ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ขึ้นกรรมฐาน จำเป็นต้อง ขึ้นถวายถาด ต่อครูอาจารย์ด้วยตนเองหรือไม่คะ  (อ่าน 4496 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

malee

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 52
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
มีความสนใจในการขึ้นกรรมฐาน ต้องทำอย่างไรบ้างคะ ในการเตรีิยมตัวไปขึ้นกรรมฐาน คะ และจำเป็นต้องเตรียมส่วนตัวเลยใช่หรือไม่คะ เช่นพาเพื่อนไปด้วยประมาณ 5-6 คน คะ เตรียม ถาดขึ้นกรรมฐานไปชุดเดียวพอหรือไม่คะ หรือต้องทำอย่างไร วาน ศิษย์พี่ ๆ ทุกท่าน ช่วยแนะนำน้อง ๆ ที่กำลังจะไปขึ้นกรรมฐาน ด้วยคะ

 ขอบคุณมากคะ

  :25: :25: :c017:
บันทึกการเข้า

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เตรียมไปชุดเดียวก็ได้ กี่คนก็หาตัวแทนยกถาด เดี๋ยวครูบาอาจารย์ก็บอก
       แต่ถ้าไม่ได้เตรียมไปก็ไม่เป็นไร เพราะที่นั่นมีครบ
           ก็คือมีเตรียมไว้ให้ท่านครบแล้ว
              เตรียมตัวก็คือ เตรียมกาย-เตรียมใจ ไปด้วยศรัทธา ก็เพียงพอ
                คฌะห้า วัดราชสิทธาราม เปิดทุกวัน พระอาจารย์ใจดี
                   ขอให้ท่านโชคดี
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
เป็นคำถามที่ดีมาก เพราะส่วนใหญ่ก็มักจะถามกันอย่างนี้ เวลาเรียนกรรมฐานกัน จนบางท่านบางคนมาเรียนไม่สบายใจ ว่าไม่ได้ถวายถาดกันต้องรีบไปจัดการเรื่องถาดกรรมฐาน นี้กันเพื่อสิ้นสุดการวิตก นึกคิดไป

ดังนั้นเพื่อให้ท่านทั้งหลายเข้าใจ ก็จักได้อธิบายไว้ใน ที่นี้เกี่ยวกับเรื่องการขึ้น ถาดขันธ์ 5

สำหรับการขึ้นกรรมฐาน นั้นมีเหตุปัจจัยหลายอย่างอยู่ที่เป็นองค์ประกอบกันดังนี้

1.พระรัตนตรัย
2.พระกรรมฐาน ที่ประกอบด้วย อริยะมรรคมีองค์ 8
3.กัลยาณมิตร ผู้บอกกรรมฐาน
4.สถานที่ เวลา โอกาส อามิสบูชา
5.ศรัทธา ปฏิบัติบูชา

5 ประการนี้เรียก ว่าเหตุปัจจัยของการเรียนกรรมฐาน

แต่เดิมพิธี เหล่านี้ไม่ได้ ยุ่งยาก มากมาย ดูครั้ง พุทธกาล พระพุทธเจ้าสอนธรรม ก็เพียงกล่าวคำถึง ไตรสรณคมน์ คือ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ เท่านี้ ก็นับว่าเป็นอุบาสก อุบาสิกา พร้อมที่จะเรียน ธรรม คือ กรรมฐาน แล้ว

ดังนั้น คำว่า กรรมฐาน กับ คำว่า ธรรม คือ อันเดียวกัน ไม่ได้แยกเรื่องราวจากกันไป

สำหรับเรื่องการขึ้นกรรมฐาน ที่มีถาด  กับ ไม่มีถาด ต่างกันอย่างไร ?

ต้องขอกล่าวว่าการเรียนกรรมฐาน เป็นเรื่องดี ไม่มีเรื่องเสีย แต่กรรมฐานบางกรรมฐาน ฝึกก่อนไม่ได้เช่น อสุภะกรรมฐาน เป็นต้น ฝึกก่อนแล้วอาจจะเกิดโทษ ซึ่งมีเรื่อราวพระสูตรให้อ่านเป็น อุทาหรณ์ อย่างดี

ขอจัดการเรียน กรรมฐานดังนี้

1.เรียนศึกษา กรรมฐาน ด้วยตนเอง ภาษาชาวบ้านเรียกว่า ฟูมฟัก ลักจำ จดไว้ อ่าน จดไว้
2.เรียนศึกษา มีครูกรรมฐาน

ทั้ง 2 ประการมีข้อดี ข้อเสีย เช่นกัน จะไม่ขอกล่าวข้อที่ 1 แต่จะกล่าว ข้อที่ 2 เอาไว้ให้ท่านทั้งหลายได้เรียน ได้ศึกษา ได้อ่านกันให้เข้าใจ

สำหรับการเรียนกรรมฐาน กับ ครูอาจารย์ ซึ่งจัดเป็นเนื้อนาบุญนั้น โดยปกติศิษย์ที่เรียน ก็จะได้ทำบุญกับครูอาจารย์ไปในตัว เรียกว่า การทำ อามิสทาน มีการบูชา ด้วยดอกไม้ เครื่องหอม ธูป เทียน ปัจจัย 4 เป็นต้นซึ่งเป็นการสั่งสมบุญ มีอานิสงค์ในบุญในทาน เป็นอย่างมาก

