พระโสดาบัน มีการละกิเลส 3 อย่างได้โดยเด็ดขาด
1.สักกายทิฏฐิ มีความเห็นถูกต้องว่า นี่ไม่ใช่เรา นี่ไม่ของเรา นี่ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา
2.วิจิกิจฉา มีความเลื่อมใส เชื่อมั่น ต่อพระรัตนตรัยอย่างหาที่สุดมิได้
3.สีลัพพตปรามา มีปัญญามองเห็น สิ่งใดถูก สิ่งใดผิด เมื่อเห็นแล้วก็ละจากการปฏิบัติที่ผิด
พระโสดาบันฝ่ายเจโตวิมุตตินั้น มีสมาธิระดับอุปจาระสมาธิ ขึ้นไป
พระโสดาบันฝ่ายปัญญาวิมุตินั้น มีสมาธิแค่ระดับอุปจาระสมาธิ
[font="]ผู้ที่กำลังละสังโยชน์ ตั้งแต่ข้อที่ 1 [/font]–[font="] 3 [/font]
[font="]ชื่อว่าผู้ได้ โสดาปัตติมรร[font="]ชื่อว่าผู้ได้ดวงตาเห็นธรรม ( ผู้ทรงอารมณ์แห่งพระโสดาบันอย่างต่อเนื่อง [/font])
[font="]ผู้ที่ละสังโยชน์ ได้ตั้งแต่ข้อที่ 1 [/font]–[font="] 3 [/font]
[font="]ชื่อว่าผู้ได้บรรลุโสดาปัตติผล ตรงนี้ชื่อว่าพระโสดาบัน ( ผู้เสวยอารมณ์แห่งพระโสดาบันอย่างถาวร )[/font]
[font="]พระโสดาบัน เป็นผู้มีอารมณ์ตั้งมั่นในการปฏิบัติธรรม เป็นผู้ปฏิบัติดี ไม่มีการประพฤติ ผิดในธรร
[font="]สมดังคำสรรเสริญสังฆคุณ ว่า [/font][/b]“[font="]สุปะฎิปันโน สาวะกะสังโฆ [/font]ผู้ประพฤติดีพร้อม ด้วยกาย วาจา และ ใ”
ปัจจะเวกขะณะญาณ ของพระโสดาบัน มี 2
1.มรรค 2.ผล ( 3.กิเลสที่ละได้แล้ว 4.กิเลสที่เหลืออยู่ 5.นิพพาน 3 ข้อท้ายไม่ชัดเจน )
[font="]พระโสดาบันมี 3 ประเภ
[font="]1.เอกพีชี เกิดชาติเดียวเป็นพระอรหันต
[font="]2.โกลังโกละ เกิดอีก 2-3 ชาติ เป็นพระอรหันต
[font="]3.สัตตักขัตตุงปรมะ เกิดอีก 7 ชาติเป็นพระอรหันต