิสระอยู่ทุกเมือง   
ยุคสุวรรณภูมิ มีศูนย์กลางอยู่ที่ เมืองตักศิลามหานคร และเมืองสุวรรณสังข์ (อู่ทอง) เพราะเป็นเมืองใหญ่ ภาคกลาง 
ส่วนทางทิศเหนือ  คือเมืองศรีเทพ (เพรชบูรณ์) เป็นเมืองใหญ่ เมืองเหล่านี้รวมเรียกว่า   ดินแดนสุวรรณภูมิ
ทีในดินแดนสุวรรณภูมิครั้งนั้น มีคนจำพวกหนึ่ง เป็นพวกชาวเกาะ เรียกว่าพวกผีเสื้อน้ำ เป็นผู้มีจิตใจร้าย มาจากเกาะกลางทะเล  ชอบกินเด็กทารกทั้งหลายที่เกิดแล้วในวัง ของพระเจ้าศรีสุวรรณ เมืองศรีสุวรรณ (นครปฐม) ครั้นกินเด็กแล้วก็กลับไปเกาะกลางทะเล มหาสมุทร
ขณะนั้นมีเด็กทารกคนหนึ่งคลอดในวัง ฝูงชนทั้งหลายเมืองศรีสุวรรณ (นครปฐม) เห็นคณะของ พระโสณเถรเจ้า พระอุตระเถรเจ้า นุ่งห่มอย่างสมณะ คนเมืองศรีสุวรรณไม่เคยเห็น  ก็สำคัญผิดคิดว่าเป็นพวกของ นางมนุษย์กินคน ผีเสื้อน้ำ คนทั้งหลายก็กล่าวว่า พวกนางมนุษย์กินคนใจร้าย ผีเสื้อน้ำ  ของพวกเราทั้งหลายมาแล้ว
คณะของพระโสณเถรเจ้า พระอุตระเถรเจ้า  ก็กล่าวว่า  พวกเราเป็นสมณะถือศีล ไม่ฆ่าสัตว์ มีกัลยาณธรรม   จะเป็นพวกของมนุษย์กินคน หามิได้  ท่านกล่าวยังไม่ทันจบ พวกผีเสื้อน้ำ มนุษย์กินคนนั้นก็มา
ขณะนั้นพวกมนุษย์กินคนใจร้าย ได้ออกมากับพวกพ้องด้วย  กล่าวว่าจะมากินทารกทั้งหลาย ของชาวเมืองศรีสุวรรณ  พวกชาวเมืองศรีสุวรรณพากันเห็นพวกนางมนุษย์กินคน ใจร้าย ก็พากันหวีดร้องทั่วไป  พวกผู้ใหญ่ทั้งหลายก็ตั้งกองระวังรักษา ณ. ที่นั้นอยู่โดยรอบ
คณะของพระเถรเจ้าทั้งหลายก็ แสดงตนให้ใหญ่กว่า พวกมนุษย์กินคนทั้งกลาย ๆ เห็นเข้าก็พากันกลัวหนีออกทะเลไปเกาะกลางสมุทร  พวกชาวเมืองศรีสุวรรณ ก็พากันชมชอบเคารพนับถือ คณะของพระโสณ พระอุตระเถร
คณะพระโสณเถร พระอุตระเถร เทศนาโปรดชาวเมือง
พระโสณเถรเจ้าเลือกเทศนา พรหมชาลสูตร  เพราะคนสมัยนั้นมีจิตใจร้ายชอบทำปานาติบาต กินคน ไม่มีกัลยาณธรรม
คำว่าผีเสื้อน้ำ หมายถึงคนมีจิตใจร้าย ใจบาป ไม่มีศีล ไม่มีธรรม เป็นชาวเกาะชาวประมง พระโสณเถรเจ้า เทศสอนให้ชนทั้งหลาย เมืองศรีสุวรรณ (นครปฐม) อยู่ในธรรมนองครองธรรม มีศีล มีกัลยาณธรรม ครั้งนั้นชาวเมืองศรีสุวรรณจำนวนมาก  คำรงอยู่ในไตรสรณคม  และศีลทั้งหลาย
ชาวเมืองศรีสุวรรณ ส่วนใหญ่เป็นชนชาติ มอญ โบราณ นับถือ ศาสนาพราหมณ์ นับถือผี  ต่อมามีผู้คนชาวเมืองศรีสุวรรณค่อยๆ เข้ามาบรรพชาอุปสมบทกันมากขึ้น ตามลำดับ โดยมีพระโสณเถร เป็นพระอุปัชฌาย์
พระเจ้าศรีสุวรรณวงศาที่ ๑ เมืองศรีสุวรรณ ทรงเลื่อมใส คณะของพระโสณเถภร พระอุตรเถร ทรงสร้าง  วัดปฐมโพธิ์คุณ (ปัจจุบันคือ วัดพระปฐมเจดีย์ ปฐมโพธิ์คุณ หมายถึงคุณแห่งพระพุทธเจ้า) ถวายพระมหาเถรผู้ใหญ่ทั้ง  ๕ รูป และคณะสัทธิวิหาริกของท่านอีก ๑๕ รูป อยู่จำพรรษา  ณ. วัดปฐมโพธิ์คุณ  เมืองศรีสุวรรณ
คณะของพระโสณเถรเจ้า และพระอุตระเถรเจ้า ได้อัญเชิญหน่อพระศรีมหาโพธิ์  จากพุทธคยา ในชมพูทวีป  และพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้ามาด้วยทะนานหนึ่ง  ทั้งสองสิ่งนี้ พระเจ้าอโศกมหาราช พระราชทานให้มาในครั้งนั้นด้วย  เพื่อนำไปประดิษฐานพระพุทธศาสนาในนานาประเทศ
ปัจจุบันนี้ หน่อพระศรีมหาโพธิ์ซึ่งคณะของพระโสณเถร พระอุตระเถร นำมาได้สูญหายไปแล้ว  ส่วนพระบรมสารีริกธาตุจำนวนหนึ่ง อยู่ในองค์พระปฐมเจดีย์องค์เดิมข้างใน
