หัวข้อ: ปัจจุบันมีพระที่ปฏิบัติได้จริงอยู่หรือป่าว เริ่มหัวข้อโดย: sakorn ที่ ธันวาคม 07, 2009, 10:10:46 am :angel: อันนี้ผมพยายามหลบเรื่องการปรามาสพระสงฆ์ นะครับ
แต่ในใจก็อยากทราบข่าว ว่ามีพระที่ปฏิบัติดีมีอยู่มาก เพราะเวลาผมดูข่าวทีไร เจอแต่ข่าวพระไม่ดี ผมอยากให้เพื่อนสมาชิกช่วยกันลงข่าวของพระสุปฏิปันโน บ้างครับ หัวข้อ: Re: ปัจจุบันมีพระที่ปฏิบัติได้จริงอยู่หรือป่าว เริ่มหัวข้อโดย: ban ที่ ธันวาคม 07, 2009, 12:21:41 pm มีครับ มีมากๆ
1.สมเด็จพระญาณสังวร สังฆราชองค์ปัจจุบัน 2.หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน 3.หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด แหมทำไมผมนึกได้น้อยจัง เืพื่อนๆช่วยด้วยนะครับ หัวข้อ: โยมฟังอาตมา บ้างนะ เริ่มหัวข้อโดย: TCnapa ที่ สิงหาคม 18, 2010, 03:25:54 pm โยมฟังอาตมาบ้างนะ!
อาตมาอยากบอกโยมว่า... 1.ความคิดว่า "พระคือผู้ละแล้วซึ่งกิเลส" "ตัดแล้วซึ่งทางโลก" คำพูดเหล่านี้โยมพูดเองเออเอง ทั้งนั้น ที่จริงต้องบอกว่า "พระคือ ผู้บวชเพื่อฝึกตนเองตามหลักคำสอนตามพระพุทธศาสนา บวชแล้วมีหน้าที่อุทิศให้เป็นประโยชน์แก่ชาวโลก (จะระถะ ภิกขะเว พะหูชะนะหิตายะ พะหุชะนะสุขายะ โลกานุกัมปายะ = ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงท่องเที่ยวไปเพื่อบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่ชนหมู่มาก เพื่อความสุขของชนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์ชาวโลก)" ไม่ได้ให้บวชมาเฝ้าโบสถ์ เฝ้าศาลา นั่งหลับตา บอกใบ้ให้หวยดูดวง อาตมาเองก็แปลกใจ เวลาอาตมาชวนโยมมาฟังเทศน์โยมบอกว่า งานยุ่งไม่มีเวลาไปวัด น่าเบื่อ แต่พอเวลาอาตมาบอกจะดูดวงให้ โยมผู้หญิงที่ว่าโดนพระไม่ได้ เห็นพุ่งเข้าหาจนอาตมาหลบแทบไม่ทัน (แบบว่าอยากรู้เรื่องเนื้อคู่อะ..... ที่เรื่องไม่ใช่กิจสงฆ์อย่างนี้ อยากถามจากพระจัง) 2."เมื่อบวชแล้ว พระต้องสละเรื่องทางโลกทุกอย่าง" นี่โยมก็พูดเองเออเอง อีกนั่นแหละ พระยังเป็นลูกของพ่อแม่เป็นพี่ของน้องๆ และเป็นลูกหลานของญาติทุกคน ยังต้องสงเคราะห์ดูและญาติพี่น้องตามสมควรขนาดหมาขี้เรื้อนโยมเอามาปล่อยที่วัด พระยังเลี้ยงให้ ใจคอจะให้ละทางโลกที่มีพ่อแม่พี่น้องอยู่ข้างหลังเชียวหรือ 3.โยมรู้หรือไม่ว่า พระพุทธเจ้าอนุญาตให้พระดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราได้ ไม่ได้สอนให้ละทางโลกโดยสิ้นเชิงหรอกนะ 4.