ดังนั้นสำหรับ เครื่องไทยธรรม ต่าง ๆ ที่นำมาถวายกับครูอาจารย์ นั้นตอบได้เลยว่า ไม่ได้เป็นความปรารถนาของครูอาจารย์ แต่ที่ครูอาจารย์ปรารถนาตั้งใจไว้คือ การภาวนาปฏิบัติได้ สำเร็จ ในพระกรรมฐาน เป็นสำคัญดังนั้น ถ้าหากท่านทั้งหลาย ไม่มีเครื่องไทยธรรมใด ๆ ก็ให้ นำการปฏิบัติ ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา กรรมฐานบูชา อาจริยบูชา แทนก็ได้

สำหรับเครื่องไทยธรรม ก็จัดเป็นสักการะทาน เหมือนการทำบุญใส่บาตร ท่าอยากทำวันไหน ก็ทำซะ ทำได้บ่อยก็ดี การถวายถาดกรรมฐาน จึงเป็นเรื่องที่ทำได้บ่อย ๆ ไม่ใช่ทำกันครั้งเดียว ดังนั้นท่านทำสักการะบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็ทำกันบ่อย ๆ ทำให้เป็นนิสัย อันนี้เรียกว่า เป็นการปฏิบัติบูชาทางอ้อมเช่นกัน เพราะนำไปปฏิบัติ อย่างบ่อย ๆ

ก็คิดว่าท่านทั้งหลายจักเข้าใจในส่วนนี้ กัน

เจริญธรรม / เจริญพร

 ;)


บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
การกล่าว คำถวายตนเป็น ศิษย์ ใน ครูกรรมฐาน (กัลยาณมิตร) เป็นธรรมเนียมถือปฏิบัติกันมา เหมือนกับการบวชพระ ที่มีอุปัชฌาย์ มอบตัวเป็น อันเตวาสิก สัทธิวิหาริก หรือ รับนิสสัย จากครูอาจารย์ เช่นกัน ดังนั้นการเป็นศิษย์ ก็ต้องมอบตัว มอบใจ แก่ครูอาจารย์ผู้สอนกรรมฐาน เพื่อลดทิฏฐิมานะ ประการหนึ่ง ลดความฟุ้งซ่าน ประการหนึ่ง เป็นตั่งสัญญาที่จะตั้งใจเรียนกรรมฐาน

   จริต วาสนา บารมี และ ธรรม
  เป็นเรื่องสำคัญด้วย

จากประสบการณ์การสอนมา 10 กว่าปีนี้ ทราบดีว่า ถ้าท่านทั้งหลายไม่มอบตัวเป็นศิษย์ แต่ต้องการเรียนกรรมฐาน มักจะนำมาซึ่งปัญหาสำคัญเรื่องแรก คือ การไม่ปฏิบัติตามที่สอน เพราะ วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง เป็นขวากหนามที่ท่านทั้งหลาย ไปไม่ได้สอบไม่ผ่านกัน

 สำหรับศิษย์ที่ขึ้นกรรมฐาน ก็มีผลด้วยเช่นหากมีความเคารพแล้วปฏิบัติตามด้วยการเชื่อฟัง ไม่อนุมานตามความคิดของตนเอง ก็จะก้าวหน้าในการปฏิบัติ แต่ถ้าหากกล่าวคำปรามาส ด้วย กาย วาจา ด้วยใจ ก็จะมีผลปิดธรรม ไม่สามารถภาวนาใด ๆ ได้ เช่นกัน

  ดังนั้น ธรรมเนียมการรับเป็นศิษย์ ในสายกรรมฐาน กับครูรูปใด รูปหนึ่ง ที่สอนกรรมฐานนั้นจึงควรรักษาไว้ให้เป็นแบบแผน ถึงแม้ว่าบางครั้งอาจจะผ่อนผัน ประเพณีลง แต่ถ้าศิษย์ท่านใดมีโอกาส ก็ควรทำให้สมบูรณ์ ตามประเพณี

  ปัจจุบัน คนต้องการเรียนกรรมฐาน แต่ไม่ต้องการขึ้นกรรมฐาน มอบตัวเป็นศิษย์มีจำนวนมากเพราะคนในสมัยนี้เริ่มมีนิสัยปกปิดความดี กันเรียนกรรมฐาน ถ้าครูอาจารย์ไม่มีชื่อเสียง ก็ไม่กล้ากล่าวนามครูอาจารย์กัน ถ้าหากครูอาจารย์มีชื่อเสียง ก็มักจะกล่าวนามกัน ดังนั้นท่านที่เป็นศิษย์ขึ้นกรรมฐาน กับครูท่านใด ก็ควรกล่าวยกย่องในฐานะครูอาจารย์ของตน ตามสมควรแก่วาระ ด้วยเช่นกัน

 ประเพณี รูปแบบ ที่เป็นอริยะ นั้นไม่ควรนำออก กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ รักษาแบบแผนนี้มาไว้เป็น พันๆ ปีแล้ว นะจ๊ะ

 เจริญธรรม / เจริญพร

  ;)
 


บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขออนุโมทนาสาธุ พระอาจารย์กรรมฐาน
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

lamai54

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 138
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาธุ กับครูอาจารย์ ที่มาแนะนำ คะ
 :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
แข่งขันในโครงการ yamaha นะฮะ อย่าเข้าใจว่าเป็นพวกเสื้อแดง.... เราไม่ใช่....

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา ด้วยครับ ครูอาจารย์ได้อธิบายไว้อย่างกระจ่างแล้วนะครับ แต่ก็คนใหม่ ก็อาจจะสงสัยอยู่อีก คนเก่า ก็เริ่มรู้สึกชินแล้วนะครับ เพราะว่า ขอขมา อธิษฐาน ทำกันทุกวัน ทุกครั้ง ก็เลยเป็นนิสัย

  สาธุ สาธุ สาธุ

   :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า