สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ เมษายน 10, 2013, 07:45:18 am



หัวข้อ: ข้อควรรู้..เมื่อคิดจะวัดสายตาตัดแว่น ทำอย่างไรให้เจอค่าความผิดปกติที่แท้จริง
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 10, 2013, 07:45:18 am

(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/196107.jpg)

วัดสายตาตัดแว่น รู้ค่าจริง.?

เคล็ดลับสุขภาพดี ข้อควรรู้เมื่อคิดจะวัดสายตาตัดแว่น ทำอย่างไรให้เจอค่าความผิดปกติที่แท้จริง

ผู้ที่มีปัญหาสายตา ไม่ว่าจะสั้น ยาว หรือเอียง หากคิดแก้ด้วยวิธีการสวมแว่นสายตา ซึ่งเป็นวิธีแก้ไขที่ง่าย สวมใส่สะดวกและปลอดภัย มุมสุขภาพขอแนะนำข้อมูลควรรู้ที่ได้รับทราบมาจากหนังสือคู่มือสุขภาพตาดี จัดทำโดยภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 

ปัจจุบันการวัดระดับสายตาผิดปกตินิยมใช้เครื่องวัดสายตาแบบอัตโนมัติ ที่แค่วางศีรษะให้ชิดเครื่องตรวจ และมองเข้าไปในช่องมองภาพ ไม่นานก็จะมีแผ่นกระดาษรายงานค่าสายตาออกมาให้ทราบ สาระสำคัญจากคู่มือดังกล่าว แนะให้เข้าใจเพิ่มเติมว่า
    ในความเป็นจริง กำลังสายตาผิดปกติที่ทดสอบจากเครื่องที่ว่านี้
    เป็นเพียงค่าประมาณจากการเพ่งสายตาขณะตรวจ

    แต่การสั่งตัดแว่นยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาร่วมด้วยอีกมาก
    ดังนั้น ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องและได้รับแว่นสายตาที่เหมาะสม

โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี หากผู้ปกครองสงสัยว่า เด็กมีสายตาผิดปกติ เช่น เด็กมักเข้าไปนั่งดูทีวีใกล้จอภาพเนื่องจากนั่งไกลแล้วมองภาพไม่ชัด จำเป็นต้องพาเข้ารับการตรวจด้วยจักษุแพทย์ เพราะก่อนการตรวจวัดสายตาในเด็กจะต้องผ่านการหยอดยาคลายการเพ่งของตาเสมอ

    ทำไมเด็กต้องถูกหยอดยาคลายการเพ่งของตา.?
    เพราะตามธรรมชาติแล้ว เด็กมักมีการเพ่งสายตาอยู่ตลอดมากกว่าผู้ใหญ่
    ทำให้ขนาดสายตาที่วัดได้จากเครื่องอัตโนมัติจะมีสายตาสั้นกว่าที่เป็นจริง
    และถ้าเด็กได้รับแว่นที่มีค่าสายตาสั้นเกินจริง ยิ่งทำให้เด็กปวดตา ปวดศีรษะ
    และดึงให้เด็กมีสายตาสั้นเร็วขึ้น


ก่อนจบเคล็ดลับสุขภาพ ทิ้งท้ายกับหลักทำความสะอาดเลนส์แว่นที่หลายคนมักสงสัย โดยทำได้เพียงใช้น้ำสบู่อ่อนๆ ชุปด้วยผ้านุ่มๆ แล้วเช็ดเลนส์อย่างเบามือ ทำได้บ่อยเป็นประจำทุกวัน แต่อย่าใช้แอลกอฮอล์หรือน้ำยาเคมี เพราะอาจทำอันตรายต่อเลนส์แว่นหรือสารที่เคลือบอยู่.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
takecareDD@gmail.com


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/article/822/196107 (http://www.dailynews.co.th/article/822/196107)
วันอังคารที่ 9 เมษายน 2556 เวลา 00:00 น.