ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: คลายข้อสงสัย คนกรุงศรีอยุธยา “หน้าตา” เป็นอย่างไร.?  (อ่าน 654 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ภาพจากหนังสือ สมุดข่อย จัดพิมพ์โดย โครงการสืบสานมรดกวัฒนธรรมไทย พ.ศ. 2542

คลายข้อสงสัย คนกรุงศรีอยุธยา “หน้าตา” เป็นอย่างไร.?


มีคติโบราณบอกว่า “ไทยเล็ก เจ๊กดำ” คบไม่ได้ แสดงว่าคนไทยทั่วไปไม่ใช่คนตัวเล็ก แต่รูปร่างจะใหญ่ขนาดไหน ? ไม่มีเกณฑ์กำหนดแน่นอน

@@@@@@

หน้าตาของชาวพระนครศรีอยุธยาสมัยก่อนเป็นอย่างไร.?

อธิบายยาก แต่มีข้อหน้าสังเกตว่าควรคล้ายพระพักตร์พระพุทธเจ้ารูปแบบ “อู่ทอง” คือหน้าเหลี่ยม ริมฝีปากหนา เป็นต้น  ประเด็นนี้มีข้อยืนยันอยู่ในบันทึกของลาลูแบร์บอกว่า

“วงหน้าของชาวสยามทั้งชายและหญิง กระเดียดไปข้างรูปขนมเปียกปูน (หรือข้าวหลามตัด) มากกว่าที่จะเป็นรูปไข่ ใบหน้ากว้าง ผายไปทางเหนือโหนกแก้ม แล้วทันใดก็ถึงหน้าผากอันแคบ รวมเข้าเป็นรูปมนเหมือนปลายคาง อนึ่งนัยน์ตาซึ่งหางตาค่อนข้างจะยกสูงขึ้นไปข้างบนนั้นเล็ก และไม่สู้แจ่มใสไวแววนัก และตาขาวซึ่งควรจะขาวนั้นก็ออกเหลือง ๆ แก้มของพวกเขานั้นตอบ ค่าที่โหนกแก้มสูงเกินไปนั่นเอง ปากนั้นกว้าง ริมฝีปากซีด ๆ และฟันดำ ผิวนั้นหยาบ สีน้ำตาลปนแดง”


@@@@@

ที่ลาลูแบร์บอกว่าชาวบ้านยุคอยุธยาทั้งผู้หญิงและผู้ชายฟันดำทั้งนั้น ข้อนี้เป็นรสนิยมของผู้คนยุคนั้นอย่างแท้จริงว่าเป็นสเน่ห์อย่างยิ่ง ดังมีกาพย์โคลงนิราศธารโสกของเจ้าฟ้ากุ้ง ยกย่องหญิงงามต้องมีฟันดำอย่างสีนิล ดังนี้

       ๏ พิศฟันรันเรียงเรียบ      เป็นระเบียบเปรียบแสงนิล
         พาทีพี่ได้ยิน             ลิ้นบ่กระด้างช่างเจรจา
      ๏ ชมทันต์รันเรียบริ้ว        เรียมถวิล
         ระเบียบเรียบแสงนิล     ย่องย้อย
         พาทีพี่ฟังยิน             พจนาตถ์
         ลิ้นเล่ห์เสนาะเพราะถ้วย  กล่าวเกลี้ยงเสียงใสฯ


ที่ว่าฟันดำอย่างสีนิลนี้ไม่ใช่ย้อมสีดำ แต่เพราะกินหมากกินพลูเป็นประจำ นิยมเคี้ยวหมากพลูกันตั้งแต่รุ่นสาวรุ่นหนุ่มจนถึงแก่เฒ่า ประเพณีเคี้ยวหมากเคี้ยวพลูจนฟันดำเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมมาแต่ยุคดึกดำบรรพ์ทีเดียว มีเอกสารจีนโบราณบันทึกว่าราวสองพันปีมาแล้ว กลุ่มชนพวกหนึ่งในภูมิภาคอุษาคเนย์นิยมให้ฟันดำ

@@@@@@

ชาวอยุธยายกย่องคนมีใบหูใหญ่ด้วยเชื่อว่าอายุยืน ลาลูแบร์รู้สึกประหลาดที่ชาวสยามในอยุธยามีใบหูใหญ่ จึงเขียนบันทึกว่า

    “ชาวสยามนั้นมีจมูกสั้นและปลายมน และใบหูนั้นใหญ่กว่าใบหูของพวกเรา คนมีใบหูใหญ่มากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นที่ยกย่องกันมากขึ้นเท่านั้น ด้วยว่าเป็นรสนิยมของชาวต่างชาติบ้างบูรพทิศ  สังเกตได้จากตุ๊กตากระเบื้องหรือวัสดุอย่างอื่นที่ได้มาจากภูมิภาคนั้นเถิด แต่การนิยมมีใบหูใหญ่นี้ยังมีทรรศนะแตกต่างกันอยู่ในหมู่ชาวตะวันออก ลางพวกก็นิยมดึงติ่งหูให้ยืดยาวลงมาโดยมิได้เจาะติ่งหูด้วยหมุดให้กว้าง ๆ ขึ้น โดยเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นไปทีละน้อย ในประเทศลาวนั้นนิยมเบิกหูกันให้กว้างจนแทบว่าจะเอากำปั้น (poing ) ยัดเข้าไปได้ และติ่งหูนั้นย้อยยืดลงมาจรดบ่า ชาวสยามมีใบหูใหญ่กว่าของพวกเราเล็กน้อย แต่ก็เป็นไปโดยธรรมชาติ หาได้มีการดัดแปลงไม่”



“ไพร่ฟ้าประชากร และข้าวปลาอาหาร”. จากหนังสือ “อยุธยา ยศยิ่งฟ้า ประวัติศาสตร์สังคมวัฒนธรรมกรุงศรีอยุธยา ว่าด้วยวิถีชีวิตไพร่ฟ้าข้าไทย”. โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ. สำนักพิมพ์มติชน. 2549
ขอบคุณ : https://www.silpa-mag.com/culture/article_28366
เผยแพร่ : วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2562
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