หัวข้อ: วันวาเลนไทน์ เกี่ยวข้อง อะไรกับ พุทธ หรือไม่ ครับ เริ่มหัวข้อโดย: Skydragon ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2013, 07:41:01 am วันวาเลนไทน์ เกี่ยวข้อง อะไรกับ พุทธ หรือไม่ ครับ
:13: :13: thk56 หัวข้อ: Re: วันวาเลนไทน์ เกี่ยวข้อง อะไรกับ พุทธ หรือไม่ ครับ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2013, 08:51:13 am http://www.youtube.com/watch?v=CB11jlZEYSQ# (http://www.youtube.com/watch?v=CB11jlZEYSQ#)
อัปโหลดเมื่อ 5 ก.ค. 2009 โดย krisanaw ans1 ans1 ans1 ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ พระพุทธองค์ตรัสว่า "ความโศกก็ดี ความร่ำไรก็ดี ความทุกข์ก็ดี มากมายหลายอย่างนี้มีอยู่ในโลก เพราะอาศัยสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก เมื่อไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก ความโศก ความร่ำไร และความทุกข์เหล่านี้ย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้นแล ผู้ใดไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รักในโลกไหนๆ ผู้นั้นเป็นผู้มีความสุข ปราศจากความโศก เพราะเหตุนั้น ผู้ปรารถนาความไม่โศก อันปราศจากกิเลสดุจธุลี ไม่พึงทำสัตว์หรือสังขารให้เป็นที่รัก ในโลกไหนๆ" ___________________________________________ วิสาขาสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=4307&Z=4352&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=4307&Z=4352&pagebreak=0) ans1 ans1 ans1 ยอดของความรัก ปัญหา (เทวดากล่าวเป็นเชิงแสดงทรรศนะของตน) ความรักเสมอด้วยความรักบุตรไม่มี ทรัพย์เสมอด้วยโคไม่มี แสงสว่างเสมอด้วยดวงอาทิตย์ย่อมไม่มี สระทั้งหลายมีทะเลเป็นยอด? พุทธดำรัสตอบ “ความรักเสมอด้วยความรักตนไม่มี ทรัพย์เสมอด้วยข้าวเปลือกย่อมไม่มี แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาย่อมไม่มี ฝนต่างหากเป็นสระยอดเยี่ยม” _________________________________________________________ นันถิปุตตสมสูตร ส.สํ. (๒๘-๒๙) ; ตบ. ๑๕ : ๙ ตท. ๑๕ : ๙ ; ตอ. K.S. I : ๑๐ http://www.84000.org/true/094.html (http://www.84000.org/true/094.html) ans1 ans1 ans1 ความรักทำให้คนตาบอด ปัญหา มีคำพังเพยกล่าวไว้ว่า ความรักทำให้คนตาบอด ดังนี้ทางพระพุทธศาสนายอมรับคำกล่าวนี้ว่า เป็นความจริงหรือไม่เพียงใด ? พุทธดำรัสตอบ “.....บุคคลผู้กำหนัด อันความกำหนัดครอบงำรึงรัดจิตใจไว้ ย่อมรู้แม้ซึ่งประโยชน์ตน ตามความเป็นจริง ย่อมรู้แม้ซึ่งประโยชน์ผู้อื่น ตามความเป็นจริงย่อมไม่รู้แม้ซึ่งประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่น ทั้ง ๒ ฝ่ายตามความเป็นจริง.... ความกำหนัดแล ทำให้เป็นคนมืด ทำให้เป็นคนไร้จักษุ ทำให้ไม่รู้อะไร ทำให้ปัญญาดับ เป็นไปในฝ่ายความคับแค้นไม่เป็นไปเพื่อนิพพาน.....ฯ” ________________________________________________________________ ฉันนสูตร ติ. อํ. (๕๑๑) ; ตบ. ๒๐ : ๒๗๗-๒๗๘ ตท. ๒๐ : ๒๔๓-๒๔๔ ; ตอ. G.S. I : ๑๙๖ http://www.84000.org/true/178.html (http://www.84000.org/true/178.html) |