สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

ฟังในรายการ RDN คะ แต่ไม่เข้าใจกับคำว่า "มีแต่จิตล้วน ๆ "

เพราะได้ยินมาว่า การภาวนานั้นต้องเข้าถึง นาม และ รูป หรือ ต้องมี รูป และ นาม

แต่การถึง จิต อย่างเดียวนี้ ก็ต้องขาดรูป ไป จะทำให้ วิปัสสนา ทำได้หรือ คะ

 :smiley_confused1:

นั่น สิ นะไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมให้ มีแต่จิต เพราะขาดส่วนกาย
 :a102:

น่าจะทำความเข้าใจ เรื่อง รูป นาม ก่อน ดีหรือไม่ คะ

  นามรูป มีเพราะมีสังขาร นะคะ
 :29:

ง่ายนิดเดียว.....ก็ทำให้ได้,ทำให้ถึงซิ....แล้วจะเข้าใจได้ด้วยตัวของตัวเอง.....
         :13: :hee20hee20hee: :hee20hee20hee: :hee20hee20hee: :13:

การเจริญวิปััสนากรรมฐาน เป็นการชำระล้างกิเลสออกจากจิต

ไม่ใช้การชำระออกทางกาย การสำเร็จเป็นอริยบุคคล ก็สำเร็จด้วยจิตเช่นกัน

แต่ทั้งนี้ต้องอาศัยกายเป็นส่วนประกอบ อย่างน้อยก็เป็นที่อยู่ของจิต

กายเป็นเพียงของชั่วคราวที่ประกอบด้วยธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ลม

ถึงเวลาหนึ่ง กายจะแตก ธาตุั้ทั้งสี่ ก็จะกลับคืนไปสู่ธรรมชาติดังเดิม

ในเบื้องต้น การเป็นโสดาบัน ต้องละสักกายทิฏฐิ คือ ละความเห็นว่า เรามีตัวตน

นี่อาจเป็นที่มาของคำว่า "มีแต่จิตล้วนๆ"

นี่เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมคงคุยเป็นเพื่อนได้เท่านี้
 :25:

กายนี้ไม่ใช่เรา กายนี้ไม่เป็นเรา กายนี้ไม่ใช่ของเรา  มีแต่จิตล้วน ๆ ( ไม่แน่ใจ )

ถ้่าประโยคที่พระอาจารย์พูดไว้ มีคำว่า กาย ก่อนแล้วนะคะ ( ถ้าัจัดกาย เป็น รูป  และ จิต เป็น นาม )

หรือยังไง เอ่ย ?

 :13:

ผมว่า ผู้ฟัง อาจจะยังฟังไม่ค่อยจะเข้าใจครับ ต้องลองฟังใหม่ นะครับ
ที่สำคัญผมว่า ต้องห้ามปรุงแต่งด้วยนะครับ ให้จิตเป็นสมาธิ ดำเนินหน้าที่เอง
อันนี้ผมเข้าใจว่า ถ้าเรายังไม่ได้จิตที่เป็นสมาธิ ก็ยังตีโจทย์ไม่แตกนะครับ

 :13:

ฟังในรายการ RDN คะ แต่ไม่เข้าใจกับคำว่า "มีแต่จิตล้วน ๆ "

เพราะได้ยินมาว่า การภาวนานั้นต้องเข้าถึง นาม และ รูป หรือ ต้องมี รูป และ นาม

แต่การถึง จิต อย่างเดียวนี้ ก็ต้องขาดรูป ไป จะทำให้ วิปัสสนา ทำได้หรือ คะ

 :smiley_confused1:

ก็แล้ว นาม และ รูป คืออะไร?  ;)

มัวแต่หาจิต อยู่ทำไม หันมามองว่า ทุกข์เกิดที่ไหน ก็ดับทุกข์ตรงนั้นก็พอ

ทุกข์มีเพราะมีเรา เรามีเพราะมีตัณหา ตัณหามีจึงมีทุกข์

ตาสว่างครับ....

เข้าถึงธรรม ดีกว่า เข้าึถึงจิตครับ

 :P

มัวแต่หาจิต อยู่ทำไม หันมามองว่า ทุกข์เกิดที่ไหน ก็ดับทุกข์ตรงนั้นก็พอ

ทุกข์มีเพราะมีเรา เรามีเพราะมีตัณหา ตัณหามีจึงมีทุกข์

ตาสว่างครับ....

เข้าถึงธรรม ดีกว่า เข้าึถึงจิตครับ

 :P

Aeva Debug: 0.0004 seconds.


จะมองอย่างวิปัสสนา หรือ สมถะ ก็ต้องถึงเรื่องจิต ก่อนเป็นลำดับที่ 2

ในวิสุทธิ 7 เปรียบเหมือนรถ 7 ผลัด

การภาวนาใด ๆ ในพระพุทธศาสนานั้น เป็นเรื่องที่สืบเนื่องด้วย จิต ทั้งหมด

หากมีแต่เพียง กาย ก็เป็นแค่ ดั่งท่อนไม้ และ ท่อนฟืน หาประโยชน์ มิได้

เวลา คนทุกข์ ๆ ที่ไหน

เวลา คนสุข ๆ ที่ไหน

ดังนั้น ทุกข์ สุข อยู่ที่ใจ เป็นผู้รับรู้ การที่เข้าใจเืรื่องจิต เป็นเรื่องสมควร

เจริญธรรม

 ;)

มัวแต่หาจิต อยู่ทำไม หันมามองว่า ทุกข์เกิดที่ไหน ก็ดับทุกข์ตรงนั้นก็พอ

ทุกข์มีเพราะมีเรา เรามีเพราะมีตัณหา ตัณหามีจึงมีทุกข์

ตาสว่างครับ....

เข้าถึงธรรม ดีกว่า เข้าึถึงจิตครับ

มัวแต่หาจิต   แล้วจิตนี้   ทุกข์ใช่หรือไม่

หันมามองทุกข์   แล้วทุกข์นี้   เกิดที่จิตใช่หรือไม่

ทุกข์มีเพราะมีเรา    ก็ด้วยที่   จิตนี้ใช่หรือไม่

เรามีเพราะมีตัณหา   อยากนี้ก็ที่   จิตใช่หรือไม่

เข้าถึงธรรม ดีกว่า เข้าึถึงจิต   แจ้งรู้ก็ที่   จิตใช่หรือไม่


"สังขาร"       คือคำตอบ

คิดว่าปฏิบัติไปนาน ๆ ก็จะเข้าใจเองคะ

ไม่ต้องรีบร้อน เข้าใจก็ได้คะ

เพิ่มพูนการภาวนาให้บ่อย เป็น พหุลีกตา คะ

 :035:

คิดว่าปฏิบัติไปนาน ๆ ก็จะเข้าใจเองคะ

ไม่ต้องรีบร้อน เข้าใจก็ได้คะ

เพิ่มพูนการภาวนาให้บ่อย เป็น พหุลีกตา คะ

 :035:

เห็นด้วยคะ เพราะกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

นั้นเรียนตามลำดับ พัฒนาไปตามลำดับ ไม่มุ่งเรียนเป็นปริยัติ คะ

คิดว่าเมื่อจิตพัฒนาจนถึงขั้น และก็จะเป็น ปัจจัตตัง คือ รู้ไ้ด้เห็นได้ด้วยตนเอง คะ

 :25:

คนเรา ทำอะไรก็เพื่อสนอง จิต ตนเองเป็นหลักใ่ช่หรือไม่ โดยมีกายเป็นเครื่องตอบสนอง

การเข้าถึงจิต ล้วน ๆ นั้นก็เพื่อเข้าไปขจัดจิต และ ข้ามส่วน กาย...

 :bedtime2:

ในอภิธรรม มีการแบ่งหมวดหมู่ 4 ประการ คือ รูป จิต เจตสิก และ นิพพาน

ในมหาสติปัฏฐาน มีการแบ่งหมวดหมู่ 4 ประการเช่นเดียวกัน คือ กาย เวทนา จิต ธรรม

ในวิสุทธิ 7 ก็จัดจิต เป็นลำดับที่ 2  คือ สีลวิสุทธิ  จิตตวิสุทธิ เป็นต้น

การปฏิเสธเรื่อง จิต ไม่น่าจะมีสำหรับคนที่ภาวนาจริง ๆ


http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3671.0
 :49:

วิจิกิจฉา จะดับได้ต้องฝึกภาวนาจริง ๆ คะ เพียงแต่นึกแล้วก็ปรุงแต่งไปเรื่อย ๆ ก็ไม่เข้าใจถึงเรื่องนี้ได้คะ

ภาวนา ๆ ๆๆๆๆๆ มาก ๆๆๆ ก็น่าจะเข้าใจ คะ

 :25:

คำว่า จิตล้วน ๆ นั้น หมายความ ให้เห็น ความสำคัญ ของ จิต ว่า จิต นี้ปรุงแต่ง ว่า ทุกข์ หรือ สุข หรือ กลาง  ๆ ใช่หรือ ไม่ ครับ

  :49:

คงต้องรอพระอาจารย์ มาตอบ นะคะ คุณ นักเดินทาง ตอนนี้พระอาจารย์ จะไม่ค่อยโพสต์ และ อาพาธ ช่วงเข้าพรรษา คะ แต่จะรอศิษย์ท่าน มาตอบ ก็คงจะไม่มี นะคะ เพราะว่า ดูเหมือน ศิษย์สายนี้ จะหายไปกันเรื่อย ๆ นะคะ ที่เห็นโพสต์เมื่อก่อน ก็มี คุณ nathaponsan เปลี่ยนเป็น raponsan ,ธรรมธวัช เปลี่ยนเป็น ธุลีธวัช ,คุณปราโมทย์ เปลี่ยนเป็น aaaa , คุณ nongyao , คุณ NP2706 , คุณ ทินกร , ท่าน ปัญญาสโก .หลวงพี่เฉย รู้สึกว่า จะเลิกไปแล้ว นะคะ

  สรุป ตอนนี้คิดว่า น่าจะเหลือ ผู้ที่จะตอบ ประมาณ 3 คน คะ สายศิษย์ที่นี่

   :49: :58:
   

 st12 st12 st12

 :welcome:
        ถ้าตอบตามความรู้สึก ข้าพเจ้า

           ก็คือ การเข้าไปเห็นจิต   ที่ปรุงแต่ง

             เป็นทั้งสามอย่าง คือ โลภะ โทสะ โมหะ

               คือเข้าไปเห็นกิเลส

        ที่นี้เราจะจัดการอย่างไร   เคดนี้



       เราจะตามมัน...ตามใจตัวเราเอง คือเสียดายกิเลส   หรือเราจะตัด


           ตรงนี้ก็บอกกันไม่ได้หรอก    มันก็แล้วแต่ท่าน


            ตามอารมณ์คร่าวๆเน๊าะ

         

ช่วงนี้ต้องรอไปก่อนนะ เนื่องด้วยประสบปัญหา เรื่องสายตา พิมพ์ถูกพิมพ์ผิด พิมพ์สัมผัส ตรวจทานไม่ได้ เนื่องด้วยแว่นสายตาหัก ( มีอันเดียว ) นอกนั้นเป็นแว่น สำหรับเดิน

(http://www.madchima.org/kid/images/eyeme.jpg)

 ต้องรอก่อนนะ จนกว่าจะซ่อมแว่น หรือเปลี่ยนแว่นตา ลองหยอดกาวแล้วไม่อยู่

 thk56 thk56 thk56 thk56