ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สกลนครดินแดน "3 ดำมหัศจรรย์"  (อ่าน 4340 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
สกลนครดินแดน "3 ดำมหัศจรรย์"
« เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2011, 04:11:45 pm »
0


สกลนครดินแดน"3ดำมหัศจรรย์" ดันผลงานพัฒนาพันธุ์"โค-ไก่-หมู"สร้างอาชีพ-เพิ่มรายได้เกษตรกร

              นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานแนวพระราชดำริต่างๆ เพื่อให้พื้นที่ศูนย์การศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร เป็นแบบจำลองของภาคอีสานในการแก้ปัญหาและศึกษาวิธีการพัฒนาของภูมิภาคได้อย่างเหมาะสม           
              โดยผลการศึกษาวิจัยที่มีความโดดเด่นของศูนย์การศึกษาการพัฒนาภูพานฯในขณะนี้ คือ สิ่งที่เรียกว่า"ดินแดนแห่ง 3 ดำมหัศจรรย์" ได้แก่ โคเนื้อทาจิมะภูพาน ไก่ดำภูพาน และสุกรภูพาน


              สำหรับการพัฒนา"โคเนื้อทาจิมะภูพาน"สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีได้พระราชทานแก่ศูนย์การศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ให้เนื้อมีคุณภาพดีที่สุดในโลกลักษณะเนื้อมีความนุ่ม ไขมันแทรกเกรดสูง จุดเด่นที่สำคัญ คือ มีสัดส่วนของกรดไขมันไม่อิ่มตัว:กรดไขมันอิ่มตัวสูงกว่าโคทั่วไป ทำให้ปลอดภัยต่อการบริโภค

              สำหรับ"ไก่ดำภูพาน"เป็นไก่ดำสายพันธุ์ที่ศูนย์การศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ได้ศึกษาและพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์ให้ได้ไก่ดำพันธุ์ดี ทนโรค ทนต่อสภาพแวดล้อม เลี้ยงง่าย กินเก่ง โตเร็ว สามารถลดต้นทุนการผลิต และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ซึ่งราคาขายไก่รุ่นน้ำหนัก 1กิโลกรัม ราคาตัวละ 250บาท เมื่อเทียบราคาไก่เนื้อทั่วไป จะสามารถจำหน่ายได้เพียงตัวละ 70-80 บาท

              ส่วน"สุกรภูพาน"เกิดจากแนวคิดที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรในด้านต้นทุนการผลิตเพื่อให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงสุกรที่มีลักษณะเลี้ยงง่าย โตเร็ว ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์การเลี้ยงของเกษตรกรได้ดี มีความทนทานต่อโรค ให้ลูกดก เลี้ยงลูกเก่ง และให้ปริมาณเนื้อแดงมากเมื่อนำไปขุน
              ดังนั้นจึงได้พัฒนาสายพันธุ์กระทั่งได้สุกรภูพาน 2 สายพันธุ์ คือสุกรภูพาน1และสุกร ภูพาน 2โดยเกษตรกรสามารถนำไปเลี้ยงแบบปล่อยเลี้ยงหลังบ้าน เพื่อกินเศษอาหารที่เหลือ เปลี่ยนเป็นเนื้อสัตว์ หรือเพื่อจำหน่ายเสมือนเป็นคลังออมสินประจำบ้าน


ที่มา :นสพ.แนวหน้า หน้า 14
http://www.acfs.go.th/news_detail.php?ntype=09&id=8106
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: สกลนครดินแดน "3 ดำมหัศจรรย์"
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2011, 04:18:16 pm »
0


สกลนคร ชวนเที่ยวงานเทศกาลโคขุนโพนยางคำ

จังหวัดสกลนครชวนเที่ยวงาน เทศกาลโคขุนโพนยางคำ ระหว่างวันที่ 27 พ.ย. - 1 ธ.ค. 2554 ณ สนามมิ่งเมือง โดยชูสโกแกนประจำงานคือ ลิ้มรสโคขุน ละมุนนมโคถิ่นภูพาน จิบรสหวานน้ำหมากเม่า ใต้แสงดาว หนาวนี้ ที่สกลนคร

นางวิตยา ประสงค์วัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร นายชัยมงคล ไชยรบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร และนายโกมุฑ ฑีฆทนานนท์ นายเทศมนตรีเมืองสกลนคร เผยว่า การจัดมหกรรมส่งเสริมและสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP และภูมิปัญญาท้องถิ่น ภายใต้ชื่องาน บอกรักพ่อที่ภูพาน ยลดอกไม้งามที่หนองหาร เที่ยวงานลิ้มรสโคขุน ละมุนน้ำหมากเม่า ใต้แสงดาวหนาวนี้ที่สกลนคร หรืองาน เทศกาลโคขุนโพนยางคำ

โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน 1 ธันวาคม 2554 บริเวณสนามมิ่งเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ในงานนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความเป็นเอกลักษณ์ เทศกาลโคขุนโพนยางคำ ไม่ว่าจะเป็น เมนูอาหารจากเนื้อโคขุนโพนยางคำ บรรยากาศริมหนองหารยามเย็น และชมสุดยอดมหัศจรรย์ 3 ดำ แห่งศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ คือ วัวดำ หมูดำ และ ไก่ดำ

พิเศษสำหรับปีนี้ งานเทศกาลโคขุนโพนยางคำ จะอบอวลไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์กว่า 840,000 ต้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมเทิดพระเกียรติ ในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา พ.ศ. 2554 โดยได้เปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรี ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2554 ไปจนถึง เดือนมกราคม 2555

นายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.สกลนคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางจังหวัดสกลนคร ได้เตรียมกิจกรรมต่างๆ ไว้มากมาย เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยได้เน้นกิจกรรมที่ปวงชนชาวไทย สามารถมีส่วนร่วมเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นั่นคือ กิจกรรมบอกรักพ่อที่ภูพาน

นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนสกลนคร จะได้ร่วมลงนามถวายพระพรในพื้น ผ้าครามที่ยาวที่สุดในโลก ที่ชาวสกลนครได้ร่วมแรงร่วมใจทอด้วยมือ และได้นำผ้าครามผืนดังกล่าวให้นักท่องเที่ยวได้ลงนามถวายพระพร ณ บริเวณสนามมิ่งเมือง ตลอด 5 วัน หลังจากนั้นจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกทั้งจะมีการจัดแสดงนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ

ได้แก่ ศูนย์ศึกษาพัฒนาภูพาน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสกลนคร มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร มหาวิทยาลัยราชมงคลสกลนคร ศูนย์ศิลปาชีพกุดนาขาม นิทรรศการเนื้อโคขุนโพนยางคำและวิถีชีวิตชนเผ่าสกลนคร นอกจากนี้ในภาคบันเทิงยังมีศิลปิน ดารา ลูกทุ่งหมอลำชื่อดัง ตลอดทั้ง 5 วัน

 
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.esanguide.com/news/detail.php?id=3516
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