ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สมาธิชาวบ้าน : เสบียงบุญ 1.  (อ่าน 1053 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28527
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
สมาธิชาวบ้าน : เสบียงบุญ 1.
« เมื่อ: ธันวาคม 14, 2014, 08:48:04 pm »
0


สมาธิชาวบ้าน : เสบียงบุญ 1.

การที่เรามาปฏิบัติธรรมเบื้องต้น ย่อมเกิดผลให้รู้ผิดชอบชั่วดี รู้ว่าสิ่งใดทำได้ ทำไม่ได้ สู้กับกิเลส ความคิดอย่างหยาบๆ ในจิตใจของเรา กิเลสเป็นสิ่งที่อยู่ในสันดานเราแท้ๆ มาตลอด เมื่อมาปฏิบัติกายใจดวงนี้เกิดมีปัญญา มีความเข้มแข็ง อะไรที่เคยพ่ายแพ้ก็เริ่มไม่พ่ายแพ้ ปฏิบัติเบื้องต้นหรือเบื้องปลายก็อาศัยธรรมะเบื้องต้นนี้ก่อน จิตถึงมีกำลังถูกต้อง ถ้าไม่ฝึกสมาธิเบื้องต้นจะไปไม่รอด ต้องฝึกเบื้องต้นก่อน คือหัวใจ รู้จริงอยู่ในใจ

ไม่ต้องไปกังวลกับกิเลสตัวเล็กตัวน้อยทั้งหลาย ถ้าขยับอะไรที่ผิดจะรู้เลยว่าทำได้ไม่ได้ ผิดหรือถูก แต่ตอนแรกจิตไม่อบรม จิตต้องมานั่งคอยดูว่าผิดศีลข้อไหน อย่างไร แบบไหน มาคอยยึดศีลข้อต่างๆ อยู่ เพราะว่าใจกับศีลยังแยกกันเดินเป็นส่วนๆ ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ต้องมาคอยดูข้อกำหนดของศีล แต่พอใจสื่อใจ ถึงธรรมชาติของใจแล้ว สิ่งใดปรากฏขึ้นมา ใจจะรู้เลยว่าสิ่งนี้ผิด สิ่งนี้ถูก สิ่งนี้ทำได้ สิ่งนี้ทำไม่ได้ ต่างๆ เหล่านี้อยู่ในใจ เพราะมันเป็นธรรมชาติเรา ถือศีลกี่ร้อยกี่พันข้อต่างก็อยู่ในใจ มีสิ่งใดมา ใจก็รู้หมด รู้ผิดชอบชั่วดีต่างๆ


 :25: :25: :25: :25: :25:

เมื่อเราฝึกจิตให้ดีขึ้น คุณธรรมในจิตก็สูงขึ้น ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น เพราะเราอาศัยธรรมะ การใช้ชีวิตประจำวันก็ดีขึ้น บาปบุญต่างๆ ที่มันเป็นมิติคู่ขนานก็ส่งผลกรรมต่างๆ วิบากต่างๆ ให้เรา มันก็ถูกสลายไปเบื้องหน้าของสมาธิภาวนา อำนาจของการแผ่เมตตาไปยังสรรพสัตว์ดวงวิญญาณทั้งหลาย พอกรรมสิ้นเชื้อ กรรมจะกลายเป็นอโหสิกรรม กรรมต่างๆ ที่มาทำให้ลิดรอนชีวิตเราย่อมลดลง ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น อุปสรรคต่างๆ ที่เคยมีมาครอบงำก็ดี ย่อมน้อยลงจากอานิสงส์การเจริญสมาธิภาวนา การแผ่เมตตา สิ่งเหล่านี้ช่วยสลายกรรมให้บรรเทาลง ทำให้เกิดบุญกุศล เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่เขาจองเวรจองกรรมเรา ย่อมมีความคิดร้าย อาฆาตพยาบาทต่อเราน้อยลง ต่อไปย่อมกลายเป็นอโหสิกรรม หมดกรรมต่อกัน

เมื่อเราไม่มีกรรมอันใดมาตัดรอน เรียกว่าเป็นอานิสงส์เบื้องต้นของการปฏิบัติสมาธิภาวนา คือความอยากมี อยากได้ อยากเป็น หรือกิเลสโลก ย่อมสนองได้ด้วยการปฏิบัติสมาธิภาวนา

 ask1 ans1 ask1 ans1

คำถามต่อมาคือ แล้วเราจะปฏิบัติเพียงเท่านี้หรือ หากต้องการเพียงสนองกิเลสโลกด้วยการทำความดีก็จะได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าเราตั้งใจทำดีเพิ่มขึ้น ปฏิบัติให้ก้าวหน้าขึ้น เพื่อสำเร็จมรรคผลนิพพาน ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก เราจะต้องให้มันไกล ไม่เพียงแค่มาสนองกิเลสโลกต่างๆ ที่ทำแล้วอยากได้นั่น อยากสำเร็จนี่ อยากเป็นโน่น อยากเป็นนี่ เป็นเพียงอานิสงส์เบื้องต้นที่ช่วยเราได้ แต่ยังไม่ใช่จบหลักสูตร เพราะที่สูงไปกว่านั้นคือ จิตดวงนี้สามารถจะไปรู้ปัญญาพระนิพพาน รู้การเวียนว่ายตายเกิด รู้เท่าทันกิเลสตัณหาต่างๆ ที่มีอยู่ พ้นจากอำนาจกิเลสไปได้ พ้นจากอำนาจการเกิดไปได้ เกิดปัญญาพระนิพพานได้ ปล่อยวางทุกอย่างแม้กระทั่งบาป กระทั่งบุญ ไม่มีในพระนิพพาน เข้าใจดีแล้วก็ทำสิ่งต่างๆ ไม่ไปยึดมั่นถือมั่นสิ่งต่างๆ ว่าเป็นของของตน แม้กระทั่งบุญต่างๆ ที่ทำไว้. 



ที่มา http://www.thaipost.net/tabloid/141214/100349
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