ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: รู้จัก ‘วัดป่าหลวงตาบัว’ วัดซุกซากเสือที่ ‘หลวงตาบัว’ ไม่เคยยุ่งเกี่ยวดำเนินงาน  (อ่าน 1110 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




รู้จัก ‘วัดป่าหลวงตาบัว’ วัดซุกซากเสือที่ ‘หลวงตาบัว’ ไม่เคยยุ่งเกี่ยวดำเนินงาน

ทำเอาตกตะลึงกันไปตามๆ กัน หลังจากวานนี้ (1 มิถุนายน 2559) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าเคลื่อนย้ายเสือโคร่งของกลางที่ตกเป็นของแผ่นดิน จากวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน (วัดเสือ) หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เป็นวันที่ 3 แล้วกลับพบซากลูกเสือ 40 ซาก ซากหมีขอ 1 ซาก ซากกระรอก 1 ซาก เขากวาง 5 เขา อวัยวะของลูกเสือที่ดองไว้  7 ขวด และ 10 กระป๋อง

ซากดังกล่าวนำมาสู่การวิจารณ์กันอย่างออกรสว่ามีไว้เพื่อการใด พร้อมๆ กับที่ชื่อ ‘วัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน (วัดเสือ)’ ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นอีกครั้ง เนื่องจากบ้างเข้าใจไปว่าวัดนี้ก่อตั้งโดยเกจิ พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน บ้างก็ว่าเป็นสาขา 2 ของวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี

ทั้งที่ความจริงนั้นไม่ใช่!!!

เรื่องราวของ ‘วัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน’ เริ่มต้นเมื่อราวพ.ศ. 2535 -2536 ได้มีผู้ถวายที่ดินให้กับหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าเนื้อที่ 300 ไร่เศษอยู่ในเขตพื้นที่ป่า ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี แต่เนื่องจากหลวงตาประจำอยู่ที่วัดป่าบ้านตาดจึงมอบหมายให้พระอาจารย์จันทร์ (ภูสิต  ขันติธโร) พระอุปัฏฐากหรือพระเลขาดำเนินการสร้างวัด โดยท่านมิได้มีส่วนร่วมเกี่ยวโดยตรง


วัดหลวงตาบัว กาญจนบุรี

ตามข้อมูลจากทางเว็บไซต์ของวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน (วัดเสือ) บอกเล่าไว้ว่า เริ่มแรกหลวงตาได้เมตตามอบปัจจัยจำนวน 30,000 บาทเป็นมงคลแก่พระอาจารย์จันทร์เพื่อดำเนินการสร้างวัด ในวันที่ 23 ตุลาคม 2537 จากนั้นก็ได้มอบปัจจัยอีก 3 ครั้งเป็นระยะๆ ในช่วงแรกสร้างรวมแล้ว 2,306,564 บาท และในภายหลังตัวแทนลูกศิษย์ได้เข้ากราบหลวงตาเพื่อขอชื่อวัด ท่านจึงให้ชื่อว่า ‘วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน’

ขณะเดียวกันจากการสอบถามข้อมูลแหล่งข่าวในสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) กาญจนบุรี ก็ได้เผยกับ ‘มติชนออนไลน์’ ว่า “วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน จ.กาญจนบุรี เดิมเป็นสำนักสงฆ์ซึ่งในอดีตหลวงตามหาบัว อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เคยมาปักกลดปฏิบัติธรรมในพื้นที่ดังกล่าว จากนั้นพระอาจารย์จันทร์ซึ่งเป็นลูกศิษย์ จึงได้มาสร้างสำนักสงฆ์ในชื่อสำนักสงฆ์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน”

ถึงอย่างนั้นข้อมูลที่ตรงกัน คือ หลวงตามหาบัวไม่เคยมาเกี่ยวข้องกับดำเนินการภายในวัดแต่อย่างใด


 :96: :96: :96: :96: :96:

ขณะที่การสร้างวัดนั้น ตั้งแต่เริ่มต้นก็ได้เกิดการฟ้องร้องกับชาวบ้านเรื่องที่ดินเป็นคดีที่ศาลแพ่งจังหวัดกาญจนบุรี กระทั่งคดีเสร็จสิ้นจึงได้ขออนุญาตตั้งเป็นวัดตามขั้นตอนของราชการและได้รับอนุญาตพร้อมชื่อว่า ‘วัดป่าพุไม้แดง’ ก่อนจะเปลี่ยนเป็น ‘วัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน’ ในภายหลัง โดยมีพระอาจารย์จันทร์เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน

ส่วนเรื่อง ‘เสือ’ ที่เป็นประเด็นกันนั้น ปรากฏตัวแรกเมื่อปี 2542 โดยเจ้าอาวาสอ้างว่ามีชาวบ้านมาถวาย และเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนปี 2544 นับได้ 8 ตัวโดยไม่ทราบที่มา ก่อนจะตายไป 1 ตัวเลยเหลือเพียง 7 ต่อมาวันที่ 12 มิถุนายน 2544 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เข้าทำการจับกุมเสือ และสัตว์ป่าอื่นๆ หลายรายการ แต่ได้มีการตกลงกันว่า หากมีสัตวแพทย์รับดูแลก็ให้เก็บรักษาของกลางนั้นไว้ที่วัดได้ ดังนั้นจึงมีการฝากของกลางไว้โดยผู้รับฝากคือ นายสัตวแพทย์สมชัย วิเศษมงคลชัย แล้วเสือก็ได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา นายสัตวแพทย์สมชัย แจ้งต่อสื่อมวลชนว่าเสือ 3 ตัวหายออกไปจากกรงขังบริเวณบ้านเกาะเสือจึงได้มีการตรวจนับจำนวนที่มีอยู่ พบว่ามี 146 ตัว

โดยใน 146 ตัวนี้ พบว่าเมื่อปี 2555 มีเสือของกลางลงทะเบียนไว้ 97 ตัว อีก 46 ตัวไม่ได้ลงทะเบียนแต่ฝังไมโครชิพไว้ และ 3 ตัวที่เหลือเป็นลูกเสือจึงไม่มีการฝังไมโครชิพ


 :41: :41: :41: :41:

ทั้งนี้แหล่งข่าวคนเดิมจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) กาญจนบุรี ก็ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง ‘เสือ’ ว่า “ตลอดเวลาที่ผ่านมาวัดดังกล่าวไม่เคยถูกร้องเรียนใดๆ เลย จนเสือ 7 ตัวได้ขยายพันธุ์มาเป็นร้อยกว่าตัว ทางวัดได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งรายได้จากค่าเข้าชมเสือนับเป็นรายได้หลักของวัด แต่จากกระแสที่ได้ยินมาดูเหมือนว่าภายในวัดจะขัดแย้งธุรกิจเกี่ยวกับเสือกันเอง  ส่วนการพบซากลูกเสือ ไม่แน่ใจเช่นกันว่าจะเป็นการลักลอบซื้อขายให้กับภัตตาคารในประเทศจีนจริงหรือไม่ อย่างไร”

อย่างไรก็ตามแม้ตอนนี้ปริศนาเรื่อง ‘ซากเสือ’ จะยังไม่ได้ถูกไข ทว่าอย่างน้อยน่าจะพอได้รับรู้กันว่า นอกจากชื่อและเงินสนับสนุนจำนวนหนึ่งในตอนแรกสร้าง ‘วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน’ นั้น ก็แทบจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เลย

วัดหลวงตาบัว กาญจนบุรี

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news/157159
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ก็ต้องติดตามข่าวคราวกันต่อไปครับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา