ทักขิณา, ทักษิณา ทานที่ถวายเพื่อผลอันเจริญ, ของทำบุญ
ทักขิณาวัฏฏ์ เวียนขวา, วนไปทางขวา คือ วนเลี้ยวทางขวาอย่างเข็มนาฬิกา
เขียน ทักขิณาวัฏ หรือ ทักษิณาวรรต ก็มี;
ตรงข้ามกับ อุตตราวัฏทักษิณา ทานเพื่อผลอันเจริญ, ของทำบุญ
ทักษิณานุประทาน ทำบุญอุทิศผลให้แก่ผู้ตายพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
http://www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%B7%D1%A1%C9%D4%B3
%D2
ประทักษิณ เบื้องขวา,
การเวียนขวา คือ เวียนเลี้ยวไปทางขวาอย่างเข็มนาฬิกา เป็นอาการแสดงความเคารพพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
http://www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=ประทักษิณ
http://www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%BB%C3%D0%B7%D1%A1%C9%D4%B3
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค๓. มหาปรินิพพานสูตร (๑๖)ดูกรวาสิฏฐะทั้งหลาย ความประสงค์ของพวกเทวดาว่า ท่านพระมหากัสสป
นี้ พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ ๕๐๐ รูป เดินทางไกลจากเมืองปาวามาสู่
เมืองกุสินารา จิตกาธารของพระผู้มีพระภาคจักยังไม่ลุกโพลงขึ้น จนกว่าท่าน
พระมหากัสสปจะถวายบังคมพระบาททั้งสองของพระผู้มีพระภาคด้วยมือของตน ฯ
ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ขอให้เป็นไปตามความประสงค์ของพวกเทวดาเถิด ฯ
ครั้งนั้น ท่านพระมหากัสสปเข้าไปถึงมกุฏพันธนเจดีย์ของพวกเจ้ามัลละ
ในเมืองกุสินารา และถึงจิตกาธารของพระผู้มีพระภาค
ครั้นแล้วกระทำจีวรเฉวียงบ่าข้างหนึ่ง
ประนมอัญชลี กระทำประทักษิณจิตกาธาร ๓ รอบ แล้วเปิดทางพระบาทถวายบังคมพระบาททั้งสองของพระผู้มีพระภาคด้วยเศียรเกล้า
แม้ภิกษุ ๕๐๐ รูปเหล่านั้น ก็กระทำจีวรเฉวียงบ่าข้างหนึ่ง
ประนมอัญชลี กระทำประทักษิณ ๓ รอบแล้วถวายบังคมพระบาททั้งสองของพระผู้มีพระภาคด้วยเศียรเกล้า
เมื่อท่านพระมหากัสสปและภิกษุ ๕๐๐ รูปนั้นถวายบังคมแล้ว
จิตกาธารของพระผู้มีพระภาคก็โพลงขึ้นเอง เมื่อพระสรีระของพระผู้มีพระภาคถูกเพลิงไหม้อยู่
พระอวัยวะส่วนใดคือ พระฉวี พระจัมมะ พระมังสะ พระนหารู หรือพระลสิกา เถ้า เขม่า
แห่งพระอวัยวะส่วนนั้น มิได้ปรากฏเลย เหลืออยู่แต่พระสรีระอย่างเดียว
ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=10&A=1888&Z=3915
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๘
ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา๓. จาปาเถรีคาถา
คาถาสุภาษิตของนางจาปาเถรี ท่านอุปกะกล่าวว่า
เมื่อก่อนเราเคยเป็นเจ้าหมู่เจ้าคณะ ไม่ใช่สมณะ แต่ถือตัวว่าเป็นสมณะ
ได้เที่ยวไปตามบ้านทุกๆ บ้าน ทุกนคร ทุกราชธานีน้อยใหญ่ บัดนี้
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าพระองค์นี้ประทับอยู่ ณ ที่ใกล้แม่น้ำเนรัญชรา
ทรงแสดงธรรมแก่หมู่สัตว์เพื่อให้ละทุกข์ทั้งปวง เราได้ไป ณ สำนัก
ของพระองค์ พระองค์ก็จักเป็นศาสดาของเรา. เรากล่าวว่า
บัดนี้ ขอท่านจงกราบทูลการกราบไหว้ของฉัน
กะพระพุทธเจ้าผู้เป็นที่พึ่ง
ของสัตว์โลก ผู้ยอดเยี่ยม พึงทำประทักษิณ ๓ รอบ แล้วอุทิศส่วนบุญมา
ให้ฉันบ้าง.
ท่านอุปกะกล่าวว่า
ดูกรนางจาปา ตามที่เจ้าพูดเราทำได้ บัดนี้เราจักกราบทูลการกราบไหว้
ของเจ้ากะพระพุทธเจ้าผู้เป็นที่พึ่ง ของสัตว์โลก ผู้ยอดเยี่ยม
และจักทำ
ประทักษิณสิ้น ๓ รอบแล้วอุทิศส่วนบุญมาให้เจ้า.
ก็ลำดับนั้น ท่านกาฬะได้หลีกไปถึงแม่น้ำเนรัญชรา ท่านได้พบพระสัม-
พุทธเจ้ากำลังทรงแสดงอมตบท คือ ทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความดับทุกข์
และอริยมรรคมีองค์ ๘ อันเป็นทางดำเนินถึงความสงบทุกข์
ถวายบังคม
พระยุคลบาทของพระพุทธเจ้าแล้ว ทำประทักษิณ ๓ รอบ อุทิศส่วนบุญ
ไปให้นางจาปาแล้วออกบวชในพระธรรมวินัย ได้บรรลุวิชชา ๓ ทำตาม
คำสอนของพระพุทธเจ้าเสร็จแล้ว.
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ บรรทัดที่ ๙๗๒๑ - ๙๗๘๑. หน้าที่ ๔๒๒ - ๔๒๔.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=26&A=9721&Z=9781&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=469