อยากบอกว่า ฉันนับถือเฉพาะพระพุทธ กับพระธรรมเท่านั้น ไม่นับถือพระสงฆ์ โยมเข้าใจผิดแล้ว พระสงฆ์ที่อยู่ในพระรัตนตรัยนั้น คือ อริยสงฆ์ หรือใครก็ตาม(ทั้งบรรพชิตและฆราสวาส)ที่เป็นพระอรหันต์ โยมจำบทสวดมนต์ได้มั๊ย "สุปฏิปันโน สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ = ข้าพเจ้าของแสดงความนอบน้อม แด่พระสงฆ์สาวก ผู้ปฏิบัติดี"อาตมาเป็นสมมติสงฆ์ก็ต้องเคารพบูชาท่าน เอาท่านเป็นแบบอย่างเหมือนกัน ที่โยมคิดแบบนั้นเป็นเพราะโยมอาจทำบุญเยอะแต่ศึกษาธรรมะ ปฏิบัติธรรมะน้อยต่างหาก ลองศึกษาธรรมะเยอะๆ ปฏิบัติธรรมเยอะๆสิ โยมจะเข้าใจสัจจธรรมข้อนี้เอง 5.พระพุทธเจ้าสอนว่า "เจตนาหัง ภิกขะเว กัมมัง วะทามิ ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวเจตนาว่าเป็นกรรม" การที่โยมเผลอไปแตะพระโดยไม่ตั้งใจไม่มีใครบาปหรอก ทั้งโยมและพระ แต่ถ้าใครกระทำโดยมีเจตนาถึงจะเป็นบาป 6.พระที่โยมเห็นมาจากไหนละ....ตอบ...ก็มาจากชาวบ้านนั่นแหละ พระดีก็มาจากโยมที่ดี พระที่ไม่ดีก็มาจากโยมที่ไม่ดี ถ้าโยมอยากได้พระดี โยมก็เอาลูกหลานที่ดีมาบวชเยอะๆสิจ๊ะ จะได้มีพระที่ดีเยอะ ๆ รู้มั๊ยโยมหลายคนกำลังทำให้วัดเป็นที่ทิ้งขยะสังคม หมาแมวที่โยมไม่อยากเลี้ยงโยมก็เอาทิ้งวัด ลูกหลานติดยาเสพติด เกเรเป็นอันธพาล อาชญากร โยมก็เอาทิ้งวัด ถ้าโยมไม่อยากไหว้พระเลว ก็อย่าเอาเขามาบวชเลย โยมเป็นพ่อแม่พี่น้องเป็นญาติเขายังไม่อยากให้เขาอยู่บ้านเลย ยังสอนเขาไม่ได้ อาตมาสอนเขาจะฟังเหรอ 7.พระไม่ได้บวชมาเพื่อหลับตานั่งสมาธิ เฝ้าวัด อย่างเดียวหรอกนะ พระพุทธเจ้าบอกว่าหน้าที่พระมี 2 อย่าง : 7.1.คันถธุระ มีหน้าที่ศึกษาคำสอนพระพุทธเจ้า สืบทอดอายุพระศาสนา ประกาศพระศาสนา รักษาศาสนวัตถุของพระศาสนาบริหารกิจการคณะสงฆ์ คุ้มครองพระดี กำจัดพระเลว คอมพิวเตอร์มีส่วนช่วยในการจัดทำเอกสาร สร้างสื่อการสอนพระพุทธศาสนาบันทึกข้อมูล และงานเอกสารอื่นๆ โยมเคยเข้าเว็บไซต์ของวัดต่างๆมั๊ย โยมเคยเห็น CAI เกี่ยวการสอนธรรมมะมั๊ยโยมเคยเห็นมั๊ยว่า เบื้องหลังพระผู้ใหญ่จะมีพระหนุ่มเณรน้อยกลุ่มหนึ่งทำงานเป็น STAFF คอยจัดทำเอกสารหนังสือ บันทึก ประกาศ ทำต้นฉบับหนังสือธรรมะ ทำ Powerpoint เวลามีงานประชุม สัมมนาทางพระพุทธศาสนาอยากบอกเลยว่า ทำไมสมัยพุทธกาล ไม่มีคอมพิวเตอร์ ก็ยังประกาศพระศาสนาได้ ก็ใช่สิจ๊ะ สมัยพระพุทธเจ้าทุกเย็นหลังรับประทานอาหารเย็นแล้ว ชาวบ้านจะพากันถือดอกไม้ธูปเทียนไปฟังธรรมเทศนา ไปคุยธรรมะกับพระที่วัดวันนี้ละ โยมจะได้มั๊ยว่า เดือนหนึ่งมีวันพระกี่วัน ครั้งล่าสุดที่โยมฟังเทศน์ที่วัดนั้น นานแค่ไหนแล้ว 7.2.วิปัสสนาธุระ = พระมีหน้าที่ปฏิบัติธรรม เพื่อหลุดพ้นจากกิเลส เพื่อยืนยันใครก็ตามเมื่อปฏิบัติตามคำสอน จะได้รับผลจากการปฏิบัติจริง ทั้งสองอย่างต้องไปด้วยกัน นั่งหลับตาอยู่ในวัดอยู่ในป่าอย่างเดียวรักษาพระศาสนาไว้ไม่ได้ศึกษาแต่คำสอนอย่างเดียว ไม่ปฏิบัติตามก็รักษาไว้ไม่ได้ ต้องทำทั้งสองอย่างควบคู่กันไป 8.สถาบันศาสนาก็เป็นส่วนย่อยของสังคมไทย เช่นเดียวกับสถาบันครอบครัว ข้าราชการ การเมือง สังคมไทยมีทั้งคนดีและคนไม่ดีสถาบันศาสนาก็เหมือนกันมีทั้งพระดีและพระไม่ดี พระพุทธเจ้าสอนว่า นิคคัณหะ นิคคัณหาระหัง ปัคคัณหะ ปัคคัณหาระหัง (ข่มผู้ที่ควรข่ม ยกย่องผู้ที่ควรยกย่อง) ทำไมโยมไม่แยกแยะละว่าถ้าท่านไปพันธ์ทิพย์เพื่อซื้อคอมพิวเตอร์เพื่อใช้เป็นสื่อในการเผยแผ่พระศาสนาก็ควรส่งเสริมท่าน แต่ถ้าท่านไปเพื่อไปซื้อหนังโป๊ ไปเดินตากแอร์ ไปหลีหญิง เช่นนั้นก็สมควรติเตียน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องแยกแยะ ไม่ควรเหมารวม 9.อยากบอกนะ ไม่ว่าอาตมาจะเดินพันธ์ทิพย์หรือที่ไหนก็ตาม อาตมาระวังมาก ถึงมากสุดๆ เพราะว่า เวลาโยมเดินกันนะโยมเดินเหมือนเหม่อลอยไม่ตั้งสติกันเลย ราวกับไม่เอาวิญญาณมาด้วย บางทีโยมเดินตามทางเดินโยมเดินแบบหน้ากระดานเรียงสาม เรียงสี่กันทอดน่อง ลอยชาย แบบไม่คิดกันว่าจะมีคนอื่นๆ เช่น พระ หรือคนอื่นๆเขาจะรีบเดิน คิดอยู่ในใจนะว่าน่าจะจับโยมเหล่านี้ไปเข้าคอร์สวิปัสสนาซัก 7 วัน จะได้รู้ว่า เวลาโยมเดินนั้นขาดสติขนาดไหน (เหมือนไม่ได้เอาวิญญาณมาด้วยเลย) อาตมาไปพันทิพย์นะไม่ได้รู้สึกว่าสนุกอย่างที่โยมคิดหรอกนะ เพราะต้องคอยหลบโยมกลัวเดินชน 10.อยากบอกโยมว่า อาตมามีหน้าที่รักษาพระศาสนาให้ครบห้าพันปีตามพุทธทำนาย โบสถ์ ศาลา กุฎิ จตุปัจจัย อาหารบิณฑบาตที่โยมถวายมาพอแล้ว พระศาสนาไม่ได้มั่นคงเพราะสิ่งที่โยมถวายหรอก แต่มันอยู่ที่ชาวพุทธหันมาศึกษาและปฏิบัติธรรมการมากกว่า 11.โยมหลายท่านบอกว่า "เป็นพระควรอยู่ที่วัดเท่านั้น ไม่ควรไปเดินเพ่นพ่านข้างนอกมันเป็นที่ของโยม" ไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องเลย โยมรู้หรือไม่ว่า สมัยพระพุทธกาล พระไม่เคยอยู่กับที่เลย ต้องจาริกไปสั่งสอนตามที่ต่างๆ พระพุทธเจ้าให้ออกไปประกาศพระศาสนาให้เข้าไปในสังคมโลก ไปสอนคนให้ทวนกระแสโลก สอนให้เผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุก เพื่อให้โยมทั้งหลายเห็นว่า วิถีชีวิตที่ประเสริฐมีอยู่ วิถีแห่งการฝึกตนเองเพื่อพ้นทุกข์มีอยู่ แบบอย่างที่ดีงาม ไม่ได้สอนให้อยู่ที่วัดแล้วรอโยมมาหา ทำตัวเป็นเจ้าพิธีกรรม บอกใบ้ให้หวย ถ่มน้ำหมากขากน้ำมนต์ แต่โยมชอบจัง กระพี้คำสอนเหล่านี้ สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่พระพุทธเจ้าติเตียนว่าเป็นการหลอกลวงชาวโลกให้งมงายส่วนที่พระพุทธเจ้าสั่งให้อยู่ที่วัดนั้นก็คือช่วงสามเดือน ตอนเข้าพรรษาเท่านั้น ดังนั้น ความคิดของโยมที่ว่า พระดีควรหมกตัวอยู่ จึงสวนกระแสพุทธดำรัสโดยสิ้นเชิงนั่นเป็นเพียงภาพลักษณ์ของพระในอุดมคติของโยมที่ละม้ายคล้ายพุทธรูปในโบสถ์เข้าไปทุกที 12.พระเลวไม่ได้มีแต่ในสมัยนี้หรอก สมัยพระพุทธเจ้าก็มี โยมอาจจะฮือฮาโกลาหลเวลาเห็นพระก่อคดีสะเทือนศรัทธาโยมรู้มั๊ยว่า ศีล 227 ข้อของพระนะมาจากการก่อคดีสะเทือนศรัทธาทั้งนั้น พระพุทธเจ้าจะเรียกพระเหล่านั้นมาสอบสวนและบัญญัติห้าม เป็นสิกขาบทให้พระรุ่นหลังอย่าได้เอาเยี่ยงอย่าง ฆ่าคน ดื่มเหล้า เคล้าสีกา เคยเกิดมาแล้วในสมัยพระพุทธเจ้าแล้วทั้งนั้น ขนาดพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ มีพระอรหันต์ พระ และฆราวาสที่บรรลุธรรมมากมาย สิ่งเหล่านั้นก็ยังเกิดขึ้นอย่างว่าคนดีจะเป็นพระหรือเป็นโยม ก็เป็นคนดี คนชั่วจะเป็นพระหรือเป็นโยม ก็เป็นคนชั่ว หากเขาไม่กลับใจให้เขาไปบวชกับพระพุทธเจ้าสักร้อยพรรษาก็เป็นคนดีไม่ได้หรอกนั่นเป็นเพราะโยมไม่เคยศึกษาพระวินัยของพระต่างหาก จึงเหมาว่าพระสมัยนี้มีแต่เลวๆ 13.อย่าเอาพระทำชั่ว มาเป็นข้ออ้างเลยว่า ฉันจะเลิกทำบุญแล้ว ฉันจะเลิกนับถือพุทธศาสนาแล้ว เลิกนับถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์แล้ว พระพุทธเจ้าสอนว่า คนดีย่อมเอาคนชั่ว เป็นข้ออ้างในการละชั่วทำดี คนชั่ว ย่อมเอา คนชั่วเป็นข้ออ้างละดี ทำชั่ว *** ขอความเจริญในธรรม จงมีแก่ทุกท่าน เทอญ *** ที่มา พอดีไปอ่านพบเข้า เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ คะ http://www.kusolsuksa.com/webboard/index.php?topic=955.0 (http://www.kusolsuksa.com/webboard/index.php?topic=955.0) เมื่อเช้าได้ดูข่า พระมหา นศ.รามคำแหง ที่ตกจากเรือเมล์ แล้วหายไป ก็นึกถึงสังคมพระ มีทั้ง 2 ฝ่าย ทั้ง คันถะธุระ และ วิปัสสนาธุระ ทั้งสองธุึระนี้ก็ล้วนสืบอายุพระพุทธศาสนา หัวข้อ: Re: ปัจจุบันมีพระที่ปฏิบัติได้จริงอยู่หรือป่าว เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ สิงหาคม 20, 2010, 08:25:32 am เป็นเสียงบ่นอีกหนึ่งเสียงที่ดี หลายแง่มุม หลายมุมมอง
:08: หัวข้อ: Re: ปัจจุบันมีพระที่ปฏิบัติได้จริงอยู่หรือป่าว เริ่มหัวข้อโดย: รักหนอ ที่ สิงหาคม 21, 2010, 08:11:57 am :93: :25:
|