การบรรยายธรรมะโดยท่านว. วชิรเมธีท่านได้ให้พร 4 ดังนี้ข้อ
> 1. อย่าเป็นนักจับผิด
คนที่คอยจับผิดคนอื่นแสดงว่าหลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่นไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง'กิเลสฟูท่วมหัวยังไม่รู้จักตัวอีก'คนที่ชอบจับผิดจิตใจจะหม่นหมองไม่มีโอกาส 'จิตประภัสสร' ฉะนั้นจงมองคนมองโลกในแง่ดี 'แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ถ้ามองเป็นก็เป็นสุข '
> 2. อย่ามัวแต่คิด ริษยา
'แข่งกันดีไม่ดีสักคนผลัดกันดีได้ดีทุกคน'
คนเราต้องมี พรหมวิหาร 4คือ เมตตา กรุณามุทิตา อุเบกขา
คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัวมีชื่อว่า 'เจ้ากรรมนายเวร' ถ้าเขาสุขเราจะทุกข์ฉะนั้นเราต้องถอดถอน
ความริษยาออกจากใจเราเพราะไฟริษยาเป็น 'ไฟสุมขอน' (ไฟเย็น) เราริษยา 1 คนเราก็มีทุกข์1 ก้อน
เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี 'แผ่เมตตา'หรือซื้อโคมลอยมาแล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยาแล้วปล่อยให้ลอยไป
> 3. อย่าเสียเวลากับความหลัง90% ของคนที่ทุกข์เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ 'ปล่อยไม่ลงปลงไม่เป็น'
มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออกเหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องภาระต่างๆไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้วจงปล่อยมันซะ 'อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีตมากรีดปัจจุบัน '
'เป็นอยู่กับปัจจุบันให้ ' ให้กายอยู่กับจิตจิตอยู่กับกายคือมี 'สติ'เวลากำกับตลอด
> 4. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ
'ตัณหา'ที่มีปัญหาคือความโลภความอยากที่เกินพอดี เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วยน้ำไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อคือธรรมชาติของตัณหา 'ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม'
ทุกอย่างต้องดู' คุณค่าที่แท้จริง' เทียมไม่ใช่คุณค่าเช่นคุณค่าที่แท้ของนาฬิกาคืออะไร ? คือไว้ดูเวลาไม่ใช่ใส่เพื่อความโก้หรู
คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือคืออะไร ? คือไว้สื่อสารแต่องค์ประกอบอื่นๆที่เสริมมาไม่ใช่คุณค่าที่แท้จริงของโทรศัพท์
เราต้องถามตัวเองว่า 'ทำไมเิกิดมา'คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหนตามหา 'แก่น ' เจอของชีวิตให้
ว่าคำ 'พอดี'คือ ถ้า 'พอ' แล้วจะ'ดี'รู้จัก 'พอ' จะมีชีวิตอย่างมีความสุข'
กรุณาส่งข้อความดีๆนี้ให้คนที่
ท่าน 'รัก' และ 'ปรารถนาดี'
หวังว่าทุกๆท่านจะได้ประสบ
แต่ความสุขกายสบายใจ