ปูชณีย์วัตถุ สำดัญ ยุคสุวรรณภูมิ
๑.พระธาตุเจดีย์  พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงแจกพระบรมสารีริกธาตุ ไปประดิษฐานในประเทศต่าง ครั้งนั้นคณะของ พระโสณเถร พระอุตระเถร  ได้นำพระบรมสารีริกธาตุ มาสุวรรณภูมิในครั้งนั้นด้วย ปัจจุบันบรรจุอยู่ในพระเจดีย์องค์ใน ของพระเจดีย์  วัดปฐมเจดีย์
๒.บริโภคเจดีย์  คณะของพระโสณเถร พระอุตระเถร ได้หน่อพระศรีมหาโพธิ์มาจากพุทธคะยา มาปลูกไว้ที่วัดปฐมโพธิคุณ(วัดประปฐมเจดีย์)  ต้นเดิมสูญหายไม่มีเค้าเดิมเหลืออยู่
ต่อมามีกุลบุตรเลื่อมใสบรรพชาอุปสมบทกันมากแล้วใน  เมืองศรีสุวรรณ(นครปฐม)  พระมหาเถรผู้ใหญ่ทั้ง ๕ พระองค์ก็ได้ แยกย้ายกันไป เผยแผ่ ตั้งพระศาสนาตามเมืองต่างๆ
พระพุทธศาสนา ยุคสุวรรณภูมิ
พระพุทธศาสนาตั้งมั่นในดินแดนสุวรรณภูมิ
ยุคต้นสุวรรณภูมิ ตรงกับอาณาจักรฟูนัน กำลังรุ่งเรือง อาณาจักรฟูนัน  เป็นอาณาจักรเก่าแก่ ในดินแดนสุวรรณภูมิ มีอำนาจรุ่งเรืองมานานกว่า ๕๐๐ ปี  แผ่อำนาจไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของดินแดนที่เป็นราชอาณาจักรไทย และภาคใต้ของดินแดนที่เป็นประเทสลาว ทางใต้ถึงแหลมมาลายู ทางตอนใต้ของเวียดนาม  และมีอำนาจเหนืออาณาจักรขอมด้วย
  ศูนย์กลางของ ยุคสุวรรณภูมิคือ เมืองตักกศิลามหานคร ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ มีเมืองน้อยเป็นบริวารคือ เมืองสาวัตถี เมืองโกสัมพี(อยู่ใกล้เมืองตักกศิลามหานคร) เมืองทวารบุรี เมืองสันตะนาหะ เมืองอะเส  เมืองสุวรรณสังข์ (อู่ทอง) เป็นต้นส่วนเมืองศรีสุวรรณ(นครปฐม) ยังเป็นเมืองใกล้ชายทะเลฯลฯ
หมายเหตุ เมืองใหญ่ เมืองน้อยทั้งปวงในแถบนี้ต่างตั้งนามเมืองเลียนแบบ เมืองในดินแดนชมพูทวีป และเมืองตามลิทธิพราหมณ์
เมืองต่างๆเหล่านี้ต่าง ตั้งตัวเป็นอิสระแก่กัน ยังไม่รวมเป็นแว่นแคว้น เมืองศรีสุวรรณ(เมืองนครปฐม)  เป็นเมืองที่พระโสณเถรเจ้า พระอุตรเถรเจ้า ขึ้นมาประกาศศาสนาเป็นครั้งแรก
ยุคสุวรรณภูมิ ปีพระพุทธศักราช ๒๗๔ นั้น เมืองที่มีอำนาจมากที่สุดคือ เมืองตักกศิลามหานคร ชาวเมืองเป็นชนชาติมอญโบราณ   
ถึงประมาณปีพระพุทธศักราช  ๒๙๐–๓๐๖ ในยุคสุวรรณภูมินั้น พญาสักรดำ เจ้าผู้ครองเมืองตักกศิลามหานคร ทำการลบศักราช ตั้งจุลศักราชขึ้นมาใหม่ 
สิ้นสมัยพญาสักรดำแล้ว  เมืองตักกศิลามหานคร ก็เสื่อมหมดอำนาจลงตามลำดับ และหมดอำนาจไปในที่สุด  ต่อมาเมืองสุวรรณสังข์ (อู่ทอง) เริ่มมีอำนาจรุ่งเรืองขึ้นมา จนเข้าถึงยุคศรีทวารวดี  เมืองสุวรรณสังข์ จึงเปลี่ยนนามมาเป็นเมืองทวารวดี หรือเมืองศรีทวารวดี
พระพุทธศาสนา เริ่มต้นขึ้นในยุคสุวรรณภูมิ  เริ่มตั้งแต่ประมาณปีพระพุทธศักราช ๒๗๔ - ๔๖๗  รวมระยะเวลานาน   ๑๙๓ ปี


ที่มาเนื้อหา
จากหนังสือตำนานพระกรรมฐาน ของวัดราชสิทธาราม คณะ 5 โดย พระครูสิทธิัสังวร

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 23, 2011, 03:01:50 am โดย หมวยจ้า »
บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
ตำนานพระกรรมฐาน กับ พระปฐมเจดีย์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 27, 2012, 12:29:08 am »
0
ตามหาอ่านกันได้จากหนังสือตำนานพระกรรมฐานนะครับ แนะนำครับ :13:
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม