หัวข้อ: สิกขาบทแรก กำเนิดจาก "สุทินน์ กลันทบุตร" เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 16, 2013, 08:27:35 am (http://www.khaosod.co.th/view_resizing_images.php?filename=news-photo/khaosod/2013/04/hap06140456p1.jpg&width=360&height=360) พระพุทธรูป ปางปฐมบัญญัติ คอลัมน์ คติ-สัญลักษณ์ สถาปัตยกรรมไทย โดย ชวพงศ์ ชำนิประศาสน์ พระพุทธรูปนี้อยู่ในพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิยกฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองข้างตะแคงยืนไปข้างหน้า ความสำคัญยิ่งของปางปฐมบัญญัตินี้ เกิดขึ้นมาจากคำถามของพระสารีบุตรอัครสาวก ถามในทำนองที่ว่า "อะไรทำให้พระพุทธศาสนาในอดีตกาลคือ ศาสนาของพระกกุสันธะ พระโกนาคม และพระกัสสปพุทธเจ้าดำรงอยู่ได้นาน" พระพุทธเจ้าตอบว่า "เพราะพระพุทธ เจ้าทั้ง 3 พระองค์นั้น ทรงแสดงธรรม แก่สาวกทั้งหลายโดยพิสดาร (แปลว่า โดยละเอียดทั้งสิกขาบททรงบัญญัติ และทั้งปาฏิโมกข์ก็ทรงแสดงแก่สาวกทั้งหลาย) เมื่อพระองค์เสด็จปรินิพพานแล้ว พระศาสนาจึงได้ดำรงอยู่นาน" พระสารีบุตรจึงขอให้พระพุทธเจ้าบัญญัติสิกขาบทที่จะแสดงพระปาฏิโมกข์แก่พระสาวกเพื่อพระพุทธศาสนายั่งยืนอยู่ได้นาน พระพุทธเจ้าได้ตอบแก่พระสารีบุตรความว่า การที่ยังไม่ได้บัญญัติสิกขาบทจะยังไม่แสดงปาฏิโมกข์แก่สาวกทั้งหลายก็เพราะยังไม่เกิดเรื่องที่เป็นเหตุแห่งความเสื่อมในพระพุทธศาสนา เมื่อมีเหตุที่ทำให้เกิดความเสื่อมเมื่อใด หรือมีพระภิกษุประพฤติไม่ดี ไม่งาม ไม่ชอบ ด้วยพระธรรมวินัย ในศาสนานี้เมื่อใดก็จะบัญญัติสิกขาบทและแสดงปาฏิโมกข์เมื่อนั้น กรณีแรกที่บัญญัติก็คือ พระสาวกรูปหนึ่งชื่อ สุทินน์ กลันทบุตร มาขอบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ถูกบิดาขอร้องให้สึกเพื่อมีบุตรไว้สืบสกุล และเพื่อมิให้เจ้าลิจฉวีเจ้าเมืองเวสาลียึดทรัพย์สินเมื่อตนได้ตายจากไป เพราะไม่มีบุตรหลานเอาไว้รักษาสมบัติ พระสุทินน์ กลันทบุตรจึงยอมตามบิดาได้มีบุตรไว้ให้บิดาสืบสกุล แล้วก็รู้สึกไม่สบายใจรู้ว่าเป็นการประพฤติไม่งาม เพื่อนพระภิกษุจึงได้นำเรื่องไปทูลถามพระพุทธเจ้า จึงบัญญัติสิกขาบทนี้ขึ้นและได้กล่าวถึงประโยชน์ 10 ประการ ของการมีสิกขาบท นี่คือ คติแห่งความสำคัญของศีลของสิกขาบทที่พระพุทธเจ้า ได้แสดงปาฏิโมกข์ไว้ให้แก่พระสาวก เพื่อยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติของความเป็นสงฆ์ มีดังนี้ 1. เพื่อความดีแห่งสงฆ์ 2. เพื่อความสำราญแห่งสงฆ์ 3. เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อยาก (ไม่รู้จักอาย) 4. เพื่ออยู่สำราญแห่งภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก 5. เพื่อกำจัดอาสวะอันจะเกิดขึ้นในปัจจุบัน 6. เพื่อป้องกันอาสวะอันจะเกิดขึ้นในอนาคต 7. เพื่อเป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใสของผู้ยังไม่เลื่อมใส 8. เพื่อความเจริญแห่งความเลื่อมใสของผู้ที่เลื่อมใสแล้ว 9. เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม 10. เพื่ออนุเคราะห์พระวินัย ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROb1lYQXdOakUwTURRMU5nPT0=§ionid=TURNeE53PT0=&day=TWpBeE15MHdOQzB4TkE9PQ== (http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROb1lYQXdOakUwTURRMU5nPT0=§ionid=TURNeE53PT0=&day=TWpBeE15MHdOQzB4TkE9PQ==) |