สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

ธรรมะสาระ => สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กันยายน 13, 2010, 11:57:57 am



หัวข้อ: สหธรรมิก (ยกเครดิตให้คุณครูนภา)
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 13, 2010, 11:57:57 am
สหธรรมิก ผู้มีธรรมร่วมกัน, ผู้ประพฤติธรรมร่วมกัน

แสดงไว้ในคัมภีร์มหานิทเทส แห่งพระสุตตันตปิฏก มี ๗ คือ ภิกษุ ภิกษุณี สิกขมานา สามเณร สามเณรี อุบาสก อุบาสิกา;

ในสัตตาหกรณียะ สหธรรมิก ๕ (คัมภีร์ฝ่ายวินัยทั่วไปก็มักหมายเฉพาะจำนวน ๕)

ที่มา  พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

(http://i1045.photobucket.com/albums/b453/alongkot_r/010653/f27.jpg)

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔ มหาวรรค ภาค ๑
ทรงอนุญาตสัตตาหกรณียะเพราะสหธรรมิก ๕

             [๒๑๑] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธ. เธอได้ส่งทูตไปในสำนักภิกษุทั้งหลาย
ว่า กระผมเองอาพาธ ขออาราธนาภิกษุทั้งหลายมา กระผมปรารถนาการมาของภิกษุทั้งหลาย.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.  พระผู้มีพระภาคตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย  เมื่อสหธรรมิก ๕ แม้มิได้ส่งทูตมา เราอนุญาตให้ไปด้วยสัตตาหกรณียะได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเขาส่งทูตมา สหธรรมิก ๕ คือ
 
ภิกษุ
ภิกษุณี
สิกขมานา
สามเณร
สามเณรี

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อสหธรรมิก ๕ นี้ แม้มิได้ส่งทูตมา เราอนุญาตให้ไปด้วยสัตตาหกรณียะได้
จะต้องกล่าวไปไยเมื่อเขาส่งทูตมา แต่ต้องกลับใน ๗ วัน.

ที่มา  http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=04&A=5764&Z=5824 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=04&A=5764&Z=5824)



พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๑ ขุททกนิกาย มหานิทเทส
ว่าด้วยสหธรรมิก

             [๙๓๕] คำว่า ภิกษุไม่พึงหวาดเสียวแม้ต่อคนที่ทั้งอยู่ในธรรมอื่น แม้เห็นอารมณ์อันให้
เกิดความขลาดมาก ของคนที่ตั้งอยู่ในธรรมอื่นนั้น ก็ไม่พึงหวาดเสียว ความว่า เว้นสหธรรมิกชน ๗ จำพวก คือ

ภิกษุ
ภิกษุณี
สิกขมานา
สามเณร
สามเณรี
อุบาสก
อุบาสิกา

คนเหล่าใดเหล่าหนึ่งผู้ไม่เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ไม่เลื่อมใสในพระธรรม ไม่เลื่อมใสในพระสงฆ์ เรียกว่า
คนที่ตั้งอยู่ในธรรมอื่น. คนพวกนั้นถามปัญหาบ้าง พึงยกวาทะกะภิกษุบ้าง พึงด่า ค่อนว่า แช่ง
เสียดสี เบียดเบียน ย่ำยี กดขี่ ข่มเหง ฆ่า เข้าไปฆ่า ทำความพยายามฆ่า

ภิกษุเห็นหรือได้ยินอารมณ์อันให้เกิดความขลาดเป็นอันมากของคนเหล่านั้นแล้ว ไม่พึงหวั่นไหวสะทกสะท้าน
ไม่พึงสะดุ้งดิ้นรนหวาดเสียวครั่นคร้าม ไม่พึงกลัว ไม่พึงถึงความสยดสยอง คือ เป็นผู้ไม่ขลาด
ไม่ครั่นคร้าม ไม่หวาดเสียว ไม่หนีไป เป็นผู้ละความกลัว ความขลาดเสียแล้ว ปราศจาก
ความเป็นผู้มีขนลุกอยู่

เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ภิกษุไม่พึงหวาดเสียวแม้ต่อคนที่ตั้งอยู่ในธรรมอื่น
แม้เห็นอารมณ์อันให้เกิดความขลาดมากของคนที่ตั้งอยู่ในธรรมอื่นนั้น ก็ไม่พึงหวาดเสียว.

ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=29&A=11147&w=%CA%CB%B8%C3%C3%C1%D4%A1 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=29&A=11147&w=%CA%CB%B8%C3%C3%C1%D4%A1)



(http://edtech.kku.ac.th/~s51121275011/505050112-9/images/1142687431.jpg)

สัตตาหะ สัปดาห์, เจ็ดวัน;
       
มักใช้เป็นคำเรียกย่อ หมายถึง สัตตาหกรณียะ

สัตตาหกรณียะ ธุระเป็นเหตุให้ภิกษุออกจากวัดในระหว่างพรรษาได้ ๗ วัน ได้แก่

       ๑. ไปเพื่อพยาบาลสหธรรมิกหรือมารดาบิดาผู้เจ็บไข้
       ๒. ไปเพื่อระงับสหธรรมิกที่กระสันจะสึก
       ๓. ไปเพื่อกิจสงฆ์ เช่น ไปหาทัพพสัมภาระมาซ่อมวิหารที่ชำรุดลงในเวลานั้น
       ๔. ไปเพื่อบำรุงศรัทธาของทายกซึ่งส่งมานิมนต์เพื่อการบำเพ็ญกุศลของเขา และธุระอื่นจากนี้ที่เป็นกิจลักษณะอนุโลมตามนี้ได้

สิกขมานา นางผู้กำลังศึกษา,

       สามเณรี ผู้มีอายุถึง ๑๘ ปีแล้ว อีก ๒ ปีจะครบบวชเป็นภิกษุณี ภิกษุณีสงฆ์สวดให้สิกขาสมมติ คือ ตกลงให้สมาทานสิกขาบท ๖ ประการ

       ตั้งแต่ปาณาติปาตา เวรมณี จนถึง วิกาลโภชนา เวรมณี ให้รักษาอย่างเคร่งครัดไม่ขาดเลย ตลอดเวลา ๒ ปีเต็ม (ถ้าล่วงข้อใดข้อหนึ่ง ต้องสมาทานตั้งแต่ต้นไปใหม่อีก ๒ ปี)

       ครบ ๒ ปี ภิกษุณีสงฆ์จึงทำพิธีอุปสมบทให้

       ขณะที่สมาทานสิกขาบท ๖ ประการอย่างเคร่งครัดนี้ เรียกว่า นางสิกขมานา

ที่มา   พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)


หัวข้อ: Re: สหธรรมิก (ยกเครดิตให้คุณครูนภา)
เริ่มหัวข้อโดย: ครูนภา ที่ กันยายน 13, 2010, 12:59:12 pm
 :08:

ขอบคุณ คะ แต่ยกเครดิต แล้ว อ้าง กระทู้ได้หรือป่าว คะ

นึกไม่ออก จ้า

 :25: :25:


หัวข้อ: Re: สหธรรมิก (ยกเครดิตให้คุณครูนภา)
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 13, 2010, 08:26:30 pm
มหาสติปัฏฐาน 4 กับ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เกี่ยวข้องกันอย่างไร
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1031.msg4415;topicseen#new (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1031.msg4415;topicseen#new)

ขอโทษครับคุณครู ความจริงมีอยู่ว่า ผมมีเจตนาไม่บอก กระทู้ที่มา

จะพูดให้ถูกก็คือ "แกล้ง" นะครับ ดูซิว่า จะจำได้ไหม  ;)

มีคนกล่าวว่า "สัญญาไม่เที่ยง" คุณครูคงเข้าใจความหมาย

อยากให้คลิกลิงค์ข้างบน กลับไปดูหน่อย จะเป็นการดีนะครับ

จะได้ทราบจุดประสงค์ ที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา

 :49: :25: